นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึง การปรับครม.ของรัฐบาลว่า ยังไม่ทราบว่ามีรายละเอียดอย่างไร และหากจะมีการปรับ นายบุญทรง เตริญาภิรมย์ รมว.พาณิชย์ ออกจากครม. ก็คิดว่าไม่น่าจะเป็นปัญหา หรือกระทบกับการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลในเรื่องการรับจำนำข้าว เพราะเรื่องจำนำข้าวเป็นเรื่องของนโยบาย ซึ่งเป็นความรับผิดชอบของนายกรัฐมนตรี และคณะรัฐมนตรีทั้งหมด อย่างไรก็ตาม อย่าเพิ่งคิดไปก่อนล่วงหน้าว่า การปรับครม.จะเป็นการหนีการอภิปรายไม่ไว้วางใจ
ส่วนกรณีที่หลายฝ่ายกังวลว่านายกรัฐมนตรี จะไม่เข้าร่วมการอภิปรายครั้งนี้ ก็ได้มีการพูดคุยหารือกับวิปรัฐบาลแล้ว และได้รับการยืนยันจากวิปรัฐบาลแล้วว่านายกรัฐมนตรีสามารถจัดเวลาเข้าร่วมประชุมได้ ส่วนการอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งนี้ ฝ่ายค้านก็หวังว่ารัฐบาลจะใช้ข้อมูลที่ได้รับจากการอภิปรายให้เป็นประโยชน์ แต่หากรัฐบาลไม่นำไปใช้ ก็เชื่อว่าประชาชนจะได้รับประโยชน์ นั่นคือการได้รับทราบข้อเท็จจริง
ส่วนกรณี นพ.เหวง โตจิราการ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ในฐานะแกนนำนปช. ยื่นหนังสือผ่านประธานกรรมาธิการการกฎหมาย เพื่อให้ยื่นหนังสือส่งต่อไปยัง นายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ประธานรัฐสภา เพื่อให้นำข้อมูลการสอบสวนเกี่ยวกับคลิปเสียงสั่งการให้สลายการชุมนุมกลุ่มนปช. ของนายอภิสิทธิ์ ที่ได้มีการตรวจสอบเสร็จสิ้นแล้ว ในสมัยนายชัย ชิดชอบ เป็นประธานรัฐสภา แต่ที่ผ่านมายังไม่มีการเปิดเผยข้อมูลนั้น นายอภิสิทธิ์ ระบุว่า เป็นเรื่องเก่า ที่มีการขึ้นศาลและจบไปแล้ว และหากนพ.เหวง ข้องใจ ก็ให้ไปคุยกับนายศิริโชค โสภา ส.ส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ได้
** รมต.บางคนอาจหนีอภิปราย
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ ประธานวิปฝ่ายค้าน กล่าวถึงการปรับครม.ก่อนการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล ว่า ย่อมมีผลต่อการทำหน้าที่ของฝ่ายค้าน และอาจเป็นการหนีอภิปรายของรัฐมนตรีบางคนที่ไม่มีผลงาน ส่วนการปรับกลยุทธของฝ่ายค้าน จะทำอย่างไร ขอดูรายชื่อรัฐมนตรีชุดใหม่ ให้ชัดเจนก่อน
สำหรับกำหนดการยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจ จะยื่นต่อประธานสภาผู้แทนราษฎร ก่อนหรือหลัง 31 ต.ค.นี้ รวมถึงยังไม่ได้กำหนดว่า จะอภิปรายนายกรัฐมนตรีเพียงคนเดียว หรือรัฐมนตรีเป็นรายยุคคล หรือทั้งคณะรัฐมนตรี พร้อมย้ำว่า ในช่วงเวลาารอภิปรายไม่ไว้ว่งใจ นายกรัฐมนตรีไม่ควรวางกำหนดการเดินทางไปปฏิบัติภารกิจต่างๆ เพื่อไม่ให้เป็นอุปสรรคในการอภิปราย
นายจุรินทร์ ยังกล่าวต่อว่า ฝ่ายค้านเตรียมยื่นกระทู้ถามสดเรื่องปัญหาภัยแล้ว และการก่อสร้างศูนย์ประชุมนานาชาติภูเก็ต และจะเสนอขอเลื่อนญัตติ เรื่อง cctv ขึ้นมาพิจารณาก่อน เนื่องจากเรื่องนี้ถือเป็นประเด็นทางการเมืองที่พรรคเพื่อไทย พยายามทำให้เกิดความเข้าใจผิด อีกทั้งกรรมาธิการพิจารณาเสร็จสิ้นแล้วไม่พบว่ามีการทุจริต จึงควรหยิบยกขึ้นมาพิจารณาในสภา
**ปรับบุญทรงออกก็ยังซักฟอกจำนำข้าว
น.พ.วรงค์ เดชวิกรม ส.ส.พิษณุโลก พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึง การปรับ ครม.ว่า หากมีการปรับนายบุญทรง เตริยาภิรมย์ รมว.พาณิชย์ออกจากตำแหน่งจริง ก็แสดงว่ารัฐบาลยอมรับโดยปริยายว่า สิ่งที่พรรคประชาธิปัตย์พยายามบอกสังคมมาตลอดว่า นโยบายจำนำข้าวของรัฐบาล มีปัญหาด้านการทุจริตจริง เพราะตามธรรมเนียมปฎิบัติแล้ว รัฐบาลควรจะต้องให้ฝ่ายค้านยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจก่อนถึงจะมีการปรับครม.
