xs
xsm
sm
md
lg

เมื่อจุดติด ต้องเร่งโหมไฟ!

เผยแพร่:   โดย: โสภณ องค์การณ์

ภารกิจจำเป็นเร่งด่วนของ “คนทนไม่ได้” กลุ่มประชาชนคนห่วงใยความอยู่รอดของชาติขณะนี้คือการต้องรวมใจ ร่วมมือ ประสานพลังด้วยกันทุกรูปแบบเพื่อจัดการรัฐบาลแม่นางโพยปูโพรกเน่าในให้พ้นจากอำนาจโดยเร็วที่สุด

การอยู่รอดของรัฐบาลปูโพรกตามคำบัญชาของเหลี่ยมร้ายหนีคุกคือความเสี่ยงต่อการล่มสลายของชาติบ้านเมืองจากนโยบายบ่อนทำลายแผ่นดิน โดยขบวนการกังฉินปล้นทรัพย์สิน ทรัพยากร ขายชาติ ภายใต้หน้าฉากของพรรคการเมืองซึ่งเป้าหมายหลักคือการสร้างความมั่งคั่งส่วนตัวอย่างเร่งรัด

เมื่อการชุมนุมวันอาทิตย์ ที่ผ่านมา มีคนหลากกลุ่มเข้าร่วมกว่า 2 หมื่นนั่งเต็มพื้นที่อัฒจันทร์สนามม้านางเลิ้ง ล้นลงมาบริเวณสนามหญ้าและด้านนอกแสดงให้เห็นว่านั่นเป็นการ “จุดติด” แล้ว สร้างอารมณ์ร่วมให้ระอุเต็มหัวอก

เมื่อจุดติด กลุ่มองค์กรพิทักษ์สยามและเครือข่ายต้องไม่รอช้า ลงมือตีเหล็กเมื่อร้อนด้วยการเร่งกำหนดยุทธศาสตร์ร่วมให้รอบคอบ เดินหน้าเข้าตีให้แตกหัก เขี่ยรัฐบาลนอมินีบักเหลี่ยมร้ายให้พ้นจากอำนาจ ถอนรากถอนโคน

คำประกาศของ “เสธ.อ้าย” ให้แต่ละคนชักนำพรรคพวก เพื่อนฝูง ญาติมิตรเข้าร่วมในศึกวัดดวงครั้งต่อไป ในอัตรา 1 ต่อ 100 น่าจะสร้างความหวาดผวาให้รัฐบาลปูโพรกลอกคราบกระดองชุดที่ 3 เพิ่งเข้าเฝ้าปฏิญาณตนวันจันทร์

คำปรามาส หมิ่นแคลนแต่เดิมจากคนรัฐบาลว่าจะมีคนเข้าร่วมเพียง 1-2 พันคน ถูกพิสูจน์ให้เห็นว่าเป็นความผิดพลาดในการประเมินอารมณ์ ความกดดัน คับแค้นใจของประชาชนซึ่งไม่พอใจความอหังการ ยโสโอหังลำพองในอำนาจการเมือง ซึ่งคุมได้ทั้งตำรวจ อัยการ หน่วยงานรัฐ และผู้นำกองทัพ

และยังมีกองกำลังเสื้อแดงสำหรับคุกคาม ข่มขู่ ระรานฝ่ายตรงข้าม เป็นฐานหนุนแข็งแรงพร้อมเผชิญหน้า ปะทะด้วยกำลังอาวุธดังเช่นกลุ่มชายชุดดำ นับเป็นหน่วยพร้อมปฏิบัติภารกิจนอกกฎหมาย รวมทั้งการก่อการร้ายอีกด้วย

ก่อนวันชุมนุมในสนามม้าของคนหลากกลุ่ม พวกเสื้อแดงได้แสดงแสนยานุภาพเหนือกฎหมายด้วยการจัดแรลลี่รถจักรยานยนต์ รถยนต์ ไปตามถนนสายหลักในเมืองหลวง บางช่วงเคลื่อนขบวนย้อนศร สร้างปัญหารถติดหนักในหลายพื้นที่ มีตำรวจอำนวยความสะดวกตลอดเส้นทาง

พฤติกรรมกร่าง ย่ำยีกฎหมายของมวลชนเสื้อแดงจึงเป็นตัวเร่งให้จำนวนคนไปร่วมชุมนุมสนามม้ามากกว่าที่คาดไว้ ตลอดเวลาการปราศรัย มีแต่คำประณามความล้มเหลวในการบริหารบ้านเมือง การโกงเป็นระบบ ความอหังการในอำนาจรัฐ และอำนาจเถื่อน ทำให้กลไกการรักษากฎหมายสิ้นสภาพ

