วานนี้(24 ก.ย.55) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การประชุมคณะรัฐมนตรี วันที่ 25 ก.ย.นี้ ที่มีนายยงยุทธ วิชัยดิษฐ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานในที่ประชุมแทนนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ที่เดินทางปฏิบัติภารกิจที่นครนิวยอร์ค สหรัฐอเมริกา
เป็นที่น่าจับตาว่า อาจจะมีการเสนอบัญชีการแต่งตั้งโยกย้ายผู้ว่าราชการจังหวัด ตามที่นายยงยุทธ ระบุว่าจะมีการย้ายสลับจังหวัด ในช่วงเดือนกันยายนนี้
แม้ล่าสุดยังไม่มีการยืนยันว่า นายยงยุทธได้ลงนามในคำสั่งโยกย้ายดังกล่าวแล้วหรือไม่ เพราะในคราวการประชุมครม.เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา น.ส.ยิ่งลักษณ์ ได้มีคำสั่งห้ามครม.เสนอวาระจร เข้าสู่ที่ชุมเว้นได้รับอนุญาตจากนายกรัฐมนตรี
ขณะที่บัญชีแต่งตั้งโยกย้ายมีถึง 30 กว่าตำแหน่ง โดยเป็นการย้ายสลับระหว่างผู้ตรวจราชการกระทรวงออกไปดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัด (ผวจ.)
ส่วนการโยกย้ายครั้งนี้ กลับมีความขัดแย้งภายในพรรคระหว่างนางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ และกลุ่มการเมือง
ในภาคกลาง เกี่ยวกับตำแหน่งผวจ.จังหวัดใหญ่บางจังหวัด
มีรายงานว่า ผู้ว่าฯที่เคยอยู่จังหวัดเล็กแต่สนิทสนมการเมือง อาจจะขยับไปนั่งจังหวัดเกรดเอ ทั้งในภาคเหนือและภาคกลาง เช่น นักการเมืองระดับชาติในจังหวัดนครปฐม เสนอชื่อผู้ว่าฯ คนใหม่ผ่าน รมว.มหาดไทย รวมถึงผู้กว้างขวางในจังหวัดสระแก้ว ก็ฝากฝังผู้ที่จะมาเป็นผู้ว่าฯสระแก้ว แทนคนเดิมที่เกษียณ รวมถึง จ.สุพรรณบุรี หรือ จ.พิจิตร เป็นต้น
สำหรับโผการแต่งตั้งล่าสุด มีชื่อผู้จะถูกเสนอชื่อใน ครม. เช่นนายธานินทร์ สุภาแสน ผวจ.เชียงราย จะเป็นผวจ.เชียงใหม่ นายพงษ์ศักดิ์ วังเสมอ ผวจ.น่าน เป็นผวจ.เชียงราย นายวันชาติ วงษ์ชัยชนะ ผวจ.ร้อยเอ็ด เป็นผวจ.นครปฐม นายประมุข ลมุล ผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย เป็นผวจ.ปัตตานี นายธนน เวชกรกานนท์ ผวจ.สมุทรสงคราม หรือนายคณิต เอี่ยมระหงส์ ผวจ.บุรีรัมย์ เป็นผวจ.สมุทรปราการ นายสุทธิพงศ์ จุลเจริญ ผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย เป็นผวจ.สมุทรสงคราม นายวันชัย สุทธิวรชัย ผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย เป็นผวจ.ชัยภูมิ นายสมศักดิ์ สุวรรณสุจริต ผวจ.กาฬสินธุ์ เป็นผวจ.ขอนแก่น เป็นต้น
อย่างไรก็ตาม ยังคงเหลือตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดที่ต้องเปิดสอบคัดเลือก เพื่อให้รองผู้ว่าราชการจังหวัดขึ้นมาดำรงตำแหน่งแทน อีกอย่างน้อย 16 ตำแหน่ง แทนผู้ว่าราชการจังหวัดที่เกษียณอายุราชการ
สำหรับบัญชีผู้ว่าฯที่เกษียณราชการในช่วงสิ้นเดือนกันยายนนี้เดิมที่มีอยู่ 16 จังหวัด ได้แก่ แพร่ ปทุมธานี สมุทรปราการ นครปฐม สุพรรณบุรี ชัยภูมิ มุกดาหาร สุราษฎร์ธานี ภูเก็ต ปัตตานี ชุมพร สตูล สระแก้ว ขอนแก่น อุบลราชธานี และพิจิตร ในการจัดบัญชีแต่งตั้งรอบแรกที่ผ่านมามีการแต่งตั้งเลื่อนผู้ว่าฯ 4 ราย มี จ.เชียงใหม่ ลพบุรี นครราชสีมา และอุดรธานี ได้รับการแต่งตั้งให้เข้ามาทำหน้าที่เป็นรองปลัดกระทรวง 1 ราย เป็นอธิบดี 3 ราย.
