** ปี่กลองเชิด ฝุ่นตลบ อลเวงไปทั้งครม. คล้อยหลังจาก "ยงยุทธ วิชัยดิษฐ" หัวหน้าพรรคหุ่นเชิด ลาออกจากตำแหน่งรองนายกฯ และ รมว.มหาดไทย ไม่ทันไร ขบวนการเคลื่อนไหวแย่งชิงเก้าอี้ก็โหมโรงเปิดฉากเป็นศึกภายในบริษัทพรรคเพื่อไทย
บรรดาแม่ทัพนายกองเล่นเกมปล่อยข่าวหยั่งกระแสกันโครมคราม เล่นเอา "ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร" ในฐานะซีอีโอ ต้องปวดเศียรเวียนเกล้าอีกรอบ
จะปรับครม.ทีไรก็กระเพื่อมเมื่อนั้น ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ต้องออกโรงมาสยบข่าวทุกครั้งไป ไม่อย่างนั้นภาพจะไม่สวย เอาแต่แก่งแย่งเก้าอี้ งานการไม่เอาใจใส่ ซึ่งก็เป็นเรื่องที่ช่วยไม่ได้
**การปรับครม.ครั้งนี้เดิมพันสูง ยิ่งมีตำแหน่งใหญ่ที่จะต้องปรับแน่ๆ อย่าง มท.1 ล่อตาล่อใจ มีหรือใครจะไม่กระสัน
สารพัดกลุ่มก๊วนเดินเกมชักเย่อ แย่งเก้าอี้กันหนักข้อขึ้นเรื่อยๆ บ้านเลขที่ 111 ที่ร้องเพลงรอมานานตั้งแต่กลางปี ถึงเวลาต้องเดินเกมรุกแบบเลิกอาย ขอเข้ามามีเอี่ยวในครม.เสียที แต่ละคนล้วนถือดีว่าเป็นตัวจริง ให้นั่งรอข้างสนามนานๆ จะถูกนินทา บารมีหดหาย กลายเป็น “เด็กเหลือขอ”
บริษัทพรรคเพื่อไทยวันนี้ยังดำเนินกิจการในรูปแบบเดิมๆ แบ่งเป็นก๊วน แบ่งเป็นก๊ก เหมือนเป็นแผนกต่างๆ เมื่อมาเป็นรัฐบาลก็นับวันจะขยายสาขา สร้างบารมีกันยกใหญ่
กลุ่มที่ตั้งใหม่แต่พาวเวอร์ระดับสูงหนีไม่พ้นกลุ่มไทยคู่ฟ้า เพื่อนยิ่งลักษณ์ ที่มีนายกฯ หน้าสวยไร้สมองเป็นแกนนำ สามารถชี้นิ้วเลือกตัวรัฐมนตรีได้หลายตำแหน่ง ในฐานะหัวหน้างานฉากหน้า ซีอีโอบริษัท ที่ ทักษิณ ชินวัตร นักโทษหนีคดี เจ้าของบริษัทเพื่อไทย ณ ชินวัตรกรุ๊ป ต้องพึ่งพาในยามที่ตัวเองต้องระหกระเหิน เร่ร่อน
วันนี้ถ้า "อ้ายแม้ว" ไปยุ่มย่ามกิจการ บีบ "อีน้องปู" ให้ทำตามสั่งมากๆ เข้า เป็นโดนเถียงกลับ เพราะ "ยิ่งลักษณ์" เริ่มติดลมบน กระแสความนิยมลอยละลิ่ว บริหารงานได้ด้วยตัวเองและทีมงาน และถ้าพูดกันไม่รู้เรื่อง "ยิ่งลักษณ์" ยังมีไพ่ตายทีเด็ด หากออกลูกงอแงพี่ชายเมื่อไหร่ ขู่ลาออกจากตำแหน่งนายกฯ ดื้อๆ "ทักษิณ" คงจนแต้มเหมือนกัน ไม่รู้จะแก้เกมอย่างไร เพราะยามนี้มองไปทิศไหนก็หาคนรัศมีเทียบเท่ามาแทนที่ลำบากจริงๆ
