ASTVผู้จัดการรายวัน-"ปู"โยนเจ้าหน้าที่ชี้แจง ศึกรื้อกระสอบทราย กทม.-กบอ. ด้านเพื่อไทยหันเล่นมุขใหม่ จับผิดงบลอกท่อของกทม. 61 ล้าน คุณชายไม่หวั่นถูกตรวจโกง ยันอุดกระสอบทรายปิดปากท่อเป็นเรื่องเทคนิค นานาประเทศก็ทำกัน เป็นงง ทำไมถึงหาเรื่องผ่านสื่อ "บิ๊กแจ๊ส"โดดอุ้มรัฐบาล สั่งตำรวจรื้อกระสอบทรายให้หมด ไม่สน กทม.แจ้งความ จับตา “พระพิรุณ” วกทะเลจีนใต้เข้าชุมพร
วานนี้ (10 ต.ค.) เมื่อเวลา 09.45 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้กล่าวถึงสถานการณ์น้ำในขณะนี้ว่า มีความสบายใจขึ้น แต่ยังไม่สามารถนิ่งนอนใจได้จนกว่าจะแน่ใจว่าพายุอีกลูกหนึ่งไม่มา ซึ่งรัฐบาลได้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และพอใจการทำงานของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและระบบการเตือนภัย ที่ถือว่าดีขึ้นเยอะ เจ้าหน้าที่มีการปรับตัวมากขึ้น แต่อาจจะต้องเน้นในเรื่องของการประกาศเตือนประชาชนและเน้นการทำงานของเจ้าหน้าที่ให้มีประสิทธิ์ภาพมากขึ้น ซึ่งที่ผ่านมา การทำงานของคณะกรรมการบริหารจัดการน้ำและอุทกภัย (กบอ.) และกระทรวงมหาดไทย สอดคล้องกันมากขึ้น
ผู้สื่อข่าวถามถึงการทำงานของกบอ.และกรุงเทพมหานคร (กทม.) ที่ขัดกันอยู่ตลอด จนทำให้เกิดปัญหาน้ำท่วมขังในพื้นที่ กทม. โดยเฉพาะกรณีกระสอบทราย น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า การทำงานของ กบอ. เป็นลักษณะของการดูในภาพรวม ซึ่งตรงนี้คงเป็นปัญหาทางเทคนิค จึงอยากให้เจ้าหน้าที่ทางเทคนิคเป็นผู้ชี้แจง แต่ทั้งหมดนี้ ก็ต้องมีการพูดคุยกัน
**จับผิด 61 ล้านงบลอกท่อกทม.
ที่รัฐสภา นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ รักษาการโฆษกพรรคเพื่อไทย พร้อมด้วยนายจิรายุ ห่วงทรัพย์ รักษาการรองโฆษกพรรคเพื่อไทย ร่วมกันแถลงข่าวกรณีได้รับเรื่องร้องเรียนจากประชาชนและส่วนราชการ ว่า อาจมีการทุจริตงบประมาณการลอกท่อของกทม. 30 คลองสายหลัก อาทิ คลองไผ่สิงโต,คลองสาหร่าย คลองวัดไผ่เงิน ด้วยงบประมาณกว่า 61ล้านบาท เพราะการดำเนินการในแต่ละจุดยังไม่เสร็จสิ้น ทำให้เกิดปัญหา จึงเรียกร้องให้ม.ร.ว.สุขุมพันธ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการ กทม. และผู้บริหาร กทม. ชี้แจงรายละเอียด และไม่ควรอ้างว่าเป็นเรื่องเทคนิค รวมทั้งเรียกร้องให้หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์และสมาชิกร่วมตรวจสอบเรื่องดังกล่าวด้วย
