ASTVผู้จัดการรายวัน-แคลิฟอร์เนียร์ ว้าว กุมขมับ ผู้บริโภคจับมือมูลนิธิเพื่อผู้บริโภครวมกว่า 100 คน บุกออฟฟิศยื่นหนังสือทวงถามความเสียหายร่วม 22ล้านบาท ยื่นเสนอข้อเรียกร้อง 2ประการ ขู่ถ้ายังไม่แก้ไขจะเอาผิดทั้งแพ่งและอาญา
วานนี้ (12ก.ย) กลุ่มศูนย์พิทักษ์สิทธิผู้บริโภค มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค และลูกค้าแคลิฟอร์เนียร์ ว้าว (CAWOW) จำนวนไม่ต่ำกว่า 100 ราย ได้รวมตัวกันเพื่อยื่นหนังสือเรียกร้องสิทธิ์กับทางแคลิฟอร์เนียร์ ว้าว ที่ออฟฟิศ ณ.ตึกสีลม คอมเพล็กซ์ ตั้งแต่เวลา 10.00น. โดยในช่วงเวลา 11 โมงกว่าๆ จึงมีเจ้าหน้าที่จากทางแคลิฟอร์เนียร์ ว้าว เป็นตัวแทนออกมารับหนังสือดังกล่าว
น.ส.สวนีย์ ฉ่ำเฉลียว เจ้าหน้าที่รับเรื่องร้องเรียน มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค เปิดเผยว่า จากการเปิดรับเรื่องร้องเรียนจากผู้บริโภค กรณีได้รับความเดือดร้อนจากการใช้บริการฟิตเนส แคลิฟอร์เนีย ว้าว ของศูนย์พิทักษ์สิทธิผู้บริโภค มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค ตั้งแต่วันที่ 21-31 ส.ค. ที่ผ่านมา ขณะนี้มียอดผู้ร้องเรียนเข้ามาทั้งหมด 506 คน ในจำนวนนี้มี 300 กว่าคน ที่แจ้งยอดค่าเสียหายรวมทั้งหมด 21,622,776.77 บาท โดยยังไม่ได้ร่วมมูลค่าความเสียหายของผู้บริโภคอีก 200 คน ซึ่งคิดว่า ความเสียหายทั้งหมดน่าจะมากกว่านี้
ส่วนการรวมตัวกันในครั้งนี้ มีทั้งผู้ที่ได้รับความเดือดร้อนที่ได้ลงทะเบียนกับมูลนิธิฯ และรายใหม่ที่เพิ่งทราบเรื่อง และได้เดินทางเข้ามาร่วมเรียกร้องสิทธิ์และยื่นหนังสือกับทางแคลิฟอร์เนียร์ ว้าว รวมไม่ต่ำกว่า 100ราย
ทั้งนี้ เนื้อหาสาระในหนังสือที่ยื่นข้อเสนอกับทางบริษัทแคลิฟอร์เนีย ว้าว ดังต่อไปนี้
ประการที่ 1 ขอให้บริษัท แจ้งกับธนาคารหรือผู้ให้บริการบัตรเครดิตทั้งหมดให้ยุติการเรียกเก็บเงินค่าบริการผ่านบัตรเครดิตทั้งหมด โดยไม่มีเงื่อนไขใดๆ ทั้งสิ้น และประการที่ 2 สำหรับสมาชิกที่ยกเลิกสัญญาไปแล้ว และประสงค์จะยกเลิกสัญญา ขอให้ทางบริษัทคืนเงินที่ชำระไปแล้วทั้งหมดทุกกรณี เต็มจำนวน พร้อมดอกเบี้ยตามกฎหมายกำหนด หากทางบริษัทไม่แสดงความรับผิดชอบใดๆ กับผู้เสียหาย สมาชิกทั้งหมดจะยื่นฟ้องเพื่อดำเนินคดีทั้งทางแพ่งเพื่อเรียกค่าเสียหาย และทางอาญา ข้อหา ฉ้อโกงประชาชน เพื่อลงโทษผู้กระทำผิดต่อไป
