xs
xsm
sm
md
lg

ยื่นถอดถอน"ปู"วันนี้ ภท.ส่อไม่โหวตไล่-กห.ถอดยศมาร์ค

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

เมื่อวานนี้ ( 7 พ.ย.) นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวภายหลังการหารือร่วมกับนายจุรินทร์ ลัก

ษณวิศิษฏ์ ประธานวิปฝ่ายค้าน ถึง การยื่นถอดถอนรัฐมนตรี ในวันที่ 8 พ.ย. ก่อนการยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจ ในวันที่ 9 พ.ย.ว่า ขณะ

นี้ได้ข้อสรุปแล้วว่า จะยื่นถอดถอนกี่ราย และอภิปรายกี่ราย แต่ยังไม่ขอเปิดเผยรายละเอียด โดยจะมีรัฐมนตรีที่ถูกถอดถอน และถูก

อภิปรายไม่ไว้วางใจด้วย รวมทั้งจะมีกรณีถูกอภิปรายไม่ไว้วางใจ แต่ไม่ได้ถูกยื่นถอดถอน ซึ่งนายจุรินทร์ จะยื่นต่อประธานวุฒิสภาในวันที่

8 พ.ย. เพราะรัฐมนตรีกระทำผิดกฎหมาย และทุจริต ทั้งนี้พรรคได้พิจารณาข้อมูลอย่างละเอียดรอบคอบ และยื่นในกรณีที่มั่นใจว่า มีการ

กระทำผิดกฎหมาย หรือทุจริตจริง ส่วนการอภิปรายจะมีหลายเรื่องเข้ามาเกี่ยวข้อง
"เรามั่นใจในข้อมูลของเรา และยืนยันว่า จากพฤติกรรมที่เกิดขึ้นไม่สมควรที่รัฐบาลชุดนี้จะได้รับความไว้วางใจให้บริหาร

ประเทศ โดยในการอภิปรายไม่ไว้วางใจ น.ส.ยิ่งลักษณ์? ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และก็ยังเชื่อว่า นายกรัฐมตรี จะตอบด้วยตัวเอง เพราะ

เป็นกระบวนการปกติของระบอบประชาธิปไตย นายกฯ ก็เรียกร้องเรื่องกระบวนการประชาธิปไตย ต้องเคารพกระบวนการนี้ และทำ

ตามหน้าที่ของตัวเอง" นายอภิสิทธิ์ กล่าว
สำหรับผู้ที่จะอภิปรายไม่ไว้วางใจนั้น ส่วนใหญ่จะเป็นผู้ที่ไปรวบรวมข้อมูลด้วยตัวเอง โดยไม่จำเป็นว่า ผู้อภิปรายจะต้องเป็น

รัฐมนตรีเงา ที่ประกบรัฐมนตรีกระทรวงที่ถูกอภิปราย ทั้งนี้ในบางประเด็นอาจใช้ผู้อภิปรายมากกว่า 1 คน จึงต้องจัดทีม ซึ่งระยะเวลา 3 วัน

สำหรับการอภิปราย และ 1 วัน ในการลงมติ เพียงพอต่อการอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งนี้

** เตือนสมช.หยุดรับใช้การเมือง

นายอภิสิทธิ์ ยังตั้งข้อสงสัยว่า ข่าวบางเรื่องอาจออกมาเพื่อกลบกระแสการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล ซึ่งในวันที่ 9 พ.ย. ก็จะมี

การตั้งกระทู้ถามเรื่องนี้ในสภาด้วย จะได้ทราบว่าหน่วยงานราชการ รู้อะไร ไม่รู้อะไร ทำไมเขาถึงไม่รู้ อย่างไรก็ตาม ขอเตือนไปยัง พล.ท

.ภราดร พัฒนถาบุตร เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ ซึ่งรับผิดชอบเรื่องความมั่นคง ที่มีความละเอียดอ่อน ต้องระมัดระวังคำให้

สัมภาษณ์ อย่าให้กระทบกระเทือนความน่าเชื่อถือ แม้ว่าจะถูกการเมืองกดดัน เพราะจะเป็นอันตรายต่อประเทศ เพราะงานความมั่นคงเป็น

เรื่องส่วนรวม ต้องระมัดระวังไม่ให้การเมืองแทรกแซง ถ้างานความมั่นคงถูกนำมาใช้เพื่อการเมือง จะกระทบกระเทือนต่อความมั่นคง

ของประเทศ และถ้าหน่วยงานด้านความมั่นคงไม่ได้รับความเชื่อถือ ก็ส่งผลกระทบทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นสังคม เศรษฐกิจ การเมือง และจะ

เป็นความเสียหายกับทุกคน
" ยอมรับว่าการแทรกแซงระบบราชการของรัฐบาลนี้ ค่อนข้างจะกว้างขวาง กรณีงานความมั่นคงที่ต้องได้รับความเชื่อถือ แม้

