“ณัฎฐ์” จวก รบ.ปล่อยน้ำ 3 ลบ.ม.ต่อวินาทีไร้ประโยชน์ วัดการป้องกันไม่ได้ แนะไปดู 7 จุดต้นเหตุน้ำท่วม 54 ดักท่วมอีกอย่าโบ้ย กทม. ด้าน “วรงค์” ซัดจำนำข้าวเหลว ระบายออกต่ำกว่าเป้า 5 แสนตัน พ่อค้าไม่เชื่อมั่น ชี้ขาดทุน 7,000 บาทต่อตัน อัดยิ่งประมูลยิ่งย่ำแย่
วันนี้ (5 ก.ย.) นายณัฎฐ์ บรรทัดฐาน รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) แถลงผลการติดตามการทดลองการระบบระบายน้ำของคณะกรรมการบริหารจัดการน้ำและอุทกภัย (กบอ.) ว่า จากเดิมที่รัฐบาลระบุว่าจะทดลองปล่อยน้ำปริมาณ30 ลูกบาศก์ เมตร (ลบ.ม.) ต่อวินาทีแต่ปรากฏว่าจะมีการปล่อยน้ำเพียง 3 ลบ.ม.ต่อวินาที ซึ่งการปล่อยน้ำลักษณะไม่สามารถวัดผลของระบบการระบายน้ำได้อย่างแท้จริง ดังนั้น แทนที่จะทดลองระบบระบายน้ำรัฐบาลควรกลับมาตรวจสอบว่าได้ดำเนินการขุดลอกคูคลองและเส้นทางระบายน้ำลงสู่ทะเลใน 7 จุดที่เป็นปัญหาจนก่อให้เกิดเหตุการณ์น้ำท่วมใหญ่เมื่อปี 2554เสร็จเรียบร้อยหรือไม่มากกว่า
นายณัฎฐ์กล่าวว่า สำหรับ 7 จุดดังกล่าว ประกอบด้วย 1. แนวคันกั้นน้ำของคลองประปาที่รัฐบาลได้ปล่อยน้ำเมื่อวันที่ 20 ต.ค. 2554 จนเป็นสาเหตุทำให้น้ำท่วม 2. แนวคลองรังสิต บริเวณจุดกลับรถห้างเซียร์รังสิต 3. ประตูน้ำจุฬาลงกรณ์บริเวณคลอง 1 ได้ซ่อมแซมเสร็จแล้วหรือไม่ 4. ประตูระบายน้ำฝั่งตะวันตกของ กทม.จำนวน 14 บาน เพื่อป้องกันไม่ให้น้ำเข้าท่วมจังหวัดนนทบุรี ปทุมธานี และสมุทรสาคร 5. ประตูระบายน้ำฝั่งตะวันออกของคลองระพีพัฒน์ โดยเฉพาะประตูระบายน้ำคลอง 8-13 ได้เสริมคันดินและซ่อมประตูระบายน้ำแล้วหรือไม่ 6. คลองหนอกจอก ซึ่งเป็นจุดที่นักการเมืองบ้านเลขที่ 111 เข้ามาห้ามไม่ให้เปิดก่อนที่ กทม.จะมาดำเนินการในภายหลัง และ 7. คลองย่อยบริเวณแก้มลิงฝั่งตะวันออกจังหวัดสมุทรปราการ ตรงนี้เป็นจุดสำคัญที่จะระบายน้ำลงสู่ทะเล
“ทั้ง 7 จุดเป็นจุดที่มีปัญหาเมื่อปีที่แล้ว จึงอยากให้รัฐบาลกลับมาให้ความสำคัญเพราะไม่งั้นหากปีนี้น้ำไม่ท่วม รัฐบาลก็จะบอกว่าระบบระบายน้ำทำได้ดี แต่ถ้าน้ำท่วมรัฐบาลก็จะโบ้ยมาให้ กทม. หลังจากในงานนิทรรศการน้ำของรัฐบาลที่ผ่านมาก็มีความพยายามปัญหาเรื่องน้ำเกิดมาก่อนที่รัฐบาลชุดนี้จะเข้ามาบริหารประเทศ” นายณัฎฐ์กล่าว
ส่วน นายแพทย์วรงค์ เดชกิจวิกรม ส.ส.พิษณุโลก พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่รัฐบาลได้ประกาศระบายข้าว 753,000 ตันออกจากโกดังกลางในโครงการรับจำนำข้าวของรัฐบาล ซึ่งตนมองว่ารัฐบาลต้องการโชว์ว่าสามารถทำได้ตามเป้าหมาย แต่ผลที่กลับมาเห็นได้ว่าล้มเหลวอย่างสิ้นเชิง เนื่องจากว่ารัฐบาลสามารถรถะบายข้าวได้เพียง 2 แสนกว่าตันเท่านั้น เท่ากับว่าต่ำกว่าเป้าหมายไปกว่า 5 แสนตัน เพราะพ่อค้าที่เข้ามาประมูลไม่มีความเชื่อมั่นในคุณภาพของข้าวในโครงการ ซึ่งในความจริงแล้วรัฐบาลสามารถควบคุมคุณภาพของข้าวในการรับจำนำได้ แต่ไม่สามารถควบคุมเวลาระบายออกได้ เท่ากับว่ารัฐบาลก็ไม่เชื่อมั่นในข้าวของตัวเอง
นายแพทย์วรงค์กล่าวต่อว่า การที่กระทรวงพาณิชย์ออกมาคุยโวว่ารัฐบาลไม่ได้ขาดทุน เป็นการหลอกลวงประชาชนอย่างสิ้นเชิง เพราะรัฐบาลขาดทุนกว่า 7,000 บาทต่อตัน และเงินที่ขาดทุนไปก็ไม่ได้ไปตกอยู่กับมือของชาวบ้าน แต่เงินกับไปอยู่ในมือของพ่อค้าและเจ้าหน้าที่ของรัฐ ซึ่งการประมูลครั้งต่อไปที่จะมีขึ้นสถานการณ์จะยิ่งแย่ไปกว่านี้
“เมื่อรัฐบาลได้รับซองประมูลจากพ่อค้า ต้องเปิดซองในวันเดียวกันเลย เพราะเมื่อรัฐบาลเอาซองไปเก็บเอาไว้ก็จะสามารถไปเปิดดูก่อนและไปเรียกเงินใต้โต๊ะจากพ่อค้าได้อีก และที่สำคัญรัฐบาลจะต้องคิดหาวิธีป้องกันไม่ให้มีการนำข้าวที่ระบายออกไปแล้วหมุนเวียนกลับมามาอยู่ในโกดังกลางของรัฐบาลอีก” นายแพทย์วรงค์กล่าว