นายพร้อมพงศ์กล่าวต่อว่า จะนำเรื่องดังกล่าวเข้าสู่การพิจารณาของคณะกรรมาธิการป้องกันและปราบปรามการทุจริต สภาผู้แทนราษฎร เพื่อตรวจสอบการบริหารงานของกทม. โดยยืนยันว่าไม่ใช่ประเด็นทางการเมือง รวมถึงแสดงความผิดหวังที่นายปราโมทย์ ไม้กลัด คณะกรรมการยุทธศาสตร์เพื่อวางระบบการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ (กยน.) ที่ออกมาปกป้องกทม. กรณีการวางกระสอบในท่อระบายน้ำว่าเป็นเรื่องเทคนิคการป้องกันน้ำท่วม
ด้านนายจิรายุกล่าวเสริมว่า ขอท้าให้ม.ร.ว.สุขุมพันธ์ แจ้งความดำเนินคดีกับตนและคณะ ที่รื้อกระสอบทรายออกจากท่อระบายน้ำ เพื่อจะได้น้ำข้อมูลเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม เนื่องจากขณะนี้ ปรากฎชัดแล้วว่า ไอ้โม่ง ที่กทม.อ้างคือใคร นอกจากนี้ ก่อนที่ผู้ว่าฯ กทม.จะหมดวาระในวันที่ 10 พ.ย.นี้ พรรคเพื่อไทยจะจับตาการใช้งบประมาณของสำนักงานเขตต่างๆ ไม่ให้นำงบประมาณไปใช้ในการประชาสัมพันธ์เลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. ด้วย
**คุณชายไม่กังวล พท.สอบโกง
ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการ กทม. กล่าวว่า ไม่รู้สึกกังวลที่นายพร้อมพงศ์ จะยื่นเรื่องเข้าสู่การพิจารณาของคณะกรรมมาธิการป.ป.ช. สภาผู้แทนราษฎร เพื่อตรวจสอบว่ามีการทุจริตการลอกท่อระบายน้ำของกทม.หรือไม่ รวมถึงเตรียมยื่นหนังสือถึงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เพื่อสั่งปลดผู้ว่าฯกทม. เพราะตนทำงานรับใช้ประชาชนไม่ได้ทำงานให้รัฐบาลหรือ กบอ. เพราะตนมีเจ้านายเพียง 2 คน คือ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและประชาชน ยืนยันจะทำงานจบครบวาระ แต่หากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยจะสั่งปลด ก็เป็นอำนาจหน้าที่ของกระทรวงที่สามารถปลดผู้ว่าฯ กทม. ออกจากตำแหน่งได้ ถึงแม้ว่าตนจะถูกปลดจากตำแหน่ง ก็จะกลับมาลงสมัครรับเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. อีกครั้ง
ส่วนการนำกระสอบทรายปิดปากท่อระบายน้ำ เป็นเรื่องของเทคนิคการปิดล้อมพื้นที่ เพื่อป้องกันไม่ให้น้ำไหลเข้าท่วมถนนสายหลัก ซึ่งนายปราโมทย์ ไม้กลัด อดีตอธิบดีกรมชลประทาน ก็ออกมายืนยันว่าเป็นเทคนิคที่หลายประเทศ รวมถึงกรมชลประทานที่ใช้เทคนิคนี้ด้วย อย่างไรก็ตาม การชี้แจงรายละเอียดเกี่ยวกับการนำกระสอบทรายปิดท่อระบายน้ำ ขอให้เป็นหน้าที่ของข้าราชการประจำในการรวบรวมเอกสารเพื่อชี้แจง
"ประหลาดใจว่าในการประชุมร่วมกับ กบอ. ทุกครั้ง ไม่มีการวิพากษ์วิจารณ์เกี่ยวกับกระสอบทรายแต่อย่างใด และที่ผ่านมา นายกรัฐมนตรีได้ยืนยันตลอดว่าจะดำเนินงานร่วมกับกทม. แต่ยังมีการออกมาวิพากษ์วิจารณ์ผ่านสื่อ" ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์กล่าว
