ศูนย์ข่าวหาดใหญ่-ระดมกำลังกว่า 500 นาย รปภ.เข้มรอบศาลากลางนราธิวาส รับ “ปู” ลงใต้ประชุมผู้ว่าฯ 5 จังหวัด ขณะคนร้ายขึ้นป้ายเยาะเย้ยทหาร พร้อมวางระเบิดดัก ทำให้ทหารบาดเจ็บ 4 นาย อีกด้านทหารปะทะคนร้ายที่รือเสาะ ดับ 1 จับได้ 5 ด้านนายกฯ เป็นปลื้มคนใต้ให้กำลังใจ ลั่นหนุนงบเพิ่มคนช่วยดับไฟใต้ ด้าน "ยุทธศักดิ์"มอบสำนักข่าวกรองตรวจสอบโรงเรียนปอเนอะ หลังป.ป.ง.พบโยงตาลีบัน
ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศการดูแลความปลอดภัยรอบบริเวณศาลากลางจังหวัดนราธิวาส ซึ่ง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และคณะ จะเดินทางมาร่วมประชุมกับผู้ว่าราชการจังหวัด 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และพบปะประชาชนในพื้นที่ เพื่อรับฟังปัญหาและแนวทางแก้ปัญหาความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยตั้งแต่ช่วงเช้า วานนี้ (5 ก.ย.) เจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ และฝ่ายปกครองกว่า 500 นาย พร้อมกองกำลังสลายฝูงชนอีก 1 กองร้อย ได้เข้ามาดูแลความปลอดภัย มีการลาดตระเวนด้วยการเดินเท้ารอบศาลากลาง และเฝ้าตรวจตราบริเวณทางเข้า ซึ่งผู้ที่จะเข้ามาบริเวณศาลากลางจะต้องเดินเท้า และผ่านเครื่องเอกซเรย์ร่างกาย นอกจากนี้ ทางกองทัพภาคที่ 4 ได้จัดตั้งกองอำนวยการร่วมเพื่อการประสานงานกับกองกำลังต่างๆ ด้วย ทั้งนี้ สำหรับมวลชนที่จะมาพบปะนายกรัฐมนตรีนั้น คาดว่าน่าจะมีกว่า 4,000 คน
**บึ้มทหาร รปภ.นายกฯเจ็บ4นาย
เวลา 10.40 น.ได้เกิดเหตุคนร้ายไม่ทราบกลุ่มและจำนวนลอบนำระเบิดไปฝังไว้ที่ป้ายผ้าไวนิลงานของดีเมืองนรา ที่บริเวณริมถนนทางแยกบายพาส-ลำภู ต.ลำภู อ.เมือง จ.นราธิวาส โดยคนร้ายได้ฉีดพ่นสเปรย์ด้วยสีแดง มีข้อความว่า "ทหารไทยโง่" ซึ่งเจ้าหน้าที่ทหารชุดเฉพาะกิจนราธิวาสที่ 33 กองร้อยปืนเล็กที่ 3 ได้นำกำลังเข้าตรวจสอบ พร้อมกับเดินเข้าไปเก็บป้ายข้อความดังกล่าว แต่ได้ไปเหยียบกับระเบิดจนเกิดระเบิดขึ้น แรงระเบิดส่งผลให้ทหารได้รับบาดเจ็บสาหัส 4 นาย ขาขาด 1 นาย คือ 1.จ.อ.สุทิน สีม่วง 2.พลทหารอดิพล แซ่จิว 3.พลทหารวัชรพงค์ นสดา และ 4.พลทหารเปรมอนันต์ ขวัญทองยิ้ม ทั้งหมดถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลนราธิวาสราชนครินทร์ โดยโดยระเบิดดังกล่าวเป็นระเบิดแสวงเครื่องบรรจุไว้ในท่อพีวีซี น้ำหนักประมาณ 10 กิโลกรัม เป็นระเบิดแบบกับเหยียบ
จากการสอบสวนทราบว่า บริเวณดังกล่าวเป็นจุดที่เจ้าหน้าที่ทหารต้องมาปฏิบัติหน้าที่เพื่อดูแลความปลอดภัยตามมาตรการการดูแลความปลอดภัยภารกิจนายกรัฐมนตรี ซึ่งเมื่อเจ้าหน้าที่ 1 ชุดปฏิบัติการมาถึงจุดดังกล่าว และเห็นบริเวณป้ายผ้าไวนิลมีข้อความ "ทหารไทยโง่" จึงจัดชุดทหาร 4 นายเข้าไปตรวจสอบและปลดป้าย ขณะที่เจ้าหน้าที่กำลังเดินมุ่งหน้าเพื่อเข้าไปปลดป้ายได้ไปเหยียบกับระเบิดจึงทำให้เกิดระเบิดขึ้นดังกล่าว
