นราธิวาส - รองนายกรัฐมนตรี เยี่ยมเจ้าหน้าที่ที่ได้รับบาดเจ็บขณะเข้ากู้ระเบิด เผยมองสถานการณ์ภาพรวมดีขึ้น แต่สถานการณ์ที่เกิดขึ้นปัจจุบันเป็นสิ่งยืนยันที่เจ้าหน้าที่จะต้องเร่งทำงานต่อไป ขณะที่ผู้การนราฯ ยืนยันเหตุเพลิงไหม้ห้างดังนราธิวาสเป็นการลอบวางระเบิด
วันนี้ (2 ก.ย.) เมื่อเวลา 13.00 น. ที่โรงพยาบาลนราธิวาสราชนครินทร์ นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง พร้อมด้วย พล.ร.ท.พงษ์ศักดิ์ ภูรีโรจน์ ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน น.อ.สมเกียรติ ผลประยูร ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินภาคใต้ ค่ายจุฬาภรณ์ นายอภินันท์ ซื่อธานุวงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส และคณะเข้าเยี่ยมอาการบาดเจ็บของเจ้าหน้าที่ที่ได้รับบาดเจ็บขณะเข้าตรวจสอบ และเก็บกู้วัตถุระเบิดเมื่อ วันที่ 31 สิงหาคม ที่ผ่านมา โดยมีเจ้าหน้าที่ได้นอนรักษาตัวที่โรงพยาบาลทั้งหมด 6 นาย ประกอบด้วย จ.อ.รณรงค์ ชาญด้อยกิจ, พลทหารศุภชัย พูขะมา, จ.อ.เรวัตร คงนาค, อส.ทพ.ชาญณรงค์ กรกัณต์, อส.ทพ.อนันต์ อุ่นเพ็ญ และ นายมะรอปี รอมา เจ้าหน้าที่ ชรบ.
โอกาสนี้ รองนายกรัฐมนตรี และผู้บัญชาการหน่วยนาวิกโยธินได้มอบกระเช้าของเยี่ยม และเงินช่วยเหลือเพื่อเป็นขวัญ และกำลังใจ รวมถึงได้พูดคุยเพื่อให้กำลังใจในการปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ต่อไป
พล.ร.ท.พงษ์ศักดิ์ ภูรีโรจน์ ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน กล่าวถึงแนวทางการทำงานของหน่วยนาวิโยธินในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ว่า ในวันที่ 1 ตุลาคมนี้ จะมีการสับเปลี่ยนกองกำลังในพื้นที่ 5 อำเภอของจังหวัดนราธิวาสที่นาวิกโยธินรับผิดชอบ ซึ่งขณะนี้ในส่วนกองกำลังที่จะลงมาสับเปลี่ยนได้มีการฝึกซ้อมแนวทางการทำงาน โดยเฉพาะการเรียนรู้เกี่ยวกับวัฒนธรรม ประเพณีของพี่น้องชาวมุสลิมในพื้นที่ เพื่อให้การทำงานผ่านไปได้ด้วยดี นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ชุดใหม่ได้นำบทเรียนที่เป็นสถานการณ์ความไม่สงบในแต่ละพื้นที่ มาพูดคุยเพื่อนำไปปรับใช้กับยุทธวิธีต่างๆ ทั้งนี้ เพื่อให้ประชาชนปลอดภัยมากที่สุด
ด้านนายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวถึงภาพรวมสถานการณ์ความไม่สงบที่เกิดขึ้นในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ว่า ขณะนี้ถือว่าภาพรวมสถานการณ์เริ่มดีขึ้น แต่ปัญหาของพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้นั้นเป็นปัญหาที่สะสมมานาน ซึ่งเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายยังคงต้องเร่งทำงานต่อไป ส่วนสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ณ ปัจจุบันนี้ก็เป็นข้อบงชี้ให้เจ้าหน้าที่เดินหน้า และมุ่งมั่นในการทำงานต่อไป ซึ่งนายกรัฐมนตรีเองได้กำชับให้ลงมาเยี่ยมเยียน และสอบถามปัญหาตลอดจนข้อคิดเห็นต่างๆ เพื่อนำไปปรับใช้ในการทำงาน
ส่วนกรณีของกองกำลังที่ยังคงขาดแคลนนั้น รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เป็นปัญหาหนึ่งที่ต้องแก้ซึ่งรัฐบาลไม่ได้นิ่งนอนใจ หากมีความจำเป็นให้เพิ่มบุคลากร หรืองบประมาณรัฐบาลก็ต้องทำ แต่ด้วยในทุกพื้นที่ทั้ง 76 จังหวัดมีปัญหาแตกต่างกันออกไป จึงต้องเข้าใจรัฐบาลด้วย
ขณะที่ พล.ต.ต.โชติ ชวาลวิวัฒน์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนราธิวาส กล่าวถึงการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ชุดกองวิทยาการพิสูจน์หลักฐานภายในห้างซุปเปอร์ 4 นราธิวาสว่า จากการเข้าตรวจสอบของเจ้าหน้าที่นั้น สามารถยืนยันได้ชัดเจนจากหลักฐานว่าเหตุเพลิงไหม้ที่เกิดขึ้นนั้น เป็นการลอยวางเพลิงซึ่งบริเวณต้นเพลิงเจ้าหน้าที่ตรวจสอบพบเหล็กที่เป็นชั้นวางสินค้ามีลักษณะบิดเบี้ยว เนื่องจากแรงระเบิด และรวมถึงสินค้าบางประ้เภทมีร่องรอยของสะเก็ดระเบิด ทั้งนี้ คาดว่าคนร้ายน่าจะประกอบระเบิดแล้วซุกไว้ในผลิตภัณฑ์ที่มีลักษณะใกล้เคียงกับสินค้าที่วางจำหน่ายในชั้นดังกล่าว ซึ่งไม่น่าจะมีน้ำหนักมาก แต่ที่ทำให้เกิดประกายไฟ และลุกไหม้ด้วยความรวดเร็วนั้น เป็นเพราะบริเวณชั้นดังกล่าวมีวัตถุไวไฟวางอยู่ เช่น สเปร์ยฉีดผม
ส่วนการติดตามคดี ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนราธิวาสกล่าวว่า เจ้าหน้าที่เร่งตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดที่สามารถใช้การได้ รวมถึงกู้ภาพบางส่วนมาทำการตรวจสอบ
