อาทิตย์ที่ผ่านมา มีบุคคลที่มีตำแหน่งถึงผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการบริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหารสัตว์ จำกัด (มหาชน) ของเจ้าสัวธนินท์ เจียรวนนท์ พร้อมด้วยเพื่อนร่วมงาน 3 คนมาขอพบผมที่สำนักงานสมาคมรักษ์ทะเลไทย ผมไตร่ตรองอยู่นานว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องส่วนตัวของผมหรือไม่ หลังจากที่ได้คุยกับพวกเขา 2 ชั่วโมงกว่าๆ ผมก็ได้ข้อสรุปว่าเรื่องที่พวกเขามาพบ ไม่ใช่เรื่องส่วนตัว แต่มันเป็นเรื่องของผลประโยชน์บริษัทยักษ์ใหญ่อย่างเจริญโภคภัณฑ์ บริษัทซึ่งผู้ก่อตั้งและเป็นเจ้าของเป็นมหาเศรษฐีอันดับหนึ่งของเมืองไทย นามว่าท่านเจ้าสัวธนินท์ เจียรวนนท์
ปัญหาการลดลงของพันธุ์สัตว์น้ำ ปัญหาความเสื่อมโทรมของทรัพยากรชายฝั่งในเนื้อหาต่างๆ ไม่ว่าป่าชายเลนถูกบุกรุกทำลาย ปะการังแหล่งเพาะฟักพันธุ์สัตว์น้ำถูกทำลาย ตลอดถึงการทำการประมงแบบทำลายล้าง แบบไม่รับผิดชอบ การใช้เครื่องมือทำลายล้างอย่างอวนลาก อวนรุนและเรือปั่นไฟ ซึ่งกลไกรัฐไม่ได้เข้ามาจัดการแก้ไข ส่งผลให้พี่น้องประมงชายฝั่งหลายแสนครอบครัวดำรงอยู่อย่างแร้นแค้น ไร้อนาคตและหลายๆ ชุมชนต้องล่มสลาย อพยพย้ายถิ่น เปลี่ยนแปลงอาชีพที่สะสมทักษะมายาวนานสู่อาชีพอื่นซึ่งก็หาได้ทำให้กลุ่มคนเหล่านี้มีอนาคตที่ดีงามขึ้นมาได้แต่อย่างใด
ในขณะที่อาหารโปรตีนของสังคมไทยก็ลดลงๆ เพราะแหล่งอาหารโปรตีนตามธรรมชาติโดยเฉพาะพื้นที่ทะเลซึ่งเป็นแหล่งอาหารโปรตีนที่ใหญ่และรองรับอาชีพของผู้คนจำนวนมากกำลังถูกทำลายลง พี่น้องชาวประมงพื้นบ้านที่ทำมาหากินประกอบอาชีพด้วยการทำประมงชายฝั่ง อาศัยฐานทรัพยากรคือพันธุ์สัตว์น้ำพวกกุ้ง หอย ปู ปลา เป็นที่มาของรายได้เลี้ยงปากท้องและครอบครัว อาศัยความอุดมสมบูรณ์ของพื้นที่ทะเลชายฝั่งเป็นปัจจัยชี้ขาดของการดำรงอยู่ของครอบครัวและชุมชนของพวกเขา
ในขณะเดียวกันกลุ่มทุนต่างๆ ได้พยายามเข้ามาทำธุรกิจควบคุมอาหารของผู้คนในสังคม ไม่ว่าด้านพืชผักหรือสัตว์ หนึ่งในนั้นซึ่งใหญ่สุด ก็คือบริษัทในเครือเจริญโภคภัณฑ์ของท่านเจ้าสัว หรือที่คนทั่วไปรู้จักกันในนามบริษัทซีพี บทความของผมที่พูดถึงเรื่องอาหารโปรตีนของสังคมไม่ว่าเรื่องกุ้งกุลาดำ เรื่องปลานิล เรื่องไก่ขาวหมูขุน และเรื่องของธุรกิจปลาป่นที่เป็นองค์ประกอบของอาหารสัตว์ ปลาป่นของประเทศที่บริษัทในเครือของท่านเจ้าสัวควบคุมอยู่เกิน 60% ยังไม่รวมถึงการส่งปลาป่นที่ส่งไปขายยังประเทศจีนสูงเป็นอันดับหนึ่ง ล้วนตกอยู่ในมือของบริษัทในเครือเจริญโภคภัณฑ์ทั้งสิ้น ประเด็นเหล่านี้นี่เองที่ทำให้เจ้าหน้าที่ระดับสูงของท่านเจ้าสัวลงทุนเดินทางลงใต้ไปหาผมถึงสำนักงานที่สงขลา