กระทั่งข้อมูลเศรษฐกิจ อยากให้เจ้าหน้าที่ตระหนักถึงความสำคัญของการยึดมั่นในข้อเท็จจริง เพื่อรักษาความน่าเชื่อถือไว้ เพราะเป็น

เรื่องสำคัญ ผมจึงขอเตือนว่า อย่าอาหน่วยงานความมั่นคงของชาติ มาใช้เป็นฐานความมั่นคงของรัฐบาล เพราะปี 47 และ 48 ก็เกิด

ปรากฏการณ์แบบนี้ จนเกิดความวุ่นวายตามมาจนถึงทุกวันนี้" นายอภิสิทธิ์ กล่าว
นายอภิสิทธิ์ ยังกล่าวถึงกรณีที่แกนนำเสื้อแดง ปลุกให้คนเสื้อแดงออกมาปกป้องรัฐบาลว่า เป็นความพยายามที่จะรวบรวมผู้

สนับสนุน เพราะมีความขัดแย้งภายในสูง ซึ่งการโหมกระแสประเด็นรัฐประหารนั้น มีการดำเนินการเป็นระยะอยู่แล้ว เพราะตั้งแต่

รัฐบาลชุดนี้เข้ามาก็มีการพูดถึงแผนการทำรัฐประหารหลายครั้งแต่ก็ไม่มีมูลความจริง ทั้งนี้ตนอยากให้ประชาชนทุกกลุ่มไม่ว่าจะสนับ

สนุนใคร หนักแน่นและทบทวนว่าที่ผ่านมาการรับข้อมูลข่าวสารแบบนี้ไม่เป็นจริงมากี่ครั้งแล้ว จะได้ใช้ดุลพินิจว่าน่าเชื่อถือหรือไม่ ทั้งนี้

ยังยืนยันด้วยว่า ไม่มีการเกณฑ์คนใต้ขึ้นมาชุมนุมในช่วงการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล

**ภท.ร่วมซักฟอก-ส่อไม่โหวตไล่

นายอนุทิน ชาญวีรกูล ว่าที่หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวถึงท่าทีของพรรคต่อการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลว่า ขณะนี้จะ

เปิดให้สมาชิกในพรรคได้ลงชื่อ โดยมีนายชัย ชิดชอบ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ลงชื่อเป็นคนแรก ซึ่งแสดงความประสงค์ขออภิปรายกระทรวง

ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
ส่วนการลงมติคงยังบอกไม่ได้ เพราะต้องรอดูการชี้แจงของรัฐมนตรีที่ถูกอภิปรายก่อนว่าสามารถชี้แจงได้ชัดเจนมากน้อยแค่

ไหน ต้องดูเป็นคนๆไป และที่ผ่านมาพรรคไม่เคยบอกให้ส.ส.ของพรรคต้องลงมติเหมือนกัน เพราะถือว่าทุกคนมีเอกสิทธิ์ อย่างไรก็ตาม

ส่วนตัวมองว่า 1 ปีที่ผ่านมาของรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ยังไม่มีประเด็นทุจริตใดที่มีหลักฐาน ชัดเจน เช่น โครงการรับจำนำข้าว

เพราะชาวนาส่วนใหญ่ก็ได้ประโยชน์ ขณะที่งบประมาณ 3 แสนล้านบาท ในโครงการบริหารจัดการน้ำ แม้จะมีตัวเลขงบประมาณออกมา

แต่ขณะนี้ยังไม่มีโครงการใดๆ ออกมาโดยใช้เงินก้อนนี้
"น.ส.ยิ่งลักษณ์ อยู่มา 1 ปีก็ถือว่าเก่ง และโชคดี ไม่เจอวิกฤติเหมือนนายสมัคร สุนทรเวช นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ และนาย

อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ และที่สำคัญพรรคเพื่อไทย มีเสียงเกินกึ่งหนึ่งในสภาฯ หากประเมินจากระบบรัฐสภา รัฐบาลจะอยู่ครบ 4 ปี หรือ

นายกฯประกาศยุบสภาเอง เนื่องจากไม่มีปัจจัยภายนอกมาทำอะไรได้"
เมื่อถามว่า ที่มองว่า 1 ปี ยังไม่พบเรื่องทุจริต เป็นเพราะหวังที่จะเข้าร่วมรัฐบาล ใช่หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ไม่อยากให้มอง

ว่าการอภิปรายไม่ไว้วางใจต้องทำเป็นประเพณี ควรจะมีหลักฐานการทุจริต เพราะไม่เช่นนั้นหากเรามีมติตั้งแต่แรก ก็เหมือนกับการเซ็น