**กทม.ปัดข่าว"คุณชาย"วูบหกล้ม
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังที่มีกระแสข่าวออนไลน์เมื่อช่วงบ่ายว่า ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ เกิดอาการหน้ามืด หกล้ม ระหว่างเข้าประชุมสภา กทม. สาเหตุมาจากการพักผ่อนน้อยจากการเตรียมรับมือปัญหาน้ำท่วมกรุงเทพฯ นั้น จากการตรวจสอบพบว่า ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ ไม่ได้เกิดอาการหน้ามืดแต่อย่างใด เพราะช่วงเวลาดังกล่าวขณะที่ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์กำลังเดินเข้าไปในห้องประชุมสภากทม. และได้หันมาพูดคุยกับนายพีระพงษ์ สายเชื้อ รองปลัดกทม. แต่ขา ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์กลับไปสะดุดพรมทางเข้าห้อง ทำให้เกิดอาการเสียหลักเล็กน้อย
นายพีระพงษ์กล่าวยืนยันว่า ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ แค่สะดุดพรมบนพื้นที่นูนขึ้นมาในทางเข้าห้องประชุมสภาระหว่างที่จะหันมาทักทายกับตน แต่ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์สามารถใช้แขนค้ำยันลูกบิดประตูไว้ได้ ซึ่งตนได้เข้าไปตรวจสอบอาการ และไม่ได้มีการอาการข้อเท้าพลิก หรือหน้ามืดตามที่เป็นข่าวแม้แต่น้อย หลังจากนั้นม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ก็สามารถไปปฏิบัติภารกิจได้ต่อได้
**"บิ๊กแจ๊ส"สั่งรื้อกระสอบทรายเมินกทม.ขู่
ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผบช.น. กล่าวถึง การระดมตำรวจและผู้ต้องขังจากเรือนจำลอกท่อระบายน้ำในพื้นที่กทม. ว่า แม้ว่าจะไม่มีฝนตกหนัก แต่ได้สั่งการให้ทุกพื้นที่ออกสำรวจจุดที่น้ำท่วมขังอยู่ เพื่อจะได้หาจุดที่ต้องลงไปลอกท่อ หากเกิดฝนตกหนัก น้ำที่ท่วมขังจะได้ระบายได้ดีขึ้น อย่างไรก็ตาม ในส่วนที่หลายท้องที่ขุดลอกท่อแล้วไปเจอกระสอบทรายของ กทม.นั้น เรื่องนี้ได้สั่งการไปแล้วให้นำกระสอบทรายออกมาทั้งหมด เพราะกระสอบทรายอาจจะเป็นตัวที่ทำให้การระบายน้ำเป็นปัญหา และส่งผลให้น้ำท่วมขังทำให้การจราจรติดขัดได้
“ที่กทม. บอกว่า กระสอบทรายที่พบเจอในท่อระบายน้ำ เป็นส่วนของเทคนิคนั้น และหากมีการนำกระสอบทรายออกจะไปแจ้งความ เรื่องนี้ก็ต้องให้แจ้งความกันไป แต่หากเราพบ ก็จะเอาออกมา เพราะมันทำให้น้ำขังและระบายออกไม่ได้” พล.ต.ท.คำรณวิทย์กล่าว
