ASTV ผู้จัดการรายวัน- ผบช.น.ลงดาบเซ็นคำสั่งไล่ออกจากราชการ “รอง สวป.สน.บางยี่ขัน” แล้วหลังตำรวจภูธรภาค 1 แถลงข่าวจับกุมได้พร้อมพรรคพวกตั้งแก๊งเป็นโจรปล้นทรัพย์ตามบ้านเรือนประชาชน พฤติกรรมสุดแสบทำทีอ้างตัวเป็นตำรวจหน่วยปราบปรามยาเสพติดเข้าขอตรวจค้นในบ้าน พอได้จังหวะจับเหยื่อมัดแล้วปล้นทรัพย์สินมีค่าเกลี้ยงบ้าน สารภาพออกอาละวาดก่อเหตุในพื้นที่ภาค 1-2 มาแล้วกว่า 8 ครั้งได้ทรัพย์สินหลายล้านบาท! เผย “รอง สวป.ฉาว” ติดหนี้การพนันไม่มีเงินใช้หนี้จึงก่อเหตุปล้น
วานนี้ (15 ต.ค.) ที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 (บช.ภ.1) พล.ต.อ.เอก อังสนานนท์ รอง ผบ.ตร. พล.ต.ท.นเรศ นันทโชติ ผบช.ภ.1 พล.ต.ต.เมธี กุศลสร้าง รอง ผบช.ภ1 แถลงข่าวจับกุม ร.ต.อ.ธีรรัตม์ สุวรรณวาส์น อายุ 38 ปี รอง สวป.สน.บางยี่ขัน, นายชูพงษ์ สระทองยอด อายุ 47 ปี, นายเอกลักษณ์ ชุ่มเชื้อ อายุ 25 ปี และนายอนิวัตต์ รอเดช อายุ 25 ปี พร้อมของกลางรถเก๋งยี่ห้อโตโยต้า รุ่นคัมรี่ สีดำ ทะเบียน ชฐ7017 กรุงเทพฯ นาฬิกายี่ห้อคาสิโอ 2 เรือน กางเกงยีนส์ขายาวสีน้ำเงิน เสื้อยืดคอปกสีแดงลายปืนบาร์เร็ตต้า และหมวกแก๊ป
พล.ต.อ.เอกเปิดเผยว่า คดีดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อช่วงค่ำของวันที่ (8 ต.ค.) ที่ผ่านมา โดยกลุ่มผู้ต้องหาอ้างตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจสังกัด บช.ปส. เข้าค้นบ้านเลขที่ 96/251 หมู่บ้านร่วมทางฝัน หมู่ 6 ถนนเลียบคลองสอง ต.คูคต อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี ของนายประจักษ์ โชคศิริ และ น.ส.สมิตานัน ชยะโยธินกุล ผู้เสียหาย ซึ่งกลุ่มผู้ต้องหามีทั้งหมด 5 คนทำการจับผู้เสียหายมัดมือและปิดตา และรื้อค้นทรัพย์สินภายในบ้าน ได้เงินสดไป 200,000 บาท รถโตโยต้ารุ่นคัมรี่ จักรยานยนต์ฮอนด้า รุ่นคลิก โทรศัพท์มือถือยี่ห้อไอโฟน 4 บัตรเอทีเอ็มที่มีเงินอยู่ 140,000 บาท นาฬิกาข้อมือ 4 เรือน ปืนพกสั้นขนาด .32 มม.ยี่ห้อนอร์ธ ไม่ทราบหมายเลขทะเบียน 1 กระบอก รวมทรัพย์สินทั้งหมด 2 ล้านบาท
จากนั้นกลุ่มผู้ต้องหานำตัวผู้เสียหายไปปล่อยที่หน้าร้านก๋วยเตี๋ยวสองพี่น้อง คลอง 7 ถนนรังสิต-องครักษ์ ธัญบุรี จ.ปทุมธานี ต่อมาเจ้าหน้าที่สืบสวนจนสามารถจับกุมผู้ต้องหาทั้งหมดได้ 4 คน เหลือเพียงนายศราวุทธ จุ้ยม่วงศรี อายุ 44 ปี ที่ยังหลบหนีอยู่ เจ้าหน้าที่ได้ออกหมายจับศาลจังหวัดธัญบุรีที่ จว.987/2555 ลงวันที่ 13 ต.ค.แล้ว
