เชียงราย - กระทรวงการต่างประเทศเปิดห้องจัดอาเซียนสัญจรที่เชียงราย ย้ำรวม AEC เปิดทางอาเซียนสัมพันธ์ทั่วโลกมากขึ้น
วันนี้ (7 มิ.ย.) กรมอาเซียน กระทรวงการต่างประเทศ ได้จัดกิจกรรมอาเซียนสัญจร ครั้งที่ 7 ประจำปี 2555 ขึ้น ณ ห้องประชุมดอยตุง โรงแรมดุสิตไอส์แลนด์รีสอร์ท อ.เมือง จ.เชียงราย โดยมีนายนพพร อัจฉริยวนิช รองอธิบดีกรมอาเซียน เป็นประธานในพิธีเปิด
ภายในงานมีการจัดนิทรรศการ แจกจ่ายเอกสารที่เกี่ยวข้องกับประชาคมอาเซียนเพื่อแจ้งถึงความเป็นมาของประชาคมอาเซียน และจัดเสวนานำโดย นายนพพร ดร.ศรีวิการ์ เมฆธวัชชัยกุล ผู้ทรงคุณวุฒิด้านพัฒนาการศึกษาสู่ประชาคมอาเซียน ดร.ตรีสลา ตันติมิตร รองประธานคณะกรรมการธุรกิจบริการ สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย ท่ามกลางผู้เข้าร่วมงานที่ส่วนใหญ่มาจากภาคการศึกษาจำนวนมาก
นายนพพรกล่าวว่า เชียงรายถือเป็นเมืองหน้าด่านของประเทศไทยในการเชื่อมโยงกับประเทศในกลุ่มอาเซียน 2 ประเทศ คือ พม่า และ สปป.ลาว โดยมีกิจกรรมทางเศรษฐกิจและอื่นๆ มาอย่างยาวนาน ดังนั้นกระทรวงการต่างประเทศจึงให้ความสำคัญอย่างมาก ขณะที่ประเทศไทยในภาพรวมถือว่ากำลังจะเข้าสู่ประชาคมอาเซียนอย่างเต็มตัวตามข้อตกลงร่วมกันในปี 2558 เป็นต้นไป ถือว่ามีความสำคัญเพราะประเทศไทยมีการค้ากับกลุ่มประเทศอาเซียนอีก 9 ประเทศ คิดเป็นร้อยละ 20-22 ของการค้าทั้งหมด โดยไทยเป็นฝ่ายได้เปรียบดุลการค้า ส่วนในอนาคตจะรวมตัวกันทั้ง 10 ประเทศเป็นหนึ่งเดียว จะยิ่งมีความสำคัญเพราะต้องไปติดต่อสัมพันธ์กับกลุ่มประเทศต่างๆ ทั่วโลก
นายนพพรกล่าวอีกว่า ปัจจุบันประเทศสมาชิกในอาเซียนเป็นสมาชิกขององค์การการค้าโลกหรือดับเบิลยูทีโอ เกือบทั้งหมดยกเว้น สปป.ลาวเพียงประเทศเดียว แต่คาดว่าจะเข้าสู่ดับเบิลยูทีโอในปี 2555 นี้ค่อนข้างแน่นอน ซึ่งก็จะทำให้กลุ่มประชาคมอาเซียนได้รับความสำคัญจากทั่วโลก และมีความเข้มแข็งในเวทีเศรษฐกิจโลกด้วย
อย่างไรก็ตาม ประชาคมอาเซียนก็ไม่ได้มีแค่ความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจ แต่ยังมีความสัมพันธ์ทางการเมืองและสังคมวัฒนธรรมอีกด้วย โดยกรณีของการเมืองระหว่างประเทศนั้นอาเซียนเคยมีการแก้ไขปัญหาร่วมกันเมื่อคราวเกิดสงครามเวียดนาม-กัมพูชา ในอดีตมาแล้ว
“ถ้ามีข้อขัดแย้งเกิดขึ้นประชาคมอาเซียนก็จะแก้ไขปัญหากันด้วยสันติวิธี ไม่ใช่เมื่อเกิดความขัดแย้งแล้วก็ตีโพยตีพายแล้วเอาเรื่องไปบอกคนอื่น” นายนพพรกล่าว และว่า ในอนาคตเมื่อเป็นประชาคมอาเซียนก็จะมีคณะกรรมการระดับต่างๆ เช่น ระดับผู้นำประเทศ ระดับรัฐมนตรี เจ้าหน้าที่อาวุโส จนถึงเจ้าหน้าที่ทั่วไป ฯลฯ โดยทั้งหมดจะค่อยๆ คืบหน้าอย่างเป็นรูปธรรมต่อไป