**"มาร์ค" ป้อง "คุณชาย" ทำงานดี
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ไม่เป็นเรื่องที่ดีเลยที่เห็น กทม. กับรัฐบาลไม่พยายามที่จะทำงานร่วมกัน ซึ่งตนไม่ได้ว่าฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดโดยเฉพาะ แต่อยากบอกว่ามันเป็นเรื่องที่คนกรุงเทพฯ ไม่อยากจะเห็นภาพแบบนี้ ก็ไม่ทราบว่าเป็นเจตนาของใคร ที่จะให้มันเป็นปัญหา แต่ถ้าจะไปหวังผลเรื่องการเลือกตั้งอะไรนั้น คิดว่าคนกรุงเทพฯ จะดูตามความเป็นจริง สิ่งที่เกิดขึ้น มันควรจะเป็นเรื่องที่มาประชุมร่วมกัน ไม่ใช่เรื่องที่จะมาแสดงความคิดเห็นกันแบบผ่านสื่อ แล้วก็ทำให้ประชาชนไม่สบายใจ
เมื่อถามว่า นายปลอดประสพ สุรัสวดี รมว.วิทย์ศาตร์ ในฐานะประธาน กบอ. ได้สั่งตั้งกรรมการสอบการกระทำของ กทม.นั้น นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า อยากให้สังคมดู เพราะนายปลอดประสพ เวลาเจอพูดคุยกัน ก็บุคลิกหนึ่ง เวลาเห็นกล้องแล้วก็ แอคชั่นอีกแบบ กลัวไม่สมจริง นี่แหละครับคือปัญหา ทีนี้ก็บอกไปแล้วว่า อย่าสร้างบรรยากาศอย่างนี้เลย จะไปหวังทางการเมืองอะไรตนไม่ทราบ แต่ว่าทำแล้วคนกรุงเทพฯ ไม่มีความสุขหรอก มาช่วยกันทำให้กรุงเทพฯ มีความสุขดีกว่า ส่วนที่นายปลอดประสพ ก็มีชื่อว่าอาจเป็นผู้สมัคร กทม. ก็ไม่อยากไปก้าวก่าย เพราะว่าเป็นเรื่องของทางพรรคเพื่อไทย แต่ก็ทราบว่าสนใจอยู่
** เรียกร้องคนพท.ขอโทษประชาชน
นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต โฆษพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ขอเรียกร้องให้นายปลอดประสพ รวมทั้งคณะของนายพร้อมพงศ์ เดินทางไปยังแยกลำสาลีที่มีการไปนำถุงทรายออกจากท่อระบายน้ำ และกล่าวหา กทม. ควรจะเดินทางกลับไปที่จุดเดิมเพื่อกล่าวคำขอโทษกับประชาชน หลังจากได้สร้างความเสียหายจากการเล่นจำอวดและทำให้คน กทม.อยู่บนความกังวล และขอเรียกร้องให้นายพร้อมพงศ์ ไถ่โทษด้วยการแสดงลิเกหน้าท่อระบายน้ำในวันอาทิตย์นี้ เพื่อไถ่บาปด้วยการสร้างความเพลิดเพลินใจให้คนกรุงเทพฯ ที่ต้องทุกข์ทรมานกับความกังวลในเรื่องน้ำท่วม
** จับตาพระพิรุณวกทะเลจีนใต้เข้าชุมพร
นายชวลิต จันทรรัตน์ กรรมการผู้จัดการหน่วยธุรกิจแหล่งน้ำ บริษัท ทีมกรุ๊ป จำกัด กล่าวว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างจับตาไต้ฝุ่นพระพิรุณ ซึ่งขณะนี้อยู่บริเวณแถบประเทศฟิลิปปินส์ โดยจะไม่ส่งกระทบกับภาคเหนือ ภาคกลางและกรุงเทพฯ อย่างแน่นอน เนื่องจากหมดฤดูมรสุมในบริเวณดังกล่าวแล้ว ขณะเดียวกัน ฤดูมรสุมในช่วงเดือนต.ค.-พ.ย. จะเลื่อนไปอยู่บริเวณภาคใต้ตอนบนแทน ซึ่งเป็นไปได้ว่า เส้นทางของพระพิรุณที่วนไปมาแถวประเทศฟิลิปปินส์จะอ้อมวนแหลมญวน เข้าสู่ทะเลจีนใต้ และผ่านเข้าสู่จ.ชุมพร ตามลำดับ ซึ่งเป็นเส้นทางของพายุโดยปกติในฤดูนี้อยู่แล้ว โดยจะลงสู่ทิศตะวันตกเฉียงเหนือแทน และหากไม่เคลื่อนเข้าสู่ประเทศฟิลิปปินส์ หรือเข้าสู่ไต้หวัน ก็น่าจะสะสมกำลังมากขึ้น เพื่อเข้าสู่ทะเลจีนใต้ และประเทศไทยต่อไป โดยต้องใช้เวลาอีกประมาณ 2 วัน จึงจะทราบเส้นทางที่แน่ชัดของพายุพระพิรุณ
