ความมหัศจรรย์ที่ฉันยังขบไม่แตกอยู่ทุกวันนี้ ก็คือความบังเอิญที่ไม่น่าจะเป็นไปได้
ขณะนี้ ฉันมานั่งเขียนหนังสืออยู่ตรงหน้าต่างชั้น 42 ของคอนโดหรูริมอ่าวเมืองชิคาโก มองออกไปเห็นทะเลสีน้ำเงินไม่ถึงกับสุดสายตา เพราะเห็นปล่องไฟเมืองตุ๊กตาอีกฟากฝั่งหนึ่งอยู่ลิบๆ ใต้ขอบฟ้าเห็นผืนผ้าสีขาวบริสุทธิ์ยาวลิบๆ เป็นทางนอน ข้างบนคือหมู่เมฆใหญ่น้อยสีเทาอ่อนๆ ยังไม่แน่ว่าแดดออกหรือฝนจะตก แต่พรุ่งนี้เฮอร์ริเคนกำลังจะมา
คืออพาร์ตเมนต์ของตุงหรือนพมาศ พิทักษ์กุล น้องผู้ไล่หลังกันขึ้นมาที่เมืองหนองคาย ตุงเป็นเจ้าของกิจการ Beautiful Travel บริการคนไทยที่จะกลับบ้านอยู่นานโขก่อนที่ Internet Booking จะมารังแก บางคนก็เรียกตุงว่าเจ้าแม่ชิคาโกหรือพี่เอื้อยชิคาโก แล้วแต่อุปาทานของบุคคล
แต่ความบังเอิญที่เหนือความบังเอิญก็คือ คอนโดฯ ของตุงที่นี่เลขที่ 195 Harbor Drive หันหน้าออกหาอ่าว เหมือนบ้านตุงที่หนองคาย เลขที่ 195 ท่าค่าย หันหน้าออกสู่แม่น้ำโขง
ความบังเอิญอีกอย่างหนึ่งของวันนี้ 28 ตุลาคม 2555 ในความแตกต่างของเวลาในวันเดียวกัน ที่นี่ก็คือ 28 October 2012 ผมและอังสนา น้องสาวกับตุงและเพื่อนไทยหลายๆ คน จะไปสมทบกับเพื่อนชาวเอเชียและอเมริกันเพื่อทำพิธีชุมนุมขับไล่นายทุนเจ้าเก่าออก แล้วส่งคนไทยคนแรกเป็นวีรสตรีผ่านศึกเสียด้วย คือ ลัดดา หรือ Tammy Duckworth เข้าไปนั่งในสภาคองเกรสแทน
Go, Go, Tammy Go!!
ในวันเดียวกันนี้ ที่สนามม้านางเลิ้ง หรือราชตฤณมัยฯ สถานที่ประชุมสมัชชาแห่งชาติครั้งแรกของประเทศไทย ได้มีการประชุมสมัชชาครั้งที่ 2 โดยไม่รู้ตัว เพื่อขับไล่รัฐบาลจอมปลอมที่มาจากการเลือกตั้งจอมปลอม ด้วยการใช้อำนาจและเงินตบตากฎหมายและบรรดาผู้ใช้กฎหมายตาขาวทั้งหลาย จนผู้คนทั้งบ้านทั้งเมืองยอมจำนนหรือมองข้ามความจอมปลอมไปเสียหมด บ้านเมืองตกอยู่ใต้การบังคับบัญชาของคนนอกกฎหมาย ปล่อยให้นักโทษหนีคุกกลายเป็นผู้มีอำนาจนอกเหนือรัฐธรรมนูญอย่างแท้จริง บ้านเมืองจึงตกต่ำระส่ำระสาย บ้านแตกสาแหรกขาด ทุกข์ทนหม่นไหม้ เป็นหนี้กันไปทั้งชาติทั้งแผ่นดิน ได้ดีแต่มันและพวกพ้องเท่านั้น แต่ดูที่ยังแข็งขันอยู่ได้ก็ด้วยพวกกระสือที่ “ชนะไหน เข้าด้วย ช่วยกระพือ” เท่านั้นเอง
Go Home, Ying Luck, Go Home