องค์กรพิทักษ์สยามเหมือนขึ้นอยู่หลังเสือ ต้องมีแผนรอบคอบชัดเจนเมื่อประชาชนเห็นว่า เสธ.อ้ายและเครือข่ายกล้านำ คนรักชาติก็กล้าตาม แม้จะต้องเสี่ยงต่อการบาดเจ็บล้มตาย ถ้าเผชิญหน้ากับม็อบเสื้อแดง มีความรุนแรง ปะทะด้วยกำลังอาวุธ จนอาจลุกลามเป็นสงครามกลางเมืองได้

รัฐบาลย่อมไม่พอใจ แต่ทำอะไรไม่เต็มที่ถ้าการชุมนุมขับไล่รัฐบาลยังเป็นไปด้วยความสงบ ปราศจากอาวุธ! ถ้ามีการเผชิญหน้าปะทะกัน ยังมีข้ออ้างแบบหน้าด้านๆ ว่ากลุ่มป่วนคนรักสันตินั้นเป็นพวก “แดงเทียม”

ถ้ากลุ่มเครือข่ายประชาชนสามารถปลุกเร้าให้เกิดมวลชนได้มากถึงระดับแสนๆ คนเข้าร่วมขับไล่รัฐบาลกังฉิน ขายชาติ ไร้ประสิทธิภาพได้ในเร็ววัน จะนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงได้ แต่ไม่ใช่เรื่องง่ายที่ขบวนการเหลี่ยมร้ายเร่ร่อนจะยอมสละอำนาจ จนกว่าจะสู้รบให้แตกหักนองเลือดถึงจุดแพ้ชนะ

มีความเป็นไปได้ในการระดมคนให้เข้าร่วมโดยไม่ต้องใช้เงินจ้างวาน เมื่อยังมีวิญญูชนคนรักชาติ ห่วงใยความเป็นอยู่รอดของสถาบันหลัก ซึ่งกำลังถูกบ่อนทำลายอย่างเร่งรีบผ่านขบวนการปั่นหัว เป่าหูชาวบ้านผ่านโรงเรียนคนเสื้อแดง ซึ่งแกนนำ 2 ผัวเมียหลายชุดได้ประกาศตั้งรัฐไทยใหม่แดงทั้งแผ่นดิน

ประชาชนคนรักชาติคงไม่หวังรอความช่วยเหลือจากผู้นำกองทัพ ซึ่งได้เพิกเฉยละเลยต่อปัญหาหลักของชาติ เช่น การคุกคามสถาบันกษัตริย์ การเสียดินแดนให้กัมพูชา การทุจริตคอร์รัปชันอย่างหนัก ความล้มเหลวในงานบริหาร

เมื่อไม่รู้สึกรู้สาต่อความเสี่ยงด้านความมั่นคงของชาติ มุ่งแต่เร่งสร้างผลประโยชน์สุขส่วนตน เอาตัวรอดหวังสบายหลังวันเกษียณ สภาพน่าเวทนาจึงปรากฏให้เห็นเมื่อมีแต่นายทหารเกษียณอายุ ประชาชนต่างอาชีพ รวมตัวกันออกมาแสดงความตั้งใจยอมเสี่ยงเพื่อไม่ให้ชาติล่มจมด้วยมือขี้ฉ้อกังฉิน

ยิ่งได้ยินผู้นำกองทัพคำรามแบบไร้บารมี ขาสั่นในเครื่องแบบ ยอมสยบต่ออำนาจนักการเมืองชั่ว คนหนีคุกด้วยแล้ว ประชาชนมี 2 ทางเลือก คือก้มหน้าก้มตาอยู่อย่างสิ้นหวัง ไม่ใส่ใจ ธุระไม่ใช่ บ้านเมืองเป็นอย่างไรก็ช่าง

อีกทางเลือก คือต้องรวมตัวกันลุกฮือต่อสู้ ขับไล่อาชญากรการเมือง ข้าราชการกังฉิน กาฝากแผ่นดินให้พ้นจากอำนาจโดยเร็ว ก่อนจะถูกสยบให้ง่อยเปลี้ย บ้านเมืองถูกยึดครองโดยเด็ดขาด จนสิ้นหนทางแก้ไขให้อยู่รอด

กลุ่มเงียบยังเลือกจะอยู่นิ่งเฉย ยอมสยบเป็นทาสบักเหลี่ยมก็ตามใจ!
กำลังโหลดความคิดเห็น