xs
xsm
sm
md
lg

ปชป.ชี้เรตติ้งเสื้อแดงตก พท.โบ้ยคนอารมณ์ค้างน้ำท่วม

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

วานนี้(3 ก.ย.55) ผลการเลือกตั้งซ่อมส.ก.เขตดอนเมือง หลังจากที่นางกนกนุช นากสุวรรณภา ผู้สมัครส.ก.พรรคประชาธิปัตย์ สามารถเอาชนะนายประเวศร์ วัลภลบรรหาร ผู้สมัครส.ก.พรรคเพื่อไทย ด้วยคะแนนห่างกัน 2,634 คะแนน
นายแทนคุณ จิตต์อิสระ อดีตผู้สมัคร ส.ส.ดอนเมือง พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า สาเหตุที่นางกนกนุช ชนะการเลือกตั้งน่าจะมาจากเป็นคนในพื้นที่ มีความตั้งใจ จริงใจ มุ่งมั่นในการทำงาน มีผลงานที่โดดเด่น ที่สำคัญไม่ว่าจะได้รับเลือกหรือไม่รับเลือกตั้ง นางกนกนุชก็ลงไปช่วยคนในพื้นที่ทุกครั้ง ที่เห็นได้ชัดคือ ช่วงที่เขตดอนเมืองจมน้ำเมื่อปลายปี 54 ทั้งตนและนางกนกนุช ลงไปช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่มาโดยไม่ตลอด ไม่มีวันหยุด ตื่นแต่เช้าทำกับข้าว แล้วก็นำข้าวไปให้คนในพื้นที่ตลอดเวลา ใครเดือดร้อนนางกนกนุชก็จะเข้าไปช่วยเหลือ ประสานงานให้ โดยเฉพาะหลังน้ำท่วม ได้เข้าหาชาวบ้านในพื้นที่เพื่อเยียวยา ตรงนี้น่าจะเป็นคุณสมบัติที่ทำให้ชาวดอนเมืองเลือกนางกนกนุช เป็นสก.และอีกปัจจัยหนึ่งอาจเป็นเพราะประชาชนเบื่อหน่ายกับการผูกขาดทางการเมืองของพรรคใดพรรคหนึ่ง พฤติกรรมของบุคคล ซึ่งชาวดอนเมืองต้องการเปลี่ยนแปลง
“สิ่งที่ผู้สมัคร ส.ก.ของพรรคชนะ น่าจะมาจากตัวบุคคลที่ทุ่มเทแรงกายแรงใจให้กับประชาชนในพื้นที่โดยเฉพาะในช่วงวิกฤตน้ำท่วม รวมถึงไปการวางแผนวางยุทธศาสตร์ในการหาเสียง นอกจากนี้ปัจจัยที่ส่งเสริมส่วนหนึ่งก็น่าจะมาจากความต้องการของชาวดอนเมืองที่ต้องการการเปลี่ยนแปลง อีกทั้งผู้สมัครจากพรรคเพื่อไทยก็เป็นคนหน้าใหม่ ประสบการณ์ทางการเมืองน้อยแม้ว่าจะมีพรรคการเมืองใหญ่ และอดีตส.ส.ในเขตดอนเมืองหนุนหลังก็ตาม” นายแทนคุณ กล่าว

**กทม.ชี้ทำงานหนักช่วงน้ำท่วม
นายวสันต์ มีวงษ์ โฆษกกทม. กล่าวว่า การเลือกตั้งครั้งนี้ถือว่าประชาชนมีความตื่นตัวในการแสดงออกถึงการเลือกตั้งซ่อมส.ก.มากถึง 40 เปอร์เซ็นต์ จากสถิติเดิมที่มีการเลือกตั้งทั่วไป 37 เปอร์เซ็นต์ ส่วนปัจจัยที่ทำให้ผู้สมัครจากพรรคประชาธิปัตย์ได้รับชัยชนะนั้น หากดูจากการทำงานในช่วงน้ำท่วมเขตดอนเมืองที่ผ่านมา นางกนกนุชคลุกคลีกับชาวบ้านในการช่วยเหลือประชาชนต่อเนื่อง ก็เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้คนดอนเมืองตัดสินใจเลือกผู้สมัครจากพรรคประชาธิปัตย์ได้ อย่างไรก็ตาม การเลือกตั้งครั้งนี้คงไม่ส่งผลต่อการเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม.ครั้งหน้า เพราะการเลือกตั้งแต่ละระดับ อาทิ ส.ส.,ส.ก.,ส.ข.หรือผู้ว่าฯกทม. คนกรุงเทพฯจะมีดุลพินิจเลือกตัวแทนแต่ละระดับต่างกัน ผู้สื่อข่าวรายงายว่า สรุปเสียงส.ก.ในสภากทม.มีทั้งหมด 61 คน ประกอบด้วย ส.ก.จากพรรคประชาธิปัตย์ 46 เสียง จากพรรคเพื่อไทย 14 เสียง และจากอิสระของ น.ส.เรณุมาศ อิศรภักดี ส.ก.เขตหลักสี่ 1 เสียง