พล.ต.อ.เอกกล่าวอีกว่า สำหรับพฤติกรรมของผู้ต้องหาทราบว่าจะรวมตัวเป็นแก๊งโดยอ้างว่ามาจาก บช.ปส. เลือกผู้เสียหายที่มีพฤติกรรมเกี่ยวข้องกับยาเสพติด เพราะคิดว่าผู้เสียหายจะไม่กล้าไปแจ้งความ จะได้ข่าวจากวงการพนันและวงการยาเสพติด หลังจากก่อเหตุจะแบ่งทรัพย์สินกันไป ทั้งหมดจะเอาเงินไปเที่ยวเตร่ โดยมี ร.ต.อ.ธีรรัตม์ ซึ่งมีฉายาว่า “นาย” เป็นผู้วางแผนแบ่งงาน ส่วนนายศราวุธที่ยังหลบหนีอยู่จะมีหน้าที่ขับรถ จัดหาเหยื่อและกดเงินจากบัตรเอทีเอ็มของผู้เสียหาย สำหรับคนที่เหลือจะควบคุมตัวผู้เสียหายและกวาดทรัพย์สินภายในบ้าน
จากการสอบสวนผู้ต้องหาทั้งหมดให้การรับสารภาพว่าเคยก่อเหตุลักษณะดังกล่าวมาหลายท้องที่ ทั้งภาค 1 และภาค 2 รวมกันกว่า 8 ครั้ง แต่ที่จำได้คือช่วงกลางเดือนกรกฎาคม 2555 ปล้นบ้านริมคลอง 1 ธัญบุรี จ.ปทุมธานี แต่ไม่ได้ทรัพย์สินไป ต้นเดือนกันยายน 2555 ปล้นบ้านย่านราชพฤกษ์ จ.นนทบุรี ได้ทรัพย์สินรวมกว่า 2 ล้านบาท และปลายเดือนเดียวกันปล้นบ้านตรงข้ามกรมสรรพาวุธทหารเรือ อ.สัตหีบ จ.ระยอง ได้ทรัพย์สินและยาเสพติดมูลค่ารวมกันกว่า 1 ล้านบาท
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อหาปล้นทรัพย์ผู้อื่นโดยใช้ยานพาหนะเพื่อกระทำผิดหรือพาทรัพย์นั้นไป หรือให้พ้นจากการจับกุม และหน่วงเหนี่ยวหรือกักขังผู้อื่นหรือกระทำด้วยประการใดให้ผู้อื่นปราศจากเสรีภาพในร่างกาย และทำให้ผู้อื่นเกิดความกลัวหรือความตกใจโดยการขู่เข็ญ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
รายงานข่าวแจ้งว่า สำหรับ ร.ต.อ.ธีรรัตม์ หัวหน้าแก๊งนั้น ขณะนี้อยู่ระหว่างเข้ารับการฝึกอบรมหลักสูตรสารวัตรรุ่นที่ 121 ระหว่างวันที่ 20 สิงหาคม - 26 ตุลาคม 2555 โดยหลังจากถูกจับกุม ทาง บช.น.ได้มีคำสั่งให้ออกราชการไว้ก่อน พร้อมตั้งกรรมการสอบวินัยร้ายแรง อย่างไรก็ตาม สำหรับสาเหตุการลงมือนั้นการข่าวเชิงลึกแจ้งว่า ร.ต.อ.ธีรรัตม์ติดหนี้เล่นการพนันเกือบแสนบาท จึงรวมทีมและก่อเหตุลักษณะดังกล่าว ส่วนในการแถลงข่าวครั้งนี้เจ้าหน้าที่ไม่ได้นำตัว ร.ต.อ.ธีรรัตม์มาร่วมแถลงข่าวด้วย เนื่องจากกำลังอยู่ระหว่างขยายผลสืบสวนต่อไป
วันเดียวกัน ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผบช.น. เปิดเผยว่า หลังจากได้รับรายงานแล้ว เบื้องต้นสั่งการให้ ร.ต.อ.ธีรรัตม์ออกจากราชการไว้ก่อน พร้อมประสานขอรายละเอียดจากทาง บช.ภ.1 แต่ที่ทราบข่าวมานั้น ร.ต.อ.ธีรรัตม์เคยถูกออกจากราชการมาแล้วครั้งหนึ่ง ส่วน ร.ต.อ.ธีรรัตม์ในขณะนี้อยู่ระหว่างการไปอบรมระดับสารวัตร