**ทหารปะทะคนร้ายดับ 1 จับได้ 5
ก่อนหน้านี้เวลา 06.00 น.เจ้าหน้าที่ทหารพราน กรมทหารพรานที่ 49 สนธิกำลังร่วมกับเจ้าหน้าที่ทหารหน่วยเฉพาะกิจนราธิวาสที่ 30 เข้าปิดล้อมตรวจค้นในพื้นที่บ้านพัฒนาชาติไทย ม.7 ต.โคกสะตอ อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส เพื่อติดตามกลุ่มก่อความไม่สงบ โดยเจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งเบาะแสเกี่ยวกับกลุ่มก่อความไม่สงบได้เข้ามาเคลื่อนไหวในพื้นที่ดังกล่าวเพื่อเตรียมก่อเหตุ โดยขณะเจ้าหน้าที่กำลังเข้าตรวจค้นจุดต้องสงสัยว่ากลุ่มคนร้ายใช้เป็นที่ซ่อนตัวอยู่ กลุ่มคนร้ายได้ใช้อาวุธปืนยิงใส่จนเกิดเหตุการณ์ปะทะกันขึ้นนานกว่า 15 นาที จึงสงบลง จากนั้นเจ้าหน้าที่จึงเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบคนร้ายเสียชีวิต 1 คน คือ นายอุสมาน ปอแน พร้อมกันนี้ ได้ควบคุมตัวผู้ต้องสงสัยได้ 5 ราย
**"ปู"เรียกประชุมฝ่ายความมั่นคง
เมื่อเวลา 14.00 น. น.ส.ยิงลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยนางยงยุทธ วิชัยดิษฐ์ รองนายกฯ และ รมว.มหาดไทย พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา รองนายกฯ พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก รมว.ยุติธรรม พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต รมว.กลาโหม นายสุชาติ ธาดาธำรงเวช รมว.ศึกษาธิการ นายวิทยา บุรณศิริ รมว.สาธารณสุข นายสันติ พร้อมพัฒน์ รมว.การพัฒนาสังคมและความมั่นคงมนุษย์ และคณะได้เดินทางมาศาลากลางจังหวัดนราธิวาส โดยได้พบปะประชาชนในพื้นที่ที่ให้การต้อนรับบริเวณศาลากลางจังหวัด ซึ่งมีทั้งนักเรียน ผู้นำศาสนา แกนนำ นปช.นราธิวาส และแกนนำสตรี โดยกลุ่มแกนนำสตรีได้กล่าวให้กำลังใจนายกรัฐมนตรีในการทำงานด้วย
จากนั้นนายกฯ ได้เข้าห้องรับรองผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส ร่วมพูดคุยกับผู้ว่าราชการในพื้นที่ 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และได้ร่วมถวายจตุปัจจัยไทยทานให้กับพระสงฆ์ 50 รูป จาก 72 วัด โดยมีพระเทพศีลวิสุทธิ์ เจ้าคณะจังหวัดนราธิวาส เป็นผู้แทนรับมอบ ต่อจากนั้น ได้เข้าร่วมประชุมที่ห้องประชุมชั้น 4 ศาลากลางจังหวัดนราธิวาส ร่วมกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงในพื้นที่ 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยมี พล.ท.อุดมชัย ธรรมสาโรรัตน์ แม่ทัพภาคที่ 4 บรรยายสรุปถึงการทำงานเพื่อแก้ปัญหาความไม่สงบ โดยใช้เวลานานเกือบ 1 ชั่วโมง