ในฐานะผู้อยู่ไกล แต่ไม่เกี่ยงที่จะให้เอาชื่อไปอ้าง อยากจะให้ข้อสังเกตว่า วงจรอุบาทว์ในบ้านเมืองของเรานั้นเกิดง่าย เพราะไม่ยากที่คนชั่วจะรวมตัวกัน เหมือนฝนตกขี้หมูไหล วงจรมงคลนั้นเกิดได้ยาก เพราะคนดีชอบเกี่ยงมีอัตตาสูง คอยแต่สงสัยกันและกันเอง จึงไม่แปลกที่คนไทยยอมให้ขี้ข้าครองเมือง และยอมตนเป็นทาสในมุมมืด ท่องบ่นรักษาความบริสุทธิ์ของตนเท่านั้น (คนอื่นชั่วหรือมีเบื้องหลังหมด)
คราวนี้ ผมก็ได้ยินว่ามีคนมาถึง 2 หมื่น แต่ก็แผ่วพลังลง เพราะมีพรรคเก่าเหล่าตอแหลมาสวมรอยสอยโอกาส ผมว่าก็ไม่เห็นจะเป็นไร ใช้มันเสียมั่งก็ได้ แล้วเขี่ยออกในทีหลัง
เราสรุปได้แล้วไม่ใช่หรือว่ากติกาจอมปลอม นักการเมืองจอมปลอมในรัฐบาลและสภาทั้งหมดนี้เอาไว้ไม่ได้ หาไม่จะจ่อมจมล่มสลายไปทั้งชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และความเป็นคนไทย
อย่างไรก็ตาม ขอให้โชคดี ดีเดย์เมื่อใดบอกด้วย จะกลับไปร่วมฉลอง
มหัศจรรย์ของความบังเอิญเรื่องสุดท้ายที่จะเล่าวันนี้ก็คือ ที่ชิคาโกนี่เอง 3-4 ปีก่อนที่จะเกิดเหตุการณ์ 14 ตุลาคม อาจารย์ป๋วยกับผมได้รับเชิญให้มาเป็น Keynote Speaker ในงานชุมนุมนักศึกษาไทยทั่วโลก ซึ่งโกศล ศรีสังข์ นักศึกษาปริญญาเอกแห่งมหาวิทยาลัยชิคาโกเป็นผู้จัด
คราวนั้นพล.ต.ต.สง่า กิตติขจร ประจักษ์ว่ารัฐบาลที่พี่ชายตนเองเป็นประมุข ที่ตนเคยร่วมเป็นรัฐมนตรีอยู่ด้วยนั้น หมดหวังที่จะเป็นประชาธิปไตย อยู่ไปรังแต่บ้านเมืองจะตกต่ำย่ำแย่นั้น พล.ต.ต.จึงมาร่วมประชุมกับพวกผู้นำนิสิต นักศึกษา กลับเมืองไทยแล้วก็ไปร่วมลงชื่อเป็น 1 ใน 99 คนที่เรียกร้องรัฐธรรมนูญ
คนที่ 100 คือผมไม่ได้ลงชื่อด้วย ถึงไม่ได้เอะอะอะไร แต่ไม่ขอขี้ตู่เป็นวีรบุรุษไปด้วยเท่านั้น เพราะวีรบุรุษตุลาคมที่แท้จริง คือนิสิต ประชาชน คนงาน ทหาร ตำรวจที่ถอดเครื่องแบบออกมาร่วมก็มีไม่น้อย
นิสิต นักศึกษา ประชาชน คนงาน และทหาร ตำรวจนอกเรื่องแบบบังเอิญโค่นรัฐบาลของพี่ชายพล.ต.ต.สง่าได้ในครั้งนั้น
คราวนี้ จะบังเอิญมีน้องสาวแอบมาไล่พี่ชายไหมหนอ
รัฐบาลของพี่ชายใจร้ายเชิดน้องสาวจะบังเอิญถูก 28 ตุลาราชตฤณมัยฯ โค่นลงได้หรือไม่ ต้องดูว่าเสธ.บุญเลิศซึ่งมีอดีตนักเรียนเตรียมทหารนอกเครื่องแบบหลายสิบรุ่นหนุนอยู่แล้ว จะสามารถสร้างความมหัศจรรย์ทำให้นิสิต นักศึกษา ประชาชน คนงานและผู้ประกอบวิชาชีพทั้งหลายออกมาร่วมอย่างแข็งขันได้หรือไม่
หากองค์ประกอบเหล่านั้นถูกเสน่ห์ของยิ่งลักษณ์ผูกจิต และถูกอามิสของทักษิณมัดใจเอาไว้จนอยู่หมัด ชาติบ้านเมืองก็คงจะอยู่ภายใต้วงจรอุบาทว์อีกนานเท่านาน
มันช่างเป็นความบังเอิญที่น่ามหัศจรรย์ยิ่งนัก!!!
