เอเอฟพี - รัฐบาลสหรัฐฯ ออกมาแสดงความยินดี หลังองค์การการค้าโลก (WTO) มีคำตัดสินยืนยันวานนี้ (16) ว่าจีนพยายามกีดกันระบบชำระเงินออนไลน์ของสหรัฐฯ จริง ซึ่งรวมถึงการโอนเงินผ่านบัตรเครดิตและเดบิตด้วย
รอน เคิร์ก ผู้แทนการค้าสหรัฐฯ (ยูเอสทีอาร์) แถลงว่า ชัยชนะในการร้องเรียนผ่านองค์การการค้าโลกครั้งนี้จะช่วยให้บริษัทของสหรัฐฯ สามารถแข่งขันอย่างเป็นธรรมแก่ผู้ให้บริการชำระเงินของจีนอย่าง ไชน่า ยูเนียน เพย์ (ซียูพี) ซึ่งครองตลาดในจีนอยู่
“คณะกรรมาธิการ WTO เห็นด้วยว่า มาตรการกีดกันอย่างแพร่หลายของจีนทำให้บริษัทของสหรัฐฯ ซึ่งเป็นผู้นำในด้านระบบชำระเงินออนไลน์ ต้องเสียเปรียบ” เคิร์กระบุในถ้อยแถลง
“คำตัดสินดังกล่าวนับเป็นการช่วยเหลือบริษัทอเมริกัน และจะทำให้เกิดการจ้างงานเพิ่มขึ้น เพราะเมื่อระบบชำระเงินผ่านบัตรเครดิตและเดบิตในจีนมีประสิทธิภาพ ผู้บริโภคก็จะสามารถซื้อสินค้าได้มากขึ้น ซึ่งรวมถึงสินค้าคุณภาพที่ผลิตในอเมริกาด้วย”
ทั้งนี้ มีการประเมินว่าระบบบริการชำระเงินออนไลน์จะช่วยสร้างงานในสหรัฐฯ ได้ถึง 6,000 ตำแหน่ง เนื่องจากผู้ให้บริการชำระเงินผ่านบัตรเครดิตและเดบิตรายใหญ่ๆ ล้วนมีสำนักงานใหญ่อยู่ในสหรัฐฯ เกือบทั้งสิ้น
เจย์ คาร์นีย์ โฆษกทำเนียบขาว ระบุว่า คำตัดสินของ WTO เป็น “อีกหนึ่งชัยชนะอย่างชัดเจนของสหรัฐฯ ในข้อพิพาทด้านการค้ากับจีน”
คาร์นีย์ ซึ่งติดตามประธานาธิบดีบารัค โอบามา ไปพบปะประชาชนที่รัฐโอไฮโอ ยังกล่าวชื่นชมนโยบายการค้าที่โอบามามีต่อจีน
“ชัยชนะวันนี้เป็นเครื่องยืนยันว่าประธานาธิบดี โอบามา ให้ความสำคัญต่อการแก้ไขรูปแบบการค้าที่ไม่เท่าเทียมกับจีน”
รัฐบาลโอบามายื่นขอคำปรึกษาจากองค์การการค้าโลกเกี่ยวกับปัญหาดังกล่าว เมื่อเดือนกันยายนปี 2010 และในเดือนกุมภาพันธ์ปีที่แล้วก็ได้ร้องขอให้ WTO ตั้งคณะกรรมการไกล่เกลี่ยข้อพิพาทกับจีน ซึ่งมีการทำธุรกรรมผ่านระบบชำระเงินออนไลน์กับสหรัฐฯ กว่า 1 ล้านล้านดอลลาร์ต่อปี
องค์การการค้าโลกระบุว่า จีนละเมิดกฎเกณฑ์การค้าโดยออกกฎระเบียบที่เอื้อให้ ไชน่า ยูเนียน เพย์ สามารถผูกขาดบริการชำระเงินออนไลน์ เช่น บังคับให้บัตรชำระเงินทุกประเภทที่ออกในจีนต้องมีตรา CUP และให้อุปกรณ์ปลายทางต้องสามารถรับบัตรที่มีตรา CUP ได้ด้วย เป็นต้น
อย่างไรก็ดี WTO ปฏิเสธคำกล่าวอ้างของสหรัฐฯ ที่ว่า จีนกำหนดให้ CUP เป็น “ผู้ให้บริการแต่เพียงผู้เดียว” ในการชำระเงินผ่านบัตรเครดิตและเดบิตทุกประเภทด้วยสกุลเงินเหรินเหมินปี้ แต่ตัดสินว่า CUP ผูกขาดการหักบัญชีในสกุลเงินหยวนเพียงบางประเภทเท่านั้น