xs
xsm
sm
md
lg

ซ้อมระบายน้ำแต่นาข้าวจมน้ำ :ใครต้องรับผิดชอบ

เผยแพร่:   โดย: ศรีสุวรรณ จรรยา

เมื่อวันที่ 5 กันยายนที่ผ่านมา รัฐบาล โดยคณะกรรมการบริหารจัดการน้ำและอุทกภัย (กบอ.) ที่มีนายปลอดประสพ สุรัสวดี เป็นประธานฯ ได้เริ่มทดสอบการระบายน้ำผ่านคลองในพื้นที่ฝั่งตะวันตกของกรุงเทพมหานครโดยใช้คลองทวีวัฒนา และคลองมหาสวัสดิ์ เป็นหลักในการทดสอบการระบายน้ำ ซึ่งหลังจากทดสอบโดยการปล่อยปริมาณน้ำไม่กี่ลูกบาศก์เมตรเสร็จก็ออกมาแถลงข่าวกันใหญ่โตว่าประสบผลสำเร็จเกินคาด เกินกว่าเป้าหมายที่กำหนดไว้ และจะทำการทดสอบต่อในวันที่ 7 กันยานี้

แต่ทว่าผลที่ตามมาหาใช่พื้นที่ของกรุงเทพมหานครที่อาจจะไม่ได้รับผลกระทบอะไร เพราะมีคนไปเฝ้ามองและเฝ้าระวันกันนับพันคนในแต่ละจุด แต่ผลกระทบที่เกิดขึ้นอันเนื่องมาจากการปล่อยน้ำจากเขื่อนเจ้าพระยา เขื่อนพระราม 6 ลงมาเพื่อให้สามารถใช้น้ำในการทดสอบได้นั้น ทำให้ไปยกระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาให้สูงมากขึ้น ทำให้ปริมาณน้ำในคลองแยกต่างๆ ของพื้นที่ใต้เขื่อนลงมาไม่สามารถระบายน้ำลงแม่น้ำเจ้าพระยาได้ จึงทำให้น้ำเอ่อล้นเข้าไปในคูคลองแยกต่างๆ จนทำให้แปลงนาข้าวนาปรังของชาวนาที่อยู่ในพื้นที่ลุ่มของตำบลบ้านสร้าง และตำบลสามเรือน อำเภอบางปะอิน  จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ได้รับผลกระทบอย่างหนัก จากน้ำในคลองชลประทานระพีพัฒน์ ที่รับน้ำมาจากเขื่อนพระราม 6 และเป็นคลองชลประทานฝั่งตะวันออก ไม่สามารถระบายน้ำออกไปได้ ทำให้น้ำหนุนสูงเข้าไปท่วมในพื้นที่นาข้าวของชาวนา 

ล่าสุด พบว่าได้สร้างความเดือดร้อนแก่ชาวนาทั้ง  2 ตำบลดังกล่าวเป็นอย่างมากในขณะนี้ น้ำปริมาณมากจากคลองระพีพัฒน์ไหลเข้าคลองโพธิ์และไหลต่อมายังทุ่งใน ในสองตำบล บวกกับช่วงนี้มีฝนตกหนักติดต่อกันหลายวัน อีกทั้งมีการปิดประตูน้ำปากคลองโพธิ์ที่ตำบลบ้านหว้า อำเภอบางปะอิน เพราะระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยามีระดับสูงเช่นกัน ทำให้น้ำในทุ่งบางปะอินไม่มีทางไหลออก ส่งผลให้ระดับน้ำในทุ่งบางปะอิน มีระดับสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว ข้าวนาปรังที่ปลูกอยู่ในพื้นที่ลุ่มในเบื้องต้นกว่า 1,000 ไร่ ที่กำลังออกรวงแก่ใกล้จะเก็บเกี่ยวผลผลิตได้แล้ว ต้องมาถูกน้ำท่วมรวงจมน้ำ ชาวนาต้องช่วยกันใช้เคียวมาเก็บเกี่ยวรวงข้าวที่จมน้ำใส่เรือบรรทุกขึ้นฝั่งก่อนลำเรียงขึ้นรถนำไปตากให้แห้งโดยที่ไม่ได้รู้ตัวมาก่อนเลย

เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดความเดือดร้อนและเสียหายแก่ชาวบ้านจริง ทั้งนี้ไม่ใช่เหตุสุดวิสัยที่รัฐบาลหรือ กบอ.จะใช้เป็นข้ออ้างหรือออกมาปฏิเสธความรับผิดชอบไปได้ เนื่องจากเป็นน้ำที่ปล่อยออกมาจากเขื่อนในแม่น้ำเจ้าพระยาและเขื่อนพระราม 6 เพื่อมาตอบสนองความต้องการของรัฐบาลและหรือ กบอ.ที่ต้องการจัดอีเวนท์หรือสร้างภาพในการบริหารจัดการน้ำในทางการเมืองเท่านั้น

