xs
xsm
sm
md
lg

นักวิจัยมังกรมึนตึ้บ ถูกอ้างชื่อในงานวิจัยข้าวสีทอง ฮือ! นร.6-8 ขวบ เป็นหนูทดลองข้าว GMO

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


เซาท์ไชน่ามอร์นิ่งโพสต์ - เกิดเรื่องโอละพ่อขึ้นในการวิจัยข้าวสีทอง (golden rice) เมื่อนักวิทยาศาสตร์แดนมังกรหลายคนออกมาปฏิเสธลั่น ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับรายงานผลการวิจัย ซึ่งมหาวิทยาลัยมะกันเป็นหัวหน้าทีม และเพิ่งลงเผยแพร่ในวารสารด้านโภชนาการชื่อดัง

รายงานผลการวิจัย ซึ่งมีชื่อว่า “ สารเบต้า-แคโรทีนในข้าวสีทองให้วิตามินเอสำหรับเด็กได้ดีเท่ากับสารเบต้า-แคโรทีนในน้ำมัน” (Beta-carotene in golden rice is as good as beta-carotene in oil at providing vitamin A to children) ตีพิมพ์ในวารสารอเมริกันเจอร์นัล คลินิเคิล นูทริชั่นของสมาคมโภชนาการแห่งอเมริกาเมื่อเดือนส.ค. ที่ผ่านมา

ข้าวสีทองเป็นสายพันธุ์ข้าว ที่พัฒนาขึ้นจากการตัดแต่งพันธุกรรม หรือข้าวจีเอ็ม และนักวิทยาศาสตร์รับรองในการนำมาใช้แก้ปัญหาการขาดแคลนวิตามินเอในชาติกำลังพัฒนา โดยรายงานการศึกษาชิ้นนี้เป็นผลจากการวิจัย ที่เริ่มดำเนินการเมื่อ 4 ปีก่อน มีหัวหน้าวิจัยและนักเขียนนำคือนายถัง ก่วงเหวิน ผู้อำนวยการห้องปฏิบัติการวิจัยด้านแคโรทีนอยด์สและสุขภาพของมหาวิทยาลัยทัฟต์สในเมืองบอสตัน



ในรายงานชิ้นนี้ระบุว่า มีการทดลองให้เด็กนักเรียนอายุระหว่าง 6-8 ขวบในมณฑลหูหนันเลือกรับประทานระหว่างข้าวสีทอง หรือผักปวยเล้ง (Spinach) หรือเบต้า-แคโรทีนในน้ำมันแคปซูล ต่อมา ผลการศึกษาสรุปว่า เด็ก 23 คน ที่รับประทานข้าวสีทองมีระดับวิตามินเอเท่ากับเด็กกลุ่มที่รับประทานน้ำมันแคปซูล และสูงกว่าเด็กกลุ่มที่รับประทานผักปวยเล้ง


การนำเด็กมาทดลอง เพื่อพิสูจน์คุณค่าทางโภชนาการของข้าวสีทองตัดแต่งพันธุกรรมนี้ยังได้กลายเป็นประเด็นถกเถียงกันอย่างครึกโครมในด้านจริยธรรม 

อย่างไรก็ตาม รายงานผลการวิจัยระบุว่า ทั้งพ่อแม่และเด็กได้ยินยอมเข้าร่วมการวิจัย ซึ่งได้รับการเห็นชอบจากสถาบันวิทยาศาสตร์การแพทย์ของมหาวิทยาลัยทัฟต์สและมหาวิทยาลัยเจ้อเจียง

ในรายงาน ยังระบุด้วยว่า ต้นฉบับรายงานการศึกษาชิ้นนี้ได้รับการตรวจทานจากผู้แต่งทุกคน

ทว่าเรื่องกลับตาลปัตร เมื่อนักวิทยาศาสตร์ ซึ่งมีชื่ออยู่รายงานผลการวิจัยเรียงแถวกันออกมาปฏิเสธ

นาย หู อี๋ว์หมิง นักวิจัยของศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคของมณฑลหูหนัน และเป็นนักเขียนอันดับที่ 2 ในรายชื่อ ที่ระบุในรายงานผลการศึกษากล่าวกับหนังสือพิมพ์พีเพิ่ลส์เดลี่เมื่อวันจันทร์ (3 ก.ย.) ว่า เขาไม่เคยได้อ่านรายงาน ก่อนจะมีการพิมพ์เผยแพร่เลย และไม่มีการทดลองเกี่ยวกับข้าวสีทองในมณฑลหูหนัน เขามึนไปหมดว่ามีชื้อปรากฎอยู่ในรายงานผลการวิจัยได้อย่างไร

ด้านนายอิน ซื่ออาน นักวิจัยประจำศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคของจีนมีรายชื่อเป็นนักเขียนอันดับที่ 3 และในรายงานระบุว่า เป็นผู้ “ดำเนินการศึกษาและรวบรวมตัวอย่าง” แต่เจ้าตัวออกมาชี้แจงว่า “ โครงการของเราทำในโรงเรียนประถมศึกษาส่วนกลางแห่งเจียงโค่วในเขตเหิงหนัน เพื่อค้นหาประสิทธิภาพในการแปลงสภาพของสารเบต้า-แคโรทีนจากผัก เช่นปวยเล้ง เป็นวิตะมินเอ”

ขณะที่หวัง อิน นักวิจัยของสถาบันวิทยาศาสตร์การแพทย์แห่งเจ้อเจียง ซึ่งเป็นนักเขียนคนที่ 4 และ “เป็นผู้ตรวจทานการออกแบบการศึกษาและตรวจสอบการดำเนินการศึกษา” ปฏิเสธว่า ไม่ทราบเรื่องรายงานอะไรนี่เลย

นอกจากนั้น ยังมีพยานอีกหลายคน ที่ร่วมในการวิจัยเมื่อปี 2551 กล่าวตรงกันว่า ไม่มีข้าวสีทองเกี่ยวข้องกับการศึกษานี้ โดยข้าว ที่หุงให้นักเรียนกิน ซื้อมาจากร้านซูเปอร์มาร์เก็ตท้องถิ่น และผลิตโดยบริษัทในถิ่นนั้น

เรื่องสุดยอดหักมุมที่เกิดขึ้นนี้ ผู้เชี่ยวชาญด้านสิ่งแวดล้อมมองว่า ชี้ให้เห็นถึงช่องโหว่ในการวิจัยเกี่ยวกับพืชจีเอ็มของจีน

“เราติดตามเรื่องพืชพันธุวิศวกรรมในจีนมาหลายปี” นักเคลื่อนไหวของกลุ่มกรีนพีซในจีนผู้หนึ่งระบุ

“เรามักพบพืชจีเอ็ม เช่นข้าว หลบเลี่ยงจากห้องทดลองไปยังฟาร์ม หรือแม้แต่ไปยังตลาดขายอาหาร” เขาเปิดเผยถึงมาตรฐานด้านจริยธรรมในการวิจัยพืชจีเอ็มของนักวิทยาศาสตร์จีน

เขากล่าวด้วยว่า ที่ผ่านมากลุ่มกรีนพีซได้เรียกร้องรัฐบาลจีนให้สร้างระบบ ที่มีประสิทธิภาพมากกว่านี้ในการควบคุมการศึกษาพืชจีเอ็มให้อยู่ภายในห้องทดลอง แต่รัฐบาลยังประสบความล้มเหลวในการควบคุมสอดส่องเรื่องดังกล่าว
กำลังโหลดความคิดเห็น