xs
xsm
sm
md
lg

ความจริงที่ซ่อนอยู่ใน “เม็ดข้าว”ที่ถูกจำนำ!

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


สอดแนมการเมือง
โดย : ชัชวาลย์ ชาติสุทธิชัย

หากมีคนถามนายกฯ ยิ่งลักษณ์ว่า มหาเศรษฐีคนไหน..ที่รวยล้นฟ้าแล้วยังโคตรโกงอีก?

คำถามง่ายๆแบบนี้ “ปูกลวง”ก็คงมีคำตอบประจำตัวแสดงโง่ออกมาเหมือนเดิมทำนองว่า

“ต้องขอดูรายละเอียดของคำถามก่อน” หรือ “ต้องขอตรวจสอบต้นน้ำ-กลางน้ำ-ปลายน้ำ ของคำถามก่อน” หรือเธออาจตะแบงไปว่า “ต้องบูรณาการคำถามให้ง่ายกว่านี้” สุดท้ายตอบไม่ได้เธอก็จะ “..อ้า..อ้า..อ้า..หนูไม่รู้ค่ะ..”

ต้องยอมรับว่า นายกรัฐฯ หญิงคนแรกของชาติไทย ที่ชื่อ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร คนนี้ เธอไม่ได้เกิดมาเพื่อจะเป็นนายกฯ ของชาติใดชาติหนึ่ง แต่เธอเกิดมาเพื่อจะเป็นแค่ “หุ่นเชิด” ในบริษัทของครอบครัวเธอเท่านั้น เมื่อถูกพี่ชาย “เชิด”ให้เป็นนายกฯ ชาติไทย เธอจึงบริหารชาติบ้านเมืองแบบ “หนูไม่รู้”ทุกเรื่อง

นั่นทำให้ผู้หญิงอย่างเธอ..ได้กลายเป็นตัวตลกของเวทีการเมือง ทั้งระดับชาติและระดับโลกไปเสียแล้ว!

ยิ่งลักษณ์-เป็นนายกฯ คนแรก ที่มีมุกตลกที่ไม่เหมือนใคร ด้วยลีลาคำพูดทั้งภาษาไทยและอังกฤษแบบถูกๆ ผิดๆ ซึ่งทำให้คอการเมืองไทยและเทศต้องปล่อยก๊ากอยู่เสมอๆ ยิ่งมุกพูดผิดในเรื่องความรู้ทั่วไปที่ไม่ควรผิดด้วยแล้ว.. ขำกลิ้งกันเลยครับ เช่น

คอนกรีต-เธออ่านเป็น คอ-นก-รีต อำเภอหาดใหญ่-เธอก็ยกให้เป็นจังหวัดหาดใหญ่ไปเสียฉิบ แถมยังทะลึ่งไปก้าวก่ายชาติอื่น ด้วยการเปลี่ยนเมืองซิดนีย์ให้เป็นประเทศซิดนีย์ เท่านั้นไม่พอ..เธอยังเปลี่ยนตำแหน่งนายกฯมาเลเซียเป็นประธานาธิบดีให้เลย ฯลฯ

ว่าไปแล้ว..นายกฯ ยิ่งลักษณ์เธอยังเป็นขวัญใจของชาติแฟชั่นทั้งหลาย เพราะเธอได้แสดงตนเป็น“นางแบบกิตติมศักดิ์”ที่ไม่ขอรับเงินค่าตัว ให้กับบรรดาสินค้าแบรนด์เนมชื่อดังทั้งหลายอีกด้วย

ด้วยคุณเธอเป็นนายกฯ นักช็อป ที่นิยมใช้-นิยมซื้อสินค้าแบรนด์เนมเป็นชีวิตจิตใจ ดังนั้น เวลาเธอต้องพบกับผู้นำชาติต่างๆ เธอจะยื่นมือข้างหนึ่งไปจับมือกับผู้นำชาตินั้นๆ ส่วนมืออีกข้างหนึ่งของคุณเธอ จะหนีบหรือสะพายกระเป๋าแบรนด์เนมราคาแพงลิ่วไว้ใต้จักกะแร้เธอด้วย

แน่นอน..ภาพถ่ายคนระดับนายกฯ หญิงของชาติไทย ที่เผยแพร่ออกไปยังทั่วโลกจึงไม่สง่า ไม่ค่อยเหมาะสม ขัดลูกตาเป็นอย่างยิ่ง เพราะไม่เคยมีผู้นำหญิงชาติไหนหนีบหรือสะพายกระเป๋า ไปเที่ยวจับมือกับผู้นำชาติอื่นให้เห็นมาก่อนเลยในโลกใบนี้!

