ASTVผู้จัดการรายวัน-กกต. มีมติ 3 ต่อ 2 แจกใบแดง "เก่ง การุณ" เหตุปราศรัยใส่ร้าย "อี้ แทนคุณ" เผย "อภิชาต" ใช้สิทธิออกเสียงชี้ขาด หลังเสียงเท่ากัน ด้านเจ้าตัวก้มหน้ารับกรรม เล็งส่ง "พี่สาว-เมีย" ลงสู้แทน "มาร์ค"ยันส่ง "อี้" ลงชิงเก้าอี้ ส.ส. อีกรอบ
นายภุชงค์ นุตราวงศ์ เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เปิดเผยว่า ที่ประชุมกกต. มีมติเสียงข้างมาก สั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งนายการุณ โหสกุล ส.ส.เขต 12 กทม. พรรคเพื่อไทย และสั่งเลือกตั้งใหม่ พร้อมให้เรียกค่าเสียหายในการจัดการเลือกตั้งใหม่ จากกรณีนายการุณปราศรัยใส่ร้ายด้วยความเท็จ นายแทนคุณ จิตอิสระ ผู้สมัครส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ และพรรคประชาธิปัตย์ด้วยกันหลายครั้ง โดยครั้งแรกวันที่ 3 มิ.ย.2554 ที่ตลาดนัดบุญอนันต์ และครั้งที่ 2 วันที่ 12 มิ.ย.2554 ที่ตลาดนัดโกสุมรวมใจ ซึ่งในครั้งหลังนี้ได้มีการกล่าวร้ายพรรคประชาธิปัตย์ว่า “พรรคการเมืองเก่าแก่ นักการเมืองรุ่นใหม่ ถือแปรงมาทาสี ปราศรัยทุกครั้ง ชุมนุมทุกครั้งเอาเงินมาแจก” ซึ่งมติดังกล่าวองค์ประชุมของ กกต. มีทั้งหมด 4 คน โดยหลังจากนี้ กกต.ก็จะให้ด้านสำนักวินิจฉัยและคดี ยกร่างคำวินิจฉัยและเสนอศาลฎีกาแผนกคดีเลือกตั้งให้พิจารณาพิพากษา หากศาลฯ มีคำสั่งรับคำฟ้องนายการุณจะต้องหยุดการปฏิบัติหน้าที่ไว้จนกว่าศาลจะมีคำพิพากษา
รายงานข่าวแจ้งว่า มติสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งนายการุณ เป็นมติในการประชุมเมื่อวันที่ 19 มิ.ย. ซึ่งที่ประชุม กกต. มีเพียง 4 คน ขาดนายสมชัย จึงประเสริฐ กกต.ด้านสืบสวนและวินิจฉัย ที่ติดภารกิจต่างจังหวัด โดยในการลงมติกรณีดังกล่าว ปรากฎว่ามีเสียงเท่ากัน คือ นายอภิชาต สุขัคคานนท์ ประธานกกต. และนายประพันธ์ นัยโกวิท กกต.ด้านบริหารงานเลือกตั้ง เห็นควรสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง ขณะที่นางสดศรี สัตยธรรม กกต.ด้านกิจการพรรคการเมือง และนายวิสุทธิ์ โพธิแท่น เห็นควรให้ยกคำร้อง เนื่องจากเห็นว่า การปราศรัยโจมตีกัน เป็นเรื่องปกติทางการเมือง ที่ทุกเวทีก็ด่ากันไปกันมาอยู่แล้ว ไม่ใช่เรื่องที่น่าจะนำไปสู่การเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งได้ อีกทั้งกรณีนี้ นายแทนคุณ ได้แจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ และตำรวจได้ทำสำนวนส่งไปยังอัยการ แต่อัยการก็สั่งไม่ฟ้องไปแล้ว จึงไม่น่ามีน้ำหนักอะไร