พล.ต.ท.คำรณวิทย์กล่าวอีกว่า ส่วนพฤติการณ์ของ ร.ต.อ.ธีรรัตม์นั้นจะให้ทาง บก.น. 7 รายงานขึ้นมา แต่ขอยืนยันถ้าหากเจ้าหน้าที่ตำรวจมีส่วนในการกระทำความผิดจริง จะไม่เอาไว้อยู่แล้ว
วานนี้ (15 ต.ค.) ที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 (บช.ภ.1) พล.ต.อ.เอก อังสนานนท์ รอง ผบ.ตร. พล.ต.ท.นเรศ นันทโชติ ผบช.ภ.1 พล.ต.ต.เมธี กุศลสร้าง รอง ผบช.ภ1 แถลงข่าวจับกุม ร.ต.อ.ธีรรัตม์ สุวรรณวาส์น อายุ 38 ปี รอง สวป.สน.บางยี่ขัน, นายชูพงษ์ สระทองยอด อายุ 47 ปี, นายเอกลักษณ์ ชุ่มเชื้อ อายุ 25 ปี และนายอนิวัตต์ รอเดช อายุ 25 ปี พร้อมของกลางรถเก๋งยี่ห้อโตโยต้า รุ่นคัมรี่ สีดำ ทะเบียน ชฐ7017 กรุงเทพฯ นาฬิกายี่ห้อคาสิโอ 2 เรือน กางเกงยีนส์ขายาวสีน้ำเงิน เสื้อยืดคอปกสีแดงลายปืนบาร์เร็ตต้า และหมวกแก๊ป
พล.ต.อ.เอกเปิดเผยว่า คดีดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อช่วงค่ำของวันที่ (8 ต.ค.) ที่ผ่านมา โดยกลุ่มผู้ต้องหาอ้างตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจสังกัด บช.ปส. เข้าค้นบ้านเลขที่ 96/251 หมู่บ้านร่วมทางฝัน หมู่ 6 ถนนเลียบคลองสอง ต.คูคต อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี ของนายประจักษ์ โชคศิริ และ น.ส.สมิตานัน ชยะโยธินกุล ผู้เสียหาย ซึ่งกลุ่มผู้ต้องหามีทั้งหมด 5 คนทำการจับผู้เสียหายมัดมือและปิดตา และรื้อค้นทรัพย์สินภายในบ้าน ได้เงินสดไป 200,000 บาท รถโตโยต้ารุ่นคัมรี่ จักรยานยนต์ฮอนด้า รุ่นคลิก โทรศัพท์มือถือยี่ห้อไอโฟน 4 บัตรเอทีเอ็มที่มีเงินอยู่ 140,000 บาท นาฬิกาข้อมือ 4 เรือน ปืนพกสั้นขนาด .32 มม.ยี่ห้อนอร์ธ ไม่ทราบหมายเลขทะเบียน 1 กระบอก รวมทรัพย์สินทั้งหมด 2 ล้านบาท
จากนั้นกลุ่มผู้ต้องหานำตัวผู้เสียหายไปปล่อยที่หน้าร้านก๋วยเตี๋ยวสองพี่น้อง คลอง 7 ถนนรังสิต-องครักษ์ ธัญบุรี จ.ปทุมธานี ต่อมาเจ้าหน้าที่สืบสวนจนสามารถจับกุมผู้ต้องหาทั้งหมดได้ 4 คน เหลือเพียงนายศราวุทธ จุ้ยม่วงศรี อายุ 44 ปี ที่ยังหลบหนีอยู่ เจ้าหน้าที่ได้ออกหมายจับศาลจังหวัดธัญบุรีที่ จว.987/2555 ลงวันที่ 13 ต.ค.แล้ว
