ภท.วาง “ปู่ชัย” ซักฟอก ก.ทรัพย์ แย้มไม่เห็น รบ.ปู ทุจริต ยันไม่ไล่ มัชฌิมา

“อนุทิน” เผย ภูมิใจเน รอ รมต.แจง ยันพรรคไม่บังคับลงมติ พร้อมให้อดีต ปธ.สภาฯ ซัก ก.ทรัพย์ แต่ทำตามัวไม่เห็น รบ.โกง จำนำข้าว-งบแก้น้ำท่วม อ้างอย่าตั้งธงไปก่อน ชมนายกฯเก่ง อยู่ครบวาระไร้ปัญหา ชี้ชัดเจน “สมศักดิ์” ถก “ชายจืด-เจ๊แดง” ร่วม พท. เผย “เนวิน” บอกดีกว่าก็ไป ยันไม่ขับออกจากพรรค ชู ภูมิใจเน มีเอกภาพ ปัดพ่อตัวเองบินคุย “แม้ว” แต่รับคุยเอง เรื่อง พ.ร.บ.ปรองดอง

วันนี้ (7 พ.ย.) นายอนุทิน ชาญวีรกูล ว่าที่หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวถึงท่าทีของพรรคต่อการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ว่า ขณะนี้จะเปิดให้สมาชิกในพรรคได้ลงชื่อ โดยมี นายชัย ชิดชอบ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ลงชื่อเป็นคนแรก ซึ่งแสดงความประสงค์ขออภิปรายกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ส่วนการลงมติคงยังบอกไม่ได้ เพราะต้องรอดูการชี้แจงของรัฐมนตรีที่ถูกอภิปรายก่อน ว่า สามารถชี้แจงได้ชัดเจนมากน้อยแค่ไหน ต้องดูเป็นคนๆ ไป และที่ผ่านมา พรรคไม่เคยบอกให้ ส.ส.ของพรรคต้องลงมติเหมือนกัน เพราะถือว่าทุกคนมีเอกสิทธิ์ อย่างไรก็ตาม ส่วนตัวมองว่า 1 ปีที่ผ่านมาของรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ยังไม่มีประเด็นทุจริตใดที่มีหลักฐานชัดเจน เช่น โครงการรับจำนำข้าว เพราะชาวนาส่วนใหญ่ก็ได้ประโยชน์ ขณะที่งบประมาณ 3 แสนล้าน ในโครงการบริหารจัดการน้ำ แม้จะมีตัวเลขงบประมาณออกมา แต่ขณะนี้ยังไม่มีโครงการใดๆ ออกมาโดยใช้เงินก้อนนี้

“น.ส.ยิ่งลักษณ์ อยู่มา 1 ปี ก็ถือว่าเก่ง และโชคดีไม่เจอวิกฤต เหมือน นายสมัคร สุนทรเวช นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ และ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ และที่สำคัญ พรรคเพื่อไทยมีเสียงเกินกึ่งหนึ่งในสภาฯ และหากประเมินจากระบบรัฐสภา รัฐบาลจะอยู่ครบ 4 ปี หรือ นายกฯประกาศยุบสภาฯเอง เนื่องจากไม่มีปัจจัยภายนอกมาทำอะไรได้” นายอนุทิน กล่าว

เมื่อถามว่า ที่มองว่า 1 ปี ยังไม่พบเรื่องทุจริต เป็นเพราะหวังที่จะเข้าร่วมรัฐบาลใช่หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ตนไม่อยากให้มองว่าการอภิปรายไม่ไว้วางใจต้องทำเป็นประเพณี ควรจะมีหลักฐานทุจริต เพราะไม่เช่นนั้นหากเรามีมติตั้งแต่แรกก็เหมือนกับการเซ็นเช็คเปล่า และถ้าเขาผ่านการอภิปรายก็เท่ากับเราไปฟอกให้เขาสะอาดขาวจั๊วะ