วานนี้ (10 ต.ค.) เมื่อเวลา 09.45 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้กล่าวถึงสถานการณ์น้ำในขณะนี้ว่า มีความสบายใจขึ้น แต่ยังไม่สามารถนิ่งนอนใจได้จนกว่าจะแน่ใจว่าพายุอีกลูกหนึ่งไม่มา ซึ่งรัฐบาลได้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และพอใจการทำงานของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและระบบการเตือนภัย ที่ถือว่าดีขึ้นเยอะ เจ้าหน้าที่มีการปรับตัวมากขึ้น แต่อาจจะต้องเน้นในเรื่องของการประกาศเตือนประชาชนและเน้นการทำงานของเจ้าหน้าที่ให้มีประสิทธิ์ภาพมากขึ้น ซึ่งที่ผ่านมา การทำงานของคณะกรรมการบริหารจัดการน้ำและอุทกภัย (กบอ.) และกระทรวงมหาดไทย สอดคล้องกันมากขึ้น
ผู้สื่อข่าวถามถึงการทำงานของกบอ.และกรุงเทพมหานคร (กทม.) ที่ขัดกันอยู่ตลอด จนทำให้เกิดปัญหาน้ำท่วมขังในพื้นที่ กทม. โดยเฉพาะกรณีกระสอบทราย น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า การทำงานของ กบอ. เป็นลักษณะของการดูในภาพรวม ซึ่งตรงนี้คงเป็นปัญหาทางเทคนิค จึงอยากให้เจ้าหน้าที่ทางเทคนิคเป็นผู้ชี้แจง แต่ทั้งหมดนี้ ก็ต้องมีการพูดคุยกัน
**จับผิด 61 ล้านงบลอกท่อกทม.
ที่รัฐสภา นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ รักษาการโฆษกพรรคเพื่อไทย พร้อมด้วยนายจิรายุ ห่วงทรัพย์ รักษาการรองโฆษกพรรคเพื่อไทย ร่วมกันแถลงข่าวกรณีได้รับเรื่องร้องเรียนจากประชาชนและส่วนราชการ ว่า อาจมีการทุจริตงบประมาณการลอกท่อของกทม. 30 คลองสายหลัก อาทิ คลองไผ่สิงโต,คลองสาหร่าย คลองวัดไผ่เงิน ด้วยงบประมาณกว่า 61ล้านบาท เพราะการดำเนินการในแต่ละจุดยังไม่เสร็จสิ้น ทำให้เกิดปัญหา จึงเรียกร้องให้ม.ร.ว.สุขุมพันธ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการ กทม. และผู้บริหาร กทม. ชี้แจงรายละเอียด และไม่ควรอ้างว่าเป็นเรื่องเทคนิค รวมทั้งเรียกร้องให้หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์และสมาชิกร่วมตรวจสอบเรื่องดังกล่าวด้วย
นายพร้อมพงศ์กล่าวต่อว่า จะนำเรื่องดังกล่าวเข้าสู่การพิจารณาของคณะกรรมาธิการป้องกันและปราบปรามการทุจริต สภาผู้แทนราษฎร เพื่อตรวจสอบการบริหารงานของกทม. โดยยืนยันว่าไม่ใช่ประเด็นทางการเมือง รวมถึงแสดงความผิดหวังที่นายปราโมทย์ ไม้กลัด คณะกรรมการยุทธศาสตร์เพื่อวางระบบการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ (กยน.) ที่ออกมาปกป้องกทม. กรณีการวางกระสอบในท่อระบายน้ำว่าเป็นเรื่องเทคนิคการป้องกันน้ำท่วม
