เหตุแห่งวิกฤตชาติคืออะไร คือระบอบที่ไม่มีหลักการปกครองโดยธรรม มีแต่กฎหมายรัฐธรรมนูญอันเป็นวิธีการปกครองและการเลือกตั้งก็เป็นเพียงวิธีการขึ้นสู่อำนาจแต่บิดเบือนกันว่าเป็นระบอบประชาธิปไตย แท้จริงมันคือระบอบเผด็จการโดยกฎหมายรัฐธรรมนูญระบบรัฐสภานี่คือเหตุแห่งความเลวร้ายทั้งปวงของชาติ ใครมาเป็นรัฐบาลมันก็เลยเลวหมด เพราะเหตุมันเลว ผลมันจึงเลวตามเป็นทอดๆ
ประเทศไทยนับตั้งแต่มีการเปลี่ยนแปลงการปกครอง พ.ศ. 2475 เป็นต้นมา ใช้รัฐธรรมนูญมากถึง 18 ฉบับ เป็นเวลายาวนานถึง 80 กว่าปีแล้ว แต่ยังไม่เคยมีหลักการปกครองโดยธรรม และรัฐธรรมนูญเป็นเพียงวิธีการปกครองเท่านั้น แล้วบิดเบือนว่าเป็นระบอบประชาธิปไตย ปวงชนในชาติจึงมีภราดรภาพทางการเมืองและทางสังคมอย่างแท้จริง จึงได้เสนอหลักการปกครอง หลักที่ 6 เพื่อแก้ไขเหตุวิกฤตชาติ โดยเอาการเมืองคืนจากนายทุนและนักการเมืองเพียงหยิบมือเดียวมาให้ปวงชนอย่างแท้จริง ปวงชนจะได้ไม่ตกเป็นทาสทางการเมืองของนักการเมืองชั่วอีกต่อไป เพื่อให้ประเทศชาติมั่นคง ประชาชนมั่งคั่ง อย่างยั่งยืนสืบไป ดังนี้
6. หลักภราดรภาพ (Fraternity) คือการถือว่ามวลมนุษยชาติและสรรพสัตว์ทั้งผองเป็นพี่น้องกัน เป็นเพื่อนร่วมเกิด แก่ เจ็บ ตาย ด้วยกันทั้งหมดทั้งสิ้น ถ้อยที ถ้อยอาศัย บนรากฐานของความเมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขา และการให้โอกาส ไม่เลือกปฏิบัติ ไม่แบ่งชนชั้นวรรณะ ในความแตกต่างทางอาชีพ วุฒิการศึกษา ศาสนา ความเชื่อต่างๆ (ทุกวันนี้ความมีภราดรภาพในสังคมไทยยากเหลือเกินเพราะประชาชนส่วนใหญ่ตกเป็นทาสของนักการเมืองโกงชาติ)
6.1 หลักภราดรภาพตามกฎธรรมชาติ กฎธรรมชาติบนความสัมพันธ์ระหว่างอสังขตธรรม (ธรรมที่ไม่มีเหตุปัจจัยปรุงแต่ง) กับ สังขตธรรม (ธรรมที่มีเหตุปัจจัยปรุงแต่ง) เป็นปัจจัยให้กระบวนการนามรูปหรือกระบวนการชีวิตสัตว์ทั้งมวล นับแต่สัตว์เซลล์เดียว ต่างก็วิวัฒนาการก้าวหน้าอย่างค่อยเป็นค่อยไปและก้าวกระโดดเรื่อยไปจนถึงความเป็นมนุษย์ และมนุษย์สามารถจะพัฒนาตนเอง ด้วยการวิปัสสนาภาวนา รู้แจ้ง รู้จริง วิมุตติเข้าถึงจุดมุ่งหมายสูงสุดคือบรมธรรม (นิพพาน, ธรรมาธิปไตย)
6.2 หลักภราดรภาพตามคำสอนพระพุทธศาสนา ความเป็นภราดรภาพหรือหลักการอยู่ร่วมกันในพระพุทธศาสนามี 6 ลักษณะคือ
1) เมตตากายกรรม คือ การมีเมตตาในเพื่อนพรหมจรรย์ ช่วยเหลือกิจธุระของหมู่คณะด้วยความเต็มใจ แสดงกิริยาอาการสุภาพ อ่อนน้อม แสดงความเคารพนับถือกันทั้งต่อหน้าและลับหลัง
