กรุงเทพฯ - นายกรัฐมนตรีออกอาการงอนตุ้บป่อง เปรยหลังยื่นหนังสือลาออก “ยงยุทธ” กลายเป็นคนละคน อดีตเคยลงทุนคุกเข่าก้มกรานปะหลกๆ แต่ตอนนี้ทำแค่ยกมือไหว้แบบขอไปที ชี้ถ้า “เสี่ยแม้ว” รู้คงฉุนกึกเหมือนกัน
น.ส.ยิ่งลักษณ์ นายกรัฐมนตรี เปรยให้คนสนิทและทีมที่ปรึกษา เช่น นายพันศักดิ์ ฟังว่าหลังจากที่นายยงยุทธ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย อดรนทนต้านกระแสที่ดินยายเนื่อมไม่ไหว จำใจจำเป็นต้องประกาศลาออกจากทุกตำแหน่งด้วยความอาลัยอาวรณ์ ต่อมาหลังยื่นหนังสือลาออกอย่างเป็นทางการแล้ว นายยงยุทธหายเข้ากลีบเมฆไปอย่างไร้ร่องรอย ตราบจนเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา นายยงยุทธได้ให้เลขานุการส่วนตัวแจ้งมาบอกแก่ตนเองว่าจะขอเดินทางเข้ามากราบลาถึงทำเนียบรัฐบาล หรือไม่ก็อาจเป็นที่บ้านพักของตนเอง ซึ่งตนก็สละเวลาอันมีค่าจากการพิจารณากระเป๋าแบรนด์เนมมาสำหรับต้อนรับนายยงยุทธเป็นการเฉพาะ
จากนั้น นายยงยุทธได้มาตามกำหนดนัดหมายที่น.ส.ยิ่งลักษณ์กำหนดโปรแกรมไว้ให้ ครั้นเมื่อเจอหน้าค่าตากันแล้ว แทนที่นายยงยุทธจะทรุดตัวลงก้มกราบเหมือนทุกๆ ครั้งที่เจอะเจอกัน ทว่า นายยงยุทธที่กลายเป็นอดีตรองนายกฯ กับอดีต รมว.มหาดไทย กลับประนมสองมือขึ้นไหว้ราวกับเสียมิได้ ที่สำคัญ สีหน้าท่าทีของนายยงยุทธยังเปี่ยมไปด้วยความเพิกเฉยเย็นชา จนน.ส.ยิ่งลักษณ์เองออกอาการเอ๋ออย่างเห็นได้ชัด แม้ช่วงเวลาที่นายยงยุทธจะลากลับ น.ส.ยิ่งลักษณ์คิดว่าน่าจะก้มลงกราบกรานเหมือนอดีต แต่เอาเข้าจริงนายยงยุทธทำเพียงกระพุ่มมือไหว้อย่างลวกๆ เท่านั้น
“ถามว่าดิฉันเสียความรู้สึกไหม ตอบได้เลยว่ามั่กๆ เพราะแต่ก่อนนี้คุณยงยุทธเจอที่ไหนจะคุกเข่าลงกราบดิฉันอย่างนอบน้อม ไม่เคยให้ขาดตกบกพร่อง คนใกล้ชิดยังเคยแซวดิฉันว่าระวังอายุสั้นเพราะผู้ใหญ่ลงทุนโขกศีรษะกราบไหว้ แต่พอประกาศลาออกไปจากทุกตำแหน่ง คุณยงยุทธทำเพียงแค่ยกมือไหว้แบบขอไปที ซึ่งทำแบบนี้ไม่ดีกับอนาคตของคุณยงยุทธเลย ตระกูลของเรานิยมชมชอบให้ข้าทาสบริวาร ไม่ว่าจะแก่ใกล้เข้าโลง หรือหนุ่มสาวเก่งกล้ามาจากไหนต้องก้มกราบแทบเท้า หรือบั้นเอวอย่างเสมอภาคกันทั้งนั้น คุณยงยุทธทำแบบนี้รู้ถึงหูพี่แม้วต้องเป็นเรื่องแน่” นายกฯ กระแทกเสียง
