ASTVผู้จัดการรายวัน-เกมการเมืองเรื่องถุงทรายอุดท่อระบายน้ำยังดุเดือด "ปลอด" จี้ กทม.ตอบ 3 ข้อ เป็นเทกนิกบริหารจัดการน้ำอย่างไร จี้เอาออกภายใน 15 วัน หากขัดขืนจะใช้อำนาจกบอ.จัดการอ เย้ยหากเป็นเทกนิกป้องกันน้ำท่วมจริง ให้ใช้เป็นนโยบายหาเสียงชิงผู้ว่าฯกทม. เลย ด้าน"คุณชาย"ยันเป็นเทคนิกการระบายน้ำ ไม่ให้น้ำในคลองไหลล้นขึ้นมาท่วมถนน หากมีปัญหาควรพูดที่ประชุมกบอ. อย่ามาพูดผ่านสื่อ สั่งเอาถุงทรายลงไปอุดท่ออีก พร้อมแจ้งความลงบันทึกประจำวัน หากกบอ.ส่งคนมารื้อ ถือว่าก้าวก่ายการบริหารงานของกทม. มีความผิดตามมาตรา 266 เจอดีแน่ ขณะที่ส.ว.จี้นายกฯ ตั้งกก.สอบถุงทรายการเมือง ฝ่ายค้านตั้งกระทู้สดพฤหัสฯนี้
วานนี้ (9 ต.ค.) นายปลอดประสพ สุรัสวดี รมว.วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ในฐานะประธานคณะกรรมการบริหารจัดการน้ำและอุทกภัย (กบอ.) กล่าวถึงกรณี กรุงเทพมหานคร (กทม.) ระบุว่า กระสอบทรายที่อยู่ในท่อระบาย น้ำบริเวณ ถ.ศรีนครินทร์ เป็นเทคนิคการบริหารจัดการน้ำของกทม. ว่า เป็นเหตุผลที่ฟังไม่ขึ้น และขณะนี้ได้ทำหนังสือสอบถามกทม. เพื่อขอให้ชี้แจงใน 3 ประเด็น คือ
1. ขอให้อธิบายสาเหตุอย่างละเอียดที่นำกระสอบทรายไปวางในท่อระบายน้ำดังกล่าว และหากอ้างว่าเป็นไปตามหลักการจัดการน้ำ ขอถามว่าใช้หลักการใด อย่างไร
2. กทม.ได้นำกระสอบทรายไปวางในท่อระบายน้ำที่บริเวณใดบ้าง
3. กทม.ได้เคยมีการประเมินผลจากการนำกระสอบทรายไปวางในท่อระบายน้ำหรือไม่ และจะเกิดผลกระทบในบริเวณใด ทั้งนี้ กทม.ต้องตอบให้ชัด เพราะเป็นการส่งจดหมายราชการ อย่างเป็นทางการ หากไม่ตอบก็อาจจะขัดกับปัญหาทางวินัยได้
ทั้งนี้ ขอให้กทม.นำกระสอบทรายเหล่านั้นออกจากท่อระบายน้ำภายใน 15 วัน ไม่เช่นนั้นกบอ.จะให้หน่วยงานไปนำออกเอง และถ้ากทม.จะฟ้องศาลปกครองว่า กบอ. ละเมิดอำนาจหน้าที่ และกรรมสิทธิ์ในกระสอบทราย ก็เป็นสิทธิที่จะฟ้องศาลได้ แต่ตนศึกษากฎหมายมาแล้ว และมั่นใจว่ารัฐบาลกลางมีอำนาจในการบริหารจัดการในปัญหาที่เป็นประโยชน์ต่อส่วนรวม และเพื่อความสงบเรียบร้อยของสังคม
นายปลอดประสพ ยังตั้งข้อสังเกตว่า การอ้างเรื่องเทคนิคการระบายน้ำ เป็นสิ่งที่เตรียมการไว้ไม่นาน ภายหลังถูกจับได้ เพราะทางเทคนิคไม่มีใครทำด้วยวิธี ขั้นตอนแบบนี้ การเอากระสอบทรายไว้ด้านล่างมีปัญหา เพราะกันน้ำไม่ได้ กระสอบเลื่อน และทรายจะแตก รวมไปถึงกันทางน้ำที่จะไหลไปทางอื่น หรือถ้าหาก ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าฯกทม. มั่นใจว่าแนวทางดังกล่าวแก้ปัญหาได้ ก็ขอให้ประกาศเป็นนโยบายที่จะเสนอตัวชิงเป็นผู้ว่าฯกทม.เลย ตนจะคอยดูว่าจะมีคนเลือกเป็นผู้ว่าฯกทม. อีกครั้งหรือไม่
นอกจากนี้ นายปลอดประสพ ยังขอท้าทายไปยัง นายอลงกรณ์ พลบุตร ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ที่เคยตั้งกระทู้ถามตนในสภา และเคยบอกจะจับตัวคนนำกระสอบทรายไปทิ้งในท่อระบายน้ำ โดยตนจะโทรศัพท์ไปหานายอลงกรณ์ เพื่อพาไปหาคนที่นำกระสอบทรายไปทิ้งในท่อระบายน้ำ และให้ตั้งข้อหากับคนที่กระทำผิดเอง
" ผมพร้อมจะคุยด้วยดีๆ แบบนักวิชาการ เพราะโดยพื้น ผมเป็นนักวิชาการอยู่แล้ว แต่ถ้าซี้ซั้ว ซื่อบื้อ ดื้อตาใส แบบนี้มันก็ไม่ไหว แบบนี้มันไม่มีที่ไหนในโลก จะมีก็คือกทม.ที่เดียวในโลกนี่แหละ" นายปลอดประสพ กล่าว
ส่วนการประเมินสถานการณ์อุทกภัยทั่วประเทศนั้น นายปลอดประสพ กล่าวว่า ในพื้นที่ภาคกลาง ภาคเหนือ ไม่น่าจะมีพายุแล้ว แต่ในกรณีภาคกลางลงมาถึงภาคใต้ ก็จะยังคงมีอิทธิพลของร่องความกดอากาศต่ำ โดยถ้ามีพายุมาในวันหน้า ก็จะเป็นภาคใต้ ขณะที่กรณีพายุแกมีถือว่าหมดห่วงไปแล้ว และในส่วนของน้ำท่วมพื้นที่ภาคกลาง ภาคตะวันออก ถ้าเลยไปถึงวันที่ 31 ธ.ค.55 ก็ถือว่าไม่มีอะไรน่าห่วงแล้วเช่นกัน
นายปลอดประสพ ยังกล่าวถึงความคืบหน้าโครงการออกแบบก่อสร้างระบบการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำอย่างยั่งยืน และระบบแก้ไขปัญหาอุทกภัยของประเทศไทยว่า คาดว่าจะใช้ระยะเวลาประมาณ 1 เดือนครึ่ง จึงจะทราบรายชื่อ 30 กลุ่มบริษัทที่จะได้เข้าทำงานโครงการบริหารจัดการน้ำในแต่ละโครงการ ซึ่งขณะนี้รัฐบาลยังไม่ได้มีการใช้เงิน แต่จะเริ่มใช้ได้หลังจากเดือน เม.ย.56 ไปแล้ว