2) เมตตาวจีกรรม คือ การมีเมตตาต่อเพื่อนพรหมจรรย์ ช่วยบอกแจ้งในสิ่งที่เป็นประโยชน์ แนะนำสั่งสอน ตักเตือนด้วยความหวังดีด้วยวาจาสุภาพ อ่อนหวาน แสดงความเคารพนับถือกันทั้งต่อหน้าและลับหลัง
3) เมตตามโนกรรม คือ การคิดเมตตาต่อเพื่อนพรหมจรรย์ ตั้งจิตปรารถนา คิดทำแต่ในสิ่งที่เป็นประโยชน์แก่กันด้วยความอ่อนโยน ยิ้มแย้มแจ่มใสต่อกัน แสดงความเคารพนับถือกัน ทั้งต่อหน้าและลับหลัง
4) สาธารณโภคี คือ การแบ่งปันกัน เมื่อได้สิ่งของใดมาโดยชอบธรรม แม้เป็นเพียงของเล็กน้อย ก็ไม่หวงไว้ผู้เดียว นำมาแบ่งปันเจือจาน ให้มีส่วนร่วมใช้สอยบริโภคร่วมกัน
5) ศีลสามัญญตา คือ การมีศีลบริสุทธิ์เสมอกันกับเพื่อนพรหมจรรย์ทั้งหลาย มีความประพฤติดีงาม ถูกต้องตามระเบียบวินัย ไม่ทำตนให้เป็นที่น่ารังเกียจของหมู่คณะ ทั้งต่อหน้าและลับหลัง
6) ทิฐิสามัญญตา คือการมีทิฐิ หรือความเห็นเสมอกัน มีความเห็นชอบร่วมกัน ในเพื่อนพรหมจรรย์ทั้งหลาย เกี่ยวกับหัวข้อที่เป็นหลักการสำคัญที่จะนำไปสู่ความหลุดพ้น สิ้นอาสวะกิเลส หรือการคิดแก้ปัญหาต่างๆ ทั้งต่อหน้าและลับหลัง
6.3 ระบอบการเมืองไทยปัจจุบันไม่มีหลักภราดรภาพการเมืองในระบอบเผด็จการไม่ว่ารูปแบบใดก็ตาม ประชาชนในสังคมทุกระดับจะไม่มีภราดรภาพ จะมีความแตกแยก ไม่ไว้วางใจซึ่งกันและกัน ตัวใครตัวมัน และความจริงในปัจจุบันอำนาจอธิปไตยเป็นของกลุ่มทุนผูกขาด นักการเมืองชั่วและอิทธิพลอำนาจมืดเพียงหยิบมือเดียว ดังนั้นภราดรภาพของประชาชนก็ยากที่จะเกิดขึ้นได้ในด้านต่างๆ เช่น
1) ประชาชนไม่มีภราดรภาพทางการเมือง ประชาชนค่อนประเทศไม่ได้เป็นเจ้าของอำนาจอธิปไตยจึงไม่มีสิทธิที่จะสมัคร ส.ส., ส.ว. แต่ถูกบังคับให้ไปเลือก คิดดูเถิด ทั้งคณะผู้ร่างและผู้รับรอง พวกเขามองเพื่อนร่วมชาติเหมือนไม่ใช่มนุษย์
2) ประชาชนไม่มีภราดรภาพทางกฎหมาย ผู้ปกครองออกกฎหมายโดยไม่ถือหลักนิติธรรม ชนชั้นใดเขียนกฎหมาย ก็เพื่อประโยชน์ของชนชั้นนั้น
3) ประชาชนไม่มีภราดรภาพทางโอกาส จึงเกิดความแตกแยกขึ้นในชาติ
4) ประชาชนไม่ภราดรภาพทางเศรษฐกิจ เพราะเต็มไปด้วยการผูกขาด ตัดตอน ทับซ้อน มือใครยาวสาวได้สาวเอา คนรวยก็รวยชนิดล้นฟ้าล้นแผ่นดิน คนจนก็ต้องจนเหมือนไม่ใช่มนุษย์ไปจนกว่าจะตาย ตายแล้วก็ยังมีหนี้ติดตัว
5) ประชาชนไม่มีภราดรภาพทางสังคม เต็มไปด้วยคนเห็นแก่ตัว ตัวใครตัวมัน ดูได้จากพิษภัยของยาเสพติด และขบวนการอบายมุขต่างๆ ท่วมประเทศ ฯลฯ