อย่างไรก็ตามส.ส.พิษณุโลก ยังระบุว่า หากนายกรัฐมนตรี ปรับนายบุญทรง ออกจากตำแหน่งก่อนศึกอภิปรายไม่ไว้วางใจจะมาถึงจริง ก็จะไม่เป็นผลลบหรือบวกต่อฝ่ายค้านแต่อย่างใด และนายกรัฐมนตรี จะต้องเป็นผู้ตอบคำถามของฝ่ายค้าน เพราะเป็นผู้รับผิดชอบโดยตรงในทุกนโยบายของรัฐบาล และพรรคประชาธิปัตย์ขอยืน จะไม่เปลี่ยนแผนในการอภิปรายไม่ไว้วางใจเรื่องนโยบายจำนำข้าว อย่างแน่นอน
**“ขุนค้อน”คาด อภิปรายกลางเดือนพ.ย.
นายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าวว่า หากฝ่ายค้านยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจปลายเดือนต.ค.นี้ ก็จะตรวจสอบความถูกต้องก่อนบรรจุเข้าสู่ระเบียบวาระการประชุมได้ ในกลางเดือนพ.ย. ซึ่งเชื่อว่าจะทันในสมัยประชุมสภานี้แน่นอน
ประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าวต่อว่า ตนไม่ทราบกระแสข่าวการปรับคณะรัฐมนตรี แต่เชื่อการว่าหากมีการปรับคงไม่ใช่เพื่อหนีปัญหาความวุ่นวายในพรรคเพื่อไทย เพราะพรรคไม่มีปัญหาอะไร แต่คงเป็นเพียงการปรับเพื่อพัฒนาการทำงานเท่านั้น
ด้านนายสุรพงษ์ โตวิจักษ์ชัยกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวว่า ไม่ทราบกระแสข่าวว่า ตนเองได้ดำรงตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศในการปรับ ครม.ยิ่งลักษณ์ 3 แต่ยอมรับว่าเข้าไปเซ็นต์ชื่อที่ตึกไทยคู่ฟ้าทำเนียบรัฐบาลวานนี้จริง
**"สุกำพล"เร่งสรุปถอดยศ"มาร์ค"
พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต รมว.กลาโหม กล่าวถึงความคืบหน้า กรณีการตรวจสอบการบรรจุเข้ารับราชการ การขึ้นทะเบียนกองประจำการ และการแต่งตั้งยศทหารของ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร ว่า ขณะนี้ทางคณะกรรมการตรวจสอบที่มี พล.อ.มล. ประสบชัย เกษมสันต์ รองปลัดกระทรวงกลาโหม เป็นประธาน กำลังดำเนินการ ซึ่งเรื่องต่างๆ ยังไม่ส่งมาถึงตน ที่ผ่านมาทราบว่าคณะกรรมการฯได้มีการประชุมหลายครั้งแล้ว ทั้งนี้คาดว่าผลสรุปเรื่องดังกล่าว จะได้ผลสรุปออกมาในเร็วๆนี้ อย่างไรก็ตาม การดำเนินการเรื่องดังกล่าวนั้นดำเนินการตามข้อเท็จจริง และหลักฐาน ยืนยันว่าไม่มีเรื่องการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้อง เพราะมีหลักฐานเป็นตัวบ่งชี้ข้อเท็จจริง
"การที่หลายคนมองว่า ผลสรุปจะออกมาในช่วงที่มีการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลนั้น คงไม่เกี่ยวข้องกัน ผลสรุปจะออกก่อนหรือหลัง ก็เป็นเรื่องการทำงานตามขั้นตอน ซึ่งทุกอย่างทำไปตามกติกา เพราะเมื่อคณะกรรมการกฤษฎีกา ตอบเรื่องมาแล้วก็ต้องดำเนินการต่อเท่านั้นเอง การตรวจสอบเรื่องนี้ ผมยืนยันว่า ขึ้นอยู่กับข้อเท็จจริง โกหกกันไม่ได้ ปั้นแต่งพยานเท็จไม่มี" พล.อ.อ.สุกำพล กล่าว