นางสาวสวนีย์กล่าวเพิ่มเติมว่า ปัญหาที่พบมากที่สุด คือ การที่บริษัทปิดให้บริการ แล้วไม่แจ้งให้ทราบล่วงหน้า ทำให้ลูกค้าไม่สามารถใช้บริการได้ในสาขาที่เป็นสมาชิกอยู่ หรือต้องเปลี่ยนไปใช้บริการในสาขาที่ไกลจากบ้าน ทำให้ไม่สะดวก รองลงมา คือ มีบางสาขาที่ปิดบริการไปแล้ว ลูกค้าบางคนยังมีทรัพย์สินส่วนตัวอยู่ในล๊อกเกอร์ ไม่สามารถเข้าไปนำออกมาได้ และปัญหาต่อมาก็ คือ ลูกค้าที่ใช้บัตรเครดิตในการชำระ ยังคงไม่สามารถยกเลิกได้ ต้องถูกหักเงินโดยที่ไม่ได้ใช้บริการ
ด้านนางสาวเยาวภา จำรัสสมบูรณ์ ตัวแทนผู้ร้องเรียน กล่าวเสริมว่า ตนเองเป็นสมาชิกประเภทตลอดชีพ หลังจากบริษัทปิดทำการ ได้รับความเดือดร้อน เนื่องจากสถานที่ที่บริษัทยังเปิดให้บริการ ตนเองไม่สะดวกในการเดินทาง เพราะสาขาที่ใช้บริการประจำอยู่ใกล้บ้าน นอกจากนั้น เมื่อไปลองใช้บริการที่สาขาใหม่ สถานที่ก็แออัด มีผู้ใช้บริการจำนวนมาก ซึ่งตนเองได้เคยแจ้งกับทางบริษัทเพื่อขอยกเลิกการเป็นสมาชิก แต่ยังไม่ได้รับการตอบรับ จึงมาร้องเรียนที่มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค และมาขอยื่นข้อเสนอกับทางบริษัทแคลิฟอร์เนีย ว้าวในครั้งนี้ด้วย
อย่างไรก็ตาม ในวันที่ 23 ก.ย. ทางมูลนิธิฯ จะมีการจัดเวทีประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมด เนื่องจากผู้บริโภคที่ได้รับความเสียหายจำนวนหนึ่งยังคงต้องจ่ายเงินต่อเนื่อง โดยไม่ระงับการหักผ่านธนาคารให้ ดังนั้น จะมีการหารือกับธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) โดยขอให้แจ้งธนาคารต่างๆ ให้ระงับการหักค่าบริการฟิตเนสผ่านบัตรเครดิตต่อไป
วานนี้ (12ก.ย) กลุ่มศูนย์พิทักษ์สิทธิผู้บริโภค มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค และลูกค้าแคลิฟอร์เนียร์ ว้าว (CAWOW) จำนวนไม่ต่ำกว่า 100 ราย ได้รวมตัวกันเพื่อยื่นหนังสือเรียกร้องสิทธิ์กับทางแคลิฟอร์เนียร์ ว้าว ที่ออฟฟิศ ณ.ตึกสีลม คอมเพล็กซ์ ตั้งแต่เวลา 10.00น. โดยในช่วงเวลา 11 โมงกว่าๆ จึงมีเจ้าหน้าที่จากทางแคลิฟอร์เนียร์ ว้าว เป็นตัวแทนออกมารับหนังสือดังกล่าว
น.ส.สวนีย์ ฉ่ำเฉลียว เจ้าหน้าที่รับเรื่องร้องเรียน มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค เปิดเผยว่า จากการเปิดรับเรื่องร้องเรียนจากผู้บริโภค กรณีได้รับความเดือดร้อนจากการใช้บริการฟิตเนส แคลิฟอร์เนีย ว้าว ของศูนย์พิทักษ์สิทธิผู้บริโภค มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค ตั้งแต่วันที่ 21-31 ส.ค. ที่ผ่านมา ขณะนี้มียอดผู้ร้องเรียนเข้ามาทั้งหมด 506 คน ในจำนวนนี้มี 300 กว่าคน ที่แจ้งยอดค่าเสียหายรวมทั้งหมด 21,622,776.77 บาท โดยยังไม่ได้ร่วมมูลค่าความเสียหายของผู้บริโภคอีก 200 คน ซึ่งคิดว่า ความเสียหายทั้งหมดน่าจะมากกว่านี้