เมื่อสอบถามข้อเท็จจริงจากชาวบ้านที่ต้องประสบเคราะห์กรรมจากน้ำเอ่อล้นท่วมนาข้าวในอำเภอบางปะอินก็พบความจริงว่าน้ำในทุ่งขึ้นเร็วมาก และท่วมข้าวนาปรังที่ชาวบ้านปลูกไว้และกำลังจะเก็บเกี่ยวได้แต่ต้องมาเสียหายจมน้ำเกือบหมด โดยแปลงนาข้าวของชาวบ้านอีกหลายรายก็มีสภาพไม่ต่างกัน ชาวบ้านต้องรีบช่วยกันนำเรือลอยคอเกี่ยวข้าวหนีน้ำกันตลอดทั้งวัน ในขณะนี้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกลับปฏิเสธพัลวัลว่าไม่เกี่ยวข้องกับการซ้อมการระบายน้ำของรัฐบาลและหรือไม่มีหน่วยงานที่รับผิดชอบโดยตรงเข้ามาตรวจสอบ ให้การช่วยเหลือชดเชยเงินเพื่อบรรเทาความเดือดร้อน ทั้งนี้ชาวนาที่ได้รับผลกระทบดังกล่าวปักใจเชื่อเต็มร้อยว่าน้ำที่สูงขึ้นอย่างรวดเร็วส่วนหนึ่งเกิดจากภาครัฐที่ปล่อยน้ำลงคลองระพีพัฒน์มากเกินไป จนล้นทะลักมาท่วมแปลงนาข้าวของพวกเขานั่นเอง

เรื่องดังกล่าวสมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อนได้ออกแถลงการณ์เรียกร้องให้รัฐบาลออกมาแสดงความรับผิดชอบ และกล่าวขอโทษต่อพระแม่โพสพและประชาชนเจ้าของนาข้าวที่ถูกน้ำท่วมเสียหายดังกล่าวเสียโดยพลันเมื่อวันที่ 5 กันยายน ที่ผ่านมา และเตือนให้รัฐเร่งรีบตรวจสอบและชดเชยเยียวยาความเสียหายให้กับชาวนาดังกล่าวโดยเร็ว และเงินที่ชดเชยเยียวยาดังกล่าวต้องนำมาจากนายปลอดประสพ สุรัสวดี ประธาน กบอ. และนายรอยล จิตรดอน ประธานอนุกรรมการติดตามวิเคราะห์สถานการณ์น้ำและจัดสรรน้ำใน กบอ.เท่านั้น และไม่ควรนำเงินที่มาจากภาษีของประชาชนคนทั้งประเทศมาชดเชยโดยเด็ดขาด เพราะนายปลอดประสพเคยออกมาพูดว่าหากเกิดความเสียหายตนเองจะเป็นผู้รับผิดชอบนั่นเอง

ทั้งนี้ รัฐบาลควรหันกลับมามุ่งแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับการขุดลอกคูคลองและซ่อมแซมประตูระบายน้ำต่างๆ ทั้งในกรุงเทพมหานครและปริมณฑลให้เสร็จสิ้นสมบูรณ์พร้อมจะใช้งานได้ทุกจุดน่าจะเหมาะสมมากกว่า เพราะขณะนี้เท่าที่ตรวจสอบพบว่าการดำเนินการขุดลอกคูคลองและเส้นทางระบายน้ำลงสู่ทะเลในหลายๆ จุดที่เป็นปัญหาจนก่อให้เกิดเหตุการณ์น้ำท่วมใหญ่เมื่อปี 2554 ยังเสร็จไม่เรียบร้อยเลย อาทิ แนวคันกั้นน้ำของคลองประปาที่รัฐบาลได้ปล่อยน้ำเมื่อวันที่ 20 ตุลาคม 2554 จนเป็นสาเหตุทำให้น้ำท่วม แนวคลองรังสิต บริเวณจุดกลับรถห้างเซียร์รังสิต ประตูน้ำจุฬาลงกรณ์บริเวณคลองหนึ่ง ประตูระบายน้ำฝั่งตะวันตกของ กทม.จำนวน 14 บาน เพื่อป้องกันไม่ให้น้ำเข้าท่วมจังหวัดนนทบุรี ปทุมธานี และสมุทรสาคร