จากการวิจัยสภาพการณ์ของระบอบการเมืองปัจจุบันโดยรวม พบว่าประเทศไทยกำลังเคลื่อนไปตามกฎอิทัปปัจจยตาฝ่ายอกุศล ฝ่ายลบ หรือฝ่ายเสื่อม ฝ่ายพินาศ ดังนี้
เพราะความจริงคืออำนาจอธิปไตยเป็นของนายทุนและนักการเมืองชั่วกลุ่มอิทธิพลมืดเพียงหยิบมือเดียว จึงเป็นเหตุให้ไม่มีเสรีภาพบริบูรณ์ เมื่อไม่มีเสรีภาพบริบูรณ์ จึงเป็นเหตุให้ไม่มีความเสมอภาคทางโอกาส
เมื่อไม่มีความเสมอภาคทางโอกาส จึงเป็นเหตุให้ไม่มีภราดรภาพ
เมื่อไม่มีภราดรภาพ จึงเป็นเหตุให้ไม่มีเอกภาพหรือรู้รักสามัคคีธรรม
เมื่อไม่มีเอกภาพหรือรู้รักสามัคคีธรรม จึงเป็นเหตุให้ไม่มีดุลยภาพ
เมื่อไม่มีดุลยภาพ จึงเป็นเหตุให้ไม่มีหลักนิติธรรม
สภาพการณ์ของประเทศไทยดังกล่าวนี้ เป็นปัจจัยให้นักการเมืองฉ้อราษฎร์บังหลวง โกงกินบ้านเมืองตั้งแต่องค์การบริหารส่วนตำบล จนถึงระดับชาติ กลายเป็นเรื่องปกติธรรมดาไปแล้ว จนประชาชนทั่วไปพูดกันว่า “ช่างมันเถอะ มันจะโกงจะกินบ้าง มันก็ยังพัฒนา ใครเป็นก็เหมือนกันหมด” แสดงให้เห็นถึงค่านิยมของประชาชนเปลี่ยนไป กลายเป็นสภาพการณ์ “กระเบื้องเฟื่องฟูลอย น้ำเต้าน้อยกลับถอยจม”
6.4 ความเป็นภราดรภาพจะเกิดขึ้นได้อย่างไร ด้วยปัจจัยของระบอบการเมืองโดยธรรม สาระสำคัญคือมีหลักธรรมาธิปไตย 9 เป็นหลักการปกครอง จะเป็นปัจจัยให้ประชาชน 1) มีภราดรภาพทางการเมือง 2) มีภราดรภาพทางกฎหมาย 3) มีภราดรภาพทางโอกาส 4) มีภราดรภาพทางเศรษฐกิจ 5) มีภราดรภาพในการอยู่ร่วมกันในสังคม อันเกิดจากปัจจัยที่ถูกต้อง เมื่อนำมาประยุกต์ใช้อย่างถูกต้องโดยธรรม จะเป็นไปตามกฎอิทัปปัจจยตาฝ่ายกุศล, ฝ่ายบวก, ฝ่ายพัฒนา, ฝ่ายก้าวหน้าจะเกิดผลอย่างยิ่งใหญ่ต่อปวงชน ซึ่งได้ขยายฐานอุดมการณ์ ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ สู่การพระราชทานสถาปนาหลักการปกครองธรรมาธิปไตย 9 ดังนี้
1) หลักธรรมาธิปไตย เป็นเหตุให้องค์พระมหากษัตริย์ยิ่งใหญ่แห่งชาติและโลก
2) หลักพระมหากษัตริย์ยิ่งใหญ่จะเหตุเป็นปัจจัยพระราชทานอำนาจอธิปไตยให้เป็นของปวงชน (วันพระราชทาน (ระบอบ) หลักการปกครองธรรมาธิปไตย 9 ซึ่งต่างจากแนวคิดของคณะราษฎร ที่บังคับให้พระเจ้าแผ่นดินทรงพระราชทานรัฐธรรมนูญ ซึ่งเป็นความผิดพลาดอย่างใหญ่หลวงยาวนานกว่า 80 ปี จนพากันหลงผิดอย่างร้ายแรงสุดๆ ว่ารัฐธรรมนูญคือระบอบประชาธิปไตย มันจึงไม่เคยได้ระบอบประชาธิปไตยสักครั้งทั้ง 18 ฉบับ อยากได้ระบอบประชาธิปไตยจริงๆ ทำครั้งเดียวคือพระเจ้าแผ่นดินทรงสถาปนาหลักการปกครองธรรมาธิปไตย 9 จะได้ระบอบประชาธิปไตยชั่วกัลปาวสาน