แต่สำหรับนายกฯ ยิ่งลักษณ์เธอไม่สนว่า-เหมาะสมหรือไม่เหมาะสม เพราะสมองที่มีรอยหยักน้อยๆ ของเธอนั้น ถือว่า..ช่างมันฉันไม่แคร์

ที่สำคัญเธอพูดและฟังภาษาอังกฤษได้แบบงูๆ ปลาๆ หรือพูดผิดๆ ถูกๆ จนผู้รู้ผู้ฟัง ไม่ค่อยรู้เรื่องรู้ราวจนพากันส่ายหัวดิกกันไปเลย

ทว่า..แทนที่นายกฯ ยิ่งลักษณ์เธอจะใช้ภาษาไทย ซึ่งเป็นภาษาประจำชาติของตน แล้วให้ล่ามของกระทรวงการต่างประเทศแปลข้อความอีกทอดหนึ่ง ดังผู้นำชาติในโลกทั้งหลายเขาทำกัน เพื่อป้องกันความผิดพลาดในการเสนอเนื้อหาและสาระ ซึ่งว่าไปแล้ว..ขนาดภาษาไทยเธอก็ยังพูดผิดๆ ถูกๆ อยู่แล้ว แต่เธอก็ยังดันทุรังใช้ภาษาอังกฤษสื่อสารอยู่อีก..

ดังนั้น ทุกครั้งที่นายกฯ ยิ่งลักษณ์เธอไปประชุมในระดับสากล เป็นต้องทำให้ชาติและชาวไทยมีอันต้องขายขี้หน้าชาวโลกอยู่เสมอ!

ลากยาวกับนายกฯ ป้ำๆ เป๋อๆ ยิ่งลักษณ์พอหอมปากหอมคอแล้ว คราวนี้มาดูมหาเศรษฐี“เหลี่ยม”ที่กำลังผลักดันเมกะโปรเจกต์มากมาย เพื่อเร่งการคอร์รัปชั่นกันอย่างมโหฬาร ทั้งโครงการขยายสนามบิน โครงการรถไฟความเร็วสูง โครงการบริหารจัดการน้ำ 3.5 แสนล้านบาท โครงการจำนำ“ข้าวทุกเม็ด”ด้วยเงินนับล้านล้านบาท โครงการถมทะเลสร้างเมืองใหม่ด้วยเงินอีก 1.8 ล้านล้านบาท รวมทั้งการกู้เงินถึง 2.7 ล้านล้านบาท เพื่อก่อสร้างระบบสาธารณูปโภคและระบบขนส่ง ฯลฯ

ทั้งหมด“เหลี่ยม”จะแอบอ้างทั้งความเดือดร้อนของประชาชน การพัฒนาประเทศ มาล้วงเงินของแผ่นดินหลายล้านล้านบาทของคนไทยทั้งชาติ ไปใช้ในโครงการหาเสียงและโกงกินชาติกันอย่างมโหฬารที่เรียกกันว่า..เมกะโปรเจ็กต์ไงล่ะครับ

โครงการประชานิยมเรื่องจำนำ“ข้าวทุกเมล็ด”หรือ“โกงข้าวทุกเม็ด”นี้ ผิดกันตั้งแต่เริ่มตั้งชื่อแล้วล่ะ“นายกฯ ปูกลวง”เอ๋ย เพราะการรับ“จำนำ”อะไรก็ตาม ราคารับจำนำต้องต่ำกว่าราคาท้องตลาดเขาซื้อขายกันครับ

การรับจำนำข้าวเปลือกราคาสูงถึง 15,000 บาทต่อเกวียนนั้น เป็นราคาที่สูงกว่าท้องตลาดซื้อขายกัน 30-40 % การจำนำข้าวเปลือกที่ได้ราคาสูงขนาดนี้ คงไม่มีใครหน้าไหนมาไถ่ถอนข้าวเปลือก ไปจากรัฐบาล“ปูกลวง”อย่างแน่นอน

ดังนั้น จึงขอสอนนายกฯ “ปูกลวง”ด้วยความหวังดีไว้ตรงนี้เลยว่า คุณเธอจงหยุดการโกหกแบบตื้นๆ เช่นนี้ได้แล้ว เพราะผู้คนเขาจับได้หมดแล้วว่า นี่ไม่ใช่การรับ“จำนำข้าวทุกเม็ด” แต่เป็นการ“เหมาซื้อข้าวทุกเม็ด”ในตลาดโดยรัฐบาล“ปูกลวง”ต่างหากเล่า!

งานนี้จึงเป็นมหกรรมโกงกินของนักการเมืองและพวกพ้อง แบบทุกระดับประทับใจจนปากมันเยิ้มเลยครับ

เพราะชาวนาจนได้เงินจากการจำนำข้าวเปลือกน้อยที่สุด เพราะส่วนใหญ่ไม่มีที่ดินทำกินเป็นของตนเอง ชาวนาฐานะปานกลางได้เงินมากขึ้นบ้าง แต่พวกที่ได้เงินแบบเต็มๆ คือ ชาวนารวย-เจ้าของโรงสี-นักการเมือง จะได้สวาปามเงินภาษีของคนไทยทั้งชาติกันจนพุงปลิ้น!