ท่านเจ้าสัวเคยประกาศว่า “ผมมองว่าที่ผมทำงานนี่ไม่ได้คิดเลยเรื่องกำไร ไม่ได้คิดว่าทำธุรกิจนี้แล้วจะได้กำไรเท่าไร ผมคิดว่าทำธุรกิจนี้ อันแรกมีโอกาสสำเร็จไหม ถ้ามีแล้วถ้าจะใหญ่นี่ ธุรกิจอันนั้นจะต้องไปเกี่ยวข้องกับคนส่วนใหญ่ ไม่ใช่ไปเกี่ยวข้องกับคนส่วนน้อย ธุรกิจอันนี้จะไม่ใหญ่ ถ้าธุรกิจนี้เกี่ยวข้องกับประเทศเดียวธุรกิจก็ไม่ใหญ่ ต้องเกี่ยวข้องกับทั่วโลก สินค้านี้ต้องขายได้ทั่วโลกมันถึงจะมีโอกาสใหญ่ แล้วธุรกิจนี้ต้องลงทุนได้ทั่วโลกธุรกิจนี้ถึงจะมีโอกาสใหญ่ และยิ่งสำคัญกว่าเรื่องอื่นคือธุรกิจที่เราทำเป็นประโยชน์แก่ประชาชนไหม ถ้าไม่ ธุรกิจอันนี้ก็ไม่มีความยิ่งใหญ่” นี่คือวิสัยทัศน์ทางธุรกิจของท่าน ที่ทำให้กระจายไปสู่คนส่วนได้เข้ามาเป็นทั้งกลุ่มผู้ผลิตและบริโภคกระจายไปทุกหย่อมหญ้า
“ถ้าคุณสามารถสร้างคนเก่งได้ คุณคือคนที่เก่งที่สุด” ซึ่งท่านมักบอกว่าท่านมีเคล็ดลับอยู่ 3 ประการในการสร้างคนเก่ง คือ 1. อำนาจ เพราะคนเก่งต้องมีเวทีมีอำนาจสำหรับใช้ในการแสดงความสามารถ 2. เกียรติ เพราะนอกจากการแสดงความสามารถอย่างเต็มที่แล้ว คนเก่งต้องการได้รับการยอมรับ และ 3. เงิน ก็คือผลตอบแทนที่จูงใจ ผมจึงไม่แปลกใจที่บุคลากรของท่านที่เดินทางมาหาผมจึงเต็มไปด้วยความรอบรู้ มีท่าทีบุคลิกที่เป็นกันเอง เปิดเผยฉะฉาน
“รักษาคู่แข่ง ไม่เอาเปรียบลูกค้า ดูแลสังคม” สิ่งที่เจ้าหน้าที่ของท่านมาพบ ผมเสนอเขาไปว่าผมเห็นปัญหาการทำธุรกิจของท่าน ที่ไปทำร้ายสังคมอยู่หลายประการ เช่น เกษตรกรที่เลี้ยงไก่ขาวในเครือของท่าน นำเอาไก่ที่ยังอยู่ในระยะที่ไม่ปลอดภัยจากยาปฏิชีวนะและสารเร่งเนื้อต่างๆ ในอาหารสัตว์ออกไปสู่ผู้บริโภค ทำให้เยาวชนหรือผู้บริโภคเป็นโรคอ้วนอาจจะเป็นส่วนหนึ่งของการเกิดโรคมะเร็ง? เรื่องปลานิลปลาทับทิมที่มีข้อสงสัยว่าเป็นสัตว์ตัดแต่งพันธุกรรม (GMO) หรือไม่?
ตลอดถึงการนำปลาป่นที่เกิดจากปลาเป็ดเรืออวนลากที่เป็นการทำลายสัตว์น้ำเศรษฐกิจวัยอ่อนซึ่งเป็นทั้งอาหารและอาชีพของพี่น้องร่วมสังคม ผมฝากบอกพวกเขาไปว่าช่วยไปเรียนถามผู้บริหารของพวกคุณได้ไหมว่า ต่อไปนี้บริษัทเจริญโภคภัณฑ์เลิกใช้ปลาป่นที่เกิดจากเรืออวนลาก (ซึ่งจริงๆ ก็มีเพียง 12%) แล้วไปใช้ปลาป่นจากแหล่งอื่น เขารับว่าจะลองไปปรึกษากันดู ผมเลยถือโอกาสนี้เรียนท่านเจ้าสัวมาทางนี้อีกทาง เพราะหากท่านทำเรื่องนี้เรื่องเดียวก็จะมีส่วนช่วยลดการทำลายแหล่งอาหารโปรตีนของสังคมไทยลงได้มาก คำประกาศที่ว่าจะ “ดูแลสังคม”ของท่านถึงจะเป็นจริง.