3) หลักอำนาจอธิปไตยของปวงชน จะเป็นเหตุปัจจัยให้เกิดเสรีภาพบริบูรณ์
4) หลักเสรีภาพบริบูรณ์ จะเป็นเหตุปัจจัยให้เกิดความเสมอภาคทางโอกาส
5) หลักความเสมอภาคทางโอกาส จะเป็นเหตุปัจจัยให้เกิดภราดรภาพ
6) หลักภราดรภาพ จะเป็นเหตุปัจจัยให้เกิดเอกภาพหรือรู้รักสามัคคีธรรม
7) หลักเอกภาพหรือรู้รักสามัคคีธรรม จะเป็นเหตุปัจจัยให้เกิดดุลยภาพ
8) หลักดุลยภาพ จะเป็นเหตุปัจจัยให้เกิดหลักนิติธรรม
9) หลักนิติธรรม จะเป็นเหตุปัจจัยให้การยกร่างรัฐธรรมนูญและพระราชบัญญัติต่างๆ เป็นธรรม ด้วยเหตุปัจจัยดี คือมี หลักการปกครองธรรมาธิปไตย 9 เมื่อนำมาเป็นหลักการปกครอง ย่อมเป็นปัจจัยต่อรูปการปกครองระบบรัฐสภาให้มีประสิทธิภาพ และจะเป็นปัจจัยต่างอิงอาศัยให้ระบบเศรษฐกิจพอเพียง ได้เบ่งบานทั่วเมืองไทยและสากลโลก และในที่สุดจะเป็นปัจจัยให้ปวงชนได้รับความยุติธรรม ประเทศชาติมั่นคง ประชาชนมั่งคั่งอย่างยั่งยืนสืบไป
สมดังพระราชปณิธานของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชมหาราช ในพระปฐมบรมราชโองการว่า “เราจะครองแผ่นดินโดยธรรม เพื่อประโยชน์สุขแห่งมหาชนชาวสยาม” และระบบเศรษฐกิจตามแนวพระราชดำริ คือ “เศรษฐกิจพอเพียง” หวังว่าท่านทั้งหลาย จะได้น้อมนำไปพิจารณา ทำความถูกต้องยิ่งใหญ่ให้ปรากฏขึ้นในแผ่นดิน
1) ปัญหาเฉพาะหน้า คือ การที่นักวิชาการ นักศึกษา กรรมกร กลุ่มพลังมวลชน กองทัพ ต่างก็ระแวงสงสัย ไม่เชื่อถือนายกรัฐมนตรีคนนี้อีกต่อไปแล้ว ได้บริหารประเทศแบบนักธุรกิจการเมือง ปล่อยให้มีการคอร์รัปชันกันอย่างกว้างขวางโยกย้ายถ่ายเทสมบัติของชาติมาเป็นของครอบครัวและพวกพ้อง อำพรางซ่อนเร้น โกหกหลอกลวงประชาชนอย่างซ้ำซาก ไม่มีคุณธรรม ไม่มีจริยธรรม ไม่มีปัญญา ไม่สง่างาม เกินกว่าที่จะรับได้ ไม่เหมาะสมที่จะเป็นนายกรัฐมนตรี เป็นเช่นนี้ทุกรัฐบาล
2) ปัญหาหลัก อันเป็นเหตุแห่งความเลวร้ายของแผ่นดิน หรือเบื้องหลังแห่งความเลวร้ายทั้งปวงของชาติ คือระบอบการเมืองมิจฉาทิฐิ ที่ไม่มีหลักการปกครอง มีเพียงรูปการปกครองและวิธีการปกครอง เช่น มีการเลือกตั้ง (โกงและซื้อเอา) ได้บิดเบือนและโฆษณาชวนเชื่อว่าเป็นระบอบประชาธิปไตย เพื่อสร้างความชอบธรรม คนขาดการศึกษาวิจัยอย่างแท้จริงก็เชื่อตามอย่างงมงาย เมื่อเห็นผิด คิดผิด ก็ทำผิดเรื่อยไป อย่างไม่รู้จักจบสิ้น