ปราโมทย์ นาครทรรพ
(อีก) ตุลาคม (2555)
ปล.มหัศจรรย์อีกอย่าง หลังจากเสร็จงาน Tammy หิวข้าวพบดร.ชาญวิทย์ เกษตรศิริ นั่งปร๋ออยู่ในร้านอาหาร กำลังจะปาฐกถาเรื่อง “ชาตินิยมไทย ของกรุงเทพฯ และพนมเปญ” อะไรทำนองนี้
ขณะนี้ ฉันมานั่งเขียนหนังสืออยู่ตรงหน้าต่างชั้น 42 ของคอนโดหรูริมอ่าวเมืองชิคาโก มองออกไปเห็นทะเลสีน้ำเงินไม่ถึงกับสุดสายตา เพราะเห็นปล่องไฟเมืองตุ๊กตาอีกฟากฝั่งหนึ่งอยู่ลิบๆ ใต้ขอบฟ้าเห็นผืนผ้าสีขาวบริสุทธิ์ยาวลิบๆ เป็นทางนอน ข้างบนคือหมู่เมฆใหญ่น้อยสีเทาอ่อนๆ ยังไม่แน่ว่าแดดออกหรือฝนจะตก แต่พรุ่งนี้เฮอร์ริเคนกำลังจะมา
คืออพาร์ตเมนต์ของตุงหรือนพมาศ พิทักษ์กุล น้องผู้ไล่หลังกันขึ้นมาที่เมืองหนองคาย ตุงเป็นเจ้าของกิจการ Beautiful Travel บริการคนไทยที่จะกลับบ้านอยู่นานโขก่อนที่ Internet Booking จะมารังแก บางคนก็เรียกตุงว่าเจ้าแม่ชิคาโกหรือพี่เอื้อยชิคาโก แล้วแต่อุปาทานของบุคคล
แต่ความบังเอิญที่เหนือความบังเอิญก็คือ คอนโดฯ ของตุงที่นี่เลขที่ 195 Harbor Drive หันหน้าออกหาอ่าว เหมือนบ้านตุงที่หนองคาย เลขที่ 195 ท่าค่าย หันหน้าออกสู่แม่น้ำโขง
ความบังเอิญอีกอย่างหนึ่งของวันนี้ 28 ตุลาคม 2555 ในความแตกต่างของเวลาในวันเดียวกัน ที่นี่ก็คือ 28 October 2012 ผมและอังสนา น้องสาวกับตุงและเพื่อนไทยหลายๆ คน จะไปสมทบกับเพื่อนชาวเอเชียและอเมริกันเพื่อทำพิธีชุมนุมขับไล่นายทุนเจ้าเก่าออก แล้วส่งคนไทยคนแรกเป็นวีรสตรีผ่านศึกเสียด้วย คือ ลัดดา หรือ Tammy Duckworth เข้าไปนั่งในสภาคองเกรสแทน
Go, Go, Tammy Go!!
ในวันเดียวกันนี้ ที่สนามม้านางเลิ้ง หรือราชตฤณมัยฯ สถานที่ประชุมสมัชชาแห่งชาติครั้งแรกของประเทศไทย ได้มีการประชุมสมัชชาครั้งที่ 2 โดยไม่รู้ตัว เพื่อขับไล่รัฐบาลจอมปลอมที่มาจากการเลือกตั้งจอมปลอม ด้วยการใช้อำนาจและเงินตบตากฎหมายและบรรดาผู้ใช้กฎหมายตาขาวทั้งหลาย จนผู้คนทั้งบ้านทั้งเมืองยอมจำนนหรือมองข้ามความจอมปลอมไปเสียหมด บ้านเมืองตกอยู่ใต้การบังคับบัญชาของคนนอกกฎหมาย ปล่อยให้นักโทษหนีคุกกลายเป็นผู้มีอำนาจนอกเหนือรัฐธรรมนูญอย่างแท้จริง บ้านเมืองจึงตกต่ำระส่ำระสาย บ้านแตกสาแหรกขาด ทุกข์ทนหม่นไหม้ เป็นหนี้กันไปทั้งชาติทั้งแผ่นดิน ได้ดีแต่มันและพวกพ้องเท่านั้น แต่ดูที่ยังแข็งขันอยู่ได้ก็ด้วยพวกกระสือที่ “ชนะไหน เข้าด้วย ช่วยกระพือ” เท่านั้นเอง
Go Home, Ying Luck, Go Home
ในฐานะผู้อยู่ไกล แต่ไม่เกี่ยงที่จะให้เอาชื่อไปอ้าง อยากจะให้ข้อสังเกตว่า วงจรอุบาทว์ในบ้านเมืองของเรานั้นเกิดง่าย เพราะไม่ยากที่คนชั่วจะรวมตัวกัน เหมือนฝนตกขี้หมูไหล วงจรมงคลนั้นเกิดได้ยาก เพราะคนดีชอบเกี่ยงมีอัตตาสูง คอยแต่สงสัยกันและกันเอง จึงไม่แปลกที่คนไทยยอมให้ขี้ข้าครองเมือง และยอมตนเป็นทาสในมุมมืด ท่องบ่นรักษาความบริสุทธิ์ของตนเท่านั้น (คนอื่นชั่วหรือมีเบื้องหลังหมด)