**ผู้ว่าฯโต้"ปลอด"ยันเทคนิกของกทม.
ในวันเดียวกันนี้ ม.ร.ว. สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าฯกทม. พร้อมคณะผู้บริหารกทม. ได้ลงพื้นที่อำนวยการการป้องกันปัญหาในจุดเสี่ยง และตรวจความพร้อมการติดตั้งเครื่องผลักดันน้ำคลองเปรมประชากร บริเวณวัดเทวสุนทร และตรวจความพร้อมศูนย์ปฏิบัติการเร่งด่วนแก้ไขปัญหาน้ำท่วมกรุงเทพมหานคร โดยบริเวณนี้ได้ติดตั้งเครื่องผลักดันน้ำของสำนักการระบายน้ำ จำนวน 2 ลำ เครื่องสูบน้ำแรงดันสูงชนิดไฟฟ้าขนาด 24 นิ้ว จำนวน 1 เครื่อง และเครื่องผลักดันน้ำของกองทัพเรืออีก 2 ลำ
ผู้ว่าฯกทม. ยังได้กล่าวถึง กรณีที่นำกระสอบทราย ลงไปในท่อระบายน้ำที่ ถ.ศรีนครินทร์ ว่า เป็นการดำเนินการทางเทคนิคที่หลายประเทศก็นำมาใช้ อย่างประเทศเนเธอร์แลนด์ และน้ำท่วมเมื่อปี 2554 กทม. ก็นำไปใช้ที่ซอยแอนเน็กซ์ เขตสายไหม ที่นำกระสอบทรายปิดล้อม ไม่ให้น้ำในคลองสองไหลเข้าพื้นที่ แล้วจึงติดตั้งเครื่องสูบน้ำระบายน้ำออกคลองสอง ทำให้ใช้เวลาเพียงไม่กี่วันก็ระบายน้ำในซอยให้แห้ง ขอยืนยันว่า กระสอบทรายเป็นอุปกรณ์หนึ่งที่สามารถช่วยระบายน้ำ ไม่ได้เป็นอุปสรรคต่อการกีดขวางทางน้ำ
ส่วนกรณีที่ นายปลอดประสพ ออกมาขอให้ กทม.ชี้แจงเทคนิควางกระสอบทรายในท่อระบายน้ำ และขอให้นำออกจากท่อทั้งหมดภายใน 15 วันนั้น ผู้ว่าฯกทม. กล่าวว่า ขอให้กบอ.แจ้งในที่ประชุมกบอ. ซึ่งก็มีตัวแทนกทม. เข้าร่วมประชุมทุกครั้ง อย่าออกมาพูดผ่านสื่ออย่างนี้
"การใช้เทคนิคดังกล่าว เป็นการบริหารจัดการน้ำภายในของกทม. หากหน่วยงานอื่นจะดำเนินการใดๆ ก็ควรดูอำนาจหน้าที่ของตัวเองด้วย เพราะกทม.ก็มี พ.ร.บ.ระเบียบบริหารราชการกรุงเทพมหานคร รองรับในการดำเนินการ ซึ่งเรื่องนี้มันเรื่องทางเทคนิค ผมไม่อยากให้มีเรื่องการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้อง อีกทั้งกรุงเทพฯ มีพื้นที่กว่า 1,600 ตารางกิโลเมตร และคิดว่าไม่จำเป็นที่ต้องรายงานให้กบอ. ทราบทุกจุด" ผู้ว่าฯกทม. กล่าว
ม.ร.ว.สุขุมพันธ์ กล่าวด้วยว่า กทม.ไม่ได้มีปัญหากับกบอ. มีเพียงส.ส.ไม่กี่คนเท่านั้น หากต้องการทราบข้อเท็จจริงก็ขอให้ประสานมาที่ กทม. ไม่ใช่รื้อกระสอบทรายออกอย่างนี้ และอยากขอบคุณประธาน กบอ. ที่ออกมาชี้แนะ แต่ไม่มีเวลาจริงๆ ถ้าจะมาสนใจเรื่องท่อในกทม. ขอให้ท่านไปสนใจพี่น้องใน อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี ที่กำลังประสบปัญหาน้ำท่วมจะดีกว่า
หลังจากนั้น ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ ได้เดินทางไปตรวจความพร้อมศูนย์ปฏิบัติการเร่งด่วนแก้ไขปัญหาน้ำท่วมกรุงเทพมหานคร ที่บริเวณสวนหย่อมใต้ทางด่วน ถนนประดิษมนูธรรม ตัดถนนลาดพร้าว เขตลาดพร้าว
**กทม.นำถุงทรายถมคืน-แจ้งความ
นายวสันต์ มีวงษ์ โฆษก กทม. กล่าวถึงเรื่องนี้ ว่า เป็นเรื่องปกติ ซึ่งหลายหน่วยงานก็ทำเช่นนี้ อีกทั้งไม่มีหน่วยงานใดที่จะนำกระสอบทรายไปวางเพื่อกีดขวางทางน้ำ จึงอยากให้นายปลอดประสพ มองให้รอบด้าน เรื่องการแก้ปัญหาน้ำท่วม เพราะที่ผ่านมากรมทางหลวง ก็นำกระสอบทรายไปบล็อกน้ำไว้เช่นกัน
" กทม.โดยสำนักการระบายน้ำ ได้นำกระสอบทรายกว่า 100 ลูก ถมคืนลงไปในท่อระบายน้ำที่ ถนนศรีนครินทร์ และได้ส่งผู้แทนไปแจ้งความให้ลงบันทึกประจำวันว่า ที่คณะกรรมการบริหารจัดการน้ำและอุทกภัย มารื้อกระสอบทรายของ กทม. เป็นอุปสรรคต่อการบริหารจัดการน้ำ โดยกระสอบทรายที่วางในท่อระบายน้ำนั้น จะช่วยชะลอการไหลของน้ำในคลองที่เชื่อมกับท่อระบายน้ำ ทำให้น้ำในคลองไม่เอ่อล้นมาท่วมผิวถนน แล้วสูบน้ำออก จะช่วยให้ผิวถนนแห้งเร็วขึ้น ซึ่งนอกจากที่ถนนศรีนครินทร์ ยังมีพื้นที่อื่นๆในกทม. ที่ใช้กระสอบทรายมาช่วยบล็อก ก่อนที่จะสูบน้ำออกในจุดอ่อนที่มีน้ำท่วมขัง เช่น ลานพระบรมรูปทรงม้า ถนนสุขุมวิทฝั่งใต้ ถนนงามวงศ์วาน ถนนรามคำแหง ถนนพหลโยธิน บริเวณสนามเป้า และที่อนุสรณ์สถาน
** อุดถุงทรายลง่อเป็นแผนบล็อกน้ำ
นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่โฆษกพรรคเพื่อไทย และส.ส.เพื่อไทย เดินทางไปนำถุงทรายออกจากท่อระบายน้ำ บริเวณแยกลำสาลี ว่า เป็นการแสดงปาหี่ ตบตาประชาชน แสดงให้เห็นถึงความไม่รู้ เกี่ยวกับระบบการระบายน้ำ เอาความทุกข์ของประชาชนมาเป็นประโยชน์ทางการเมือง ละเมิดทรัพย์สินราชการ แทรกแซงการทำหน้าที่ของข้าราชการ ขัดรัฐธรรมนูญ มาตรา 266
ทั้งนี้สาเหตุที่กทม.นำถุงทรายไปอุดในบริเวณดังกล่าว เพราะต้องการบล็อกน้ำจากคลองหัวหมาก เนื่องจากระดับน้ำคลองหัวหมากสูงกว่าพื้นที่ถนน และไหลย้อนมาท่วม ถ.ศรีนครินทร์ และ มอเตอร์เวย์ จึงต้องบล็อกบางจุด เพื่อเปลี่ยนทิศทางให้น้ำไปยังคลองกะจะ ที่เชื่อมโยงกับคลองแสนแสบ จากนั้นน้ำจะถูกผลักดันไปยังอุโมงค์ยักษ์เพื่อออกทะเล ป้องกันปัญหาน้ำท่วมกทม. ขณะนี้พื้นที่บริเวณดังกล่าวจะเห็นได้ว่า ไม่มีปัญหาน้ำท่วมเหมือนในอดีต เพราะการบริหารจัดการของกทม. แต่คนของพรรคเพื่อไทย เบาปัญญา จงใจเอามาดิสเครดิตทางการเมือง ผลเสียจึงตกอยู่กับคนกทม.
" ไม่มียุคสมัยไหนที่นักการเมืองมีวุฒิภาวะตกต่ำอย่างน่าละอายใจอย่างนี้ คนกรุงเทพฯ ต้องให้บทเรียน ถ้าหากพรรคเพื่อไทย อยากบริหาร กทม. ให้แข่งที่นโยบาย ไม่ใช่ทำร้ายประชาชนอย่างที่กำลังทำในขณะนี้ ขอให้ละอายใจบ้าง ถ้าอยากเป็นผู้ว่าฯกทม. เอาชนะพรรคประชาธิปัตย์ในการเลือกตั้ง แต่ถ้าทำอย่างนี้เชื่อว่าคนกทม. จะลงโทษพรรคเพื่อไทย ทั้งนี้นอกจาก กทม. จะแจ้งความทำลายทรัพย์สินทางราชการ และการแทรกแซงการบริหารแล้ว ในส่วนของพรรคจะดูว่า การที่ส.ส.ไปแทรกแซงการทำงานของข้าราชการ จะผิดรัฐธรรมนูญ มาตรา 266 หรือไม่ ถ้าประชาชนได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม ก็มีสิทธิฟ้องร้องนักการเมืองพรรคเพื่อไทย ที่ทำให้เกิดผลกระทบกับประชาชน เพื่อหวังผลทางการเมืองด้วย" นายชวนนท์ กล่าว
**ส.ว. จี้นายกฯตั้งกก.สอบกรณีถุงทราย
ในการประชุมวุฒิสภา วานนี้ ช่วงก่อนเข้าสู่วาระการประชุม ประธานวุฒิสภา ได้เปิดโอกาสให้สมาชิกหารือ โดยพล.ร.อ.สุรศักดิ์ ศรีอรุณ ส.ว.สรรหา กล่าวถึงกรณีพบถุงทรายอุดในท่อระบายน้ำของกทม. ว่า เรื่องนี้สำนักระบายน้ำ กทม.ให้เหตุผลว่า เป็นพื้นที่ต่ำ จึงต้องนำถุงทรายไปใส่ เพื่อช่วยการระบายน้ำ ขณะที่ประธานกบอ. ให้ข้อเท็จจริงและตั้งคำถามไปยังกทม.ให้ชี้แจงเรื่องนี้ ตนในฐานะผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย เนื่องจากได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมเห็นว่า เป็นการสะท้อนให้เห็นถึงปัญหาการขาดความชัดเจน ในเรื่องการแบ่งมอบพื้นที่ รวมถึงอำนาจหน้าที่ กฎหมายบางข้อยังไม่มีความชัดเจน และฐานข้อมูลของกทม. ยังไม่มีความชัดเจน ดังนั้นข้อเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์เพื่อการวางระบบการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ (กยน.) ได้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง เพื่อแก้ไขปัญหาทั้งหมด
**“วิปค้าน”ตั้งกระทู้ถามสดเกมการเมืองน้ำท่วม
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะประธานวิปฝ่ายค้าน กล่าวว่า ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎรในวันพฤหัสบดีนี้ ฝ่ายค้านเตรียมตั้งกระทู้ถามสด เรื่อง“เมื่อไรรัฐบาลจะเลิกเล่นการเมืองน้ำท่วมกับกทม.”