**ปชป.ได้ทีชี้รบ.เรตติ้งพื้นที่แดงตก
ที่พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ แถลงว่าจากการทำงานของรัฐบาลและโฆษกพรรคเพื่อไทย 1 ปีที่ผ่านมา ทำให้กลุ่มผู้สนับสนุนพรรคเพื่อไทยได้เห็นแล้วว่าเป็นอย่างไร จึงทำให้พรรคประชาธิปัตย์ชนะการเลือกตั้งในพื้นที่สีแดง ทั้งการเลือกตั้งซ่อม ส.ส.ที่จ.ปทุมธานี และการเลือกตั้ง ส.ก.ที่เขตดอนเมือง และขอขอบคุณชาวดอนเมืองที่ให้โอกาสพรรคประชาธิปัตย์

**วัดเสียงเลือกตั้งระดับชาติไม่ได้
นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า เรื่องนี้เราจะมาประเมินเพื่อตัดสินผลการเลือกตั้งในสนามการเมืองระดับชาติไม่ได้ เพราะมีความไม่สอดคล้องกัน ยกตัวอย่างเช่นในพื้นที่ภาคใต้ ที่ผลการเลือกตั้งท้องถิ่นมีความแตกต่างจากผลการเลือกตั้ง ส.ส.
เมื่อถามว่า สาเหตุมาส.ส.ในพื้นที่ไม่ช่วยเหลือประชาชนเมื่อเกิดปัญหาน้ำท่วมจนพรรคประชาธิปัตย์ลงพื้นที่มากกว่า นายยงยุทธ กล่าวว่า เรื่องนี้แล้วแต่คนจะคิดกัน แต่เราต้องยอมรับในการตัดสินใจของประชาชน
นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า เรื่องการแพ้หรือชนะนั้นถือเป็นเรื่องปกติธรรมดา แต่คงจะไม่เกี่ยวข้องกับการเลือกตั้งส.ส.หรือผู้ว่าฯ กทม.ในอนาคต เพราะการเลือกตั้งระดับท้องถิ่นนั้นเป็นเรื่องของการที่ประชาชนต้องการให้ผู้สมัครเข้าไปดูแลประชาชนในพื้นที่
ส่วนการเลือกตั้งระดับชาตินั้นประชาชนจะพิจารณาในเรื่องของนโยบายของพรรคเป็นหลัก ทั้งนี้ ผลการเลือกตั้งซ่อมส.ก.ที่ออกมานั้น เป็นไปได้ว่าประชาชนอาจจะยังมีอารมณ์อยู่จากเรื่องการให้เงินช่วยเหลือเยียวยาน้ำท่วม ทั้งๆ ที่รัฐบาลได้จัดสรรงบประมาณต่างๆ ให้กับกทม.ไปแล้ว และเป็นเรื่องของเขตที่จะนำเงินไปให้กับประชาชน ซึ่งตรงนี้เราอาจจะต้องมีการทำความเข้าใจกับประชาชนด้วย

**เก่ง การุณ ยอมรับความพ่ายแพ้
นายการุณ โหสกุล ส.ส.กทม. พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ยืนยันว่าเราทำทุกอย่างอย่างเต็มที่แล้ว แต่ประชาชนเลือกที่จะเลือกอีกคนที่ไม่ใช่ผู้สมัครของเรา ดังนั้นก็คงต้องยอมรับในความพ่ายแพ้ อย่างไรก็ตาม แม้ว่าเราจะแพ้แต่ถือว่าเราทำได้ตามเป้าที่เราวางไว้ทุกอย่าง โดยเราคาดว่าจะมีผู้มาใช้สิทธิ 30% และเราน่าจะได้คะแนนเสียงหมื่นกว่าๆ ซึ่งน่าจะทำให้เราชนะการเลือกตั้งซ่อมส.ก.ได้ ซึ่งเราก็ทำได้ตามเป้า เพียงแต่ครั้งนี้กลับมีผู้ออกมาใช้สิทธิถึง 44% เกินกว่าที่เราคาดการณ์ไว้ และยังไปลงคะแนนให้กับผู้สมัครของอีกฝ่ายพอสมควรอีกด้วย ทั้งนี้ ส่วนตัวแล้วงานในพื้นที่ ทีมงานในพื้นที่ และความพร้อมต่างๆ นั้นถือว่าเราทำทุกอย่างอย่างเต็มที่และครบหมดแล้วจริงๆ
หากให้ตนวิเคราะห์ถึงความพ่ายแพ้ก็เชื่อว่าน่าจะเกี่ยวข้องกับกรณีของเงินชดเชยเยียวยาน้ำท่วม เพราะจากการลงพื้นที่นั้นมีชาวบ้านเข้ามาสอบถามจำนวนมากว่าส.ส. ส.ก. และส.ข.ของพรรคเพื่อไทยทำไมไม่ดูแล ทั้งๆ ที่รัฐบาลนั้นมอบหมายให้กทม.เป็นผู้ดูแลในเรื่องของเงินเยียวยา แต่เมื่อชาวบ้านไม่ทราบจึงทำให้ส.ส. ส.ก. และส.ข.ของพรรคถูกต่อว่ามาตลอดว่าทำไมน้ำท่วมบ้านเท่ากันแต่กลับได้รับเงินเยียวยาไม่เท่ากัน ทำให้พรรคเพื่อไทยตอนนี้เหมือนแพะรับบาป ชาวบ้านเข้าใจว่าพรรคเพื่อไทยไม่ยอมดูแลชาวบ้าน คิดว่าเป็นความผิดของพรรคเพื่อไทย จึงทำให้เราต้องแพ้ในเกือบทุกหน่วยแม้ว่าเราจะทำทุกอย่างพร้อมอย่างเต็มที่แล้วก็ตาม แม้แต่ตัวบุคคลผู้สมัครของเราก็เหนือกว่า ปัญหาเสียงของเราก็ยังติดก่อนของคู่แข่งด้วยซ้ำ
ผู้สื่อข่าวถามว่า จะส่งผลกระทบถึงสนามเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.และการเลือกตั้งส.ส.ในอนาคตด้วยหรือไม่ นายการุณ กล่าวว่า น่าจะไม่เกี่ยวข้องกัน ถือเป็นคนละสนาม และการเลือกตั้งซ่อมส.ก.ในครั้งนี้คงยังวัดผลอะไรไม่ได้ เพราะยังมีเรื่องของกระแสความไม่พอใจกรณีเงินเยียวยารวมอยู่ด้วย อย่างไรก็ตาม ในการประชุมโซนกทม.พรรคเพื่อไทยในวันที่ 4 ก.ย.นั้น ตนจะนำข้อมูลและแบบสำรวจผลโพลต่างๆ ไปขอให้ผู้รู้ในพรรคช่วยวิเคราะห์ให้ด้วยว่าในวันข้างหน้านั้นเราจะต้องแก้ไขอย่างไร