เป็นที่น่าจับตาว่า อาจจะมีการเสนอบัญชีการแต่งตั้งโยกย้ายผู้ว่าราชการจังหวัด ตามที่นายยงยุทธ ระบุว่าจะมีการย้ายสลับจังหวัด ในช่วงเดือนกันยายนนี้
แม้ล่าสุดยังไม่มีการยืนยันว่า นายยงยุทธได้ลงนามในคำสั่งโยกย้ายดังกล่าวแล้วหรือไม่ เพราะในคราวการประชุมครม.เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา น.ส.ยิ่งลักษณ์ ได้มีคำสั่งห้ามครม.เสนอวาระจร เข้าสู่ที่ชุมเว้นได้รับอนุญาตจากนายกรัฐมนตรี
ขณะที่บัญชีแต่งตั้งโยกย้ายมีถึง 30 กว่าตำแหน่ง โดยเป็นการย้ายสลับระหว่างผู้ตรวจราชการกระทรวงออกไปดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัด (ผวจ.)
ส่วนการโยกย้ายครั้งนี้ กลับมีความขัดแย้งภายในพรรคระหว่างนางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ และกลุ่มการเมือง
ในภาคกลาง เกี่ยวกับตำแหน่งผวจ.จังหวัดใหญ่บางจังหวัด
มีรายงานว่า ผู้ว่าฯที่เคยอยู่จังหวัดเล็กแต่สนิทสนมการเมือง อาจจะขยับไปนั่งจังหวัดเกรดเอ ทั้งในภาคเหนือและภาคกลาง เช่น นักการเมืองระดับชาติในจังหวัดนครปฐม เสนอชื่อผู้ว่าฯ คนใหม่ผ่าน รมว.มหาดไทย รวมถึงผู้กว้างขวางในจังหวัดสระแก้ว ก็ฝากฝังผู้ที่จะมาเป็นผู้ว่าฯสระแก้ว แทนคนเดิมที่เกษียณ รวมถึง จ.สุพรรณบุรี หรือ จ.พิจิตร เป็นต้น
สำหรับโผการแต่งตั้งล่าสุด มีชื่อผู้จะถูกเสนอชื่อใน ครม. เช่นนายธานินทร์ สุภาแสน ผวจ.เชียงราย จะเป็นผวจ.เชียงใหม่ นายพงษ์ศักดิ์ วังเสมอ ผวจ.น่าน เป็นผวจ.เชียงราย นายวันชาติ วงษ์ชัยชนะ ผวจ.ร้อยเอ็ด เป็นผวจ.นครปฐม นายประมุข ลมุล ผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย เป็นผวจ.ปัตตานี นายธนน เวชกรกานนท์ ผวจ.สมุทรสงคราม หรือนายคณิต เอี่ยมระหงส์ ผวจ.บุรีรัมย์ เป็นผวจ.สมุทรปราการ นายสุทธิพงศ์ จุลเจริญ ผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย เป็นผวจ.สมุทรสงคราม นายวันชัย สุทธิวรชัย ผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย เป็นผวจ.ชัยภูมิ นายสมศักดิ์ สุวรรณสุจริต ผวจ.กาฬสินธุ์ เป็นผวจ.ขอนแก่น เป็นต้น
อย่างไรก็ตาม ยังคงเหลือตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดที่ต้องเปิดสอบคัดเลือก เพื่อให้รองผู้ว่าราชการจังหวัดขึ้นมาดำรงตำแหน่งแทน อีกอย่างน้อย 16 ตำแหน่ง แทนผู้ว่าราชการจังหวัดที่เกษียณอายุราชการ
สำหรับบัญชีผู้ว่าฯที่เกษียณราชการในช่วงสิ้นเดือนกันยายนนี้เดิมที่มีอยู่ 16 จังหวัด ได้แก่ แพร่ ปทุมธานี สมุทรปราการ นครปฐม สุพรรณบุรี ชัยภูมิ มุกดาหาร สุราษฎร์ธานี ภูเก็ต ปัตตานี ชุมพร สตูล สระแก้ว ขอนแก่น อุบลราชธานี และพิจิตร ในการจัดบัญชีแต่งตั้งรอบแรกที่ผ่านมามีการแต่งตั้งเลื่อนผู้ว่าฯ 4 ราย มี จ.เชียงใหม่ ลพบุรี นครราชสีมา และอุดรธานี ได้รับการแต่งตั้งให้เข้ามาทำหน้าที่เป็นรองปลัดกระทรวง 1 ราย เป็นอธิบดี 3 ราย.