โดยเฉพาะนักการเมืองชั่วช้าสารเลวนั้น มีวิธีโกงเงินโครงการ “จำนำข้าวทุกเม็ด”อย่างมหาศาล โดยไม่ต้องมีที่นาและปลูกข้าวให้เหนื่อยและเสียเวลาเหมือนชาวนา ด้วยการใช้กลไกรัฐผสานกับชาวนาปลอม มาทำ “จำนวนข้าวลม”เข้าโครงการจำนำข้าวทุกเม็ด เอาเงินหลวงไปสวาปามตามต้องการได้อย่างสบายใจเฉิบ ดังกรณี “ลำใยลม”ที่ “เจ๊ดอแด๊ก”ทำเป็นตัวอย่างมาแล้วทางภาคเหนือ

รวมทั้งใช้ข้าราชการที่เกี่ยวข้องกับการ“จำนำข้าวทุกเม็ด” มาเล่นเกมขนข้าวที่อยู่ในโกดังหรือในสต๊อก ออกมาหมุนเวียนหรือ “เวียนเทียน”จำนำเอาเงินหลวงไป“แด๊ก”กันอย่างหนำใจ

วิธีสุดท้ายที่นักการเมืองกับพวกถนัด ก็คือ ขนข้าวเปลือกจากลาว-พม่า-เขมรที่คุณภาพและราคาต่ำ เข้ามา“จำนำข้าวทุกเม็ด”ในประเทศไทย เพราะข้าวเปลือกไม่มีการแยกสัญชาติให้รู้นี่นา..จริงไหม?

โครงการ“จำนำข้าวทุกเม็ด” ของรัฐบาล“ปูกลวง” จึงเป็นโครงการที่ “เหลี่ยม”สร้างขึ้นมา เพื่อ“โกงข้าวทุกเม็ด”ทั้งเพื่อหาเสียงและโกงกินเป็นหลัก ส่วนการช่วยชาวนานั้น..เป็นแค่ข้ออ้างบังหน้าครับ

โครงการ“รับจำนำข้าวทุกเม็ด”ของรัฐบาล“ปูกลวง” ใช้เงินภาษีอากรของคนไทยทั้งชาติเท่าไหร่?

สนง.คกก.พัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ได้ทำรายงานเสนอต่อ ครม.ว่า การจำนำข้าวปีแรก 54/55 ได้ใช้เงินเพื่อโครงการรับจำนำข้าวเปลือกนาปี และข้าวเปลือกนาปรังไปกว่า 517,958 ล้านบาท ถือเป็นเม็ดเงินสูงที่สุดเมื่อเทียบกับโครงการประชานิยมอื่น ๆ

หากนับรวมโครงการจำนำฤดูกาลใหม่ รัฐบาลต้องใช้เงินเพื่อรับจำนำข้าวเปลือกเพิ่มอีก 26 ล้านตัน วงเงิน 4.05 แสนล้านบาท และเงินจ่ายขาดเพื่อดำเนินการรับจำนำอีก 11,771.25 ล้านบาท ทำให้โครงการจำนำข้าวทั้ง 2 ปีรวมกัน รัฐต้องใช้เงินเกือบ 1 ล้านล้านบาท!

โครงการที่ประชาชนคนไทยจับได้ไล่ทันว่า ทำเพื่อหาเสียงและโกงกินของคนกลุ่มเดียวแบบนี้ รัฐบาล“ปูกลวง”ยังหน้าด้านเอาเงินภาษีคนไทยทั้งชาติทำต่อ โดยไม่สนใจกับการต่อต้านอย่างหนักเช่นนี้ ย่อมมิใช่การทำเพื่อชาติและประชาชนคนส่วนใหญ่อย่างแน่นอน

“โกร่งกางเกงแดง” ยังเตือนพวกเดียวกันว่า รัฐบาลพังแน่..หากยังทำโครงการ “จำนำข้าวทุกเม็ด”!

“จำนำข้าวทุกเม็ด”ด้วยเงินคนไทยทั้งชาติ 1 ล้านล้านบาท โกงกันแค่ 20% ก็ 2 แสนล้านบาทแล้ว แต่สันดานโลภอย่าง“เหลี่ยม”นั้น-เล็กๆ ไม่ อย่างน้อยต้องไม่ต่ำกว่า 40 % หรือ 4 แสนล้านบาท!

เงินภาษีจากหยาดเหงื่อเลือดเนื้อคนไทยทั้งชาติ จึงบรรจุอยู่ใน“ข้าวทุกเม็ด”ที่นักการเมืองชั่ว โกงกินอย่างตะกละตะกรามอยู่ในเวลานี้ครับ!!!


กำลังโหลดความคิดเห็น