**อดีตส.ก.ดอนเมือง 2 ขั้วคนคุ้นเคย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การเลือกตั้ง ส.ก. เขตดอนเมืองที่ผ่านมาสร้างความแปลกใจไม่น้อยเมื่อ นางกนกนุช ผู้ซึ่งพรรคประชาธิปัตย์ให้การสนับสนุน เอาชนะคู่แข่งจากพรรคเพื่อไทยไปได้ ทั้งๆที่มีการตั้งข้อสังเกตว่าเขตดอนเมืองเป็นหนึ่งในพื้นที่สีแดงเข้มของ กทม. ภายใต้การนำของ การุณ หากย้อนไปดูแล้วทั้ง กนกนุช และ การุณ นั้นเติบโตมาด้วยกันโดยตลอด ตั้งแต่สมัยนายห้างทอง ธรรมวัฒนะ อดีต ส.ส. เขตดอนเมือง และต่อมาก็ได้ย้ายมาอยู่พรรคชาติไทยในขณะนั้น และทำให้ น้องแบม จณิสตา ลิ่วเฉลิมวงศ์ ได้เป็น ส.ส. และทำให้พรรคชาติไทยปักธงในพื้นที่ กทม. ได้เป็นครั้งแรก จากนั้นก็ได้ย้ายมาสังกัดพรรคไทยรักไทย และหนุนส่งให้ ม.ร.ว.ดำรงดิศ ดิศกุล เป็น ส.ส. ในพื้นที่ดอนเมือง ขณะที่ ทั้งการุณ และ กนกนุช ต่างก็เป็น ส.ก. ในพื้นที่ดอนเมืองทั้งคู่ หากแต่เป็นคนละเขต ถือได้ว่าทั้งคู่เป็นกำลังหลักของผู้ที่หวังจะชิงพื้นที่ดอนเมือง
ต่อเมื่อพรรคไทยรักไทย ถูกยุบ กนกนุชก็หันมาสวมเสื้อพรรคประชาธิปัตย์พร้อมกับ นายชุติเดช สุวรรณเกิด ที่กลายมาเป็นหัวคะแนนของ นายแทนคุณ จิตต์อิสระ และถูกยิงเสียชีวิตในเวลาต่อมา การย้ายพรรคของกนกนุช นั้นว่ากันว่ามีว่ามีหลายที่มาไม่ว่าจะเป็นเรื่องการเมืองเปลี่ยนขั้วในขณะนั้น หรือการไม่ยอมรับในพฤติกรรมบางเรื่องของ ม.ร.ว.ดำรงดิศ
กนกนุชได้ลงชิงชัย ในศึก ส.ก. อีกครั้งในปี 2553 แต่ก็ได้พ่ายแพ้ต่อ พิมพ์ชนา โหสกุล ภรรยาของการุณ แต่ต่อมานายสุริยา โหสกุล พี่ชายนายการุณ ซึ่งเป็น ส.ก.ดอนเมืองในอีกหนึ่งเขตเสียชีวิตลงเป็นที่มาของการเลือกตั้งซ่อมในครั้งนี้ และสามารถล้างตาเอาชนะไปได้ในที่สุด
กำลังโหลดความคิดเห็น