ความคืบหน้าล่าสุดเกี่ยวกับการติดตามจับกุมคนร้ายที่ลงมือก่อเหตุยิง “เต่า ท่าทราย” อย่างอุกอาจบริเวณทางลอดอุโมงค์ถนนรัชดาฯ ที่เกิดเหตุช่วงเช้ามืด (29 ก.ค.) หลังเกิดเหตุเป็นเวลา 1 เดือน ล่าสุด ตร.ออกหมายจับ “ไอ้ปั๊ม” คนร้ายมือสังหารแล้ว ส่งตำรวจสายสืบพลิกแผ่นดินล่าสุดฤทธิ์! หลังผู้ต้องหาหลบซุกใต้บารมีนักการเมืองดังย่านดอนเมือง ต้นเหตุทำให้ล่าตัวคนร้ายมาลงโทษล่าช้า
วันนี้ (31 ส.ค.) พ.ต.อ.วิบูลยุทธ สันทัดเวช ผกก.สน.สุทธิสาร เปิดเผยความคืบหน้าคดีมือปืนขี่จักรยานยนต์แบบบิ๊กไบค์ตามประกบยิงนายวิรัส ดิลกศรี หรือเต่า ท่าทราย อายุ 37 ปี เสียชีวิตขณะนั่งมาในรถกระบะโตโยต้ารุ่นพรีรันเนอร์ สีขาว หมายเลขทะเบียน ถล 534 กรุงเทพมหานคร บนถนนรัชดาภิเษก ท้องที่ สน.สุทธิสาร หลังจากเกิดเหตุเป็นเวลา 1 เดือนว่า ล่าสุดศาลอาญาได้อนุมัติหมายจับเลขที่ 1449/2555 ลงวันที่ 24 ส.ค. 2555 ผู้ต้องหาชื่อ นายภัศวรรษ หรือปั๊ม สุขสม อายุ 24 ปี อยู่บ้านเลยขที่ 19 ซอยโกสุมรวมใจ 14 แขวงและเขตดอนเมือง กรุงเทพมหานคร ในข้อหาฆ่าคนตายโดยเจตนา และครอบครองอาวุธปืนไปในที่สาธารณะโดยไม่มีเหตุอันคารแล้ว ซึ่งขณะนี้ชุดสืบสวนได้ข้อมูลกลุ่มผู้ต้องสงสัยแล้วว่าหลบซ่อนตัวอยู่ที่ใด คาดว่าน่าจะได้ตัวในไม่ช้านี้อย่างแน่นอน
ผู้สื่อข่าวถามว่า จากการตรวจสอบประวัติของนายปั๊ม พบว่าเคยถูกดำเนินคดีใดมาก่อนหรือไม่ พ.ต.อ.วิบูลยุทธกล่าวว่า คนร้ายเป็นสมาชิกแก๊ง “เสียมิได้” มีหัวหน้าแก๊งชื่อว่านายคิว อายุ 29 ปี เป็นแก๊งยาเสพติดในพื้นที่ดอนเมือง มีประวัติการกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดในพื้นที่มาอย่างโชกโชน
ผู้สื่อข่าวถามอีกว่า เหตุใดคนร้ายรายนี้จึงหลบหนีการจับกุมได้เป็นเวลาร่วมเดือนทั้งที่เป็นคดีใหญ่โตและอุกอาจ อีกทั้ง พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผบช.น.ได้ออกมากำชับให้จับกุมตัวคนร้ายมาลงโทษตามกฎหมายให้ได้ และบอกให้คนร้ายมอบตัวดีกว่าเพราะจะได้รับอันตรายจากการถูกกลุ่มคู่อริตามล้างแค้นได้ โดยนายปั๊มได้ออกมาประกาศพร้อมที่จะสู้ตายนั้น พ.ต.อ.วิบูลยุทธกล่าวว่า คนร้ายย่อมหลบหนีเป็นธรรมดา ส่วนคนร้ายที่ประกาศสู้ตำรวจก็ไม่เห็นจะรอดสักราย “มันหนีไม่พ้นหรอกครับ เร็วๆ นี้จะมีข่าวดีแน่นอน”
รายงานข่าวแจ้งว่า ขณะนี้นายภัศวรรษ หรือปั๊ม สุขสม ผู้ต้องหาตามหมายจับตำรวจได้ไปกบดานภายใต้บารมี ส.ส.กรุงเทพฯ เขต 12 (ดอนเมือง) พรรคการเมืองใหญ่ อักษร ย่อ ว่า “ก.” ซึ่งเป็นผู้กว้างขวางและมีอิทธพลในพื้นที่ดอนเมืองจนตำรวจไม่สามารถติดตามจับกุมผู้ต้องหามาลงโทษตามกฎหมายได้