การแก้ปัญหาเหตุวิกฤตชาติอย่างถูกต้องแท้จริงคือร่วมกันผลักดันสถาปนาหลักการปกครองธรรมาธิปไตย 9 นั่นเอง นี่คือการโค่นระบอบเผด็จการรัฐธรรมนูญที่เห็นผิด พูดผิด ทำผิด มายาวนาน 80 ปีลงได้นั่นเอง นี่คือชัยชนะของชาติและปวงชน เสธ. อ้าย และแกนนำทั้งหลาย พิจารณาด้วยเถิด
ประเทศไทยนับตั้งแต่มีการเปลี่ยนแปลงการปกครอง พ.ศ. 2475 เป็นต้นมา ใช้รัฐธรรมนูญมากถึง 18 ฉบับ เป็นเวลายาวนานถึง 80 กว่าปีแล้ว แต่ยังไม่เคยมีหลักการปกครองโดยธรรม และรัฐธรรมนูญเป็นเพียงวิธีการปกครองเท่านั้น แล้วบิดเบือนว่าเป็นระบอบประชาธิปไตย ปวงชนในชาติจึงมีภราดรภาพทางการเมืองและทางสังคมอย่างแท้จริง จึงได้เสนอหลักการปกครอง หลักที่ 6 เพื่อแก้ไขเหตุวิกฤตชาติ โดยเอาการเมืองคืนจากนายทุนและนักการเมืองเพียงหยิบมือเดียวมาให้ปวงชนอย่างแท้จริง ปวงชนจะได้ไม่ตกเป็นทาสทางการเมืองของนักการเมืองชั่วอีกต่อไป เพื่อให้ประเทศชาติมั่นคง ประชาชนมั่งคั่ง อย่างยั่งยืนสืบไป ดังนี้
6. หลักภราดรภาพ (Fraternity) คือการถือว่ามวลมนุษยชาติและสรรพสัตว์ทั้งผองเป็นพี่น้องกัน เป็นเพื่อนร่วมเกิด แก่ เจ็บ ตาย ด้วยกันทั้งหมดทั้งสิ้น ถ้อยที ถ้อยอาศัย บนรากฐานของความเมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขา และการให้โอกาส ไม่เลือกปฏิบัติ ไม่แบ่งชนชั้นวรรณะ ในความแตกต่างทางอาชีพ วุฒิการศึกษา ศาสนา ความเชื่อต่างๆ (ทุกวันนี้ความมีภราดรภาพในสังคมไทยยากเหลือเกินเพราะประชาชนส่วนใหญ่ตกเป็นทาสของนักการเมืองโกงชาติ)
6.1 หลักภราดรภาพตามกฎธรรมชาติ กฎธรรมชาติบนความสัมพันธ์ระหว่างอสังขตธรรม (ธรรมที่ไม่มีเหตุปัจจัยปรุงแต่ง) กับ สังขตธรรม (ธรรมที่มีเหตุปัจจัยปรุงแต่ง) เป็นปัจจัยให้กระบวนการนามรูปหรือกระบวนการชีวิตสัตว์ทั้งมวล นับแต่สัตว์เซลล์เดียว ต่างก็วิวัฒนาการก้าวหน้าอย่างค่อยเป็นค่อยไปและก้าวกระโดดเรื่อยไปจนถึงความเป็นมนุษย์ และมนุษย์สามารถจะพัฒนาตนเอง ด้วยการวิปัสสนาภาวนา รู้แจ้ง รู้จริง วิมุตติเข้าถึงจุดมุ่งหมายสูงสุดคือบรมธรรม (นิพพาน, ธรรมาธิปไตย)
6.2 หลักภราดรภาพตามคำสอนพระพุทธศาสนา ความเป็นภราดรภาพหรือหลักการอยู่ร่วมกันในพระพุทธศาสนามี 6 ลักษณะคือ
1) เมตตากายกรรม คือ การมีเมตตาในเพื่อนพรหมจรรย์ ช่วยเหลือกิจธุระของหมู่คณะด้วยความเต็มใจ แสดงกิริยาอาการสุภาพ อ่อนน้อม แสดงความเคารพนับถือกันทั้งต่อหน้าและลับหลัง
2) เมตตาวจีกรรม คือ การมีเมตตาต่อเพื่อนพรหมจรรย์ ช่วยบอกแจ้งในสิ่งที่เป็นประโยชน์ แนะนำสั่งสอน ตักเตือนด้วยความหวังดีด้วยวาจาสุภาพ อ่อนหวาน แสดงความเคารพนับถือกันทั้งต่อหน้าและลับหลัง