**"ธีระชน"ฟ้องหมิ่น"ภักดีหาญส์"
นายอัศวัชร์ อภัยวงศ์ ที่ปรึกษา นายธีระชน มโนมัยพิบูลย์ รองผู้ว่าฯ กทม. กล่าวว่า นายธีระชน ได้มอบหมายให้นายจงกล วิสุทธิสิงห์ ทนายความ ยื่นฟ้องดำเนินคดี นายภักดีหาญส์ หิมะทองคำ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ต่อศาลอาญา ฐานหมิ่นประมาท ที่นำเรื่องที่เป็นเท็จ มาแถลงข่าวผ่านสื่อมวลชนหลายฉบับว่า นายธีระชน ได้ดำเนินโครงการต่างๆ แบบไม่โปร่งใส จนทำให้เกิดความเสียหาย ขาดความน่าเชื่อถือต่อสาธารณชน ทั้งๆที่ นายธีระชน ปฏิบัติหน้าที่ราชการ จำเป็นต้องได้รับความไว้วางใจจากประชาชน จากผู้ว่าฯ กทม. และจากข้าราชการกทม.ทุกระดับ ซึ่งที่ผ่านมาได้ปฏิบัติหน้าที่ราชการด้วยความซื่อสัตย์สุจริต ไม่เคยทำความเสื่อมเสียแก่องค์กร แต่ประการใด โดยมีหลายโครงการที่นายธีระชน ถูกกล่าวหาจากนายภักดีหาญส์ ได้แก่
1.โครงการเช่ารถเก็บมูลฝอย จำนวน 3 โครงการ เป็นงานในกำกับของสำนักสิ่งแวดล้อม ซึ่งนายธีระชน ไม่เคยได้รับมอบหมายหรือมอบอำนาจจากผู้ว่าฯ กทม. ให้ดูแลและสั่งการในสำนักดังกล่าว
2.โครงการดูดล้างท่อขนาด 3 ลูกบาศก์เมตร จำนวน 42 คัน เป็นโครงการที่ต้นเรื่องมาจากสำนักงานเขตต่างๆ ที่ร้องขอให้ทางสำนักงานระบายน้ำพิจารณา และได้เสนอของบประมาณ จึงได้ดำเนินการจัดซื้อด้วยวิธีการประกวดราคาผ่านระบบอิเลกทรอนิก (อีอ๊อกชั่น) ตามระเบียบราชการทุกขั้นตอน และปัจจุบันยังคงใช้งานตามปรกติ ไม่ใช่เป็นการเอาไปยัดเยียดให้เขตต่างๆ ตามที่กล่าวหา ซึ่งปัจจุบันมี 8 เขต ที่ยังไม่มีรถดังกล่าวได้แจ้งความประสงค์ขอให้จัดหาเพิ่มเติม
3. โครงการจัดซื้อรถบดสั่นสะเทือนล้อเหล็ก จำนวน 5 ชุด รถขุดตีนตะขาบแขนยาว พร้อมหัวคีบตัด จำนวน 2 ชุด รถไสผิวถนน ขนาดความกว้างหัวไสไม่น้อยกว่า 2 เมตร พร้อมรถเทรลเลอร์หัวลาก และหางกึ่งหัวลากชานต่ำ ขนาดบรรทุกไม่น้อยกว่า 35 ตัน จำนวน 3 ชุด รวม 1,000 ล้านบาท โดยโครงการนี้ สำนักการโยธาได้จัดทำโครงการโดยใช้ชื่อว่า โครงการจัดหาเครื่องมือหนักสำหรับใช้ในการซ่อมแซมบำรุงทาง ซึ่งได้ขออนุมัติงบประมาณต่อสภากทม. เพื่อตราเป็นขอบัญญัติ กทม. ตามขั้นตอนของกฎหมายอย่างถูกต้อง อีกทั้งการจัดซื้อจัดจ้างในโครงการนี้เป็นการจัดซื้อจัดจ้างด้วยวิธีประมูลด้วยระบบอีอ๊อกชั่น ไม่ใช่การประกวดราคาโดยวิธีพิเศษ ซึ่งได้มีคณะกรรมการร่างเอกสารการประกวดราคา (ทีโออาร์) เพื่อจัดซื้อจัดจ้างตามระเบียบของทางราชการ โครงการนี้เสนอโดยหน่วยงานก่อนที่ นายธีระชน จะเข้ามารับผิดชอบสำนักการโยธา นอกจากนี้ยังได้เคยสั่งการให้ตรวจสอบทุกเรื่องที่มีการร้องเรียนเพื่อให้เกิดความรอบคอบถูกต้อง
นายอัศวัชร์ กล่าวว่า ทั้ง 3 เรื่อง ที่นายภักดีหาญส์ แถลงไปนั้นตรงข้ามกับความเป็นจริงทั้งสิ้น ซึ่งการที่นายภักดีหาญส์ ได้นำเรื่องดังกล่าวที่ไม่เกี่ยวข้องกับการประชุมคณะรัฐมนตรี มาแถลงต่อสื่อมวลชนเพื่อทำลาย และพาดพิงกทม. ย่อมเป็นอย่างอื่นไปไม่ได้นอกจากการหวังผลทางการเมือง ที่มีเจตนาทำให้ ผู้ว่าฯ กทม. ได้รับความเสียหายในฐานะผู้บริหารกทม. โดยตนอยากฝากเรียนถึง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีว่า การที่ปล่อยให้รองโฆษก นำเรื่องอันเป็นเท็จมาแถลงเพื่อโจมตีคนอื่นนั้น ย่อมจะนำมาซึ่งความเสื่อมเสียต่อรัฐบาลเอง นานไปเกรงว่าทำเนียบรัฐบาล ที่ใช้เป็นที่แถลงข่าว อาจจะกลายเป็นศาลาโกหกได้
อย่างไรก็ตาม กทม.ทำโครงการต่างๆ มากมาย หากส.ส. พรรคเพื่อไทย ต้องการตรวจสอบ กทม.ก็พร้อมที่จะชี้แจงทุกเรื่องด้วยเหตุผล แต่หากมากล่าวหากันเลื่อนลอย สร้างข่าว และล้ำเส้นเพื่อแอบแฝง หวังผลทางการเมือง กทม. ก็ต้องขอพึ่งอำนาจศาล เพื่อความยุติธรรมในการดำเนินคดี
*** "สุขุมพันธุ์" ตะเพิด ปลอด อย่าล้วงลูก
ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าฯกทม. กล่าวภายหลังลงพี้นที่ตรวจการติดตั้งเครื่องสูบน้ำ เครื่องผลักดันน้ำในคลองเปรมประชากร บริเวณวัดเทวสุนทร เขตจตุจักร ว่า บริเวณนี้เป็นจุดที่มีปัญหาน้ำท่วมขังในปีที่ผ่านมา เนื่องจากระบายน้ำได้ช้า เพราะมีบ้านเรือนประชาชนสร้างที่อยู่อาศัยรุกล้ำเส้นทางน้ำจำนวนมาก ทำให้น้ำไหลระบายได้ช้า จึงต้องนำเครื่องผลักดันน้ำของกทม. และของกองทัพเรือมาติดตั้งในจุดนี้ เพื่อเร่งระบายน้ำลงสู่คลองบางซื่อ และคลองบางเขน ซึ่งปลายคลองบางเขนมีสถานีสูบน้ำที่มีกำลังสูบน้ำได้ถึง 30 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาทีก่อนไหลลงสู่แม่น้ำเจ้าพระยา
ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ กล่าวถึงกรณีที่นายปลอดประสพ สุรัสวดี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์ ในฐานะประธาน กบอ. แจ้งให้ กทม.นำกระสอบทรายออกจากท่อระบายน้ำออกให้หมดภายใน 15 วัน ว่า สิ่งที่กทม.นำกระสอบทรายไว้ในท่อบริเวณถนนศรีนครินทร์เป็นมาตรการชั่วคราวที่ทำมานานแล้ว ไม่ใช่เพิ่งจะเพิ่งมาทำ ซึ่งเป็นลักษณะปิดล้อมเฉพาะจุดที่มีปัญหาเท่านั้น ซึ่งในประเทศเนเธอร์แลนด์ก็ใช้วิธีนี้ในการแก้ไขปัญหา แต่กลับไม่คิดว่าจะเป็นปัญหาของ กบอ. หรือหากเป็นปัญหาของ ส.ส.คนใดที่ปรารถนาจะทำหน้าที่ของตัวเอง ก็ขอให้ประสานมาที่กทม.เพื่อจะได้พาไปถูกจุด และอธิบายข้อเท็จจริงให้เข้าใจ ไม่ใช่ไปหยิบฉวยกระสอบทรายโดยไม่ได้อนุญาต