ส่วนกรณีที่ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน แกนนำกลุ่มมัชฌิมา เตรียมนำสมาชิกในกลุ่มเข้าร่วมกิจกรรมกับพรรคเพื่อไทย เพื่อเป็นรัฐบาลในเร็วๆ นี้ ว่าที่หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวว่า วันนี้ก็มีความชัดเจนแล้วที่นายสมศักดิ์ไปกินข้าวกับนายสมชาย และนางเยาวภา เมื่อวันที่ 6 พ.ย. ที่ผ่านมา ก็แสดงถึงความชัดเจนแล้ว แต่ยืนยันว่า ไม่ได้ทะเลาะอะไรกัน ไม่ได้ขัดแย้งเรื่องผลประโยชน์ ซึ่งส่วนตัวเคารพนายสมศักดิ์ทุกคนมีเอกสิทธิ์เป็นของตัวเอง และที่ผ่านมา และจนถึงขนาดนี้ก็ยังไม่ได้คุยกับนายสมศักดิ์ มีแต่ผู้ใหญ่ในพรรคที่คุยกับนายสมศักดิ์

นายอนุทิน กล่าวถึงกรณี นายสมศักดิ์ ออกมาสัมภาษณ์ว่า หัวหน้าพรรคคนเก่าและคนใหม่ต่างก็เคยไปพบ พ.ต.ท.ทักษิณ ยืนยันว่า พ่อ (นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล) ไม่เคยไปพบ ส่วนตัวไปพบ 2 ครั้ง คือ ที่สิงคโปร์ และ ฮ่องกง ในเรื่อง พ.ร.บ.ปรองดอง เพราะพรรคภูมิใจไทยมีจุดยืนในเรื่องความปรองดอง และการแก้ไขรัฐธรรมนูญ 50 เพราะเป็นเรื่องนโยบายของพรรคมิใช่ “รอเสียบ”

เมื่อถามว่า ความสัมพันธ์กับกลุ่มมัชฌิมาจะกลับมาเช่นเดิมได้หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวยืนยันอีกครั้ง ว่า ไม่เคยเกิดความขัดแย้ง หรือมีการโต้เถียงกัน เพราะพรรคภูมิใจไทยมาจาก 2 กลุ่มชัดเจน คือ กลุ่มเพื่อนเนวิน และ กลุ่มมัชฌิมา และหากต้องการมาทำงานพรรคด้วยกันก็ยินดี และมานั่งแถลงข่าวจับมืออยู่ด้วยกันจนถึงการเลือกตั้งครั้งหน้า และยืนยันว่า 27 เสียงของกลุ่มเพื่อนเนวิน มีเอกภาพแน่นอน

เมื่อถามย้ำว่า หากกลุ่มมัชฌิมายังทำกิจกรรมกับพรรคเพื่อไทยอยู่จะมีมติขับไล่ออกจากพรรคหรือไม่ ว่าที่หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวว่า ไม่ขับออกทุกกรณี ตนไม่คิดอะไรซับซ้อนมาก อะไรที่ไม่เกิดประโยชน์จะไม่ทำ ตนทำอะไรชัดเจนตลอด

“คนที่มีความหมายกับผม คือ คนที่สนับสนุนผมและร่วมเป็นร่วมตาย และสู้มาเคียงข้างกัน ตั้งแต่ผมเป็นหัวหน้าพรรค ส.ส.ทั้ง 7 ผมไม่เคยเข้ามาประชุมพรรค แม้แต่วันเลือกตั้งกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่แล้ว ก็ไม่มา ก็ไม่ไหวแล้ว ขับหรือไม่ขับออกจากพรรคก็ไม่จำเป็น เรื่องนี้นายเนวิน ชิดชอบ ก็บอกให้ผมใจเย็นๆ หากกลุ่มมัชฌิมามีโอกาสที่ดีกว่าก็ไปเลย” นายอนุทิน กล่าว และวันนี้พรรคตัดสินใจถูก เพราะมี นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ เป็นเลขาธิการพรรค ถือว่ากลัดกระดุมเม็ดแรกถูก