ส่วนกรณีที่หลายฝ่ายกังวลว่านายกรัฐมนตรี จะไม่เข้าร่วมการอภิปรายครั้งนี้ ก็ได้มีการพูดคุยหารือกับวิปรัฐบาลแล้ว และได้รับการยืนยันจากวิปรัฐบาลแล้วว่านายกรัฐมนตรีสามารถจัดเวลาเข้าร่วมประชุมได้ ส่วนการอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งนี้ ฝ่ายค้านก็หวังว่ารัฐบาลจะใช้ข้อมูลที่ได้รับจากการอภิปรายให้เป็นประโยชน์ แต่หากรัฐบาลไม่นำไปใช้ ก็เชื่อว่าประชาชนจะได้รับประโยชน์ นั่นคือการได้รับทราบข้อเท็จจริง
ส่วนกรณี นพ.เหวง โตจิราการ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ในฐานะแกนนำนปช. ยื่นหนังสือผ่านประธานกรรมาธิการการกฎหมาย เพื่อให้ยื่นหนังสือส่งต่อไปยัง นายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ประธานรัฐสภา เพื่อให้นำข้อมูลการสอบสวนเกี่ยวกับคลิปเสียงสั่งการให้สลายการชุมนุมกลุ่มนปช. ของนายอภิสิทธิ์ ที่ได้มีการตรวจสอบเสร็จสิ้นแล้ว ในสมัยนายชัย ชิดชอบ เป็นประธานรัฐสภา แต่ที่ผ่านมายังไม่มีการเปิดเผยข้อมูลนั้น นายอภิสิทธิ์ ระบุว่า เป็นเรื่องเก่า ที่มีการขึ้นศาลและจบไปแล้ว และหากนพ.เหวง ข้องใจ ก็ให้ไปคุยกับนายศิริโชค โสภา ส.ส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ได้
** รมต.บางคนอาจหนีอภิปราย
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ ประธานวิปฝ่ายค้าน กล่าวถึงการปรับครม.ก่อนการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล ว่า ย่อมมีผลต่อการทำหน้าที่ของฝ่ายค้าน และอาจเป็นการหนีอภิปรายของรัฐมนตรีบางคนที่ไม่มีผลงาน ส่วนการปรับกลยุทธของฝ่ายค้าน จะทำอย่างไร ขอดูรายชื่อรัฐมนตรีชุดใหม่ ให้ชัดเจนก่อน
สำหรับกำหนดการยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจ จะยื่นต่อประธานสภาผู้แทนราษฎร ก่อนหรือหลัง 31 ต.ค.นี้ รวมถึงยังไม่ได้กำหนดว่า จะอภิปรายนายกรัฐมนตรีเพียงคนเดียว หรือรัฐมนตรีเป็นรายยุคคล หรือทั้งคณะรัฐมนตรี พร้อมย้ำว่า ในช่วงเวลาารอภิปรายไม่ไว้ว่งใจ นายกรัฐมนตรีไม่ควรวางกำหนดการเดินทางไปปฏิบัติภารกิจต่างๆ เพื่อไม่ให้เป็นอุปสรรคในการอภิปราย
นายจุรินทร์ ยังกล่าวต่อว่า ฝ่ายค้านเตรียมยื่นกระทู้ถามสดเรื่องปัญหาภัยแล้ว และการก่อสร้างศูนย์ประชุมนานาชาติภูเก็ต และจะเสนอขอเลื่อนญัตติ เรื่อง cctv ขึ้นมาพิจารณาก่อน เนื่องจากเรื่องนี้ถือเป็นประเด็นทางการเมืองที่พรรคเพื่อไทย พยายามทำให้เกิดความเข้าใจผิด อีกทั้งกรรมาธิการพิจารณาเสร็จสิ้นแล้วไม่พบว่ามีการทุจริต จึงควรหยิบยกขึ้นมาพิจารณาในสภา
**ปรับบุญทรงออกก็ยังซักฟอกจำนำข้าว
น.พ.วรงค์ เดชวิกรม ส.ส.พิษณุโลก พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึง การปรับ ครม.ว่า หากมีการปรับนายบุญทรง เตริยาภิรมย์ รมว.พาณิชย์ออกจากตำแหน่งจริง ก็แสดงว่ารัฐบาลยอมรับโดยปริยายว่า สิ่งที่พรรคประชาธิปัตย์พยายามบอกสังคมมาตลอดว่า นโยบายจำนำข้าวของรัฐบาล มีปัญหาด้านการทุจริตจริง เพราะตามธรรมเนียมปฎิบัติแล้ว รัฐบาลควรจะต้องให้ฝ่ายค้านยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจก่อนถึงจะมีการปรับครม.