ในกรณีจะให้นำกระสอบทรายออกภายใน 15 วันนั้น ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ กล่าวว่า ถ้าสงสัยอะไรขอให้คุยกันในที่ประชุม กบอ.ไม่ใช่ออกมาโต้ตอบผ่านสื่อแบบนี้ ซึ่งกทม.ก็ไม่ต้องรายงานเรื่องนี้กับกบอ. เพราะมีอำนาจในการจัดการบริหารพื้นที่ของตัวเองตามกฎหมาย ซึ่งเวลานี้ใครอยากจะพูดอะไรก็พูดทำอะไรก็ทำ แต่ควรทำตามหน้าที่และอำนาจที่ตนเองจะดีกว่า ยืนยันหากวิธีการใดที่เป็นเรื่องเทคนิคที่ผู้เชี่ยวชาญอย่างสำนักการระบายน้ำ สำนักการโยธาแนะนำ ตนก็พร้อมปฏิบัติตาม จะไม่เอาเรื่องการเมืองมาเกี่ยวข้องแน่นอน
" ถ้าคุณปลอดประสพจะมาสนใจเรื่องท่อในกรุงเทพฯ ขอให้ท่านไปสนใจพี่น้องในอำเภอกบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี ที่กำลังประสบปัญหาน้ำท่วมจะดีกว่า และเชื่อว่าเทคนิคปิดล้อมน้ำจะช่วยลดความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนได้ " ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ กล่าว
***ท้องร่วง 2,000 ราย เตือนอย่าทิ้งขยะลงน้ำ
วkนนี้ (9 ต.ค.) นายวิทยา บุรณศิริ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวว่า จากการติดตามประเมินผลกระทบจากพายุแกมี ขณะนี้สถานพยาบาลในสังกัด สธ.ทุกแห่งไม่ได้รับผลกระทบใดๆ สามารถเปิดให้บริการตามปกติ ทั้งนี้ ยังได้จัดหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ออกให้บริการผู้ประสบภัยในพื้นที่ 10 จังหวัด ทุกวัน โดยได้ออกบริการแล้ว 404 ครั้ง มีผู้ป่วยรับบริการ 57,074 ราย พบส่วนใหญ่เป็นโรคน้ำกัดเท้า แต่ไม่มีอาการรุนแรง ส่วนทีมเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) และอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) ยังคงออกเยี่ยมบ้านผู้ป่วยที่ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ที่อยู่ตามบ้านเรือน เช่น อัมพฤกษ์ อัมพาต รวมเกือบ 10,000 ราย ส่วนด้านสุขภาพจิตขณะนี้ตรวจคัดกรองเพื่อให้การดูแลผู้ที่มีปัญหาแล้วกว่า 10,000 ราย ในจำนวนนี้พบว่ามีความเครียด ความวิตกกังวลอยู่ในเกณฑ์ที่ต้องติดตามเป็นพิเศษ 44 ราย
นายวิทยา กล่าวอีกว่า ตนได้ให้สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด (สสจ.) ในพื้นที่น้ำท่วมวางแผนฟื้นฟูหลังน้ำลด ทั้งสถานที่สาธารณะ ตลาดสด โรงเรียน และบ้านเรือนประชาชน ตรวจคุณภาพน้ำและอาหารให้ปลอดภัยทั้งหมด และให้ป้องกันควบคุมโรคระบาดหลังน้ำลด เช่น โรคไข้เลือดออก โรคฉี่หนู อย่างน้อย 2 สัปดาห์
ด้าน นพ.ณรงค์ สหเมธาพัฒน์ ปลัด สธ. กล่าวว่า วอร์รูมน้ำท่วมของ สธ. ได้ติดตามสภาพปัญหาการเจ็บป่วยในพื้นที่น้ำท่วม เริ่มพบมีผู้ป่วยอุจจาระร่วงประปราย ประมาณ 2,000 ราย แต่ยังไม่มีการแพร่ระบาดเป็นกลุ่มก้อน นับเป็นสัญญาณว่ามีการปนเปื้อนเชื้อโรคในน้ำและอาหาร จึงอยากขอความร่วมมือประชาชนให้ช่วยลดความสกปรกของน้ำที่ท่วมขัง ทั้งสถานที่สาธารณะและตามบ้านเรือน โดยทิ้งขยะลงในถุงพลาสติกหรือถุงดำ และมัดปากถุงให้มิดชิด อย่าทิ้งขยะลงน้ำ โดยเฉพาะขยะเปียก และไม่ถ่ายอุจจาระลงน้ำ เนื่องจากจะทำให้น้ำเน่าเสีย เพิ่มสิ่งปนเปื้อนในน้ำเพิ่มขึ้น อาจทำให้เชื้อโรคแพร่กระจายได้ นอกจากนี้ ให้ยึดหลัก กินร้อน ใช้ช้อนกลาง ล้างมือฟอกสบู่บ่อยๆ และควรกินน้ำบรรจุขวดหรือน้ำต้มสุก ก็จะปลอดภัยจากโรคติดต่อที่มากับน้ำและอาหารปนเปื้อน
**"แกมี" พ่นพิษ ทำน้ำท่วมราชบุรี
ผู้สื่อข่าวรายงานสถานการณ์นเช้ำท่วมในพื้นที่ จ.ราชบุรี ซึ่งได้รับผลกระทบจากพายุแกมี ทำให้มีฝนตกหนักตลอดทั้งวันทั้งคืนที่ผ่านมา ทำให้หลายพื้นที่ใน จ.ราชบุรี ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมขัง และน้ำป่าไหลหลากเข้าท่วมบ้านเรือนราษฎร โดยเฉพาะที่ อ.สวนผึ้ง มีน้ำป่าจากเทือกเขาตะนาวศรี ไหลลงมารวมกับน้ำฝนที่ตกลงมาอย่างหนัก ทำให้กระแสน้ำรุนแรงมากซัดคอสะพานที่เชื่อมต่อถนนสายหลักเข้าหมู่บ้านขาดไปถึง 4 แห่ง
ต่อมาเช้าวานนี้ (9 ต.ค.) นายปิติธรรม ฐิติมนตรี รองผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี และนายรังสรรค์ ตันเจริญ นายอำเภอสวนผึ้ง ได้เข้าตรวจสอบที่บริเวณสะพานบ้านทุ่งแฝกหมู่ 2 ต.สวนผึ้ง อ.สวนผึ้ง ซึ่งเป็นสะพานเข้าหมู่บ้านถูกน้ำป่ากัดเซาะคอสะพานขาดเป็นระยะทางกว้างกว่า 15 เมตร ชาวบ้านไม่สามารถสันจรไปมาได้ ต้องหลีกเลี่ยงไปใช้เส้นทางอื่นซึ่งมีระยะทางไกลออกไป เจ้าหน้าที่ของกรมการทหารช่างได้เตรียมนำสะพานแบริ่ง ซึ่งเป็นสะพานชั่วคราวมาทอดเพื่อให้ชาวบ้านได้สันจรได้ก่อนที่จะให้หน่วยงานที่รับผิดชอบเข้ามาซ่อมแซม