ชั่วโมงนี้เพื่อไทยยังประกอบไปด้วยหลายก๊วน ไม่ต่างจากสมัยพรรคไทยรักไทย จะเปลี่ยนไปบ้างก็ตัวบุคคลหัวหน้าแผนก แต่รูปแบบยังเป็นการแบ่งเค้ก สวาปามผลประโยชน์กันเหมือนเคย กลุ่มที่ทรงอิทธิพลอีกกลุ่มหนึ่งก็คือกลุ่ม "เจ๊แดง" เยาวภา วงศ์สวัสดิ์ ที่ระยะหลังมาเกี่ยวพันแทบทุกกระทรวง ทบวง กรม นินทากันให้แซ่ด เรื่องกินจุ แต่ก็มีพาวเวอร์ในบริษัทเพื่อไทยระดับสูงส่ง
นอกจากนี้ ยังมีกลุ่มสนับสนุนด้วยยุทธปัจจัย ทุนหนา บารมีเยอะ เช่น "เฮียเพ้ง" พงษ์ศักดิ์ รักตพงศ์ไพศาล กลุ่มหัวเอียงซ้ายในไทยรักไทยเดิม ที่วันนี้หลุดจากพันธนาการมาแล้ว กลุ่มบ้านจันทร์ส่องหล้า ของ พจมาน ณ ป้อมเพ็ชร ที่จะต้องจับตาอย่างมากในรายของ เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ อดีต ผบ.ตร. คนล่าสุด หากเจ้าตัวจะลงเล่นการเมือง ต้องมีตำแหน่งบิ๊กเบิ้มอย่างแน่นอน เพียงแต่จะวางไว้ตรงไหนแค่นั้น
กลุ่มคนเสื้อแดงก็ลืมไม่ได้ แต่เป็นกลุ่มที่สร้างความปั่นป่วนภายในไม่น้อย ด้วยความห่ามห้าว จ้องแต่จะทวงบุญคุณ ค่าเหนื่อยที่เคยเป็นทัพหน้าต่อสู้จนบริษัทเพื่อไทยได้ตั้งรัฐบาลอีกครั้ง แต่ทว่าชั่วโมงนี้ นายใหญ่ นายหญิง สารพัดนาย ไม่ได้ให้ค่าเท่าไหร่
เข้าทำนอง เสร็จนาฆ่าโคถึก เสร็จศึกฆ่าขุนพล เช่นเดียวกัน พอเดือดร้อนก็ใช้จัง แต่พอได้ดีก็โยนแค่เศษเนื้อมาให้ ตำแหน่งรมต.ยังมีให้เพียงโควตาเดียว เอาไปแย่งกันเอง คิดแล้วก็น่าเวทนาเหมือนโดนหลอกใช้แท้ๆ วันดีคืนดีอาจปลุกมวลชนมาถล่มพรรคพวกกันเองให้พังกันทั้งแถบ หากน็อตหลุดขึ้นมา
อีกกลุ่มที่พยายามรวบรวมเป็นก้อนเพื่อต่อรองตำแหน่งมาตลอดก็คือ ส.ส.กันเอง ร้องแรกแหกกระเชอให้มี รมต.ตามสัดส่วนโควต้า ขณะที่กลุ่มคนใกล้ชิดนายใหญ่ ก็ยังเป็นอีกกลุ่มหนึ่งที่ทรงพลังอยู่
**ทั้งหลายทั้งพวงเหล่านี้ เป็นปัญหาภายในที่บริหารจัดการยากยิ่งสำหรับ "ทักษิณ" ในฐานะเจ้าของบริษัท จะสับหลีกปรับครม. เกลี่ยตำแหน่งอย่างไรก็บริหารความพึงพอใจลำบาก เพราะมันขัดกันเรื่องผลประโยชน์ เรื่องนี้คุยกันลำบาก ถ้าขัดกันเรื่องงานอย่างเดียวคงคุยง่าย แต่เรื่องผลประโยชน์ เงินๆ ทองๆ มันคุยกันยากจริงๆ
ต้องยอมรับว่า วันนี้นักโทษหลบหนีคดีในฐานะเจ้าของบริษัท ไม่สามารถทุบโต๊ะแรงๆ ชี้นกเป็นนก ชี้ไม้เป็นไม้ ได้เหมือนเก่าก่อน เพราะสภาพตัวเองตอนนี้ไม่มีอำนาจโดยตรง ต้องสั่งผ่านตัวแทนตลอด อะไรต่างๆ มันเลยดูดร็อปลงไปเยอะ ไม่เหมือนตอนเป็นนายกฯ เป็นเผด็จการครม.
