ด้วยความเก๋ หลากสไตล์ ดูมีระดับ ทำให้เหล่าเซเลบคนดังทั้งหลาย ต่างหลงใหลในเสน่ห์ของกระเป๋าแบรนด์เนม เช่นเดียวกับ “มิณ-สิรัชชา พัชรโสภาชัย” เจ้าของร้านสปากระเป๋า “โมโมโกะ” (Momoko Bag & Shoes Spa) ที่เธอก็หลงเสน่ห์ของกระเป๋าแบรนด์เนมเข้าอย่างจัง จนต่อยอดมาเป็นธุรกิจแปลกๆ ที่ให้บริการสปากระเป๋า
คำว่า สปากระเป๋า หมายถึงการให้บริการดูแลกระเป๋าตั้งแต่ทำความสะอาดให้ดูใหม่เสมอ ไปจนถึงการซ่อมแซมส่วนที่ชำรุดเสียหาย ทั้งนี้ เพราะกระเป๋าแบรนด์เนมแต่ละใบมีราคาแพง ตั้งแต่หลายหมื่นไปจนถึงเฉียดล้านบาท ดังนั้น จึงต้องดูแลประคบประหงมเป็นพิเศษ
ปกติ บรรดาเจ้าของแบรนด์เนมจะมีบริการดูแลและซ่อมแซมหลังการขายให้กับลูกค้า กระเป๋าแพงบางใบที่ชำรุดมากหรือไม่มีอะไหล่ ศูนย์ที่เมืองไทยซ่อมไม่ได้ ก็ต้องส่งไปศูนย์ซ่อมใหญ่ที่ต่างประเทศ ซึ่งใช้เวลานานหลายเดือน ทำให้หลายคนไม่อยากรอ
จุดเริ่มต้นและแรงบันดาลใจในการทำธุรกิจสปากระเป๋านั้น มิณบอกว่า ครอบครัวทำธุรกิจผลิตและส่งออกกระเป๋าอยู่แล้ว จึงทำให้เธอมีความคุ้นเคยกับกระเป๋ามานาน จนในที่สุด ก็กลายเป็นคนรักกระเป๋าและซื้อเก็บไว้เป็นจำนวนมาก
“กระเป๋าบางใบใช้หรือเก็บนานๆ ก็มีชำรุดต้องส่งซ่อม ถ้าเป็นยี่ห้อดังๆ ก็รอนานบางทีต้องรอ 2 เดือนยังไม่เสร็จ แล้วเราก็เป็นคนใจร้อนรอไม่ไหว เลยส่งโรงงานที่บ้านให้ช่วยซ่อมและทำความสะอาดให้”
เมื่อบรรดาเพื่อน ๆ รู้ว่าที่บ้านมิณซ่อมกระเป๋าได้ก็ฝากมาซ่อมบ้าง ฝากทำความสะอาดบ้าง แต่ละครั้งมีเพื่อนฝากกระเป๋ามาซ่อมกับโรงงานของครอบครัวเธอถึง 20-30 ใบ จึงตัดสินใจเปิด “สปากระเป๋า” โดยใช้ชื่อร้านน่ารักๆว่า “โมโมโกะ” (Momoko Bag & Shoes Spa) ซึ่งเป็นร้านที่ให้บริการบำรุงรักษา ซ่อมแซมกระเป๋าและรองเท้าแบรนด์เนมทุกยี่ห้อ
“หลังเปิดให้บริการถึงได้รู้ว่า หนังที่นำมาใช้ทำกระเป๋ามีเป็น 100 ชนิด อย่างหนังวัว ก็จะมีตั้งแต่ชั้นบนสุด ชั้นกลาง ชั้นล่าง ชั้นไขมัน ซึ่งน้ำยาแต่ละชนิดมีส่วนผสมไม่เหมือนกัน ทำความสะอาดได้เฉพาะส่วน สำหรับที่มีปัญหามากที่สุดคือ หนังวัว cowhide (คาวไฮด์) เป็นส่วนที่เกิดหยดน้ำง่าย ซึมน้ำมันง่าย แต่ที่ซ่อมยากและถือเป็นงานหินที่สุดคือ หนังนกกระจอกเทศ เพราะบอบบางมาก”