สำหรับคอสะพานที่ขาดนั้นได้แก่ สะพานบ้านทุ่งแฝก หมู่ 2 ต.สวนผึ้ง สะพานบ้านทุ่งไม้แดง หมู่ 2 ต.สวนผึ้ง สะพานเข้ารีสอร์ท สวนผึ้งฮิลล์รีสอร์ต ซึ่งเป็นสะพานที่นักท่องเที่ยวเดินทางเข้าออกรีสอร์ต แต่ได้มีการประชาสัมพันธ์ให้นักท่องเที่ยวได้เดินทางออกมาก่อนที่จะเกิดน้ำป่าซัดคอสะพานขาดแล้ว และสะพานบ้านนาขุนแสน นอกจากนี้ ยังมีสะพานอีกหลายตัวในพื้นที่ อ.สวนผึ้ง ที่กำลังเสี่ยงต่อการถูกน้ำป่าเซาะตัดขาด ทางเจ้าหน้าที่ได้ทำการเฝ้าระวังเพื่อจะได้แจ้งเตือนไม่ให้ประชาชนไปใช้เส้นทางดังกล่าว ซึ่งขณะนี้ทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องก็กำลังเร่งเข้าไปตรวจสอบเพื่อให้ความช่วยเหลือชาวบ้านที่อาจจะติดค้างอยู่ไม่สามารถออกเดินทางมาได้ เพื่อดำเนินการช่วยเหลือต่อไป
**ด่านมะขามเตี้ยอ่วม-ผู้ว่าสั่งอพยพ
ส่วนที่ จ.กาญจนบุรี น้ำป่าจากเทือกเขาตะนาวศรี และน้ำ จ.ราชบุรี ได้ไหลลงสู่ลำห้วยภาชี ต.หนองไผ่ อ.ด่านมะขามเตี้ย เพิ่มระดับขึ้นเกินจุดวิกฤตเครื่องเตือนระดับน้ำมีเสียงดังและมีไฟกะพริบสีแดงตลอดเวลาเป็นสัญญาณเตือนให้ชาวบ้านขนย้ายสิ่งของไปอยู่ที่สูง
นอกจากนี้ น้ำยังล้นตลิ่งเข้าท่วมบ้านเรือนและพื้นที่การเกษตรเป็นจำนวนมาก ถนนและสะพานหลายแห่งถูกน้ำท่วมสูงกว่า 1 เมตร หลายหมู่บ้านถูกตัดขาดจากโลกภายนอก ชาวบ้านเร่งขนย้ายสิ่งของและทรัพย์สินไปไว้บนที่สูง แต่บางจุดไม่สามารถทำได้เนื่องจากน้ำไหลเชี่ยว และระดับน้ำได้เพิ่มสุงขึ้นอย่างต่อเนื่อง
นายชัยวัฒน์ ลิมป์วรรณธะ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี เปิดเผยว่า สถานการณ์น้ำใน อ.ด่านมะขามเตี้ย น่ากังวลที่สุดหลังน้ำเริ่มท่วมในพื้นที่สูงกว่า 1 เมตร และยังคงมีฝนตกต่อเนื่อง อีกทั้งยังเป็นพื้นที่ลุ่มต่ำต้องรับน้ำจาก อ.สวนผึ้ง จ.ราชบุรี ล่าสุดได้สั่งให้อพยพประชาชนออกจากพื้นที่อันตรายแล้ว
วานนี้ (9 ต.ค.) นายปลอดประสพ สุรัสวดี รมว.วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ในฐานะประธานคณะกรรมการบริหารจัดการน้ำและอุทกภัย (กบอ.) กล่าวถึงกรณี กรุงเทพมหานคร (กทม.) ระบุว่า กระสอบทรายที่อยู่ในท่อระบาย น้ำบริเวณ ถ.ศรีนครินทร์ เป็นเทคนิคการบริหารจัดการน้ำของกทม. ว่า เป็นเหตุผลที่ฟังไม่ขึ้น และขณะนี้ได้ทำหนังสือสอบถามกทม. เพื่อขอให้ชี้แจงใน 3 ประเด็น คือ
1. ขอให้อธิบายสาเหตุอย่างละเอียดที่นำกระสอบทรายไปวางในท่อระบายน้ำดังกล่าว และหากอ้างว่าเป็นไปตามหลักการจัดการน้ำ ขอถามว่าใช้หลักการใด อย่างไร
2. กทม.ได้นำกระสอบทรายไปวางในท่อระบายน้ำที่บริเวณใดบ้าง
3. กทม.ได้เคยมีการประเมินผลจากการนำกระสอบทรายไปวางในท่อระบายน้ำหรือไม่ และจะเกิดผลกระทบในบริเวณใด ทั้งนี้ กทม.ต้องตอบให้ชัด เพราะเป็นการส่งจดหมายราชการ อย่างเป็นทางการ หากไม่ตอบก็อาจจะขัดกับปัญหาทางวินัยได้
ทั้งนี้ ขอให้กทม.นำกระสอบทรายเหล่านั้นออกจากท่อระบายน้ำภายใน 15 วัน ไม่เช่นนั้นกบอ.จะให้หน่วยงานไปนำออกเอง และถ้ากทม.จะฟ้องศาลปกครองว่า กบอ. ละเมิดอำนาจหน้าที่ และกรรมสิทธิ์ในกระสอบทราย ก็เป็นสิทธิที่จะฟ้องศาลได้ แต่ตนศึกษากฎหมายมาแล้ว และมั่นใจว่ารัฐบาลกลางมีอำนาจในการบริหารจัดการในปัญหาที่เป็นประโยชน์ต่อส่วนรวม และเพื่อความสงบเรียบร้อยของสังคม
นายปลอดประสพ ยังตั้งข้อสังเกตว่า การอ้างเรื่องเทคนิคการระบายน้ำ เป็นสิ่งที่เตรียมการไว้ไม่นาน ภายหลังถูกจับได้ เพราะทางเทคนิคไม่มีใครทำด้วยวิธี ขั้นตอนแบบนี้ การเอากระสอบทรายไว้ด้านล่างมีปัญหา เพราะกันน้ำไม่ได้ กระสอบเลื่อน และทรายจะแตก รวมไปถึงกันทางน้ำที่จะไหลไปทางอื่น หรือถ้าหาก ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าฯกทม. มั่นใจว่าแนวทางดังกล่าวแก้ปัญหาได้ ก็ขอให้ประกาศเป็นนโยบายที่จะเสนอตัวชิงเป็นผู้ว่าฯกทม.เลย ตนจะคอยดูว่าจะมีคนเลือกเป็นผู้ว่าฯกทม. อีกครั้งหรือไม่
นอกจากนี้ นายปลอดประสพ ยังขอท้าทายไปยัง นายอลงกรณ์ พลบุตร ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ที่เคยตั้งกระทู้ถามตนในสภา และเคยบอกจะจับตัวคนนำกระสอบทรายไปทิ้งในท่อระบายน้ำ โดยตนจะโทรศัพท์ไปหานายอลงกรณ์ เพื่อพาไปหาคนที่นำกระสอบทรายไปทิ้งในท่อระบายน้ำ และให้ตั้งข้อหากับคนที่กระทำผิดเอง
" ผมพร้อมจะคุยด้วยดีๆ แบบนักวิชาการ เพราะโดยพื้น ผมเป็นนักวิชาการอยู่แล้ว แต่ถ้าซี้ซั้ว ซื่อบื้อ ดื้อตาใส แบบนี้มันก็ไม่ไหว แบบนี้มันไม่มีที่ไหนในโลก จะมีก็คือกทม.ที่เดียวในโลกนี่แหละ" นายปลอดประสพ กล่าว
ส่วนการประเมินสถานการณ์อุทกภัยทั่วประเทศนั้น นายปลอดประสพ กล่าวว่า ในพื้นที่ภาคกลาง ภาคเหนือ ไม่น่าจะมีพายุแล้ว แต่ในกรณีภาคกลางลงมาถึงภาคใต้ ก็จะยังคงมีอิทธิพลของร่องความกดอากาศต่ำ โดยถ้ามีพายุมาในวันหน้า ก็จะเป็นภาคใต้ ขณะที่กรณีพายุแกมีถือว่าหมดห่วงไปแล้ว และในส่วนของน้ำท่วมพื้นที่ภาคกลาง ภาคตะวันออก ถ้าเลยไปถึงวันที่ 31 ธ.ค.55 ก็ถือว่าไม่มีอะไรน่าห่วงแล้วเช่นกัน
นายปลอดประสพ ยังกล่าวถึงความคืบหน้าโครงการออกแบบก่อสร้างระบบการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำอย่างยั่งยืน และระบบแก้ไขปัญหาอุทกภัยของประเทศไทยว่า คาดว่าจะใช้ระยะเวลาประมาณ 1 เดือนครึ่ง จึงจะทราบรายชื่อ 30 กลุ่มบริษัทที่จะได้เข้าทำงานโครงการบริหารจัดการน้ำในแต่ละโครงการ ซึ่งขณะนี้รัฐบาลยังไม่ได้มีการใช้เงิน แต่จะเริ่มใช้ได้หลังจากเดือน เม.ย.56 ไปแล้ว