3) เมตตามโนกรรม คือ การคิดเมตตาต่อเพื่อนพรหมจรรย์ ตั้งจิตปรารถนา คิดทำแต่ในสิ่งที่เป็นประโยชน์แก่กันด้วยความอ่อนโยน ยิ้มแย้มแจ่มใสต่อกัน แสดงความเคารพนับถือกัน ทั้งต่อหน้าและลับหลัง
4) สาธารณโภคี คือ การแบ่งปันกัน เมื่อได้สิ่งของใดมาโดยชอบธรรม แม้เป็นเพียงของเล็กน้อย ก็ไม่หวงไว้ผู้เดียว นำมาแบ่งปันเจือจาน ให้มีส่วนร่วมใช้สอยบริโภคร่วมกัน
5) ศีลสามัญญตา คือ การมีศีลบริสุทธิ์เสมอกันกับเพื่อนพรหมจรรย์ทั้งหลาย มีความประพฤติดีงาม ถูกต้องตามระเบียบวินัย ไม่ทำตนให้เป็นที่น่ารังเกียจของหมู่คณะ ทั้งต่อหน้าและลับหลัง
6) ทิฐิสามัญญตา คือการมีทิฐิ หรือความเห็นเสมอกัน มีความเห็นชอบร่วมกัน ในเพื่อนพรหมจรรย์ทั้งหลาย เกี่ยวกับหัวข้อที่เป็นหลักการสำคัญที่จะนำไปสู่ความหลุดพ้น สิ้นอาสวะกิเลส หรือการคิดแก้ปัญหาต่างๆ ทั้งต่อหน้าและลับหลัง
6.3 ระบอบการเมืองไทยปัจจุบันไม่มีหลักภราดรภาพการเมืองในระบอบเผด็จการไม่ว่ารูปแบบใดก็ตาม ประชาชนในสังคมทุกระดับจะไม่มีภราดรภาพ จะมีความแตกแยก ไม่ไว้วางใจซึ่งกันและกัน ตัวใครตัวมัน และความจริงในปัจจุบันอำนาจอธิปไตยเป็นของกลุ่มทุนผูกขาด นักการเมืองชั่วและอิทธิพลอำนาจมืดเพียงหยิบมือเดียว ดังนั้นภราดรภาพของประชาชนก็ยากที่จะเกิดขึ้นได้ในด้านต่างๆ เช่น
1) ประชาชนไม่มีภราดรภาพทางการเมือง ประชาชนค่อนประเทศไม่ได้เป็นเจ้าของอำนาจอธิปไตยจึงไม่มีสิทธิที่จะสมัคร ส.ส., ส.ว. แต่ถูกบังคับให้ไปเลือก คิดดูเถิด ทั้งคณะผู้ร่างและผู้รับรอง พวกเขามองเพื่อนร่วมชาติเหมือนไม่ใช่มนุษย์
2) ประชาชนไม่มีภราดรภาพทางกฎหมาย ผู้ปกครองออกกฎหมายโดยไม่ถือหลักนิติธรรม ชนชั้นใดเขียนกฎหมาย ก็เพื่อประโยชน์ของชนชั้นนั้น
3) ประชาชนไม่มีภราดรภาพทางโอกาส จึงเกิดความแตกแยกขึ้นในชาติ
4) ประชาชนไม่ภราดรภาพทางเศรษฐกิจ เพราะเต็มไปด้วยการผูกขาด ตัดตอน ทับซ้อน มือใครยาวสาวได้สาวเอา คนรวยก็รวยชนิดล้นฟ้าล้นแผ่นดิน คนจนก็ต้องจนเหมือนไม่ใช่มนุษย์ไปจนกว่าจะตาย ตายแล้วก็ยังมีหนี้ติดตัว
5) ประชาชนไม่มีภราดรภาพทางสังคม เต็มไปด้วยคนเห็นแก่ตัว ตัวใครตัวมัน ดูได้จากพิษภัยของยาเสพติด และขบวนการอบายมุขต่างๆ ท่วมประเทศ ฯลฯ
จากการวิจัยสภาพการณ์ของระบอบการเมืองปัจจุบันโดยรวม พบว่าประเทศไทยกำลังเคลื่อนไปตามกฎอิทัปปัจจยตาฝ่ายอกุศล ฝ่ายลบ หรือฝ่ายเสื่อม ฝ่ายพินาศ ดังนี้
