“ ขณะนี้สถานการณ์ทางการเมืองจะเข้มข้นอยู่ 3 เรื่อง คือ 1.ชายชุดดำ เพราะคดีความใกล้จะถึงจุดจบ ซึ่งตนต้องการถามพรรคประชาธิปัตย์ว่าเป็นรัฐบาลอยู่นานแต่ทำไมหาชายชุดดำไม่เจอ ผมมารับหน้าที่ไม่นานกระบวนการสอบสวนคืบหน้า และรู้ว่าใครจะต้องรับผิดชอบกรณีการตาย 98 ศพ
2. กรณีปล่อยข่าวลือว่ามีการไซฟ่อนเงิน 1.6 หมื่นล้านที่ฮ่องกง ซึ่งหน่วยปราบปรามทุจริตคอร์รัปชั่นในฮ่องกง ก็ไม่ได้มีการติดต่อมายังป.ป.ช. หรือ ป.ป.ง. ในประเทศไทยแต่อย่างใด ซึ่งถ้ามีจริงเขาคงติดต่อมาแล้ว แต่กลับมีการแจ้งกรรมาธิการของส.ว.ซึ่งก็เป็นที่รู้อยู่ว่าใครเป็นใครใน 40 ส.ว. เป็นการเต้าข่าวให้รัฐบาลเสียหาย
3. เรื่องจำนำข้าว ผมกำชับว่าหากเจอทุจริตคอร์รัปชันก็ต้องจับกุม ไมลดราวาศอก ดำเนินการตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด”
**คำกล่าวของ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ว่าที่ รมว.มหาดไทย ที่กำลังกร่างคับบ้านคับเมือง เปิดปากยอมรับความกังวลเกี่ยวกับความอยู่รอดของรัฐบาล
แม้จะยังคุยโวไม่เลิกว่า ไม่มีใครล้มรัฐบาล 15 ล้านเสียงได้ แต่อาการซวนเซของรัฐบาล ยิ่งลักษณ์? ชินวัตร ที่แทบจะควบคุมสื่อสารมวลชนได้แบบเบ็ดเสร็จเด็ดขาด ยังยืนแทบไม่อยู่กับแรงถาโถมจากนโยบายพระเอกของชาวนา คือ จำนำข้าว แต่ขณะนี้ได้กลายเป็นผู้ร้ายสำหรับสังคมไทยไปเรียบร้อยแล้ว
แถมไอ้ที่ไปหลอกชาวนาว่าเป็นเศรษฐีจะมาช่วยอุ้มชูอุปถัมภ์ให้ชาวนาได้อยู่ดีกินดี ลืมตาอ้าปากได้ ก็ดูเหมือนว่าของปลอมกำลังจะโผล่ให้ชาวนาจับได้ว่า ทองที่ใส่มาโชว์แท้จริงเป็นทองชุบ จนวันนี้จำนำข้าวไปแล้วจึงยังไม่ได้เงินในหลายพื้นที่
แม้จะมีความพยายามอ้างผลสำรวจว่าชาวนาชอบอกชอบใจกับโครงการนี้ แต่ผลสำรวจที่ออกมาล้วนแต่เป็นโพลจากสำนักที่ถนัดเชลียร์รัฐบาลจนขนติดลิ้นขาดความน่าเชื่อถืออย่างยิ่ง
กระทั่งการใช้ผลสำรวจจะเป็นกำแพงยันไม่ไหว ถึงขั้นต้องจับเอาชาวนาเป็นตัวประกัน แล้วปลุกระดมว่า คนที่ทำหน้าที่ช่วยเหลือชาวนาให้มีความเป็นอยู่ที่ดีอย่างยั่งยืน โดยไม่สร้างผลข้างเคียงให้สังคมไทยได้รับความเสียหายจนหายนะกันทั้งประเทศ
ด้วยการปลุกระดมว่าไอ้พวกที่เคลื่อนไหวอยู่รังเกียจชาวนาจะกระชากตัวชาวนาออกจากการอุ้มชูของรัฐบาล โดยไม่แคร์แม้แต่น้อยว่า จะทำให้ความขัดแย้งครั้งใหญ่ที่ถูกปลุกให้เป็นปัญหาชนชั้นจะปะทุขึ้นมาอีกรอบ
**เพราะรัฐบาลเฝ้ารอคอยที่จะฉกฉวยประโยชน์ ทุจริตซึ่งหน้าบนความอ่อนแอจากความขัดแย้งของประชาชน
เสียงเกี่ยวกับปัญหาจำนำข้าวที่ดังกึกก้อง ไม่เฉพาะในประเทศแต่ยังกลายเป็นที่ขบขันไปทั่วโลกกับนโยบายปัญญาอ่อน ซื้อข้าวมาเก็บจนตรอก ถึงขั้นจะต้องใช้คลังสินค้าดอนเมืองเป็นโกดังเก็บข้าว