**ผู้ว่าฯโต้"ปลอด"ยันเทคนิกของกทม.
ในวันเดียวกันนี้ ม.ร.ว. สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าฯกทม. พร้อมคณะผู้บริหารกทม. ได้ลงพื้นที่อำนวยการการป้องกันปัญหาในจุดเสี่ยง และตรวจความพร้อมการติดตั้งเครื่องผลักดันน้ำคลองเปรมประชากร บริเวณวัดเทวสุนทร และตรวจความพร้อมศูนย์ปฏิบัติการเร่งด่วนแก้ไขปัญหาน้ำท่วมกรุงเทพมหานคร โดยบริเวณนี้ได้ติดตั้งเครื่องผลักดันน้ำของสำนักการระบายน้ำ จำนวน 2 ลำ เครื่องสูบน้ำแรงดันสูงชนิดไฟฟ้าขนาด 24 นิ้ว จำนวน 1 เครื่อง และเครื่องผลักดันน้ำของกองทัพเรืออีก 2 ลำ
ผู้ว่าฯกทม. ยังได้กล่าวถึง กรณีที่นำกระสอบทราย ลงไปในท่อระบายน้ำที่ ถ.ศรีนครินทร์ ว่า เป็นการดำเนินการทางเทคนิคที่หลายประเทศก็นำมาใช้ อย่างประเทศเนเธอร์แลนด์ และน้ำท่วมเมื่อปี 2554 กทม. ก็นำไปใช้ที่ซอยแอนเน็กซ์ เขตสายไหม ที่นำกระสอบทรายปิดล้อม ไม่ให้น้ำในคลองสองไหลเข้าพื้นที่ แล้วจึงติดตั้งเครื่องสูบน้ำระบายน้ำออกคลองสอง ทำให้ใช้เวลาเพียงไม่กี่วันก็ระบายน้ำในซอยให้แห้ง ขอยืนยันว่า กระสอบทรายเป็นอุปกรณ์หนึ่งที่สามารถช่วยระบายน้ำ ไม่ได้เป็นอุปสรรคต่อการกีดขวางทางน้ำ
ส่วนกรณีที่ นายปลอดประสพ ออกมาขอให้ กทม.ชี้แจงเทคนิควางกระสอบทรายในท่อระบายน้ำ และขอให้นำออกจากท่อทั้งหมดภายใน 15 วันนั้น ผู้ว่าฯกทม. กล่าวว่า ขอให้กบอ.แจ้งในที่ประชุมกบอ. ซึ่งก็มีตัวแทนกทม. เข้าร่วมประชุมทุกครั้ง อย่าออกมาพูดผ่านสื่ออย่างนี้
"การใช้เทคนิคดังกล่าว เป็นการบริหารจัดการน้ำภายในของกทม. หากหน่วยงานอื่นจะดำเนินการใดๆ ก็ควรดูอำนาจหน้าที่ของตัวเองด้วย เพราะกทม.ก็มี พ.ร.บ.ระเบียบบริหารราชการกรุงเทพมหานคร รองรับในการดำเนินการ ซึ่งเรื่องนี้มันเรื่องทางเทคนิค ผมไม่อยากให้มีเรื่องการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้อง อีกทั้งกรุงเทพฯ มีพื้นที่กว่า 1,600 ตารางกิโลเมตร และคิดว่าไม่จำเป็นที่ต้องรายงานให้กบอ. ทราบทุกจุด" ผู้ว่าฯกทม. กล่าว
ม.ร.ว.สุขุมพันธ์ กล่าวด้วยว่า กทม.ไม่ได้มีปัญหากับกบอ. มีเพียงส.ส.ไม่กี่คนเท่านั้น หากต้องการทราบข้อเท็จจริงก็ขอให้ประสานมาที่ กทม. ไม่ใช่รื้อกระสอบทรายออกอย่างนี้ และอยากขอบคุณประธาน กบอ. ที่ออกมาชี้แนะ แต่ไม่มีเวลาจริงๆ ถ้าจะมาสนใจเรื่องท่อในกทม. ขอให้ท่านไปสนใจพี่น้องใน อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี ที่กำลังประสบปัญหาน้ำท่วมจะดีกว่า
หลังจากนั้น ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ ได้เดินทางไปตรวจความพร้อมศูนย์ปฏิบัติการเร่งด่วนแก้ไขปัญหาน้ำท่วมกรุงเทพมหานคร ที่บริเวณสวนหย่อมใต้ทางด่วน ถนนประดิษมนูธรรม ตัดถนนลาดพร้าว เขตลาดพร้าว
**กทม.นำถุงทรายถมคืน-แจ้งความ
นายวสันต์ มีวงษ์ โฆษก กทม. กล่าวถึงเรื่องนี้ ว่า เป็นเรื่องปกติ ซึ่งหลายหน่วยงานก็ทำเช่นนี้ อีกทั้งไม่มีหน่วยงานใดที่จะนำกระสอบทรายไปวางเพื่อกีดขวางทางน้ำ จึงอยากให้นายปลอดประสพ มองให้รอบด้าน เรื่องการแก้ปัญหาน้ำท่วม เพราะที่ผ่านมากรมทางหลวง ก็นำกระสอบทรายไปบล็อกน้ำไว้เช่นกัน
" กทม.โดยสำนักการระบายน้ำ ได้นำกระสอบทรายกว่า 100 ลูก ถมคืนลงไปในท่อระบายน้ำที่ ถนนศรีนครินทร์ และได้ส่งผู้แทนไปแจ้งความให้ลงบันทึกประจำวันว่า ที่คณะกรรมการบริหารจัดการน้ำและอุทกภัย มารื้อกระสอบทรายของ กทม. เป็นอุปสรรคต่อการบริหารจัดการน้ำ โดยกระสอบทรายที่วางในท่อระบายน้ำนั้น จะช่วยชะลอการไหลของน้ำในคลองที่เชื่อมกับท่อระบายน้ำ ทำให้น้ำในคลองไม่เอ่อล้นมาท่วมผิวถนน แล้วสูบน้ำออก จะช่วยให้ผิวถนนแห้งเร็วขึ้น ซึ่งนอกจากที่ถนนศรีนครินทร์ ยังมีพื้นที่อื่นๆในกทม. ที่ใช้กระสอบทรายมาช่วยบล็อก ก่อนที่จะสูบน้ำออกในจุดอ่อนที่มีน้ำท่วมขัง เช่น ลานพระบรมรูปทรงม้า ถนนสุขุมวิทฝั่งใต้ ถนนงามวงศ์วาน ถนนรามคำแหง ถนนพหลโยธิน บริเวณสนามเป้า และที่อนุสรณ์สถาน
** อุดถุงทรายลง่อเป็นแผนบล็อกน้ำ
นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่โฆษกพรรคเพื่อไทย และส.ส.เพื่อไทย เดินทางไปนำถุงทรายออกจากท่อระบายน้ำ บริเวณแยกลำสาลี ว่า เป็นการแสดงปาหี่ ตบตาประชาชน แสดงให้เห็นถึงความไม่รู้ เกี่ยวกับระบบการระบายน้ำ เอาความทุกข์ของประชาชนมาเป็นประโยชน์ทางการเมือง ละเมิดทรัพย์สินราชการ แทรกแซงการทำหน้าที่ของข้าราชการ ขัดรัฐธรรมนูญ มาตรา 266
ทั้งนี้สาเหตุที่กทม.นำถุงทรายไปอุดในบริเวณดังกล่าว เพราะต้องการบล็อกน้ำจากคลองหัวหมาก เนื่องจากระดับน้ำคลองหัวหมากสูงกว่าพื้นที่ถนน และไหลย้อนมาท่วม ถ.ศรีนครินทร์ และ มอเตอร์เวย์ จึงต้องบล็อกบางจุด เพื่อเปลี่ยนทิศทางให้น้ำไปยังคลองกะจะ ที่เชื่อมโยงกับคลองแสนแสบ จากนั้นน้ำจะถูกผลักดันไปยังอุโมงค์ยักษ์เพื่อออกทะเล ป้องกันปัญหาน้ำท่วมกทม. ขณะนี้พื้นที่บริเวณดังกล่าวจะเห็นได้ว่า ไม่มีปัญหาน้ำท่วมเหมือนในอดีต เพราะการบริหารจัดการของกทม. แต่คนของพรรคเพื่อไทย เบาปัญญา จงใจเอามาดิสเครดิตทางการเมือง ผลเสียจึงตกอยู่กับคนกทม.
" ไม่มียุคสมัยไหนที่นักการเมืองมีวุฒิภาวะตกต่ำอย่างน่าละอายใจอย่างนี้ คนกรุงเทพฯ ต้องให้บทเรียน ถ้าหากพรรคเพื่อไทย อยากบริหาร กทม. ให้แข่งที่นโยบาย ไม่ใช่ทำร้ายประชาชนอย่างที่กำลังทำในขณะนี้ ขอให้ละอายใจบ้าง ถ้าอยากเป็นผู้ว่าฯกทม. เอาชนะพรรคประชาธิปัตย์ในการเลือกตั้ง แต่ถ้าทำอย่างนี้เชื่อว่าคนกทม. จะลงโทษพรรคเพื่อไทย ทั้งนี้นอกจาก กทม. จะแจ้งความทำลายทรัพย์สินทางราชการ และการแทรกแซงการบริหารแล้ว ในส่วนของพรรคจะดูว่า การที่ส.ส.ไปแทรกแซงการทำงานของข้าราชการ จะผิดรัฐธรรมนูญ มาตรา 266 หรือไม่ ถ้าประชาชนได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม ก็มีสิทธิฟ้องร้องนักการเมืองพรรคเพื่อไทย ที่ทำให้เกิดผลกระทบกับประชาชน เพื่อหวังผลทางการเมืองด้วย" นายชวนนท์ กล่าว
**ส.ว. จี้นายกฯตั้งกก.สอบกรณีถุงทราย
ในการประชุมวุฒิสภา วานนี้ ช่วงก่อนเข้าสู่วาระการประชุม ประธานวุฒิสภา ได้เปิดโอกาสให้สมาชิกหารือ โดยพล.ร.อ.สุรศักดิ์ ศรีอรุณ ส.ว.สรรหา กล่าวถึงกรณีพบถุงทรายอุดในท่อระบายน้ำของกทม. ว่า เรื่องนี้สำนักระบายน้ำ กทม.ให้เหตุผลว่า เป็นพื้นที่ต่ำ จึงต้องนำถุงทรายไปใส่ เพื่อช่วยการระบายน้ำ ขณะที่ประธานกบอ. ให้ข้อเท็จจริงและตั้งคำถามไปยังกทม.ให้ชี้แจงเรื่องนี้ ตนในฐานะผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย เนื่องจากได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมเห็นว่า เป็นการสะท้อนให้เห็นถึงปัญหาการขาดความชัดเจน ในเรื่องการแบ่งมอบพื้นที่ รวมถึงอำนาจหน้าที่ กฎหมายบางข้อยังไม่มีความชัดเจน และฐานข้อมูลของกทม. ยังไม่มีความชัดเจน ดังนั้นข้อเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์เพื่อการวางระบบการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ (กยน.) ได้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง เพื่อแก้ไขปัญหาทั้งหมด
**“วิปค้าน”ตั้งกระทู้ถามสดเกมการเมืองน้ำท่วม
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะประธานวิปฝ่ายค้าน กล่าวว่า ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎรในวันพฤหัสบดีนี้ ฝ่ายค้านเตรียมตั้งกระทู้ถามสด เรื่อง“เมื่อไรรัฐบาลจะเลิกเล่นการเมืองน้ำท่วมกับกทม.”