ด้านนายจิรายุกล่าวเสริมว่า ขอท้าให้ม.ร.ว.สุขุมพันธ์ แจ้งความดำเนินคดีกับตนและคณะ ที่รื้อกระสอบทรายออกจากท่อระบายน้ำ เพื่อจะได้น้ำข้อมูลเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม เนื่องจากขณะนี้ ปรากฎชัดแล้วว่า ไอ้โม่ง ที่กทม.อ้างคือใคร นอกจากนี้ ก่อนที่ผู้ว่าฯ กทม.จะหมดวาระในวันที่ 10 พ.ย.นี้ พรรคเพื่อไทยจะจับตาการใช้งบประมาณของสำนักงานเขตต่างๆ ไม่ให้นำงบประมาณไปใช้ในการประชาสัมพันธ์เลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. ด้วย
**คุณชายไม่กังวล พท.สอบโกง
ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการ กทม. กล่าวว่า ไม่รู้สึกกังวลที่นายพร้อมพงศ์ จะยื่นเรื่องเข้าสู่การพิจารณาของคณะกรรมมาธิการป.ป.ช. สภาผู้แทนราษฎร เพื่อตรวจสอบว่ามีการทุจริตการลอกท่อระบายน้ำของกทม.หรือไม่ รวมถึงเตรียมยื่นหนังสือถึงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เพื่อสั่งปลดผู้ว่าฯกทม. เพราะตนทำงานรับใช้ประชาชนไม่ได้ทำงานให้รัฐบาลหรือ กบอ. เพราะตนมีเจ้านายเพียง 2 คน คือ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและประชาชน ยืนยันจะทำงานจบครบวาระ แต่หากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยจะสั่งปลด ก็เป็นอำนาจหน้าที่ของกระทรวงที่สามารถปลดผู้ว่าฯ กทม. ออกจากตำแหน่งได้ ถึงแม้ว่าตนจะถูกปลดจากตำแหน่ง ก็จะกลับมาลงสมัครรับเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. อีกครั้ง
ส่วนการนำกระสอบทรายปิดปากท่อระบายน้ำ เป็นเรื่องของเทคนิคการปิดล้อมพื้นที่ เพื่อป้องกันไม่ให้น้ำไหลเข้าท่วมถนนสายหลัก ซึ่งนายปราโมทย์ ไม้กลัด อดีตอธิบดีกรมชลประทาน ก็ออกมายืนยันว่าเป็นเทคนิคที่หลายประเทศ รวมถึงกรมชลประทานที่ใช้เทคนิคนี้ด้วย อย่างไรก็ตาม การชี้แจงรายละเอียดเกี่ยวกับการนำกระสอบทรายปิดท่อระบายน้ำ ขอให้เป็นหน้าที่ของข้าราชการประจำในการรวบรวมเอกสารเพื่อชี้แจง
"ประหลาดใจว่าในการประชุมร่วมกับ กบอ. ทุกครั้ง ไม่มีการวิพากษ์วิจารณ์เกี่ยวกับกระสอบทรายแต่อย่างใด และที่ผ่านมา นายกรัฐมนตรีได้ยืนยันตลอดว่าจะดำเนินงานร่วมกับกทม. แต่ยังมีการออกมาวิพากษ์วิจารณ์ผ่านสื่อ" ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์กล่าว