**ลั่นหนุนงบ-เสริมกำลังคนดับไฟใต้
น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าวว่า การเดินทางลงไปยังพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ตั้งใจจะไปให้กำลังใจประชาชนในพื้นที่ แต่กลับได้รับกำลังใจและความอบอุ่นจากประชาชนพื้นที่ ทำให้รู้สึกดีใจ และหลังจากที่ได้รับฟังปัญหา จะช่วยสนับสนุนและส่งเสริมทั้งงบประมาณและกำลังคน เพื่อแก้ปัญหาในพื้นที่ให้ประชาชนมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น รวมทั้งให้การทำงานมีใกล้ชิดและพร้อมน้อมนำแนวพระราชดำริมาพัฒนาพื้นที่ แต่ภาครัฐยังต้องการความร่วมมือจากภาคประชาชนและผู้นำศาสนา โดยเฉพาะคำแนะนำจากประชาชนในพื้นที่เพื่อแก้ไขปัญหาให้เหมาะสม
ทั้งนี้ นายกฯ ยังได้กล่าวขอบคุณและให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานที่คอยดูแลความปลอดภัยของประชาชนอย่างเต็มที่ แม้จะไม่ได้ลงพื้นที่บ่อย แต่ก็รู้สึกห่วงใยและติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และเชื่อความเป็นพี่เป็นน้องจะทำให้เกิดสันติสุขและมีรอยยิ้มกลับคืนมาได้
**สั่งข่าวกรองตรวจโรงเรียนปอเนอะ
พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินแห่งชาติ (ปปง.) ประกาศยึดทรัพย์เจ้าของโรงเรียนอิสลามบูรพา จ.นราธิวาส เพราะเกี่ยวกันกับขบวนการก่อการร้ายตาลีบัน เเละการก่อเหตุความไม่สงบในจังหวัดชายเเดนภาคใต้ว่า เป็นเรื่องที่ ปปง.กำลังตรวจสอบอยู่ และได้มอบหมายให้นายสุวะพันธ์ ตันยุวรรธนะ ผู้อำนวยการสำนักงานข่าวกรองแห่งชาติ ลงไปในพื้นที่แล้ว โดยให้ไปตรวจสอบว่าการที่ ปปง.ประกาศยึดทรัพย์ดังกล่าวมีการดำเนินการอย่างไร ข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร เพื่อจะได้รู้เส้นทางทางการเงิน เพราะถือเป็นเรื่องที่มีความสำคัญ
อย่างไรก็ตาม โรงเรียนดังกล่าวคงไม่ปิดการเรียนการสอน แต่จะดำเนินการควบคุมในเรื่องทรัพย์สินของโรงเรียนที่ได้มาไม่ถูกต้องเท่านั้น ส่วนโรงเรียนอื่นๆ กำลังตรวจสอบอยู่ ขณะนี้ได้ให้ข่าวกรองไปตรวจสอบและติดตามมารายงานในวันที่ 6 ก.ย.และในวันที่ 7 ก.ย.ตนก็คงจะคุยกับ ปปง.และเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพราะเรื่องนี้มีเรื่องยาเสพติดรวมอยู่ด้วย
เมื่อถามว่า สามารถบอกได้หรือไม่ว่ามีกลุ่มตาลีบันเข้ามามีส่วนตามที่ ปปง.ระบุ พล.อ.ยุทธศักดิ์ กล่าวว่า ยังไม่ถึงกับเข้ามาเกี่ยวข้อง กำลังอยู่ในสิ่งที่ต้องติดตามสงสัยอยู่ อย่าเพิ่งตัดสิน เพราะยังไม่มีหลักฐานพร้อม เราต้องหาหลักฐานให้พร้อมก่อน
เมื่อถามว่า นอกจากโรงเรียนปอเนาะยังมีข้อมูลว่าโรงเรียนอื่นหรือไม่ พล.อ.ยุทธศักดิ์ กล่าวว่า กำลังติดตามอยู่ว่ายังมีอะไรเพิ่มเติมอีก หลังจากปปง.เปิดเผยเรื่องนี้ เพราะมีคนกลุ่มหนึ่งไปกว้านซื้อที่ดินจำนวนมาก และข่มขู่ให้ชาวบ้านขายที่ดิน เป็นเรื่องศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) ต้องไปดูในเรื่องนี้ และต้องจัดการไม่ให้มีการข่มขู่ในเรื่องการซื้อขายที่ดิน
เมื่อถามว่า คนที่เข้าไปข่มขู่ชาวบ้านเป็นกลุ่มใด พล.อ.ยุทธศักดิ์ กล่าวว่า มองว่าเป็นกลุ่มผู้ที่อิทธิพล และเป็นกลุ่มแบ่งแยกดินแดน ที่เขาต้องการลงทุนเอาเงินไปซื้อที่ดินชาวบ้าน ถ้าไม่ขายก็ดำเนินการรุนแรงข่มขู่ ซึ่งเกิดขึ้นในทั้ง 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งเราต้องตรวจสอบดู เรื่องนี้ก็มีมานานแล้ว สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ก็ทรงเป็นห่วงในเรื่องนี้มาก
ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศการดูแลความปลอดภัยรอบบริเวณศาลากลางจังหวัดนราธิวาส ซึ่ง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และคณะ จะเดินทางมาร่วมประชุมกับผู้ว่าราชการจังหวัด 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และพบปะประชาชนในพื้นที่ เพื่อรับฟังปัญหาและแนวทางแก้ปัญหาความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยตั้งแต่ช่วงเช้า วานนี้ (5 ก.ย.) เจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ และฝ่ายปกครองกว่า 500 นาย พร้อมกองกำลังสลายฝูงชนอีก 1 กองร้อย ได้เข้ามาดูแลความปลอดภัย มีการลาดตระเวนด้วยการเดินเท้ารอบศาลากลาง และเฝ้าตรวจตราบริเวณทางเข้า ซึ่งผู้ที่จะเข้ามาบริเวณศาลากลางจะต้องเดินเท้า และผ่านเครื่องเอกซเรย์ร่างกาย นอกจากนี้ ทางกองทัพภาคที่ 4 ได้จัดตั้งกองอำนวยการร่วมเพื่อการประสานงานกับกองกำลังต่างๆ ด้วย ทั้งนี้ สำหรับมวลชนที่จะมาพบปะนายกรัฐมนตรีนั้น คาดว่าน่าจะมีกว่า 4,000 คน
**บึ้มทหาร รปภ.นายกฯเจ็บ4นาย
เวลา 10.40 น.ได้เกิดเหตุคนร้ายไม่ทราบกลุ่มและจำนวนลอบนำระเบิดไปฝังไว้ที่ป้ายผ้าไวนิลงานของดีเมืองนรา ที่บริเวณริมถนนทางแยกบายพาส-ลำภู ต.ลำภู อ.เมือง จ.นราธิวาส โดยคนร้ายได้ฉีดพ่นสเปรย์ด้วยสีแดง มีข้อความว่า "ทหารไทยโง่" ซึ่งเจ้าหน้าที่ทหารชุดเฉพาะกิจนราธิวาสที่ 33 กองร้อยปืนเล็กที่ 3 ได้นำกำลังเข้าตรวจสอบ พร้อมกับเดินเข้าไปเก็บป้ายข้อความดังกล่าว แต่ได้ไปเหยียบกับระเบิดจนเกิดระเบิดขึ้น แรงระเบิดส่งผลให้ทหารได้รับบาดเจ็บสาหัส 4 นาย ขาขาด 1 นาย คือ 1.จ.อ.สุทิน สีม่วง 2.พลทหารอดิพล แซ่จิว 3.พลทหารวัชรพงค์ นสดา และ 4.พลทหารเปรมอนันต์ ขวัญทองยิ้ม ทั้งหมดถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลนราธิวาสราชนครินทร์ โดยโดยระเบิดดังกล่าวเป็นระเบิดแสวงเครื่องบรรจุไว้ในท่อพีวีซี น้ำหนักประมาณ 10 กิโลกรัม เป็นระเบิดแบบกับเหยียบ
จากการสอบสวนทราบว่า บริเวณดังกล่าวเป็นจุดที่เจ้าหน้าที่ทหารต้องมาปฏิบัติหน้าที่เพื่อดูแลความปลอดภัยตามมาตรการการดูแลความปลอดภัยภารกิจนายกรัฐมนตรี ซึ่งเมื่อเจ้าหน้าที่ 1 ชุดปฏิบัติการมาถึงจุดดังกล่าว และเห็นบริเวณป้ายผ้าไวนิลมีข้อความ "ทหารไทยโง่" จึงจัดชุดทหาร 4 นายเข้าไปตรวจสอบและปลดป้าย ขณะที่เจ้าหน้าที่กำลังเดินมุ่งหน้าเพื่อเข้าไปปลดป้ายได้ไปเหยียบกับระเบิดจึงทำให้เกิดระเบิดขึ้นดังกล่าว