**"ธีระชน"ฟ้องหมิ่น"ภักดีหาญส์"
นายอัศวัชร์ อภัยวงศ์ ที่ปรึกษา นายธีระชน มโนมัยพิบูลย์ รองผู้ว่าฯ กทม. กล่าวว่า นายธีระชน ได้มอบหมายให้นายจงกล วิสุทธิสิงห์ ทนายความ ยื่นฟ้องดำเนินคดี นายภักดีหาญส์ หิมะทองคำ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ต่อศาลอาญา ฐานหมิ่นประมาท ที่นำเรื่องที่เป็นเท็จ มาแถลงข่าวผ่านสื่อมวลชนหลายฉบับว่า นายธีระชน ได้ดำเนินโครงการต่างๆ แบบไม่โปร่งใส จนทำให้เกิดความเสียหาย ขาดความน่าเชื่อถือต่อสาธารณชน ทั้งๆที่ นายธีระชน ปฏิบัติหน้าที่ราชการ จำเป็นต้องได้รับความไว้วางใจจากประชาชน จากผู้ว่าฯ กทม. และจากข้าราชการกทม.ทุกระดับ ซึ่งที่ผ่านมาได้ปฏิบัติหน้าที่ราชการด้วยความซื่อสัตย์สุจริต ไม่เคยทำความเสื่อมเสียแก่องค์กร แต่ประการใด โดยมีหลายโครงการที่นายธีระชน ถูกกล่าวหาจากนายภักดีหาญส์ ได้แก่
1.โครงการเช่ารถเก็บมูลฝอย จำนวน 3 โครงการ เป็นงานในกำกับของสำนักสิ่งแวดล้อม ซึ่งนายธีระชน ไม่เคยได้รับมอบหมายหรือมอบอำนาจจากผู้ว่าฯ กทม. ให้ดูแลและสั่งการในสำนักดังกล่าว
2.โครงการดูดล้างท่อขนาด 3 ลูกบาศก์เมตร จำนวน 42 คัน เป็นโครงการที่ต้นเรื่องมาจากสำนักงานเขตต่างๆ ที่ร้องขอให้ทางสำนักงานระบายน้ำพิจารณา และได้เสนอของบประมาณ จึงได้ดำเนินการจัดซื้อด้วยวิธีการประกวดราคาผ่านระบบอิเลกทรอนิก (อีอ๊อกชั่น) ตามระเบียบราชการทุกขั้นตอน และปัจจุบันยังคงใช้งานตามปรกติ ไม่ใช่เป็นการเอาไปยัดเยียดให้เขตต่างๆ ตามที่กล่าวหา ซึ่งปัจจุบันมี 8 เขต ที่ยังไม่มีรถดังกล่าวได้แจ้งความประสงค์ขอให้จัดหาเพิ่มเติม
3. โครงการจัดซื้อรถบดสั่นสะเทือนล้อเหล็ก จำนวน 5 ชุด รถขุดตีนตะขาบแขนยาว พร้อมหัวคีบตัด จำนวน 2 ชุด รถไสผิวถนน ขนาดความกว้างหัวไสไม่น้อยกว่า 2 เมตร พร้อมรถเทรลเลอร์หัวลาก และหางกึ่งหัวลากชานต่ำ ขนาดบรรทุกไม่น้อยกว่า 35 ตัน จำนวน 3 ชุด รวม 1,000 ล้านบาท โดยโครงการนี้ สำนักการโยธาได้จัดทำโครงการโดยใช้ชื่อว่า โครงการจัดหาเครื่องมือหนักสำหรับใช้ในการซ่อมแซมบำรุงทาง ซึ่งได้ขออนุมัติงบประมาณต่อสภากทม. เพื่อตราเป็นขอบัญญัติ กทม. ตามขั้นตอนของกฎหมายอย่างถูกต้อง อีกทั้งการจัดซื้อจัดจ้างในโครงการนี้เป็นการจัดซื้อจัดจ้างด้วยวิธีประมูลด้วยระบบอีอ๊อกชั่น ไม่ใช่การประกวดราคาโดยวิธีพิเศษ ซึ่งได้มีคณะกรรมการร่างเอกสารการประกวดราคา (ทีโออาร์) เพื่อจัดซื้อจัดจ้างตามระเบียบของทางราชการ โครงการนี้เสนอโดยหน่วยงานก่อนที่ นายธีระชน จะเข้ามารับผิดชอบสำนักการโยธา นอกจากนี้ยังได้เคยสั่งการให้ตรวจสอบทุกเรื่องที่มีการร้องเรียนเพื่อให้เกิดความรอบคอบถูกต้อง
นายอัศวัชร์ กล่าวว่า ทั้ง 3 เรื่อง ที่นายภักดีหาญส์ แถลงไปนั้นตรงข้ามกับความเป็นจริงทั้งสิ้น ซึ่งการที่นายภักดีหาญส์ ได้นำเรื่องดังกล่าวที่ไม่เกี่ยวข้องกับการประชุมคณะรัฐมนตรี มาแถลงต่อสื่อมวลชนเพื่อทำลาย และพาดพิงกทม. ย่อมเป็นอย่างอื่นไปไม่ได้นอกจากการหวังผลทางการเมือง ที่มีเจตนาทำให้ ผู้ว่าฯ กทม. ได้รับความเสียหายในฐานะผู้บริหารกทม. โดยตนอยากฝากเรียนถึง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีว่า การที่ปล่อยให้รองโฆษก นำเรื่องอันเป็นเท็จมาแถลงเพื่อโจมตีคนอื่นนั้น ย่อมจะนำมาซึ่งความเสื่อมเสียต่อรัฐบาลเอง นานไปเกรงว่าทำเนียบรัฐบาล ที่ใช้เป็นที่แถลงข่าว อาจจะกลายเป็นศาลาโกหกได้
อย่างไรก็ตาม กทม.ทำโครงการต่างๆ มากมาย หากส.ส. พรรคเพื่อไทย ต้องการตรวจสอบ กทม.ก็พร้อมที่จะชี้แจงทุกเรื่องด้วยเหตุผล แต่หากมากล่าวหากันเลื่อนลอย สร้างข่าว และล้ำเส้นเพื่อแอบแฝง หวังผลทางการเมือง กทม. ก็ต้องขอพึ่งอำนาจศาล เพื่อความยุติธรรมในการดำเนินคดี
*** "สุขุมพันธุ์" ตะเพิด ปลอด อย่าล้วงลูก
ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าฯกทม. กล่าวภายหลังลงพี้นที่ตรวจการติดตั้งเครื่องสูบน้ำ เครื่องผลักดันน้ำในคลองเปรมประชากร บริเวณวัดเทวสุนทร เขตจตุจักร ว่า บริเวณนี้เป็นจุดที่มีปัญหาน้ำท่วมขังในปีที่ผ่านมา เนื่องจากระบายน้ำได้ช้า เพราะมีบ้านเรือนประชาชนสร้างที่อยู่อาศัยรุกล้ำเส้นทางน้ำจำนวนมาก ทำให้น้ำไหลระบายได้ช้า จึงต้องนำเครื่องผลักดันน้ำของกทม. และของกองทัพเรือมาติดตั้งในจุดนี้ เพื่อเร่งระบายน้ำลงสู่คลองบางซื่อ และคลองบางเขน ซึ่งปลายคลองบางเขนมีสถานีสูบน้ำที่มีกำลังสูบน้ำได้ถึง 30 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาทีก่อนไหลลงสู่แม่น้ำเจ้าพระยา
ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ กล่าวถึงกรณีที่นายปลอดประสพ สุรัสวดี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์ ในฐานะประธาน กบอ. แจ้งให้ กทม.นำกระสอบทรายออกจากท่อระบายน้ำออกให้หมดภายใน 15 วัน ว่า สิ่งที่กทม.นำกระสอบทรายไว้ในท่อบริเวณถนนศรีนครินทร์เป็นมาตรการชั่วคราวที่ทำมานานแล้ว ไม่ใช่เพิ่งจะเพิ่งมาทำ ซึ่งเป็นลักษณะปิดล้อมเฉพาะจุดที่มีปัญหาเท่านั้น ซึ่งในประเทศเนเธอร์แลนด์ก็ใช้วิธีนี้ในการแก้ไขปัญหา แต่กลับไม่คิดว่าจะเป็นปัญหาของ กบอ. หรือหากเป็นปัญหาของ ส.ส.คนใดที่ปรารถนาจะทำหน้าที่ของตัวเอง ก็ขอให้ประสานมาที่กทม.เพื่อจะได้พาไปถูกจุด และอธิบายข้อเท็จจริงให้เข้าใจ ไม่ใช่ไปหยิบฉวยกระสอบทรายโดยไม่ได้อนุญาต
ในกรณีจะให้นำกระสอบทรายออกภายใน 15 วันนั้น ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ กล่าวว่า ถ้าสงสัยอะไรขอให้คุยกันในที่ประชุม กบอ.ไม่ใช่ออกมาโต้ตอบผ่านสื่อแบบนี้ ซึ่งกทม.ก็ไม่ต้องรายงานเรื่องนี้กับกบอ. เพราะมีอำนาจในการจัดการบริหารพื้นที่ของตัวเองตามกฎหมาย ซึ่งเวลานี้ใครอยากจะพูดอะไรก็พูดทำอะไรก็ทำ แต่ควรทำตามหน้าที่และอำนาจที่ตนเองจะดีกว่า ยืนยันหากวิธีการใดที่เป็นเรื่องเทคนิคที่ผู้เชี่ยวชาญอย่างสำนักการระบายน้ำ สำนักการโยธาแนะนำ ตนก็พร้อมปฏิบัติตาม จะไม่เอาเรื่องการเมืองมาเกี่ยวข้องแน่นอน