**กทม.ปัดข่าว"คุณชาย"วูบหกล้ม
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังที่มีกระแสข่าวออนไลน์เมื่อช่วงบ่ายว่า ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ เกิดอาการหน้ามืด หกล้ม ระหว่างเข้าประชุมสภา กทม. สาเหตุมาจากการพักผ่อนน้อยจากการเตรียมรับมือปัญหาน้ำท่วมกรุงเทพฯ นั้น จากการตรวจสอบพบว่า ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ ไม่ได้เกิดอาการหน้ามืดแต่อย่างใด เพราะช่วงเวลาดังกล่าวขณะที่ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์กำลังเดินเข้าไปในห้องประชุมสภากทม. และได้หันมาพูดคุยกับนายพีระพงษ์ สายเชื้อ รองปลัดกทม. แต่ขา ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์กลับไปสะดุดพรมทางเข้าห้อง ทำให้เกิดอาการเสียหลักเล็กน้อย
นายพีระพงษ์กล่าวยืนยันว่า ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ แค่สะดุดพรมบนพื้นที่นูนขึ้นมาในทางเข้าห้องประชุมสภาระหว่างที่จะหันมาทักทายกับตน แต่ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์สามารถใช้แขนค้ำยันลูกบิดประตูไว้ได้ ซึ่งตนได้เข้าไปตรวจสอบอาการ และไม่ได้มีการอาการข้อเท้าพลิก หรือหน้ามืดตามที่เป็นข่าวแม้แต่น้อย หลังจากนั้นม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ก็สามารถไปปฏิบัติภารกิจได้ต่อได้
**"บิ๊กแจ๊ส"สั่งรื้อกระสอบทรายเมินกทม.ขู่
ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผบช.น. กล่าวถึง การระดมตำรวจและผู้ต้องขังจากเรือนจำลอกท่อระบายน้ำในพื้นที่กทม. ว่า แม้ว่าจะไม่มีฝนตกหนัก แต่ได้สั่งการให้ทุกพื้นที่ออกสำรวจจุดที่น้ำท่วมขังอยู่ เพื่อจะได้หาจุดที่ต้องลงไปลอกท่อ หากเกิดฝนตกหนัก น้ำที่ท่วมขังจะได้ระบายได้ดีขึ้น อย่างไรก็ตาม ในส่วนที่หลายท้องที่ขุดลอกท่อแล้วไปเจอกระสอบทรายของ กทม.นั้น เรื่องนี้ได้สั่งการไปแล้วให้นำกระสอบทรายออกมาทั้งหมด เพราะกระสอบทรายอาจจะเป็นตัวที่ทำให้การระบายน้ำเป็นปัญหา และส่งผลให้น้ำท่วมขังทำให้การจราจรติดขัดได้
“ที่กทม. บอกว่า กระสอบทรายที่พบเจอในท่อระบายน้ำ เป็นส่วนของเทคนิคนั้น และหากมีการนำกระสอบทรายออกจะไปแจ้งความ เรื่องนี้ก็ต้องให้แจ้งความกันไป แต่หากเราพบ ก็จะเอาออกมา เพราะมันทำให้น้ำขังและระบายออกไม่ได้” พล.ต.ท.คำรณวิทย์กล่าว
**"มาร์ค" ป้อง "คุณชาย" ทำงานดี
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ไม่เป็นเรื่องที่ดีเลยที่เห็น กทม. กับรัฐบาลไม่พยายามที่จะทำงานร่วมกัน ซึ่งตนไม่ได้ว่าฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดโดยเฉพาะ แต่อยากบอกว่ามันเป็นเรื่องที่คนกรุงเทพฯ ไม่อยากจะเห็นภาพแบบนี้ ก็ไม่ทราบว่าเป็นเจตนาของใคร ที่จะให้มันเป็นปัญหา แต่ถ้าจะไปหวังผลเรื่องการเลือกตั้งอะไรนั้น คิดว่าคนกรุงเทพฯ จะดูตามความเป็นจริง สิ่งที่เกิดขึ้น มันควรจะเป็นเรื่องที่มาประชุมร่วมกัน ไม่ใช่เรื่องที่จะมาแสดงความคิดเห็นกันแบบผ่านสื่อ แล้วก็ทำให้ประชาชนไม่สบายใจ