เพราะความจริงคืออำนาจอธิปไตยเป็นของนายทุนและนักการเมืองชั่วกลุ่มอิทธิพลมืดเพียงหยิบมือเดียว จึงเป็นเหตุให้ไม่มีเสรีภาพบริบูรณ์ เมื่อไม่มีเสรีภาพบริบูรณ์ จึงเป็นเหตุให้ไม่มีความเสมอภาคทางโอกาส
เมื่อไม่มีความเสมอภาคทางโอกาส จึงเป็นเหตุให้ไม่มีภราดรภาพ
เมื่อไม่มีภราดรภาพ จึงเป็นเหตุให้ไม่มีเอกภาพหรือรู้รักสามัคคีธรรม
เมื่อไม่มีเอกภาพหรือรู้รักสามัคคีธรรม จึงเป็นเหตุให้ไม่มีดุลยภาพ
เมื่อไม่มีดุลยภาพ จึงเป็นเหตุให้ไม่มีหลักนิติธรรม
สภาพการณ์ของประเทศไทยดังกล่าวนี้ เป็นปัจจัยให้นักการเมืองฉ้อราษฎร์บังหลวง โกงกินบ้านเมืองตั้งแต่องค์การบริหารส่วนตำบล จนถึงระดับชาติ กลายเป็นเรื่องปกติธรรมดาไปแล้ว จนประชาชนทั่วไปพูดกันว่า “ช่างมันเถอะ มันจะโกงจะกินบ้าง มันก็ยังพัฒนา ใครเป็นก็เหมือนกันหมด” แสดงให้เห็นถึงค่านิยมของประชาชนเปลี่ยนไป กลายเป็นสภาพการณ์ “กระเบื้องเฟื่องฟูลอย น้ำเต้าน้อยกลับถอยจม”
6.4 ความเป็นภราดรภาพจะเกิดขึ้นได้อย่างไร ด้วยปัจจัยของระบอบการเมืองโดยธรรม สาระสำคัญคือมีหลักธรรมาธิปไตย 9 เป็นหลักการปกครอง จะเป็นปัจจัยให้ประชาชน 1) มีภราดรภาพทางการเมือง 2) มีภราดรภาพทางกฎหมาย 3) มีภราดรภาพทางโอกาส 4) มีภราดรภาพทางเศรษฐกิจ 5) มีภราดรภาพในการอยู่ร่วมกันในสังคม อันเกิดจากปัจจัยที่ถูกต้อง เมื่อนำมาประยุกต์ใช้อย่างถูกต้องโดยธรรม จะเป็นไปตามกฎอิทัปปัจจยตาฝ่ายกุศล, ฝ่ายบวก, ฝ่ายพัฒนา, ฝ่ายก้าวหน้าจะเกิดผลอย่างยิ่งใหญ่ต่อปวงชน ซึ่งได้ขยายฐานอุดมการณ์ ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ สู่การพระราชทานสถาปนาหลักการปกครองธรรมาธิปไตย 9 ดังนี้
1) หลักธรรมาธิปไตย เป็นเหตุให้องค์พระมหากษัตริย์ยิ่งใหญ่แห่งชาติและโลก
2) หลักพระมหากษัตริย์ยิ่งใหญ่จะเหตุเป็นปัจจัยพระราชทานอำนาจอธิปไตยให้เป็นของปวงชน (วันพระราชทาน (ระบอบ) หลักการปกครองธรรมาธิปไตย 9 ซึ่งต่างจากแนวคิดของคณะราษฎร ที่บังคับให้พระเจ้าแผ่นดินทรงพระราชทานรัฐธรรมนูญ ซึ่งเป็นความผิดพลาดอย่างใหญ่หลวงยาวนานกว่า 80 ปี จนพากันหลงผิดอย่างร้ายแรงสุดๆ ว่ารัฐธรรมนูญคือระบอบประชาธิปไตย มันจึงไม่เคยได้ระบอบประชาธิปไตยสักครั้งทั้ง 18 ฉบับ อยากได้ระบอบประชาธิปไตยจริงๆ ทำครั้งเดียวคือพระเจ้าแผ่นดินทรงสถาปนาหลักการปกครองธรรมาธิปไตย 9 จะได้ระบอบประชาธิปไตยชั่วกัลปาวสาน
3) หลักอำนาจอธิปไตยของปวงชน จะเป็นเหตุปัจจัยให้เกิดเสรีภาพบริบูรณ์
4) หลักเสรีภาพบริบูรณ์ จะเป็นเหตุปัจจัยให้เกิดความเสมอภาคทางโอกาส
