บิ๊กเอสเอ็มอีแบงก์ฝัน 3 ปีล้างหนี้เสีย 3.3 หมื่นล้านหมดเกลี้ยง พร้อมพลิกกลับมาทำกำไร เล็งจัดกลุ่มลูกค้าใหม่หวังทำรายได้เพิ่ม ขณะที่การสรรหาเอ็มดีคนใหม่คาดต้นปีหน้าเสร็จสิ้นกระบวนการ
นายพิชัย ชุณหวชิร ประธานคณะกรรมการฟื้นฟูกิจการธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.)หรือเอสเอ็มอีแบงก์ เปิดเผยว่า คณะกรรมการตั้งเป้าหมายภายใน 3 ปี ที่จะแก้ปัญหาหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (เอ็นพีแอล) ของธนาคารได้ทั้งหมด โดยปัจจุบันมีเอ็นพีแอลสูงถึง 22,000 ล้านบาทและคาดว่าสิ้นปีนี้จะอยู่ที่ 33,000 ล้านบาท หากสามารถแก้ปัญหาตามเวลาที่คาดไว้ก็จะทำให้ผลประกอบการธนาคารกลับมาเป็นบวกได้ ขณะที่ ผลดำเนินการ 8 เดือนที่ผ่านมาธนาคารขาดทุนอยู่ที่ 2,200 ล้านบาท
ปัจจุบัน ธนาคารมียอดปล่อยสินเชื่อประมาณ 98,000 ล้านบาท โดยตั้งเป้าหมายในปี 55-66 ธนาคารจะปล่อยสินเชื่อปีละ 26,000 ล้านบาท ส่วนในช่วง 8 เดือนที่ผ่านมาสามารถปล่อยสินเชื่ออยู่ที่ 18,000 ล้านบาท ถือว่าต่ำกว่าเป้าหมายที่วางไว้ 3,000-4,000 ล้านบาท ด้านสินทรัพย์อยู่ที่ 105,000 ล้านบาท แบ่งเป็นหนี้สิน 95,000 ล้านบาท และเหลือในส่วนของทุนเพียง 5,000 ล้านบาทเท่านั้น ทำให้อัตราส่วนเงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยงอยู่ที่ 5.6% ถือว่าต่ำกว่ามาตรฐานของธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) กำหนดไว้ที่ 8.5%
สำหรับแนวทางการฟื้นฟูธนาคารในเบื้องต้นนั้นต้องจัดกลุ่มลูกค้าและกลุ่มเอ็นพีแอลใหม่ หากเป็นลูกค้าที่ดีหาแนวทางจูงใจให้ลูกค้าเหล่านั้นยังอยู่กับธนาคารต่อไป ส่วนลูกหนี้ที่เริ่มมีปัญหาเรียกให้มาเจรจาดูแนวทางการปรับปรุงหนี้ให้ดีขึ้น รวมถึง ลูกค้าที่เกินเยียวยาต้องนำหลักทรัพย์มาดูและดูไปถึงการบังคับคดี นำสินทรัพย์ออกขาย โดยเชื่อว่าทรัพย์สินของลูกหนี้จะมีมากกว่าหนี้สิน ดังนั้นต้องเร่งดำเนินการเพื่อนำหนี้เสียเหล่านี้กลับมาเป็นรายได้
ด้านนายนริศ ชัยสูตร อธิบดีกรมธนารักษ์ ในฐานะประธานคณะกรรมการธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดแห่งประเทศไทย (ธพว.) กล่าวว่า คณะกรรมการกำลังเร่งจัดทำแผนฟื้นฟูธนาคาร โดยกำหนดต้องแล้วเสร็จใน 90 วัน ซึ่งผ่านมาแล้ว 30 วันและความคืบหน้าไปในระดับหนึ่ง โดยอะไรที่สามารถทำได้ทำทันที โดยไม่ต้องรอให้ครบวันที่กำหนด
ขณะที่ การสรรหากรรมการผู้จัดการธนาคารนั้น ได้แต่งตั้งคณะกรรมการสรรหา ที่มีนายวิฑูรย์ สิมะโชคดี ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม เป็นประธาน ซึ่งในการประชุมคณะกรรมการธนาคารครั้งหน้าจะมีการกำหนดคุณสมบัติของผู้สมัคร คาดว่าช่วงต้นปี 56 ธพว.จะมีกรรมการผู้จัดการคนใหม่