ถ้าถึงวันนั้นจริงรับรองได้เลยว่า ไม่ต้องไปเก็บข้าวให้เสียเวลา แต่เตรียมเก็บศพรัฐบาลเข้าโกดังขึ้นเมรุได้เลย
คนที่เชี่ยวกรากด้านการเมืองจนเขี้ยวยาวลากพื้นที่ ร.ต.อ.เฉลิม มีหรือจะไม่รู้ว่าปัญหานี้กำลังกรีดลึกและส่งกลิ่นขึ้นเรื่อย ๆ เนื่องจากขาดความสะอาดเพียงพอในการรักษาบาดแผลย่อมเน่าเฟะ น้ำเหลืองย้อยออกมาประจานให้ประชาชนได้เห็นในเร็ว ๆ นี้
งานถนัดของคนที่ชอบโอ้อวดว่าเป็นสารวัตรมือสอบสวนจึงอยู่ในสภาพไฟท์บังคับที่จะต้อง “ฆ่าตัดตอนการทุจริต-โคตรโกง” ก่อนที่จะถึงตัว “เจ๊ด. แดกดุ” และบริษัทล้มละลายที่ได้ประโยชน์มหาศาลในยุคนักโทษทักษิณเรืองอำนาจ แต่กรรมมีจริงประสบกับความล้มละลายและยังถูกขึ้นบัญชีดำไม่ให้ทำสัญญากับรัฐด้วย
แต่ในยุค “น้องปูของพี่แม้ว” แค่แปลงกายเปลี่ยนชื่อยังไม่ทันจะทำศัลยกรรมผ่าตัดใบหน้า เอาให้เห็นกันโต้ง ๆ ว่า คนเดิมนี่แหละที่เป็นเจ้าของเพียงแค่เปลี่ยนชื่อ ก็กลายเป็นบริษัทเอกชนรายใหญ่ในการส่งออกของไทยไปเรียบร้อย
งานนี้ผลประโยชน์มหาศาลแบ่งกันทั้งบริษัทเอกชน บริษัทเกษตรยักษ์ใหญ่ได้ของถูก คนคิดนโยบายได้เงินกันแบบเป็นกอบเป็นกำ เพราะตรวจสอบไม่ได้ท่องอย่างเดียวว่า จีทูจี ความลับ และยอมขาดทุนเพื่อช่วยให้ชาวนามีรายได้ที่ดีขึ้น
ทั้ง ๆ ที่ผลการสำรวจของมหาวิทยาลัยหอการค้า ยืนยันชัดเจนว่าแม้รายได้ชาวนาจะมากขึ้นแต่ไม่ได้ทำให้คุณภาพชีวิตดีขึ้น เนื่องจากต้นทุนการผลิตสูงลิ่ว จนต้องกู้หนี้ยืมสินนอกระบบเป็นหนี้เพิ่มขึ้นกว่า 1 แสนบาทต่อครัวเรือน และมีถึง 81 % ไม่มีปัญญาที่จะชำระหนี้เหล่านั้น สุดท้ายก็ตองขายที่ดินให้กับนายทุน จนชาวนาแปรสภาพจากเกษตรกรมาเป็นแค่ลูกจ้างปลูกข้าว
อาการของโรคบริหารผิดพลาดห่วยแตกที่แสดงออกให้เห็นรวดเร็วเกินกว่าที่รัฐบาลคิดไว้ แถมยังมีวาระทางการเมืองทำลายหลักการบ้านเมือง ล้มคำพิพากษาศาลฎีกาฯเพื่อให้นักโทษชายทักษิณ กลับประเทศไทยโดยไม่ต้องติดคุก อย่างเก่งก็คงแค่ใส่กำไลฝังชิพเหมือนหมาเหมือนแมวให้ติดตามตัวได้ และจำกัดบริเวณให้อยู่ในบ้านของตัวเอง
แผนแบบนี้ไม่ชั่ว ไม่เลวจริงคิดไม่ได้ แต่คิดได้แล้วก็ใช่ว่าจะทำได้โดยง่าย ประกอบกับพฤติกรรมกร่างท้าทายกฎหมาย ไม่สนจริยธรรม ทุจริตปากมัน ย่อมเป็นแรงกดทับที่ทำให้ความอดทนของประชาชนถึงจุดเดือดได้ไม่ยากนัก
แถมเรื่องชายชุดดำที่หวังเป็นอาวุธลับย้อนศรเอาศัตรูทางการเมืองเข้าคุก ก็ดูเหมือนว่าแทนที่จะเดินหน้าไปสู่เป้าหมายที่วางแผนไว้กลับเจอแต่อุปสรรค ทำให้การเขียนประวัติศาสตร์ใหม่โดยผู้ชนะ กลายเป็นปากกาที่ไม่มีน้ำหมึกจะเขียนต่อ