ลำพังแค่ไม่ชอบหน้าใครบางคน เช่น ไม่ชอบ กิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกฯ และรมว.คลัง มองว่าบริหารเศรษฐกิจไม่เอาไหน "ทักษิณ" ยังเขี่ยให้พ้นออกจากครม.ลำบาก อย่างที่บอกพาวเวอร์มันวูบลงไป ในขณะที่ "กิตติรัตน์" เป็นเครือข่ายไทยคู่ฟ้า ของนายกฯปู ที่นับวันยิ่งทรงพลัง เขี่ยยังไงก็หลุดยาก เพราะปู "เอาอยู่"
ตำแหน่งที่น่ากังวลที่สุด ก็อยู่ที่ มท.1 นี่แหละ แค่รมต.คนเก่าขยับออกไม่ทันไร ก็ล้งเล้งกันตลาดแทบแตก "ทักษิณ" ก็ทุบชี้ขาดยังไม่ได้ เป็นปัญหาหนักอกหนักใจ แต่ละชื่อแต่ละรายที่ออกมาล้วนน่าจะใช่ ภูมิธรรม เวชยชัย ผอ.พรรคเพื่อไทย ที่ทำงานเบื้องหลังมานาน ก็น่าจะถึงจังหวะเวลาที่ต้องขึ้นแป้นรับตำแหน่งใหญ่ มท.1 ไม่ได้ตอนนี้ก็ไม่รู้จะได้ตอนไหนแล้ว
พ.อ.อภิวันท์ วิริยะชัย ก็มีชื่อมานานแล้ว ก่อนตั้ง ครม.ยิ่งลักษณ์ ก็มีชื่อเป็นถึงรองนายกฯ แต่เจ้าตัวแง่งอน ไม่รับ และรอคอยโอกาสครั้งใหม่มาตลอด
เสริมศักดิ์ พงษ์พานิช อดีต รมช.มหาดไทย เล็งขึ้นชั้นเป็น รมว.มหาดไทย มีฐานส.ส.อีสานบางส่วน และดูเหมือนเจ้าตัวมีความปรารถนาอย่างแรงกล้า ที่จะนั่งเก้าอี้ มท. 1 เท่านั้น ผิดจากนี้ไม่เอา
ทว่าอีกชื่อที่มาแบบเงียบๆ พล.ต.อ.ชิดชัย วรรณสถิตย์ สัมพันธ์ลึกซึ้งกับเครือข่ายตระกูลชินวัตร ทั้ง "เจ๊แดง-สมชาย" ไฟเขียวหนุนหลัง งานนี้อาจมาวินแซงโค้งท้าย
ทว่าทั้งหลายทั้งปวงเหล่านี้ที่มีความพยายามอย่างยิ่งยวดที่จะยื้อเอาเก้าอี้ รมว.มหาดไทย มาไว้ในครอบครอง หนีไม่พ้นการเอาตำแหน่งใหญ่โตมาสร้างเครือข่าย กลุ่มการเมืองตัวเองและพวกพ้องให้แผ่ไพศาลกว้างไกลในเชิงการเมือง
