ตำรวจ 191 จับสองผู้ต้องหามุสลิมค้ายาไอซ์ส่งขายภาคใต้ ค้นห้องพักซอยเสรีไทย 21 เจออาวุธปืน 2 กระบอก กระสุนเพียบ และพบเงินหมุนเวียนในบัญชีหลายแสนบาท เล็งขยายผลโยงเหตุรุนแรง 3 จว.ใต้หรือไม่
วันนี้ (2 ก.ย.) เมื่อเวลา 13.00 น. ที่กองบังคับการสายตรวจและปฏิบัติการพิเศษ 191 พ.ต.ท.ขวัญชัย บุญเพ็ชร สว.งานสายตรวจ 2 กก.สายตรวจ ร.ต.ท.พนัต เพ็งบุญ รอง สว.งานสายตรวจ 2 แถลงข่าวจับกุมผู้ต้องหาเครือข่ายยาเสพติดทางภาคใต้ ประกอบด้วยผู้ต้องหา 2 ราย คือ นายมะยูโซ๊ะ หรือ ยู เปาะนา อายุ 29 ปี และนายสุรเดช อีแต อายุ 28 ปี อยู่บ้านเลขที่ 108/5 ม.6 ต.ปาเสมัส อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส พร้อมของกลางยาไอซ์ 7 กรัม ยาบ้า 18 เม็ด ยา 4 คูณ 100 จำนวน 11 ขวด ปืนปากกาขนาด .38 จำนวน 1 กระบอก ปืนอัตโนมัติขนาด 9 มม.จำนวน 2 กระบอก ปืนลูกซอง 1 กระบอก ลูกกระสุนปืนลูกซอง 10 นัด ลูกกระสุนปืนเอ็ม 16 จำนวน 20 นัด ลูกกระสุนปืนขนาด .38 จำนวน 10 นัด ลูกกระสุนปืนขนาด 11 มม. จำนวน 3 นัด ลูกกระสุนปืนขนาด 9 มม.จำนวน 6 นัด และรถตู้ทะเบียน 10-1279 ยะลา 1 คัน โดยจับกุมผู้ต้องหาได้ที่ห้องพักเลขที่ 510 และ 516 โรงแรมไทยการ์เด้น ถ.นวมินทร์ จากนั้นจึงนำตัวผู้ต้องหาไปขยายผลค้นบ้านพักภายในชุมชนสมหวัง ซอยเสรีไทย 21 แขวงและเขตบึงกุ่ม กทม.
พ.ต.ท.ขวัญชัยเปิดเผยว่า ได้รับแจ้งจากสายลับว่าจะมีการลักลอบจำหน่ายยาเสพติด ในเวลาประมาณ 04.00 น. จึงเฝ้าติดตามพฤติกรรม จนทราบว่าผู้ต้องหาใช้รถตู้ทะเบียน 10-1279 ยะลา จากนั้นเจ้าหน้าที่จึงติดตามรถตู้คันดังกล่าวไป เมื่อมาถึงโรงแรมไทยการ์เด้น ถ.นวมินทร์ ผู้ต้องหาได้เปิดห้องพักเลขที่ 510 และ 516 เจ้าหน้าที่จึงดักซุ่ม กระทั่งนายมะยูโซ๊ะ เปาะนา เดินออกมาจากห้องพักเลขที่ 510 เจ้าหน้าที่จึงขอตรวจค้น ผลจากการตรวจค้นตัวผู้ต้องหาและภายในห้องพักเลขที่ 510 ไม่พบสิ่งของผิดกฎหมาย
อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ได้นำตัวนายมะยูโซ๊ะไปค้นห้องพักอีกห้องซึ่งเป็นห้องพักเลขที่ 516 ที่นายมะยูโซ๊ะเปิดเช่าไว้ จึงพบผู้ต้องหาอีกหนึ่งราย ทราบชื่อ นายสุรเดช อีแต และจากการตรวจค้นภายในห้องพัก 516 พบยาไอซ์ 7 กรัม และยาบ้า 18 เม็ด จึงขยายผลต่อไปยังบ้านพักของนายมะยูโซ๊ะ ภายในชุมชนสมหวัง ซอยเสรีไทย 21 พบของกลางดังกล่าวอีกจำนวนมาก จึงควบคุมตัวพร้อมของกลางทั้งหมดมาสอบสวน
จากการสอบสวนผู้ต้องหาให้การว่า ซื้อยาเสพติดมาเพื่อเสพ แต่ไม่ได้มีไว้จำหน่าย ส่วนอาวุธปืนมีพรรคพวกเอามาฝากจึงเก็บไว้ป้องกันตัว แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อ เนื่องจากพบว่ามีเงินหมุนเวียนในบัญชีครั้งละหลายแสนบาท และผู้ต้องหาอาจเปิดห้องไว้พักยาก่อนนำไปจำหน่ายทางภาคใต้
เบื้องต้นจึงแจ้งข้อกล่าวหามียาเสพติดให้โทษประเภท 1 ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย และครอบครองอาวุธปืนและเครื่องกระสุนโดยไม่ได้รับอนุญาต และจะส่งตัวให้เจ้าหน้าที่ บช.ปส.ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ระหว่างสืบสวนสอบสวนว่าเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้หรือไม่