**ถ้ายังดึงดันเดินหน้าลุแก่อำนาจใช้อธรรมนำการบริหาร จุดจบของรัฐบาลก็จะมาถึงเร็วขึ้น
2. กรณีปล่อยข่าวลือว่ามีการไซฟ่อนเงิน 1.6 หมื่นล้านที่ฮ่องกง ซึ่งหน่วยปราบปรามทุจริตคอร์รัปชั่นในฮ่องกง ก็ไม่ได้มีการติดต่อมายังป.ป.ช. หรือ ป.ป.ง. ในประเทศไทยแต่อย่างใด ซึ่งถ้ามีจริงเขาคงติดต่อมาแล้ว แต่กลับมีการแจ้งกรรมาธิการของส.ว.ซึ่งก็เป็นที่รู้อยู่ว่าใครเป็นใครใน 40 ส.ว. เป็นการเต้าข่าวให้รัฐบาลเสียหาย
3. เรื่องจำนำข้าว ผมกำชับว่าหากเจอทุจริตคอร์รัปชันก็ต้องจับกุม ไมลดราวาศอก ดำเนินการตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด”
**คำกล่าวของ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ว่าที่ รมว.มหาดไทย ที่กำลังกร่างคับบ้านคับเมือง เปิดปากยอมรับความกังวลเกี่ยวกับความอยู่รอดของรัฐบาล
แม้จะยังคุยโวไม่เลิกว่า ไม่มีใครล้มรัฐบาล 15 ล้านเสียงได้ แต่อาการซวนเซของรัฐบาล ยิ่งลักษณ์? ชินวัตร ที่แทบจะควบคุมสื่อสารมวลชนได้แบบเบ็ดเสร็จเด็ดขาด ยังยืนแทบไม่อยู่กับแรงถาโถมจากนโยบายพระเอกของชาวนา คือ จำนำข้าว แต่ขณะนี้ได้กลายเป็นผู้ร้ายสำหรับสังคมไทยไปเรียบร้อยแล้ว
แถมไอ้ที่ไปหลอกชาวนาว่าเป็นเศรษฐีจะมาช่วยอุ้มชูอุปถัมภ์ให้ชาวนาได้อยู่ดีกินดี ลืมตาอ้าปากได้ ก็ดูเหมือนว่าของปลอมกำลังจะโผล่ให้ชาวนาจับได้ว่า ทองที่ใส่มาโชว์แท้จริงเป็นทองชุบ จนวันนี้จำนำข้าวไปแล้วจึงยังไม่ได้เงินในหลายพื้นที่
แม้จะมีความพยายามอ้างผลสำรวจว่าชาวนาชอบอกชอบใจกับโครงการนี้ แต่ผลสำรวจที่ออกมาล้วนแต่เป็นโพลจากสำนักที่ถนัดเชลียร์รัฐบาลจนขนติดลิ้นขาดความน่าเชื่อถืออย่างยิ่ง
กระทั่งการใช้ผลสำรวจจะเป็นกำแพงยันไม่ไหว ถึงขั้นต้องจับเอาชาวนาเป็นตัวประกัน แล้วปลุกระดมว่า คนที่ทำหน้าที่ช่วยเหลือชาวนาให้มีความเป็นอยู่ที่ดีอย่างยั่งยืน โดยไม่สร้างผลข้างเคียงให้สังคมไทยได้รับความเสียหายจนหายนะกันทั้งประเทศ
ด้วยการปลุกระดมว่าไอ้พวกที่เคลื่อนไหวอยู่รังเกียจชาวนาจะกระชากตัวชาวนาออกจากการอุ้มชูของรัฐบาล โดยไม่แคร์แม้แต่น้อยว่า จะทำให้ความขัดแย้งครั้งใหญ่ที่ถูกปลุกให้เป็นปัญหาชนชั้นจะปะทุขึ้นมาอีกรอบ
**เพราะรัฐบาลเฝ้ารอคอยที่จะฉกฉวยประโยชน์ ทุจริตซึ่งหน้าบนความอ่อนแอจากความขัดแย้งของประชาชน
เสียงเกี่ยวกับปัญหาจำนำข้าวที่ดังกึกก้อง ไม่เฉพาะในประเทศแต่ยังกลายเป็นที่ขบขันไปทั่วโลกกับนโยบายปัญญาอ่อน ซื้อข้าวมาเก็บจนตรอก ถึงขั้นจะต้องใช้คลังสินค้าดอนเมืองเป็นโกดังเก็บข้าว