เช็คเปล่า และถ้าเขาผ่านการอภิปราย ก็เท่ากับเราไปฟอกให้เขาสะอาดขาวจั๊วะ

"ชูวิทย์"ลั่นมีข้อมูลล้มทั้งยืนแน่

นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรครักประเทศไทย กล่าวยืนยันว่า ยังสนับสนุนที่จะร่วมลงชื่อในญัตติอภิปรายไม่ไว้

วางใจรัฐบาล ร่วมกับพรรคประชาธิปัย์ ซึ่งเป็นพรรคฝ่ายค้านหลัก แต่ตนคงจะเปิดเผยรายละเอียดให้ข่าวได้ไม่มาก เพราะเป็นพรรคเล็ก

ต้องฟังประธานวิปฝ่ายค้าน โดยตนได้ส่งข้อมูลให้ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ ประธานวิปฝ่ายค้านแล้ว จะได้ไปรวมในญัตติเดียวกับของ

ฝ่ายค้าน โดยตนและนายสมเพชร แต่งงาม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรครักประเทศไทย จะลงชื่อตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 158 และ159 เพื่อยื่น

อภิปรายรัฐบาลด้วย มั่นใจว่าข้อมูลในการอภิปรายครั้งนี้ ชัดเจน รัฐบาลถึงขั้นล้มทั้งยืนแน่

** “เหลิม” บอกชื่นใจมีชื่อถูกซักฟอก

ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการที่ฝ่ายค้านยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจ โดยมีชื่อของนายกรัฐมนตรี และ

รัฐมนตรีบางคน รวมทั้งตนเอง ว่า ดีเหลือเกิน โชคดี เห็นชื่อแล้วยังชื่นใจ เพราะหากไม่มีชื่อตนแล้วเหงา ส่วนเรื่องถอดถอนก็ไม่รู้จะถอด

ถอนตนเรื่องอะไร ถ้าจะมีก็มีข้อหาเดียวคือ หมั่นไส้ ข้อหาอื่นไม่มี
เมื่อถามว่า มองว่ารัฐบาลจะรับเกมของฝ่ายค้านในการอภิปรายไม่ไว้วางใจได้หรือไม่ รองนายกฯ กล่าวว่า ตนมองว่าไม่มีข้อมูล

อะไร ก็กว้างๆ เช่น บริหารนโยบายผิดพลาด จำนำข้าวบกพร่อง รัฐมนตรีบางคนส่อไปในทางทุจริต อะไรพวกนี้ ซึ่งไม่มีหรอก ตนไม่ได้

ปรามาส แต่ไม่มีหลักฐาน
เมื่อถามว่า เชื่อว่าฝ่ายค้านไม่มีข้อมูลเชิงลึกใช่หรือไม่ รองนายกฯ กล่าวว่า ไม่มี เพราะตนเป็นคนตรวจสอบ ไม่มีอะไร เพลินๆ

สังเกตได้ว่า หากต้องการจำนวนวันอภิปรายมากๆ แปลว่าไม่มีอะไร เพราะการอภิปรายในสภา หากจะน็อกกันแค่ 3 ชั่วโมง ไม่เกิน 5

ชั่วโมง ก็พอแล้ว เมื่อถามย้ำว่าไม่เผื่อใจว่าฝ่ายค้านจะมีเรื่องอะไรที่มาน็อกได้ รองนายกฯ กล่าวว่า ไม่มี ถ้าจะลงลึกก็น่าจะระดับเจ้า

หน้าที่ ตนถึงไม่ทราบ แต่ระดับเจ้าหน้าที่นั้น หากมีข้อเท็จจริงปรากฏ ก็ดำเนินคดีไป

** ดักคออย่าอภิปรายเรื่องส่วนตัว

นายวราเทพ รัตนากร รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า กำหนดการอภิปรายน่าจะชัดเจนแล้ว คือวันที่ 25-26 พ.ย.

และลงมติในวันที่ 27 พ.ย. ส่วนวันที่ 28 พ.ย.ซึ่งเป็นวันสุดท้ายของสมัยประชุมนี้ ก็จะเป็นการอภิปรายทั่วไปโดยไม่มีการลงมติของส.ว. ที่

ได้ยื่นไว้ตาม มาตรา 161
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ยังไม่เห็นญัตติ แต่หากฝ่ายค้านยื่นมาแล้วก็คงจะมองได้ว่า เป้าหมาย หรือเจตนาในการที่จะอภิปรายไม่ไว้

วางใจ เขามุ่งเน้นประเด็นอะไรเป็นสำคัญ นอกเหนือจากการเป็นข่าวบ้าง
เมื่อถามว่ารัฐบาลจะเตรียมรับมือการอภิปรายเรื่องส่วนตัวนายกฯ อย่างไร รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า “เห็นฝ่าย