**ไม่ได้คิดมาบริหารงานราชการ "บำบัดทุกข์ บำรุงสุข" ให้ประชาชนแต่อย่างใดเลย..
บรรดาแม่ทัพนายกองเล่นเกมปล่อยข่าวหยั่งกระแสกันโครมคราม เล่นเอา "ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร" ในฐานะซีอีโอ ต้องปวดเศียรเวียนเกล้าอีกรอบ
จะปรับครม.ทีไรก็กระเพื่อมเมื่อนั้น ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ต้องออกโรงมาสยบข่าวทุกครั้งไป ไม่อย่างนั้นภาพจะไม่สวย เอาแต่แก่งแย่งเก้าอี้ งานการไม่เอาใจใส่ ซึ่งก็เป็นเรื่องที่ช่วยไม่ได้
**การปรับครม.ครั้งนี้เดิมพันสูง ยิ่งมีตำแหน่งใหญ่ที่จะต้องปรับแน่ๆ อย่าง มท.1 ล่อตาล่อใจ มีหรือใครจะไม่กระสัน
สารพัดกลุ่มก๊วนเดินเกมชักเย่อ แย่งเก้าอี้กันหนักข้อขึ้นเรื่อยๆ บ้านเลขที่ 111 ที่ร้องเพลงรอมานานตั้งแต่กลางปี ถึงเวลาต้องเดินเกมรุกแบบเลิกอาย ขอเข้ามามีเอี่ยวในครม.เสียที แต่ละคนล้วนถือดีว่าเป็นตัวจริง ให้นั่งรอข้างสนามนานๆ จะถูกนินทา บารมีหดหาย กลายเป็น “เด็กเหลือขอ”
บริษัทพรรคเพื่อไทยวันนี้ยังดำเนินกิจการในรูปแบบเดิมๆ แบ่งเป็นก๊วน แบ่งเป็นก๊ก เหมือนเป็นแผนกต่างๆ เมื่อมาเป็นรัฐบาลก็นับวันจะขยายสาขา สร้างบารมีกันยกใหญ่
กลุ่มที่ตั้งใหม่แต่พาวเวอร์ระดับสูงหนีไม่พ้นกลุ่มไทยคู่ฟ้า เพื่อนยิ่งลักษณ์ ที่มีนายกฯ หน้าสวยไร้สมองเป็นแกนนำ สามารถชี้นิ้วเลือกตัวรัฐมนตรีได้หลายตำแหน่ง ในฐานะหัวหน้างานฉากหน้า ซีอีโอบริษัท ที่ ทักษิณ ชินวัตร นักโทษหนีคดี เจ้าของบริษัทเพื่อไทย ณ ชินวัตรกรุ๊ป ต้องพึ่งพาในยามที่ตัวเองต้องระหกระเหิน เร่ร่อน
วันนี้ถ้า "อ้ายแม้ว" ไปยุ่มย่ามกิจการ บีบ "อีน้องปู" ให้ทำตามสั่งมากๆ เข้า เป็นโดนเถียงกลับ เพราะ "ยิ่งลักษณ์" เริ่มติดลมบน กระแสความนิยมลอยละลิ่ว บริหารงานได้ด้วยตัวเองและทีมงาน และถ้าพูดกันไม่รู้เรื่อง "ยิ่งลักษณ์" ยังมีไพ่ตายทีเด็ด หากออกลูกงอแงพี่ชายเมื่อไหร่ ขู่ลาออกจากตำแหน่งนายกฯ ดื้อๆ "ทักษิณ" คงจนแต้มเหมือนกัน ไม่รู้จะแก้เกมอย่างไร เพราะยามนี้มองไปทิศไหนก็หาคนรัศมีเทียบเท่ามาแทนที่ลำบากจริงๆ