ถ้าถึงวันนั้นจริงรับรองได้เลยว่า ไม่ต้องไปเก็บข้าวให้เสียเวลา แต่เตรียมเก็บศพรัฐบาลเข้าโกดังขึ้นเมรุได้เลย
คนที่เชี่ยวกรากด้านการเมืองจนเขี้ยวยาวลากพื้นที่ ร.ต.อ.เฉลิม มีหรือจะไม่รู้ว่าปัญหานี้กำลังกรีดลึกและส่งกลิ่นขึ้นเรื่อย ๆ เนื่องจากขาดความสะอาดเพียงพอในการรักษาบาดแผลย่อมเน่าเฟะ น้ำเหลืองย้อยออกมาประจานให้ประชาชนได้เห็นในเร็ว ๆ นี้
งานถนัดของคนที่ชอบโอ้อวดว่าเป็นสารวัตรมือสอบสวนจึงอยู่ในสภาพไฟท์บังคับที่จะต้อง “ฆ่าตัดตอนการทุจริต-โคตรโกง” ก่อนที่จะถึงตัว “เจ๊ด. แดกดุ” และบริษัทล้มละลายที่ได้ประโยชน์มหาศาลในยุคนักโทษทักษิณเรืองอำนาจ แต่กรรมมีจริงประสบกับความล้มละลายและยังถูกขึ้นบัญชีดำไม่ให้ทำสัญญากับรัฐด้วย
แต่ในยุค “น้องปูของพี่แม้ว” แค่แปลงกายเปลี่ยนชื่อยังไม่ทันจะทำศัลยกรรมผ่าตัดใบหน้า เอาให้เห็นกันโต้ง ๆ ว่า คนเดิมนี่แหละที่เป็นเจ้าของเพียงแค่เปลี่ยนชื่อ ก็กลายเป็นบริษัทเอกชนรายใหญ่ในการส่งออกของไทยไปเรียบร้อย
งานนี้ผลประโยชน์มหาศาลแบ่งกันทั้งบริษัทเอกชน บริษัทเกษตรยักษ์ใหญ่ได้ของถูก คนคิดนโยบายได้เงินกันแบบเป็นกอบเป็นกำ เพราะตรวจสอบไม่ได้ท่องอย่างเดียวว่า จีทูจี ความลับ และยอมขาดทุนเพื่อช่วยให้ชาวนามีรายได้ที่ดีขึ้น
ทั้ง ๆ ที่ผลการสำรวจของมหาวิทยาลัยหอการค้า ยืนยันชัดเจนว่าแม้รายได้ชาวนาจะมากขึ้นแต่ไม่ได้ทำให้คุณภาพชีวิตดีขึ้น เนื่องจากต้นทุนการผลิตสูงลิ่ว จนต้องกู้หนี้ยืมสินนอกระบบเป็นหนี้เพิ่มขึ้นกว่า 1 แสนบาทต่อครัวเรือน และมีถึง 81 % ไม่มีปัญญาที่จะชำระหนี้เหล่านั้น สุดท้ายก็ตองขายที่ดินให้กับนายทุน จนชาวนาแปรสภาพจากเกษตรกรมาเป็นแค่ลูกจ้างปลูกข้าว
อาการของโรคบริหารผิดพลาดห่วยแตกที่แสดงออกให้เห็นรวดเร็วเกินกว่าที่รัฐบาลคิดไว้ แถมยังมีวาระทางการเมืองทำลายหลักการบ้านเมือง ล้มคำพิพากษาศาลฎีกาฯเพื่อให้นักโทษชายทักษิณ กลับประเทศไทยโดยไม่ต้องติดคุก อย่างเก่งก็คงแค่ใส่กำไลฝังชิพเหมือนหมาเหมือนแมวให้ติดตามตัวได้ และจำกัดบริเวณให้อยู่ในบ้านของตัวเอง
แผนแบบนี้ไม่ชั่ว ไม่เลวจริงคิดไม่ได้ แต่คิดได้แล้วก็ใช่ว่าจะทำได้โดยง่าย ประกอบกับพฤติกรรมกร่างท้าทายกฎหมาย ไม่สนจริยธรรม ทุจริตปากมัน ย่อมเป็นแรงกดทับที่ทำให้ความอดทนของประชาชนถึงจุดเดือดได้ไม่ยากนัก
แถมเรื่องชายชุดดำที่หวังเป็นอาวุธลับย้อนศรเอาศัตรูทางการเมืองเข้าคุก ก็ดูเหมือนว่าแทนที่จะเดินหน้าไปสู่เป้าหมายที่วางแผนไว้กลับเจอแต่อุปสรรค ทำให้การเขียนประวัติศาสตร์ใหม่โดยผู้ชนะ กลายเป็นปากกาที่ไม่มีน้ำหมึกจะเขียนต่อ
**ถ้ายังดึงดันเดินหน้าลุแก่อำนาจใช้อธรรมนำการบริหาร จุดจบของรัฐบาลก็จะมาถึงเร็วขึ้น