ตร.รวบหนุ่มวิ่งราวทรัพย์หาเงินผ่อน จยย.

รอง ผบช.น.แถลงผลงาน ตร.สน.สามเสน จับกุมคนร้ายคดีวิ่งราวทรัพย์ อ้างก่อเหตุหาเงินผ่อนมอเตอร์ไซค์ พบประวัติแสบอื้อ!

วันนี้ (9 ต.ค.) เวลา 14.30 น. ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล พล.ต.ต.ปริญญา จันทร์สุริยา รอง ผบช.น. พล.ต.ต.วิชาญญ์วัชร์ บริรักษ์กุล ผบก.น.1 พ.ต.อ.ไกรเลิศ บัวแก้ว พ.ต.อ.พจน์ บุญมาภาคย์ รอง ผบก.น.1 พ.ต.อ.ฤทธิกร สายสนั่น ณ อยุธยา ผกก.สน.สามเสน ร่วมแถลงการจับกุม นายโจ ขันธ์โสภา อายุ 33 ปี ชาว กทม. อาชีพรับจ้างอยู่ร้านขายวัสดุก่อสร้างบริษัทแห่งหนึ่งย่านปิ่นเกล้า พร้อมของกลางจักรยานยนต์ยี่ห้อยามาฮ่า รุ่นมีโอ 125 สีม่วงน้ำเงิน หมายเลขทะเบียน อพข 620 กรุงเทพมหานคร หมายเลขทะเบียนจักรยานยนต์ปลอม 1 แผ่น หมายเลขทะเบียน มพข 615 กรุงเทพมหานคร อาวุธปืนบีบีกัน 1 กระบอก อาวุธปืนปากกาพร้อมเครื่องกระสุน 2 นัด เสื้อผ้าและหมวกกันน็อกที่ใช้ก่อเหตุ และเอกสารต่างๆ จำนวนหนึ่ง สามารถจับกุมได้ที่หน้าร้านลาบอุดร ถนนจรัญสนิทวงศ์ แขวงบางขุนศรี เขตบางกอกน้อย

พล.ต.ต.ปริญญาเปิดเผยว่า สืบเนื่องจากมีผู้เสียหายเป็นสุภาพสตรีถูกวิ่งราวทรัพย์ในหลายพื้นที่ ทั้ง สน.บางพลัด สน.สำราษราษฎร์ และ สน.พลับพลาไชย 1 ซึ่งล่าสุดเมื่อวานนี้ (8 ต.ค.) เวลาประมาณ 12.30 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.สามเสน ได้รับแจ้งเหตุวิ่งราวทรัพย์กระเป๋าถือเจ้าหน้าที่สรรพสามิต จ.แพร่ ที่เดินทางมาประชุมสัมมนาใน กทม.และกำลังยืนอยู่บริเวณหน้าร้านอาหารแกงป่า ถนนนครไชยศรี พร้อมกับได้ทรัพย์สินไปหลายรายการ

พล.ต.ต.ปริญญากล่าวว่า ตำรวจฝ่ายสืบสวน สน.สามเสน ได้ติดตามตัวคนร้ายได้ โดยเครื่องจีพีเอสของผู้เสียหายซึ่งอยู่ในกระเป๋าที่คนร้ายวิ่งราวทรัพย์ไปจนทราบว่าสัญญาณไปปรากฏอยู่ที่ร้านปิ่นเกล้าค้าอุปกรณ์ก่อสร้าง จำกัด ซอยบรมราชชนนี 61 แขวงฉิมพลี เขตตลิ่งชัน จึงนำกำลังไปติดตามจับกุม ซึ่งทางเจ้าของบริษัทบอกว่านายโจทำงานอยู่ที่นี่จริง และนายโจได้เข้ามาเปลี่ยนเสื้อผ้าที่ห้องพักคนงาน ก่อนจะออกไปกินอาหารที่ร้านลาบอุดร จึงเดินทางไปควบคุมตัวเพื่อมาทำการสอบสวน

ด้านผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า หลังจากพ้นโทษออกมาได้มาทำงานขายวัสดุก่อสร้างอยู่ที่ร้านดังกล่าว และได้ไปดาวน์จักรยานยนต์มา 1 คัน เมื่อเดือนสิงหาคม ในราคา 1,900 บาท แต่ไม่มีเงินผ่อนต่อและเงินค่าแรงที่ได้จากทางร้ายก็ไม่พอใช้จึงตัดสินใจวิ่งราวทรัพย์เพื่อหาเงินไปใช้จ่ายและผ่อนรถ โดยทำมาแล้ว 4 ครั้ง ซึ่งส่วนใหญ่จะเลือกแต่สุภาพสตรีที่ถือกระเป๋ามาเพียงคนเดียวตามถนนในช่วงเช้าและช่วงบ่าย ส่วนอาวุธปืนเป็นของเพื่อนชื่อหนึ่งซึ่งทำงานอยู่ที่เดียวกันมาฝากไว้กับตน เช่นเดียวกับป้ายทะเบียนปลอมก็มีรุ่นน้องเอามาให้

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่พบว่าผู้ต้องหามีประวัติต้องโทษคดีวิ่งราวทรัพย์ท้องที่ สน.ชนะสงคราม เมื่อปี 2550 พ้นโทษออกมาเมื่อต้นเดือนสิงหาคม 2555 ที่ผ่านมา จากนั้นถูกดำเนินคดีครอบครองอาวุธปืนท้องที่ สน.บางยี่ขัน และประกันตัวออกมาวันที่ 13 สิงหาคมที่ผ่านมา ก่อนจะกลับมาก่อเหตุซ้ำอีก เบื้องต้นได้แจ้งข้อหา วิ่งราวทรัพย์โดยใช้ยานพาหนะ ก่อนควบคุมตัวส่งพนักงานสอบสวน สน.สามเสน ดำเนินคดีต่อไป