คราวนี้ ผมก็ได้ยินว่ามีคนมาถึง 2 หมื่น แต่ก็แผ่วพลังลง เพราะมีพรรคเก่าเหล่าตอแหลมาสวมรอยสอยโอกาส ผมว่าก็ไม่เห็นจะเป็นไร ใช้มันเสียมั่งก็ได้ แล้วเขี่ยออกในทีหลัง
เราสรุปได้แล้วไม่ใช่หรือว่ากติกาจอมปลอม นักการเมืองจอมปลอมในรัฐบาลและสภาทั้งหมดนี้เอาไว้ไม่ได้ หาไม่จะจ่อมจมล่มสลายไปทั้งชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และความเป็นคนไทย
อย่างไรก็ตาม ขอให้โชคดี ดีเดย์เมื่อใดบอกด้วย จะกลับไปร่วมฉลอง
มหัศจรรย์ของความบังเอิญเรื่องสุดท้ายที่จะเล่าวันนี้ก็คือ ที่ชิคาโกนี่เอง 3-4 ปีก่อนที่จะเกิดเหตุการณ์ 14 ตุลาคม อาจารย์ป๋วยกับผมได้รับเชิญให้มาเป็น Keynote Speaker ในงานชุมนุมนักศึกษาไทยทั่วโลก ซึ่งโกศล ศรีสังข์ นักศึกษาปริญญาเอกแห่งมหาวิทยาลัยชิคาโกเป็นผู้จัด
คราวนั้นพล.ต.ต.สง่า กิตติขจร ประจักษ์ว่ารัฐบาลที่พี่ชายตนเองเป็นประมุข ที่ตนเคยร่วมเป็นรัฐมนตรีอยู่ด้วยนั้น หมดหวังที่จะเป็นประชาธิปไตย อยู่ไปรังแต่บ้านเมืองจะตกต่ำย่ำแย่นั้น พล.ต.ต.จึงมาร่วมประชุมกับพวกผู้นำนิสิต นักศึกษา กลับเมืองไทยแล้วก็ไปร่วมลงชื่อเป็น 1 ใน 99 คนที่เรียกร้องรัฐธรรมนูญ
คนที่ 100 คือผมไม่ได้ลงชื่อด้วย ถึงไม่ได้เอะอะอะไร แต่ไม่ขอขี้ตู่เป็นวีรบุรุษไปด้วยเท่านั้น เพราะวีรบุรุษตุลาคมที่แท้จริง คือนิสิต ประชาชน คนงาน ทหาร ตำรวจที่ถอดเครื่องแบบออกมาร่วมก็มีไม่น้อย
นิสิต นักศึกษา ประชาชน คนงาน และทหาร ตำรวจนอกเรื่องแบบบังเอิญโค่นรัฐบาลของพี่ชายพล.ต.ต.สง่าได้ในครั้งนั้น
คราวนี้ จะบังเอิญมีน้องสาวแอบมาไล่พี่ชายไหมหนอ
รัฐบาลของพี่ชายใจร้ายเชิดน้องสาวจะบังเอิญถูก 28 ตุลาราชตฤณมัยฯ โค่นลงได้หรือไม่ ต้องดูว่าเสธ.บุญเลิศซึ่งมีอดีตนักเรียนเตรียมทหารนอกเครื่องแบบหลายสิบรุ่นหนุนอยู่แล้ว จะสามารถสร้างความมหัศจรรย์ทำให้นิสิต นักศึกษา ประชาชน คนงานและผู้ประกอบวิชาชีพทั้งหลายออกมาร่วมอย่างแข็งขันได้หรือไม่
หากองค์ประกอบเหล่านั้นถูกเสน่ห์ของยิ่งลักษณ์ผูกจิต และถูกอามิสของทักษิณมัดใจเอาไว้จนอยู่หมัด ชาติบ้านเมืองก็คงจะอยู่ภายใต้วงจรอุบาทว์อีกนานเท่านาน
มันช่างเป็นความบังเอิญที่น่ามหัศจรรย์ยิ่งนัก!!!
ปราโมทย์ นาครทรรพ
(อีก) ตุลาคม (2555)
ปล.มหัศจรรย์อีกอย่าง หลังจากเสร็จงาน Tammy หิวข้าวพบดร.ชาญวิทย์ เกษตรศิริ นั่งปร๋ออยู่ในร้านอาหาร กำลังจะปาฐกถาเรื่อง “ชาตินิยมไทย ของกรุงเทพฯ และพนมเปญ” อะไรทำนองนี้