ชั่วโมงนี้เพื่อไทยยังประกอบไปด้วยหลายก๊วน ไม่ต่างจากสมัยพรรคไทยรักไทย จะเปลี่ยนไปบ้างก็ตัวบุคคลหัวหน้าแผนก แต่รูปแบบยังเป็นการแบ่งเค้ก สวาปามผลประโยชน์กันเหมือนเคย กลุ่มที่ทรงอิทธิพลอีกกลุ่มหนึ่งก็คือกลุ่ม "เจ๊แดง" เยาวภา วงศ์สวัสดิ์ ที่ระยะหลังมาเกี่ยวพันแทบทุกกระทรวง ทบวง กรม นินทากันให้แซ่ด เรื่องกินจุ แต่ก็มีพาวเวอร์ในบริษัทเพื่อไทยระดับสูงส่ง
นอกจากนี้ ยังมีกลุ่มสนับสนุนด้วยยุทธปัจจัย ทุนหนา บารมีเยอะ เช่น "เฮียเพ้ง" พงษ์ศักดิ์ รักตพงศ์ไพศาล กลุ่มหัวเอียงซ้ายในไทยรักไทยเดิม ที่วันนี้หลุดจากพันธนาการมาแล้ว กลุ่มบ้านจันทร์ส่องหล้า ของ พจมาน ณ ป้อมเพ็ชร ที่จะต้องจับตาอย่างมากในรายของ เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ อดีต ผบ.ตร. คนล่าสุด หากเจ้าตัวจะลงเล่นการเมือง ต้องมีตำแหน่งบิ๊กเบิ้มอย่างแน่นอน เพียงแต่จะวางไว้ตรงไหนแค่นั้น
กลุ่มคนเสื้อแดงก็ลืมไม่ได้ แต่เป็นกลุ่มที่สร้างความปั่นป่วนภายในไม่น้อย ด้วยความห่ามห้าว จ้องแต่จะทวงบุญคุณ ค่าเหนื่อยที่เคยเป็นทัพหน้าต่อสู้จนบริษัทเพื่อไทยได้ตั้งรัฐบาลอีกครั้ง แต่ทว่าชั่วโมงนี้ นายใหญ่ นายหญิง สารพัดนาย ไม่ได้ให้ค่าเท่าไหร่
เข้าทำนอง เสร็จนาฆ่าโคถึก เสร็จศึกฆ่าขุนพล เช่นเดียวกัน พอเดือดร้อนก็ใช้จัง แต่พอได้ดีก็โยนแค่เศษเนื้อมาให้ ตำแหน่งรมต.ยังมีให้เพียงโควตาเดียว เอาไปแย่งกันเอง คิดแล้วก็น่าเวทนาเหมือนโดนหลอกใช้แท้ๆ วันดีคืนดีอาจปลุกมวลชนมาถล่มพรรคพวกกันเองให้พังกันทั้งแถบ หากน็อตหลุดขึ้นมา
อีกกลุ่มที่พยายามรวบรวมเป็นก้อนเพื่อต่อรองตำแหน่งมาตลอดก็คือ ส.ส.กันเอง ร้องแรกแหกกระเชอให้มี รมต.ตามสัดส่วนโควต้า ขณะที่กลุ่มคนใกล้ชิดนายใหญ่ ก็ยังเป็นอีกกลุ่มหนึ่งที่ทรงพลังอยู่
**ทั้งหลายทั้งพวงเหล่านี้ เป็นปัญหาภายในที่บริหารจัดการยากยิ่งสำหรับ "ทักษิณ" ในฐานะเจ้าของบริษัท จะสับหลีกปรับครม. เกลี่ยตำแหน่งอย่างไรก็บริหารความพึงพอใจลำบาก เพราะมันขัดกันเรื่องผลประโยชน์ เรื่องนี้คุยกันลำบาก ถ้าขัดกันเรื่องงานอย่างเดียวคงคุยง่าย แต่เรื่องผลประโยชน์ เงินๆ ทองๆ มันคุยกันยากจริงๆ
ต้องยอมรับว่า วันนี้นักโทษหลบหนีคดีในฐานะเจ้าของบริษัท ไม่สามารถทุบโต๊ะแรงๆ ชี้นกเป็นนก ชี้ไม้เป็นไม้ ได้เหมือนเก่าก่อน เพราะสภาพตัวเองตอนนี้ไม่มีอำนาจโดยตรง ต้องสั่งผ่านตัวแทนตลอด อะไรต่างๆ มันเลยดูดร็อปลงไปเยอะ ไม่เหมือนตอนเป็นนายกฯ เป็นเผด็จการครม.