อย่างไรก็ตามส.ส.พิษณุโลก ยังระบุว่า หากนายกรัฐมนตรี ปรับนายบุญทรง ออกจากตำแหน่งก่อนศึกอภิปรายไม่ไว้วางใจจะมาถึงจริง ก็จะไม่เป็นผลลบหรือบวกต่อฝ่ายค้านแต่อย่างใด และนายกรัฐมนตรี จะต้องเป็นผู้ตอบคำถามของฝ่ายค้าน เพราะเป็นผู้รับผิดชอบโดยตรงในทุกนโยบายของรัฐบาล และพรรคประชาธิปัตย์ขอยืน จะไม่เปลี่ยนแผนในการอภิปรายไม่ไว้วางใจเรื่องนโยบายจำนำข้าว อย่างแน่นอน
**“ขุนค้อน”คาด อภิปรายกลางเดือนพ.ย.
นายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าวว่า หากฝ่ายค้านยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจปลายเดือนต.ค.นี้ ก็จะตรวจสอบความถูกต้องก่อนบรรจุเข้าสู่ระเบียบวาระการประชุมได้ ในกลางเดือนพ.ย. ซึ่งเชื่อว่าจะทันในสมัยประชุมสภานี้แน่นอน
ประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าวต่อว่า ตนไม่ทราบกระแสข่าวการปรับคณะรัฐมนตรี แต่เชื่อการว่าหากมีการปรับคงไม่ใช่เพื่อหนีปัญหาความวุ่นวายในพรรคเพื่อไทย เพราะพรรคไม่มีปัญหาอะไร แต่คงเป็นเพียงการปรับเพื่อพัฒนาการทำงานเท่านั้น
ด้านนายสุรพงษ์ โตวิจักษ์ชัยกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวว่า ไม่ทราบกระแสข่าวว่า ตนเองได้ดำรงตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศในการปรับ ครม.ยิ่งลักษณ์ 3 แต่ยอมรับว่าเข้าไปเซ็นต์ชื่อที่ตึกไทยคู่ฟ้าทำเนียบรัฐบาลวานนี้จริง
**"สุกำพล"เร่งสรุปถอดยศ"มาร์ค"
พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต รมว.กลาโหม กล่าวถึงความคืบหน้า กรณีการตรวจสอบการบรรจุเข้ารับราชการ การขึ้นทะเบียนกองประจำการ และการแต่งตั้งยศทหารของ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร ว่า ขณะนี้ทางคณะกรรมการตรวจสอบที่มี พล.อ.มล. ประสบชัย เกษมสันต์ รองปลัดกระทรวงกลาโหม เป็นประธาน กำลังดำเนินการ ซึ่งเรื่องต่างๆ ยังไม่ส่งมาถึงตน ที่ผ่านมาทราบว่าคณะกรรมการฯได้มีการประชุมหลายครั้งแล้ว ทั้งนี้คาดว่าผลสรุปเรื่องดังกล่าว จะได้ผลสรุปออกมาในเร็วๆนี้ อย่างไรก็ตาม การดำเนินการเรื่องดังกล่าวนั้นดำเนินการตามข้อเท็จจริง และหลักฐาน ยืนยันว่าไม่มีเรื่องการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้อง เพราะมีหลักฐานเป็นตัวบ่งชี้ข้อเท็จจริง
"การที่หลายคนมองว่า ผลสรุปจะออกมาในช่วงที่มีการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลนั้น คงไม่เกี่ยวข้องกัน ผลสรุปจะออกก่อนหรือหลัง ก็เป็นเรื่องการทำงานตามขั้นตอน ซึ่งทุกอย่างทำไปตามกติกา เพราะเมื่อคณะกรรมการกฤษฎีกา ตอบเรื่องมาแล้วก็ต้องดำเนินการต่อเท่านั้นเอง การตรวจสอบเรื่องนี้ ผมยืนยันว่า ขึ้นอยู่กับข้อเท็จจริง โกหกกันไม่ได้ ปั้นแต่งพยานเท็จไม่มี" พล.อ.อ.สุกำพล กล่าว