**ทหารปะทะคนร้ายดับ 1 จับได้ 5
ก่อนหน้านี้เวลา 06.00 น.เจ้าหน้าที่ทหารพราน กรมทหารพรานที่ 49 สนธิกำลังร่วมกับเจ้าหน้าที่ทหารหน่วยเฉพาะกิจนราธิวาสที่ 30 เข้าปิดล้อมตรวจค้นในพื้นที่บ้านพัฒนาชาติไทย ม.7 ต.โคกสะตอ อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส เพื่อติดตามกลุ่มก่อความไม่สงบ โดยเจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งเบาะแสเกี่ยวกับกลุ่มก่อความไม่สงบได้เข้ามาเคลื่อนไหวในพื้นที่ดังกล่าวเพื่อเตรียมก่อเหตุ โดยขณะเจ้าหน้าที่กำลังเข้าตรวจค้นจุดต้องสงสัยว่ากลุ่มคนร้ายใช้เป็นที่ซ่อนตัวอยู่ กลุ่มคนร้ายได้ใช้อาวุธปืนยิงใส่จนเกิดเหตุการณ์ปะทะกันขึ้นนานกว่า 15 นาที จึงสงบลง จากนั้นเจ้าหน้าที่จึงเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบคนร้ายเสียชีวิต 1 คน คือ นายอุสมาน ปอแน พร้อมกันนี้ ได้ควบคุมตัวผู้ต้องสงสัยได้ 5 ราย
**"ปู"เรียกประชุมฝ่ายความมั่นคง
เมื่อเวลา 14.00 น. น.ส.ยิงลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยนางยงยุทธ วิชัยดิษฐ์ รองนายกฯ และ รมว.มหาดไทย พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา รองนายกฯ พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก รมว.ยุติธรรม พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต รมว.กลาโหม นายสุชาติ ธาดาธำรงเวช รมว.ศึกษาธิการ นายวิทยา บุรณศิริ รมว.สาธารณสุข นายสันติ พร้อมพัฒน์ รมว.การพัฒนาสังคมและความมั่นคงมนุษย์ และคณะได้เดินทางมาศาลากลางจังหวัดนราธิวาส โดยได้พบปะประชาชนในพื้นที่ที่ให้การต้อนรับบริเวณศาลากลางจังหวัด ซึ่งมีทั้งนักเรียน ผู้นำศาสนา แกนนำ นปช.นราธิวาส และแกนนำสตรี โดยกลุ่มแกนนำสตรีได้กล่าวให้กำลังใจนายกรัฐมนตรีในการทำงานด้วย
จากนั้นนายกฯ ได้เข้าห้องรับรองผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส ร่วมพูดคุยกับผู้ว่าราชการในพื้นที่ 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และได้ร่วมถวายจตุปัจจัยไทยทานให้กับพระสงฆ์ 50 รูป จาก 72 วัด โดยมีพระเทพศีลวิสุทธิ์ เจ้าคณะจังหวัดนราธิวาส เป็นผู้แทนรับมอบ ต่อจากนั้น ได้เข้าร่วมประชุมที่ห้องประชุมชั้น 4 ศาลากลางจังหวัดนราธิวาส ร่วมกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงในพื้นที่ 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยมี พล.ท.อุดมชัย ธรรมสาโรรัตน์ แม่ทัพภาคที่ 4 บรรยายสรุปถึงการทำงานเพื่อแก้ปัญหาความไม่สงบ โดยใช้เวลานานเกือบ 1 ชั่วโมง
**ลั่นหนุนงบ-เสริมกำลังคนดับไฟใต้
น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าวว่า การเดินทางลงไปยังพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ตั้งใจจะไปให้กำลังใจประชาชนในพื้นที่ แต่กลับได้รับกำลังใจและความอบอุ่นจากประชาชนพื้นที่ ทำให้รู้สึกดีใจ และหลังจากที่ได้รับฟังปัญหา จะช่วยสนับสนุนและส่งเสริมทั้งงบประมาณและกำลังคน เพื่อแก้ปัญหาในพื้นที่ให้ประชาชนมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น รวมทั้งให้การทำงานมีใกล้ชิดและพร้อมน้อมนำแนวพระราชดำริมาพัฒนาพื้นที่ แต่ภาครัฐยังต้องการความร่วมมือจากภาคประชาชนและผู้นำศาสนา โดยเฉพาะคำแนะนำจากประชาชนในพื้นที่เพื่อแก้ไขปัญหาให้เหมาะสม