ลำพังแค่ไม่ชอบหน้าใครบางคน เช่น ไม่ชอบ กิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกฯ และรมว.คลัง มองว่าบริหารเศรษฐกิจไม่เอาไหน "ทักษิณ" ยังเขี่ยให้พ้นออกจากครม.ลำบาก อย่างที่บอกพาวเวอร์มันวูบลงไป ในขณะที่ "กิตติรัตน์" เป็นเครือข่ายไทยคู่ฟ้า ของนายกฯปู ที่นับวันยิ่งทรงพลัง เขี่ยยังไงก็หลุดยาก เพราะปู "เอาอยู่"
ตำแหน่งที่น่ากังวลที่สุด ก็อยู่ที่ มท.1 นี่แหละ แค่รมต.คนเก่าขยับออกไม่ทันไร ก็ล้งเล้งกันตลาดแทบแตก "ทักษิณ" ก็ทุบชี้ขาดยังไม่ได้ เป็นปัญหาหนักอกหนักใจ แต่ละชื่อแต่ละรายที่ออกมาล้วนน่าจะใช่ ภูมิธรรม เวชยชัย ผอ.พรรคเพื่อไทย ที่ทำงานเบื้องหลังมานาน ก็น่าจะถึงจังหวะเวลาที่ต้องขึ้นแป้นรับตำแหน่งใหญ่ มท.1 ไม่ได้ตอนนี้ก็ไม่รู้จะได้ตอนไหนแล้ว
พ.อ.อภิวันท์ วิริยะชัย ก็มีชื่อมานานแล้ว ก่อนตั้ง ครม.ยิ่งลักษณ์ ก็มีชื่อเป็นถึงรองนายกฯ แต่เจ้าตัวแง่งอน ไม่รับ และรอคอยโอกาสครั้งใหม่มาตลอด
เสริมศักดิ์ พงษ์พานิช อดีต รมช.มหาดไทย เล็งขึ้นชั้นเป็น รมว.มหาดไทย มีฐานส.ส.อีสานบางส่วน และดูเหมือนเจ้าตัวมีความปรารถนาอย่างแรงกล้า ที่จะนั่งเก้าอี้ มท. 1 เท่านั้น ผิดจากนี้ไม่เอา
ทว่าอีกชื่อที่มาแบบเงียบๆ พล.ต.อ.ชิดชัย วรรณสถิตย์ สัมพันธ์ลึกซึ้งกับเครือข่ายตระกูลชินวัตร ทั้ง "เจ๊แดง-สมชาย" ไฟเขียวหนุนหลัง งานนี้อาจมาวินแซงโค้งท้าย
ทว่าทั้งหลายทั้งปวงเหล่านี้ที่มีความพยายามอย่างยิ่งยวดที่จะยื้อเอาเก้าอี้ รมว.มหาดไทย มาไว้ในครอบครอง หนีไม่พ้นการเอาตำแหน่งใหญ่โตมาสร้างเครือข่าย กลุ่มการเมืองตัวเองและพวกพ้องให้แผ่ไพศาลกว้างไกลในเชิงการเมือง
**ไม่ได้คิดมาบริหารงานราชการ "บำบัดทุกข์ บำรุงสุข" ให้ประชาชนแต่อย่างใดเลย..