เหตุที่กระเป๋าแบรนด์เนมต่างก็มีชนิดของหนังกระเป๋าที่แตกต่างกันไป จึงเกิดปัญหาในการดูแลและซ่อมแซม ทำให้มิณต้องศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับการซ่อมแซมกระเป๋า ถึงขนาดมีการส่งช่างซ่อมกระเป๋าที่ร้าน ไปเรียนรู้เรื่องการดูแลรักษากระเป๋าและรองเท้าเพิ่มเติมที่ต่างประเทศ โดยเฉพาะ เรื่องการซ่อม การทำสี วิธีการดูหนัง ตลอดจนการเก็บรักษาแบบเจาะลึก
“กระเป๋าที่รับหน้าร้านทุกวันจะมีประมาณ 50 ใบ ปัญหาที่มาให้เราดูแลทุกวันเลย คือ เรื่องสีถลอก การดูดสีกางเกงยีนส์, ปัญหากระเป๋าเกิดสีโทนเหลืองที่เกิดจากรังสียูวี ก็มาแก้ไขตามขั้นตอน จากนั้นทางร้านก็จะลงกันน้ำ เคลือบกันแสงยูวีให้ ส่วนรองเท้าปัญหาที่เจอมากที่สุดเป็นรอยถลอกที่ส้นรองเท้า จะใช้วิธีโป๊วสีที่ถลอก แล้วหาหนังชนิดเดียวกันมาทำสีให้ใกล้เคียงกันมาแปะทับแผล”
สำหรับอัตราค่าบริการของร้าน “โมโมโกะ” เริ่มต้นที่ 300-12,500 บาท โดยคิดราคาตามขนาดกระเป๋า ชนิดของหนัง รวมถึงสภาพของความเสียหาย และการซ่อมแซมบำรุงรักษาที่มีความยากง่ายแตกต่างกันไป
ตลอด 4 ปีที่คลุกคลีกับการดูแลรักษารองเท้าและกระเป๋าแบรนด์เนม “โมโมโกะ” มีลูกค้าประจำมากมาย ทั้งพนักงานบริษัท ตลอดจนดาราและเซเลบริตีชื่อดัง อาทิ พลอย-เฌอมาลย์, ลินา ลีนุตพงษ์, วุ้นเส้น-วิริฒิพา, เอ๋-กัญญารัตน์ ฯลฯ
จากการให้บริการสปากระเป๋า ต่อมาเริ่มมีลูกค้าที่มีกระเป๋าหลายๆ ใบนำมาฝากมิณขาย ปรากฏว่าขายดิบขายดี จนเมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา เธอจึงเปิดร้าน “แบรนด์เนมโซไซตี้” ซึ่งถือเป็นร้านต่อยอดจากโมโมโกะ ที่รับฝากขายกระเป๋ามือสองทั้งของเซเลบและดารา นอกจากจะมีหน้าร้านแล้ว เธอยังทำเว็บไซต์ให้ลูกค้าเข้าไปเลือกชอปได้ ถ้าถูกใจใบไหนก็มีบริการนำกระเป๋าไปให้ลูกค้าดูถึงบ้าน แถมด้วยบริการสปาหลังการขายอีกด้วย
สำหรับยี่ห้อที่มีการซื้อ-ขายเปลี่ยนมือกันมากที่สุด 5 อันดับแรกคือ Hermes, Chanel, Louis Vuitton, Balenciaga และ Prada ซึ่งมิณบอกว่า Hermes กับ Chanel จะขายเร็วที่สุด โดยกระเป๋าบางใบวางขายไม่ถึงสัปดาห์ก็มีลูกค้ามาซื้อแล้ว
ด้วยความรักและความใส่ใจในรายละเอียดของกระเป๋าและรองเท้าแบรนด์เนม ทำให้เหล่าดาราและเซเลบคนดัง ต่างไว้วางใจฝากกระเป๋าสุดที่รักของตน มาทำสปากันอย่างต่อเนื่อง จนเรียกได้ว่า “โมโมโกะ” เป็นร้านสปายอดฮิตของคนรักกระเป๋าไปแล้ว