5) หลักความเสมอภาคทางโอกาส จะเป็นเหตุปัจจัยให้เกิดภราดรภาพ
6) หลักภราดรภาพ จะเป็นเหตุปัจจัยให้เกิดเอกภาพหรือรู้รักสามัคคีธรรม
7) หลักเอกภาพหรือรู้รักสามัคคีธรรม จะเป็นเหตุปัจจัยให้เกิดดุลยภาพ
8) หลักดุลยภาพ จะเป็นเหตุปัจจัยให้เกิดหลักนิติธรรม
9) หลักนิติธรรม จะเป็นเหตุปัจจัยให้การยกร่างรัฐธรรมนูญและพระราชบัญญัติต่างๆ เป็นธรรม ด้วยเหตุปัจจัยดี คือมี หลักการปกครองธรรมาธิปไตย 9 เมื่อนำมาเป็นหลักการปกครอง ย่อมเป็นปัจจัยต่อรูปการปกครองระบบรัฐสภาให้มีประสิทธิภาพ และจะเป็นปัจจัยต่างอิงอาศัยให้ระบบเศรษฐกิจพอเพียง ได้เบ่งบานทั่วเมืองไทยและสากลโลก และในที่สุดจะเป็นปัจจัยให้ปวงชนได้รับความยุติธรรม ประเทศชาติมั่นคง ประชาชนมั่งคั่งอย่างยั่งยืนสืบไป
สมดังพระราชปณิธานของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชมหาราช ในพระปฐมบรมราชโองการว่า “เราจะครองแผ่นดินโดยธรรม เพื่อประโยชน์สุขแห่งมหาชนชาวสยาม” และระบบเศรษฐกิจตามแนวพระราชดำริ คือ “เศรษฐกิจพอเพียง” หวังว่าท่านทั้งหลาย จะได้น้อมนำไปพิจารณา ทำความถูกต้องยิ่งใหญ่ให้ปรากฏขึ้นในแผ่นดิน
1) ปัญหาเฉพาะหน้า คือ การที่นักวิชาการ นักศึกษา กรรมกร กลุ่มพลังมวลชน กองทัพ ต่างก็ระแวงสงสัย ไม่เชื่อถือนายกรัฐมนตรีคนนี้อีกต่อไปแล้ว ได้บริหารประเทศแบบนักธุรกิจการเมือง ปล่อยให้มีการคอร์รัปชันกันอย่างกว้างขวางโยกย้ายถ่ายเทสมบัติของชาติมาเป็นของครอบครัวและพวกพ้อง อำพรางซ่อนเร้น โกหกหลอกลวงประชาชนอย่างซ้ำซาก ไม่มีคุณธรรม ไม่มีจริยธรรม ไม่มีปัญญา ไม่สง่างาม เกินกว่าที่จะรับได้ ไม่เหมาะสมที่จะเป็นนายกรัฐมนตรี เป็นเช่นนี้ทุกรัฐบาล
2) ปัญหาหลัก อันเป็นเหตุแห่งความเลวร้ายของแผ่นดิน หรือเบื้องหลังแห่งความเลวร้ายทั้งปวงของชาติ คือระบอบการเมืองมิจฉาทิฐิ ที่ไม่มีหลักการปกครอง มีเพียงรูปการปกครองและวิธีการปกครอง เช่น มีการเลือกตั้ง (โกงและซื้อเอา) ได้บิดเบือนและโฆษณาชวนเชื่อว่าเป็นระบอบประชาธิปไตย เพื่อสร้างความชอบธรรม คนขาดการศึกษาวิจัยอย่างแท้จริงก็เชื่อตามอย่างงมงาย เมื่อเห็นผิด คิดผิด ก็ทำผิดเรื่อยไป อย่างไม่รู้จักจบสิ้น
การแก้ปัญหาเหตุวิกฤตชาติอย่างถูกต้องแท้จริงคือร่วมกันผลักดันสถาปนาหลักการปกครองธรรมาธิปไตย 9 นั่นเอง นี่คือการโค่นระบอบเผด็จการรัฐธรรมนูญที่เห็นผิด พูดผิด ทำผิด มายาวนาน 80 ปีลงได้นั่นเอง นี่คือชัยชนะของชาติและปวงชน เสธ. อ้าย และแกนนำทั้งหลาย พิจารณาด้วยเถิด