" ถ้าคุณปลอดประสพจะมาสนใจเรื่องท่อในกรุงเทพฯ ขอให้ท่านไปสนใจพี่น้องในอำเภอกบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี ที่กำลังประสบปัญหาน้ำท่วมจะดีกว่า และเชื่อว่าเทคนิคปิดล้อมน้ำจะช่วยลดความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนได้ " ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ กล่าว
***ท้องร่วง 2,000 ราย เตือนอย่าทิ้งขยะลงน้ำ
วkนนี้ (9 ต.ค.) นายวิทยา บุรณศิริ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวว่า จากการติดตามประเมินผลกระทบจากพายุแกมี ขณะนี้สถานพยาบาลในสังกัด สธ.ทุกแห่งไม่ได้รับผลกระทบใดๆ สามารถเปิดให้บริการตามปกติ ทั้งนี้ ยังได้จัดหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ออกให้บริการผู้ประสบภัยในพื้นที่ 10 จังหวัด ทุกวัน โดยได้ออกบริการแล้ว 404 ครั้ง มีผู้ป่วยรับบริการ 57,074 ราย พบส่วนใหญ่เป็นโรคน้ำกัดเท้า แต่ไม่มีอาการรุนแรง ส่วนทีมเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) และอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) ยังคงออกเยี่ยมบ้านผู้ป่วยที่ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ที่อยู่ตามบ้านเรือน เช่น อัมพฤกษ์ อัมพาต รวมเกือบ 10,000 ราย ส่วนด้านสุขภาพจิตขณะนี้ตรวจคัดกรองเพื่อให้การดูแลผู้ที่มีปัญหาแล้วกว่า 10,000 ราย ในจำนวนนี้พบว่ามีความเครียด ความวิตกกังวลอยู่ในเกณฑ์ที่ต้องติดตามเป็นพิเศษ 44 ราย
นายวิทยา กล่าวอีกว่า ตนได้ให้สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด (สสจ.) ในพื้นที่น้ำท่วมวางแผนฟื้นฟูหลังน้ำลด ทั้งสถานที่สาธารณะ ตลาดสด โรงเรียน และบ้านเรือนประชาชน ตรวจคุณภาพน้ำและอาหารให้ปลอดภัยทั้งหมด และให้ป้องกันควบคุมโรคระบาดหลังน้ำลด เช่น โรคไข้เลือดออก โรคฉี่หนู อย่างน้อย 2 สัปดาห์
ด้าน นพ.ณรงค์ สหเมธาพัฒน์ ปลัด สธ. กล่าวว่า วอร์รูมน้ำท่วมของ สธ. ได้ติดตามสภาพปัญหาการเจ็บป่วยในพื้นที่น้ำท่วม เริ่มพบมีผู้ป่วยอุจจาระร่วงประปราย ประมาณ 2,000 ราย แต่ยังไม่มีการแพร่ระบาดเป็นกลุ่มก้อน นับเป็นสัญญาณว่ามีการปนเปื้อนเชื้อโรคในน้ำและอาหาร จึงอยากขอความร่วมมือประชาชนให้ช่วยลดความสกปรกของน้ำที่ท่วมขัง ทั้งสถานที่สาธารณะและตามบ้านเรือน โดยทิ้งขยะลงในถุงพลาสติกหรือถุงดำ และมัดปากถุงให้มิดชิด อย่าทิ้งขยะลงน้ำ โดยเฉพาะขยะเปียก และไม่ถ่ายอุจจาระลงน้ำ เนื่องจากจะทำให้น้ำเน่าเสีย เพิ่มสิ่งปนเปื้อนในน้ำเพิ่มขึ้น อาจทำให้เชื้อโรคแพร่กระจายได้ นอกจากนี้ ให้ยึดหลัก กินร้อน ใช้ช้อนกลาง ล้างมือฟอกสบู่บ่อยๆ และควรกินน้ำบรรจุขวดหรือน้ำต้มสุก ก็จะปลอดภัยจากโรคติดต่อที่มากับน้ำและอาหารปนเปื้อน
**"แกมี" พ่นพิษ ทำน้ำท่วมราชบุรี
ผู้สื่อข่าวรายงานสถานการณ์นเช้ำท่วมในพื้นที่ จ.ราชบุรี ซึ่งได้รับผลกระทบจากพายุแกมี ทำให้มีฝนตกหนักตลอดทั้งวันทั้งคืนที่ผ่านมา ทำให้หลายพื้นที่ใน จ.ราชบุรี ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมขัง และน้ำป่าไหลหลากเข้าท่วมบ้านเรือนราษฎร โดยเฉพาะที่ อ.สวนผึ้ง มีน้ำป่าจากเทือกเขาตะนาวศรี ไหลลงมารวมกับน้ำฝนที่ตกลงมาอย่างหนัก ทำให้กระแสน้ำรุนแรงมากซัดคอสะพานที่เชื่อมต่อถนนสายหลักเข้าหมู่บ้านขาดไปถึง 4 แห่ง
ต่อมาเช้าวานนี้ (9 ต.ค.) นายปิติธรรม ฐิติมนตรี รองผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี และนายรังสรรค์ ตันเจริญ นายอำเภอสวนผึ้ง ได้เข้าตรวจสอบที่บริเวณสะพานบ้านทุ่งแฝกหมู่ 2 ต.สวนผึ้ง อ.สวนผึ้ง ซึ่งเป็นสะพานเข้าหมู่บ้านถูกน้ำป่ากัดเซาะคอสะพานขาดเป็นระยะทางกว้างกว่า 15 เมตร ชาวบ้านไม่สามารถสันจรไปมาได้ ต้องหลีกเลี่ยงไปใช้เส้นทางอื่นซึ่งมีระยะทางไกลออกไป เจ้าหน้าที่ของกรมการทหารช่างได้เตรียมนำสะพานแบริ่ง ซึ่งเป็นสะพานชั่วคราวมาทอดเพื่อให้ชาวบ้านได้สันจรได้ก่อนที่จะให้หน่วยงานที่รับผิดชอบเข้ามาซ่อมแซม
สำหรับคอสะพานที่ขาดนั้นได้แก่ สะพานบ้านทุ่งแฝก หมู่ 2 ต.สวนผึ้ง สะพานบ้านทุ่งไม้แดง หมู่ 2 ต.สวนผึ้ง สะพานเข้ารีสอร์ท สวนผึ้งฮิลล์รีสอร์ต ซึ่งเป็นสะพานที่นักท่องเที่ยวเดินทางเข้าออกรีสอร์ต แต่ได้มีการประชาสัมพันธ์ให้นักท่องเที่ยวได้เดินทางออกมาก่อนที่จะเกิดน้ำป่าซัดคอสะพานขาดแล้ว และสะพานบ้านนาขุนแสน นอกจากนี้ ยังมีสะพานอีกหลายตัวในพื้นที่ อ.สวนผึ้ง ที่กำลังเสี่ยงต่อการถูกน้ำป่าเซาะตัดขาด ทางเจ้าหน้าที่ได้ทำการเฝ้าระวังเพื่อจะได้แจ้งเตือนไม่ให้ประชาชนไปใช้เส้นทางดังกล่าว ซึ่งขณะนี้ทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องก็กำลังเร่งเข้าไปตรวจสอบเพื่อให้ความช่วยเหลือชาวบ้านที่อาจจะติดค้างอยู่ไม่สามารถออกเดินทางมาได้ เพื่อดำเนินการช่วยเหลือต่อไป
**ด่านมะขามเตี้ยอ่วม-ผู้ว่าสั่งอพยพ
ส่วนที่ จ.กาญจนบุรี น้ำป่าจากเทือกเขาตะนาวศรี และน้ำ จ.ราชบุรี ได้ไหลลงสู่ลำห้วยภาชี ต.หนองไผ่ อ.ด่านมะขามเตี้ย เพิ่มระดับขึ้นเกินจุดวิกฤตเครื่องเตือนระดับน้ำมีเสียงดังและมีไฟกะพริบสีแดงตลอดเวลาเป็นสัญญาณเตือนให้ชาวบ้านขนย้ายสิ่งของไปอยู่ที่สูง
นอกจากนี้ น้ำยังล้นตลิ่งเข้าท่วมบ้านเรือนและพื้นที่การเกษตรเป็นจำนวนมาก ถนนและสะพานหลายแห่งถูกน้ำท่วมสูงกว่า 1 เมตร หลายหมู่บ้านถูกตัดขาดจากโลกภายนอก ชาวบ้านเร่งขนย้ายสิ่งของและทรัพย์สินไปไว้บนที่สูง แต่บางจุดไม่สามารถทำได้เนื่องจากน้ำไหลเชี่ยว และระดับน้ำได้เพิ่มสุงขึ้นอย่างต่อเนื่อง
นายชัยวัฒน์ ลิมป์วรรณธะ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี เปิดเผยว่า สถานการณ์น้ำใน อ.ด่านมะขามเตี้ย น่ากังวลที่สุดหลังน้ำเริ่มท่วมในพื้นที่สูงกว่า 1 เมตร และยังคงมีฝนตกต่อเนื่อง อีกทั้งยังเป็นพื้นที่ลุ่มต่ำต้องรับน้ำจาก อ.สวนผึ้ง จ.ราชบุรี ล่าสุดได้สั่งให้อพยพประชาชนออกจากพื้นที่อันตรายแล้ว