นายพิชัย ชุณหวชิร ประธานคณะกรรมการฟื้นฟูกิจการธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.)หรือเอสเอ็มอีแบงก์ เปิดเผยว่า คณะกรรมการตั้งเป้าหมายภายใน 3 ปี ที่จะแก้ปัญหาหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (เอ็นพีแอล) ของธนาคารได้ทั้งหมด โดยปัจจุบันมีเอ็นพีแอลสูงถึง 22,000 ล้านบาทและคาดว่าสิ้นปีนี้จะอยู่ที่ 33,000 ล้านบาท หากสามารถแก้ปัญหาตามเวลาที่คาดไว้ก็จะทำให้ผลประกอบการธนาคารกลับมาเป็นบวกได้ ขณะที่ ผลดำเนินการ 8 เดือนที่ผ่านมาธนาคารขาดทุนอยู่ที่ 2,200 ล้านบาท
ปัจจุบัน ธนาคารมียอดปล่อยสินเชื่อประมาณ 98,000 ล้านบาท โดยตั้งเป้าหมายในปี 55-66 ธนาคารจะปล่อยสินเชื่อปีละ 26,000 ล้านบาท ส่วนในช่วง 8 เดือนที่ผ่านมาสามารถปล่อยสินเชื่ออยู่ที่ 18,000 ล้านบาท ถือว่าต่ำกว่าเป้าหมายที่วางไว้ 3,000-4,000 ล้านบาท ด้านสินทรัพย์อยู่ที่ 105,000 ล้านบาท แบ่งเป็นหนี้สิน 95,000 ล้านบาท และเหลือในส่วนของทุนเพียง 5,000 ล้านบาทเท่านั้น ทำให้อัตราส่วนเงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยงอยู่ที่ 5.6% ถือว่าต่ำกว่ามาตรฐานของธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) กำหนดไว้ที่ 8.5%
สำหรับแนวทางการฟื้นฟูธนาคารในเบื้องต้นนั้นต้องจัดกลุ่มลูกค้าและกลุ่มเอ็นพีแอลใหม่ หากเป็นลูกค้าที่ดีหาแนวทางจูงใจให้ลูกค้าเหล่านั้นยังอยู่กับธนาคารต่อไป ส่วนลูกหนี้ที่เริ่มมีปัญหาเรียกให้มาเจรจาดูแนวทางการปรับปรุงหนี้ให้ดีขึ้น รวมถึง ลูกค้าที่เกินเยียวยาต้องนำหลักทรัพย์มาดูและดูไปถึงการบังคับคดี นำสินทรัพย์ออกขาย โดยเชื่อว่าทรัพย์สินของลูกหนี้จะมีมากกว่าหนี้สิน ดังนั้นต้องเร่งดำเนินการเพื่อนำหนี้เสียเหล่านี้กลับมาเป็นรายได้
ด้านนายนริศ ชัยสูตร อธิบดีกรมธนารักษ์ ในฐานะประธานคณะกรรมการธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดแห่งประเทศไทย (ธพว.) กล่าวว่า คณะกรรมการกำลังเร่งจัดทำแผนฟื้นฟูธนาคาร โดยกำหนดต้องแล้วเสร็จใน 90 วัน ซึ่งผ่านมาแล้ว 30 วันและความคืบหน้าไปในระดับหนึ่ง โดยอะไรที่สามารถทำได้ทำทันที โดยไม่ต้องรอให้ครบวันที่กำหนด
ขณะที่ การสรรหากรรมการผู้จัดการธนาคารนั้น ได้แต่งตั้งคณะกรรมการสรรหา ที่มีนายวิฑูรย์ สิมะโชคดี ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม เป็นประธาน ซึ่งในการประชุมคณะกรรมการธนาคารครั้งหน้าจะมีการกำหนดคุณสมบัติของผู้สมัคร คาดว่าช่วงต้นปี 56 ธพว.จะมีกรรมการผู้จัดการคนใหม่