ส่วนการรวมตัวกันในครั้งนี้ มีทั้งผู้ที่ได้รับความเดือดร้อนที่ได้ลงทะเบียนกับมูลนิธิฯ และรายใหม่ที่เพิ่งทราบเรื่อง และได้เดินทางเข้ามาร่วมเรียกร้องสิทธิ์และยื่นหนังสือกับทางแคลิฟอร์เนียร์ ว้าว รวมไม่ต่ำกว่า 100ราย
ทั้งนี้ เนื้อหาสาระในหนังสือที่ยื่นข้อเสนอกับทางบริษัทแคลิฟอร์เนีย ว้าว ดังต่อไปนี้
ประการที่ 1 ขอให้บริษัท แจ้งกับธนาคารหรือผู้ให้บริการบัตรเครดิตทั้งหมดให้ยุติการเรียกเก็บเงินค่าบริการผ่านบัตรเครดิตทั้งหมด โดยไม่มีเงื่อนไขใดๆ ทั้งสิ้น และประการที่ 2 สำหรับสมาชิกที่ยกเลิกสัญญาไปแล้ว และประสงค์จะยกเลิกสัญญา ขอให้ทางบริษัทคืนเงินที่ชำระไปแล้วทั้งหมดทุกกรณี เต็มจำนวน พร้อมดอกเบี้ยตามกฎหมายกำหนด หากทางบริษัทไม่แสดงความรับผิดชอบใดๆ กับผู้เสียหาย สมาชิกทั้งหมดจะยื่นฟ้องเพื่อดำเนินคดีทั้งทางแพ่งเพื่อเรียกค่าเสียหาย และทางอาญา ข้อหา ฉ้อโกงประชาชน เพื่อลงโทษผู้กระทำผิดต่อไป
นางสาวสวนีย์กล่าวเพิ่มเติมว่า ปัญหาที่พบมากที่สุด คือ การที่บริษัทปิดให้บริการ แล้วไม่แจ้งให้ทราบล่วงหน้า ทำให้ลูกค้าไม่สามารถใช้บริการได้ในสาขาที่เป็นสมาชิกอยู่ หรือต้องเปลี่ยนไปใช้บริการในสาขาที่ไกลจากบ้าน ทำให้ไม่สะดวก รองลงมา คือ มีบางสาขาที่ปิดบริการไปแล้ว ลูกค้าบางคนยังมีทรัพย์สินส่วนตัวอยู่ในล๊อกเกอร์ ไม่สามารถเข้าไปนำออกมาได้ และปัญหาต่อมาก็ คือ ลูกค้าที่ใช้บัตรเครดิตในการชำระ ยังคงไม่สามารถยกเลิกได้ ต้องถูกหักเงินโดยที่ไม่ได้ใช้บริการ
ด้านนางสาวเยาวภา จำรัสสมบูรณ์ ตัวแทนผู้ร้องเรียน กล่าวเสริมว่า ตนเองเป็นสมาชิกประเภทตลอดชีพ หลังจากบริษัทปิดทำการ ได้รับความเดือดร้อน เนื่องจากสถานที่ที่บริษัทยังเปิดให้บริการ ตนเองไม่สะดวกในการเดินทาง เพราะสาขาที่ใช้บริการประจำอยู่ใกล้บ้าน นอกจากนั้น เมื่อไปลองใช้บริการที่สาขาใหม่ สถานที่ก็แออัด มีผู้ใช้บริการจำนวนมาก ซึ่งตนเองได้เคยแจ้งกับทางบริษัทเพื่อขอยกเลิกการเป็นสมาชิก แต่ยังไม่ได้รับการตอบรับ จึงมาร้องเรียนที่มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค และมาขอยื่นข้อเสนอกับทางบริษัทแคลิฟอร์เนีย ว้าวในครั้งนี้ด้วย
อย่างไรก็ตาม ในวันที่ 23 ก.ย. ทางมูลนิธิฯ จะมีการจัดเวทีประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมด เนื่องจากผู้บริโภคที่ได้รับความเสียหายจำนวนหนึ่งยังคงต้องจ่ายเงินต่อเนื่อง โดยไม่ระงับการหักผ่านธนาคารให้ ดังนั้น จะมีการหารือกับธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) โดยขอให้แจ้งธนาคารต่างๆ ให้ระงับการหักค่าบริการฟิตเนสผ่านบัตรเครดิตต่อไป