ค้านบอกว่าจะไม่พูดเรื่องส่วนตัว ไม่ใช่หรือ แต่ผมคิดว่าเรื่องส่วนตัวคงจะพูดยากตรงที่ว่า อะไรที่ว่าเป็นเรื่องส่วนตัว ซึ่งก็อยู่ที่ความรับผิด

ชอบของผู้อภิปรายมากกว่า ว่ามองว่าประเด็นนั้นมีผลต่อการบริหารบ้านเมือง มีผลต่อการทำหน้าที่ หรือไม่" นายวราเทพ กล่าว

**แถลงผลงานรัฐบาลรอสมัยหน้า

ผู้สื่อข่าวถามถึงการแถลงผลงานของรัฐบาล ที่ขณะนี้บริหารงานมาครบ 1 ปีแล้ว แต่ยังไม่มีกำหนดวันที่จะแถลงต่อรัฐสภา ทั้ง

ที่ใกล้จะปิดสมัยประชุมแล้ว นายวราเทพ กล่าวว่า เรื่องการแถลงผลงานของรัฐบาลขณะนี้ทราบว่า ยังไม่มีการส่งไปที่ประธานสภาฯแต่

อย่างใด แต่คิดว่าถึงเวลานี้ฝ่ายค้านคงจะจดจ่ออยู่กับการอภิปรายไม่ไว้วางใจมากกว่า ส่วนการแถลงผลงานของรัฐบาล น่าจะเสนอต่อสภา

ได้ในสมัยประชุมหน้า ซึ่งจะเริ่มในเดือนธ.ค. เพราะสมัยประชุมนี้ปิดสมัยประชุมเพียงแค่ 2 สัปดาห์เท่านั้น ซึ่งก็ถือว่าไม่ช้ากว่าปกติเท่า

ไหร่
เมื่อถามว่าเกรงจะถูกฝ่ายค้านวิจารณ์หรือไม่ ที่ไม่สามารถแถลงผลงานในสมัยประชุมนี้ได้เพราะก่อนหน้านี้ฝ่ายค้านก็ออกมาทวง

ให้รัฐบาลแถลงผลงาน รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ความจริงที่ผ่านมารัฐบาลก็ให้ข้อมูลการทำงานของรัฐบาลมาเป็นระยะ

อยู่แล้ว โดยเฉพาะในรายการรัฐบาลยิ่งลักษณ์พบประชาชน ที่ออกอากาศทุกวันเสาร์ ไม่ได้ปิดบังอะไร มีเพียงการชี้แจงต่อรัฐสภาเท่านั้น

ที่ดูเหมือนว่าสมัยประชุมนี้ อาจจะไม่ทัน เพราะมีวาระสำคัญหลายเรื่อง

**กลาโหมสรุปถอดยศ"มาร์ค"
รายงานจากกระทรวงกลาโหมแจ้งว่า หลังจาก พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต รมว.กลาโหม แต่งตั้งคณะกรรมการพิจารณาดำเนิน

การกรณีการบรรจุเข้ารับราชการ การขึ้นทะเบียนกองประจำการ และการแต่งตั้งยศ ร.ต.ของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชา

ธิปัตย์ ซึ่งมี พล.อ.ม.ล.ประสบชัย เกษมสันต์ รองปลัดกระทรวงกลาโหม เป็นประธานฯ
ทั้งนี้เมื่อวันที่ 6 พ.ย.ที่ผ่านมา คณะกรรมการฯได้ประชุม เพื่อตรวจสอบข้อกฎหมาย และกฎระเบียบของกระทรวงกลาโหม ซึ่ง

ได้ข้อสรุปว่า
1. นายอภิสิทธิ์ ไม่ได้มารายงานตัวเพื่อตรวจเลือกการเกณฑ์ทหาร 2. ไม่ได้มีการขอผ่อนผันตามระเบียบ และ 3.การเข้ารับ

ราชการเป็นอาจารย์โรงเรียนนายร้อย จปร.นั้นไม่ถูกต้อง
“ทางคณะกรรมการฯได้ข้อสรุปว่า นายอภิสิทธิ์ใช้เอกสารไม่ถูกต้องสมัครเข้ารับราชการทหาร ดังนั้นจึงมีมติให้ใช้กฎ

กระทรวงกลาโหมดำเนินการถอดยศ ร.ต. ของนายอภิสิทธิ์ พร้อมทั้งพิจารณาเรียกเงินเดือน และสิทธิประโยชน์ทางราชการหรือเบี้ยหวัด

คืน โดยได้ส่งเรื่องทั้งหมดไปให้ พล.อ.อ.สุกำพลแล้ว ขณะนี้กำลังรอให้ พล.อ.อ.สุกำพล ลงนามเท่านั้น
กำลังโหลดความคิดเห็น