ทั้งนี้ นายกฯ ยังได้กล่าวขอบคุณและให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานที่คอยดูแลความปลอดภัยของประชาชนอย่างเต็มที่ แม้จะไม่ได้ลงพื้นที่บ่อย แต่ก็รู้สึกห่วงใยและติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และเชื่อความเป็นพี่เป็นน้องจะทำให้เกิดสันติสุขและมีรอยยิ้มกลับคืนมาได้
**สั่งข่าวกรองตรวจโรงเรียนปอเนอะ
พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินแห่งชาติ (ปปง.) ประกาศยึดทรัพย์เจ้าของโรงเรียนอิสลามบูรพา จ.นราธิวาส เพราะเกี่ยวกันกับขบวนการก่อการร้ายตาลีบัน เเละการก่อเหตุความไม่สงบในจังหวัดชายเเดนภาคใต้ว่า เป็นเรื่องที่ ปปง.กำลังตรวจสอบอยู่ และได้มอบหมายให้นายสุวะพันธ์ ตันยุวรรธนะ ผู้อำนวยการสำนักงานข่าวกรองแห่งชาติ ลงไปในพื้นที่แล้ว โดยให้ไปตรวจสอบว่าการที่ ปปง.ประกาศยึดทรัพย์ดังกล่าวมีการดำเนินการอย่างไร ข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร เพื่อจะได้รู้เส้นทางทางการเงิน เพราะถือเป็นเรื่องที่มีความสำคัญ
อย่างไรก็ตาม โรงเรียนดังกล่าวคงไม่ปิดการเรียนการสอน แต่จะดำเนินการควบคุมในเรื่องทรัพย์สินของโรงเรียนที่ได้มาไม่ถูกต้องเท่านั้น ส่วนโรงเรียนอื่นๆ กำลังตรวจสอบอยู่ ขณะนี้ได้ให้ข่าวกรองไปตรวจสอบและติดตามมารายงานในวันที่ 6 ก.ย.และในวันที่ 7 ก.ย.ตนก็คงจะคุยกับ ปปง.และเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพราะเรื่องนี้มีเรื่องยาเสพติดรวมอยู่ด้วย
เมื่อถามว่า สามารถบอกได้หรือไม่ว่ามีกลุ่มตาลีบันเข้ามามีส่วนตามที่ ปปง.ระบุ พล.อ.ยุทธศักดิ์ กล่าวว่า ยังไม่ถึงกับเข้ามาเกี่ยวข้อง กำลังอยู่ในสิ่งที่ต้องติดตามสงสัยอยู่ อย่าเพิ่งตัดสิน เพราะยังไม่มีหลักฐานพร้อม เราต้องหาหลักฐานให้พร้อมก่อน
เมื่อถามว่า นอกจากโรงเรียนปอเนาะยังมีข้อมูลว่าโรงเรียนอื่นหรือไม่ พล.อ.ยุทธศักดิ์ กล่าวว่า กำลังติดตามอยู่ว่ายังมีอะไรเพิ่มเติมอีก หลังจากปปง.เปิดเผยเรื่องนี้ เพราะมีคนกลุ่มหนึ่งไปกว้านซื้อที่ดินจำนวนมาก และข่มขู่ให้ชาวบ้านขายที่ดิน เป็นเรื่องศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) ต้องไปดูในเรื่องนี้ และต้องจัดการไม่ให้มีการข่มขู่ในเรื่องการซื้อขายที่ดิน
เมื่อถามว่า คนที่เข้าไปข่มขู่ชาวบ้านเป็นกลุ่มใด พล.อ.ยุทธศักดิ์ กล่าวว่า มองว่าเป็นกลุ่มผู้ที่อิทธิพล และเป็นกลุ่มแบ่งแยกดินแดน ที่เขาต้องการลงทุนเอาเงินไปซื้อที่ดินชาวบ้าน ถ้าไม่ขายก็ดำเนินการรุนแรงข่มขู่ ซึ่งเกิดขึ้นในทั้ง 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งเราต้องตรวจสอบดู เรื่องนี้ก็มีมานานแล้ว สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ก็ทรงเป็นห่วงในเรื่องนี้มาก