พล.ต.อ.เอกกล่าวอีกว่า สำหรับพฤติกรรมของผู้ต้องหาทราบว่าจะรวมตัวเป็นแก๊งโดยอ้างว่ามาจาก บช.ปส. เลือกผู้เสียหายที่มีพฤติกรรมเกี่ยวข้องกับยาเสพติด เพราะคิดว่าผู้เสียหายจะไม่กล้าไปแจ้งความ จะได้ข่าวจากวงการพนันและวงการยาเสพติด หลังจากก่อเหตุจะแบ่งทรัพย์สินกันไป ทั้งหมดจะเอาเงินไปเที่ยวเตร่ โดยมี ร.ต.อ.ธีรรัตม์ ซึ่งมีฉายาว่า “นาย” เป็นผู้วางแผนแบ่งงาน ส่วนนายศราวุธที่ยังหลบหนีอยู่จะมีหน้าที่ขับรถ จัดหาเหยื่อและกดเงินจากบัตรเอทีเอ็มของผู้เสียหาย สำหรับคนที่เหลือจะควบคุมตัวผู้เสียหายและกวาดทรัพย์สินภายในบ้าน
จากการสอบสวนผู้ต้องหาทั้งหมดให้การรับสารภาพว่าเคยก่อเหตุลักษณะดังกล่าวมาหลายท้องที่ ทั้งภาค 1 และภาค 2 รวมกันกว่า 8 ครั้ง แต่ที่จำได้คือช่วงกลางเดือนกรกฎาคม 2555 ปล้นบ้านริมคลอง 1 ธัญบุรี จ.ปทุมธานี แต่ไม่ได้ทรัพย์สินไป ต้นเดือนกันยายน 2555 ปล้นบ้านย่านราชพฤกษ์ จ.นนทบุรี ได้ทรัพย์สินรวมกว่า 2 ล้านบาท และปลายเดือนเดียวกันปล้นบ้านตรงข้ามกรมสรรพาวุธทหารเรือ อ.สัตหีบ จ.ระยอง ได้ทรัพย์สินและยาเสพติดมูลค่ารวมกันกว่า 1 ล้านบาท
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อหาปล้นทรัพย์ผู้อื่นโดยใช้ยานพาหนะเพื่อกระทำผิดหรือพาทรัพย์นั้นไป หรือให้พ้นจากการจับกุม และหน่วงเหนี่ยวหรือกักขังผู้อื่นหรือกระทำด้วยประการใดให้ผู้อื่นปราศจากเสรีภาพในร่างกาย และทำให้ผู้อื่นเกิดความกลัวหรือความตกใจโดยการขู่เข็ญ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
รายงานข่าวแจ้งว่า สำหรับ ร.ต.อ.ธีรรัตม์ หัวหน้าแก๊งนั้น ขณะนี้อยู่ระหว่างเข้ารับการฝึกอบรมหลักสูตรสารวัตรรุ่นที่ 121 ระหว่างวันที่ 20 สิงหาคม - 26 ตุลาคม 2555 โดยหลังจากถูกจับกุม ทาง บช.น.ได้มีคำสั่งให้ออกราชการไว้ก่อน พร้อมตั้งกรรมการสอบวินัยร้ายแรง อย่างไรก็ตาม สำหรับสาเหตุการลงมือนั้นการข่าวเชิงลึกแจ้งว่า ร.ต.อ.ธีรรัตม์ติดหนี้เล่นการพนันเกือบแสนบาท จึงรวมทีมและก่อเหตุลักษณะดังกล่าว ส่วนในการแถลงข่าวครั้งนี้เจ้าหน้าที่ไม่ได้นำตัว ร.ต.อ.ธีรรัตม์มาร่วมแถลงข่าวด้วย เนื่องจากกำลังอยู่ระหว่างขยายผลสืบสวนต่อไป
วันเดียวกัน ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผบช.น. เปิดเผยว่า หลังจากได้รับรายงานแล้ว เบื้องต้นสั่งการให้ ร.ต.อ.ธีรรัตม์ออกจากราชการไว้ก่อน พร้อมประสานขอรายละเอียดจากทาง บช.ภ.1 แต่ที่ทราบข่าวมานั้น ร.ต.อ.ธีรรัตม์เคยถูกออกจากราชการมาแล้วครั้งหนึ่ง ส่วน ร.ต.อ.ธีรรัตม์ในขณะนี้อยู่ระหว่างการไปอบรมระดับสารวัตร
พล.ต.ท.คำรณวิทย์กล่าวอีกว่า ส่วนพฤติการณ์ของ ร.ต.อ.ธีรรัตม์นั้นจะให้ทาง บก.น. 7 รายงานขึ้นมา แต่ขอยืนยันถ้าหากเจ้าหน้าที่ตำรวจมีส่วนในการกระทำความผิดจริง จะไม่เอาไว้อยู่แล้ว