xs
xsm
sm
md
lg

บ.สนเข้าตลท.รับเกณฑ์ใหม่อนันดาฯรายแรก

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน- ตลาดหลักทรัพย์ฯ เผย ขณะนี้มีบริษัทขนาดใหญ่หารือเพื่อเข้าจดทะเบียนด้วยเกณฑ์มาร์เกตแคปหลายบริษัทหลังเกณฑ์มีผลบังคับใช้ 1 พ.ย.55 ด้าน อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ ประเดิมบริษัทแรกเข้าจดทะเบียนปีนี้

นายชนิตร ชาญชัยณรงค์ รองผู้จัดการ สายงานผู้ออกหลักทรัพย์และบริษัทจดทะเบียน ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เปิดเผยว่า ตลาดหลักทรัพย์ฯคาดว่าปีหน้าจะมีบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯโดยใช้เกณฑ์รับหลักทรัพย์ด้วยมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด (มาร์เกตแคป )มากขึ้น ซึ่งปัจจุบันมีหลายบริษัทเข้ามาหารือว่าจะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ หลังจากที่เกณฑ์รับหลักทรัพย์ด้วยมาร์เกตแคปที่เพิ่งมีผลบังคับใช้ ในวันที่ 1 พฤศจิกายน 2555

ทั้งนี้บริษัทแรกที่ใช้เกณฑ์ดังกล่าวเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ คือ บริษัท อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน)หรือ ANAN ซึ่งเดิมนั้น ทางANAN นั้นจะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เอ็มเอไอ (mai) เพราะบริษัทยังมีผลการดำเนินงานที่ขาดทุน แต่พอตลาดหลักทรัพยฯได้มีการออกเกณฑ์ดังกล่าวทางอนันดา จึงย้ายที่จะเข้ามาจดทะเบียนในตลาดใหญ่แทน จากที่บริษัทมีขนาดมาร์เกตแคปที่ใหญ่

สำหรับการที่ตลาดหลักทรัพย์ฯได้ออกเกณฑ์รับหลักทรัพย์ด้วยมาร์เกตแคปนั้น เพื่อที่จะให้สามารถแข่งขันกับต่างประเทศได้ เพราะ ในต่างประเทศไม่ว่าจะเป็นสิงคโปร์ มาเลเซีย ฯลฯนั้นมีเกณฑ์รับหลักทรัพย์ด้วยมาร์เกตแคป ดังนั้นตลาดหลักทรัพย์ฯจึงมองว่าหากไม่มีเกณฑ์ดังกล่าวจะทำให้ตลาดหลักทรัพย์ไทยไม่สามารถแข่งขันกับต่างประเทศได้ เมื่อมีการเปิดเสรีอาเซียน จากที่บริษัทดังกล่าวจะไปจดทะเบียนในต่างประเทศแทน

“เกณฑ์รับหลักทรัพย์ฯด้วยมาร์เกตแคปนั้นเพื่อทำให้ตลาดหลักทรัพย์ฯสามารถแข่งขันกับต่างประเทศ และเป็นการเปิดโอกาสให้บริษัทที่มีขนาดใหญ่ และมีแนวโน้มการเติบโตที่ดีในอนาคตเข้ามาจดทะเบียนได้ แม้ในช่วงต้นบริษัทจะยังคงมีผลขาดทุนอยู่จากที่จะต้องมีการลงทุนขนาดใหญ่ แต่อนาคตนั้นบริษัทดังกล่าวสามารถที่จะสร้างกำไรได้ เข้ามาจดทะเบียนได้ โดยไม่ต้องรอเวลาที่จะทำให้บริษัทมีกำไร โดยขณะนี้มีหลายบริษัทเข้ามาคุยว่าจะเข้าจดทะเบียนด้วยเกณฑ์มาร์เกตแคปมีหลากหลายธุรกิจ โดยส่วนใหญ่เป็นธุรกิจในครอบครัวที่จะต้องมีการปรับโครงสร้าง”นายชนิตร กล่าว

สำหรับบริษัทที่จะเข้าจดทะเบียนด้วยเกณฑ์มาร์เกตแคปนั้น จะต้องมีมาร์เกตแคปไม่ต่อกว่า 5,000 ล้านบาท ถึงสามารถเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯได้ แต่บริษัทยังมีคุณสมบัติเทียบเท่ากับบริษัทที่ยื่นเข้าดจดทะเบียนด้วยเกณฑ์กำไร ทุกประการ เช่น ต้องมีทุนชำระแล้วหลังไอพีโอ จำนวน 300 ล้านบาท มีผลการดำเนินงาน (Track Record)ต่อเนื่องมากกว่า 3 ปี การดำเนินงานภายใต้การจัดการของผู้บริการส่วนใหญ่กลุ่มเดียวกันมากกว่า 1 ปีก่อนยื่นคำขอ การกระจายการถือหุ้นรายย่อยไม่น้อยกว่า 1,000 ราย การบริหารงานการกำกับดูแลกิจการและควบุคมภายใน งบการเงิน และผู้สอบบัญชี การห้ามผู้บริหารหรือ ผู้ถือหุ้นขายหุ้นและหลักทรัพย์ภายในระยเวลาที่กำหนด (ไซเรนท์พีเรียด) เป็นต้น
กำลังโหลดความคิดเห็น