เมื่อถามว่า นายปลอดประสพ สุรัสวดี รมว.วิทย์ศาตร์ ในฐานะประธาน กบอ. ได้สั่งตั้งกรรมการสอบการกระทำของ กทม.นั้น นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า อยากให้สังคมดู เพราะนายปลอดประสพ เวลาเจอพูดคุยกัน ก็บุคลิกหนึ่ง เวลาเห็นกล้องแล้วก็ แอคชั่นอีกแบบ กลัวไม่สมจริง นี่แหละครับคือปัญหา ทีนี้ก็บอกไปแล้วว่า อย่าสร้างบรรยากาศอย่างนี้เลย จะไปหวังทางการเมืองอะไรตนไม่ทราบ แต่ว่าทำแล้วคนกรุงเทพฯ ไม่มีความสุขหรอก มาช่วยกันทำให้กรุงเทพฯ มีความสุขดีกว่า ส่วนที่นายปลอดประสพ ก็มีชื่อว่าอาจเป็นผู้สมัคร กทม. ก็ไม่อยากไปก้าวก่าย เพราะว่าเป็นเรื่องของทางพรรคเพื่อไทย แต่ก็ทราบว่าสนใจอยู่
** เรียกร้องคนพท.ขอโทษประชาชน
นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต โฆษพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ขอเรียกร้องให้นายปลอดประสพ รวมทั้งคณะของนายพร้อมพงศ์ เดินทางไปยังแยกลำสาลีที่มีการไปนำถุงทรายออกจากท่อระบายน้ำ และกล่าวหา กทม. ควรจะเดินทางกลับไปที่จุดเดิมเพื่อกล่าวคำขอโทษกับประชาชน หลังจากได้สร้างความเสียหายจากการเล่นจำอวดและทำให้คน กทม.อยู่บนความกังวล และขอเรียกร้องให้นายพร้อมพงศ์ ไถ่โทษด้วยการแสดงลิเกหน้าท่อระบายน้ำในวันอาทิตย์นี้ เพื่อไถ่บาปด้วยการสร้างความเพลิดเพลินใจให้คนกรุงเทพฯ ที่ต้องทุกข์ทรมานกับความกังวลในเรื่องน้ำท่วม
** จับตาพระพิรุณวกทะเลจีนใต้เข้าชุมพร
นายชวลิต จันทรรัตน์ กรรมการผู้จัดการหน่วยธุรกิจแหล่งน้ำ บริษัท ทีมกรุ๊ป จำกัด กล่าวว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างจับตาไต้ฝุ่นพระพิรุณ ซึ่งขณะนี้อยู่บริเวณแถบประเทศฟิลิปปินส์ โดยจะไม่ส่งกระทบกับภาคเหนือ ภาคกลางและกรุงเทพฯ อย่างแน่นอน เนื่องจากหมดฤดูมรสุมในบริเวณดังกล่าวแล้ว ขณะเดียวกัน ฤดูมรสุมในช่วงเดือนต.ค.-พ.ย. จะเลื่อนไปอยู่บริเวณภาคใต้ตอนบนแทน ซึ่งเป็นไปได้ว่า เส้นทางของพระพิรุณที่วนไปมาแถวประเทศฟิลิปปินส์จะอ้อมวนแหลมญวน เข้าสู่ทะเลจีนใต้ และผ่านเข้าสู่จ.ชุมพร ตามลำดับ ซึ่งเป็นเส้นทางของพายุโดยปกติในฤดูนี้อยู่แล้ว โดยจะลงสู่ทิศตะวันตกเฉียงเหนือแทน และหากไม่เคลื่อนเข้าสู่ประเทศฟิลิปปินส์ หรือเข้าสู่ไต้หวัน ก็น่าจะสะสมกำลังมากขึ้น เพื่อเข้าสู่ทะเลจีนใต้ และประเทศไทยต่อไป โดยต้องใช้เวลาอีกประมาณ 2 วัน จึงจะทราบเส้นทางที่แน่ชัดของพายุพระพิรุณ