ประตูระบายน้ำฝั่งตะวันออกของคลองระพีพัฒน์ โดยเฉพาะประตูระบายน้ำคลอง 8 - 13 ยังไม่ได้เสริมคันดิน ขุดลอกและซ่อมประตูระบายน้ำเลย คลองหนอกจอกซึ่งเป็นจุดที่นักการเมืองบ้านเลขที่ 111 เข้ามาห้ามไม่ให้เปิดประตูระบายน้ำก่อนที่ กทม.จะมาดำเนินการเปิดในภายหลัง และคลองย่อยบริเวณแก้มลิงฝั่งตะวันออกจังหวัดสมุทรปราการยังไม่มีการขุดลอกไม่เสร็จเลย ซึ่งตรงนี้เป็นจุดสำคัญที่จะระบายน้ำลงสู่ทะเลแต่ก็ดูเหมือนว่า กบอ.จะไม่สนใจ

เรื่องของการป้องกันแก้ไขปัญหาน้ำท่วมในอนาคต ดูเหมือน กบอ. โดยนายปลอดประสพ จะเก่งอยู่คนเดียวโดยไม่เปิดโอกาสให้ผู้รู้และภาคประชาสังคมหรือประชาชนในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมเข้ามามีส่วนร่วม ทั้งร่วมรับรู้ ร่วมรับคำชี้แจง หรือร่วมวางแผนในการบริหารจัดการน้ำเลย มีแต่การออกมาให้ข่าวสร้างภาพและใช้เงินงบประมาณแผ่นดินไปเปล่าประโยชน์ไม่คุ้มค่ากับเงินภาษีประชาชน ยกตัวอย่างเช่น การจัดนิทรรศการโชว์การบริหารจัดการน้ำที่เซ็ลทรัลพลาซ่าเมื่อต้นเดือนใช้เงินจากภาษีประชาชนไปกว่า 12 ล้านบาท แต่มีผู้เข้าชมงานเพียง 3 พันกว่าคนเท่านั้น คิดเป็นตัวเลขง่ายๆ ในการลงทุนคือ คนที่เข้าชมงาน 1 คนเท่ากับรัฐใช้เงินเตรียมให้คนมาดูนิทรรศการถึง 4,000 บาทต่อคน คิดดูซิว่ามีประสิทธิผลมากหรือไม่

การซักซ้อมระบายน้ำใน 2 ครั้งนี้ก็เช่นกัน กบอ.ไม่กล้าที่จะแถลงข้อมูลให้ประชาชนทราบว่าใช้งบประมาณเพื่อการนี้ไปกี่ล้านบาท เพราะค่าแรง ค่าเบี้ยเลี้ยง ค่าน้ำมันเรือและเครื่องผลักดันน้ำ ค่าการติดตั้งเครื่องมอนิเตอร์ระบบสารสนเทศออนไลน์ คงไม่ได้ไปขอใครเขาให้มาฟรีแน่ ทุกอย่างเป็นเงินเป็นทองที่มาจากภาษีประชาชนทั้งสิ้น

ที่สำคัญการทดสอบการระบายน้ำเพียงไม่กี่ลูกบาศก์เมตรต่อวินาทีไม่สามารถสะท้อนความจริงของการแก้ปัญหาน้ำท่วมได้แน่ เพราะเวลาน้ำท่วมจริงน้ำไม่ได้มาตามคูคลอง แม่น้ำ แต่น้ำจะมาในแนวราบท่วมทั้งแผ่นดิน ถึงเวลานั้น ใครจะสั่งการให้ปิดเปิดประตูน้ำได้ เพราะที่ผ่านมาแค่นักการเมืองเล็กๆ ในท้องถิ่นก็สามารถสั่งการไม่ให้เจ้าหน้าที่ปิดเปิดประตูระบายน้ำได้แล้ว ซึ่งรัฐบาลก็ไม่สามารถสั่งการใดๆ ได้ หรือใครจะเอาเรือผลักดันน้ำมาติดได้ทุกคูคลองแม่น้ำ เพราะเครื่องมีจำกัด หรือชอบที่จะสร้างภาพในการเอาเรือมาผูกติดกันเป็นแพแล้วไปประโคมข่าวผลักดันน้ำกันที่ปลายแม่น้ำเจ้าพระยาเพียงไม่กี่วันแล้วก็ล้มเลิกไป เพราะไม่ประสบผลสำเร็จ เพราะผิดหลักกลศาสตร์อุทกวิทยา แต่ก็ไม่เห็นมีใครออกมาพูด ท้วงติง หรือแสดงความรับผิดชอบ...หรือใครว่าไม่จริง...

***********
www.thaisgwa.com
กำลังโหลดความคิดเห็น