ดังนั้น นายอภิชาตจึงให้มีการนำเรื่องดังกล่าวเข้าที่ประชุม กกต. อีกครั้งในการประชุมวานนี้ (20 มิ.ย.) เพื่อขานมติใหม่อีกครั้ง ซึ่งในที่ประชุม เมื่อมีการขานมติ กกต.แต่ละคนยังคงยืนยันมติของตนเอง ประธาน กกต. จึงใช้อำนาจตามมาตรา 8 พ.ร.บ.ว่าด้วยคณะกรรมการเลือกตั้ง ที่ระบุว่า “ในกรณีที่ใช้คะแนนเสียงข้างมาก ถ้าคะแนนเสียงเท่ากัน ให้ประธานในที่ประชุมมีสิทธิออกเสียงเพิ่มขึ้นอีกเสียงหนึ่ง เป็นเสียงชี้ขาด” และได้ออกเสียงชี้ขาด ทำให้มติ กกต. ที่ออกมาเป็นเสียงข้างมากสั่งเพิกถอนสิทธินายการุณ ในที่สุด
ขณะที่สื่อมวลชนรายงานว่า กกต. มีมติ 3 ต่อ 2 ให้ใบแดงนายการุณ
**“เก่ง"ก้มหน้ารับ ส่ง“พี่สาว-เมีย"สู้แทน
เมื่อเวลา 15.30 น. ที่พรรคเพื่อไทย นายการุณ โหสกุล ส.ส.กทม.พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า เพิ่งทราบข่าวเมื่อช่วงบ่าย ก็คงต้องยอมรับกับสิ่งที่ กกต.มีคำตัดสินออกมา และก็จะต้องปรึกษากับทางผู้รู้ทางกฎหมาย เพื่อไปชี้แจงในชั้นของศาลต่อไป
“ไม่มีอะไร สบายๆ เคยเจอหนักกว่านี้มาแล้ว ยังยิ้มได้ เพียงแต่มีความรู้สึกสะกิดใจนิดหน่อย แต่ความแข็งแกร่งในจิตใจทำให้มองเรื่องนี้แบบสบายๆ สบายบรื๋อ ส่วนตัวยังไม่ได้ไปปรึกษากับผู้ใหญ่ในพรรค รวมทั้ง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี แต่ก็มีผู้ใหญ่หลายคนโทรมาให้กำลัง ซึ่งก็ต้องขอขอบคุณทุกท่าน มาอยู่ในวิถีทางการเมืองต้องเจออะไรแบบนี้ ก็อึดอัด ผิดหวังบ้าง ถ้าเราทำผิดเอาเราไปประหารเลย แต่ถ้าไม่ผิด ก็ขออย่าให้มีอะไรเกิดขึ้น ใจตัวเองมั่นใจในการกระทำของตัวเอง ที่บอกว่าผมไปกล่าวให้ร้ายคงไม่มี การปราศรัย เราก็ไม่ได้ระบุถึงตัวบุคคล เรื่องนี้น่าศึกษา น่าจะเป็นกรณีศึกษาว่าต่อไปการหาเสียงคงพูดอะไรไม่ได้เลย” นายการุณกล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า หากศาลตัดสินตามคำวินิจฉัยของ กกต. ได้มีการวางตัวบุคคลไว้ลงสมัครเลือกตั้งซ่อมแทนหรือยัง นายการุณตอบว่า มีตัวแทนอยู่แล้วหลายคน พี่สาวกับภรรยาตน ก็เป็นสมาชิกสภากรุงเทพมหานคร (ส.ก.) หรือแม้แต่ในพรรคเอง ก็มีคนอยู่ คงต้องมาหารือกันว่าจะส่งใครลงสมัคร แต่ไม่ว่าส่งใครก็เต็มที่ แต่ก็ขึ้นอยู่กับประชาชนจะตัดสินใจ ระหว่างนี้ ตนก็ยังคงลงพื้นที่เหมือนเดิม เพราะปกติลงพื้นที่ไม่เคยขาด ไม่ว่าจะมีตำแหน่งหรือไม่ก็จะทำต่อไป
เมื่อถามว่ามีความหวังว่า ศาลจะไม่ตัดสินตาม กกต. ยกเลิกการแจกใบแดงหรือไม่ นายการุณตอบว่า เรื่องนี้คงไม่ไปก้าวล่วง ขึ้นอยู่กับการตัดสินของศาล ตนต้องสู้ด้วยหลักฐาน และเชื่อมั่นว่าทำถูกต้อง อยู่ในกรอบกติกามาตลอด ส่วนความเป็นห่วงที่อาจมีมวลชนไปกดดันศาลนั้น คงต้องขอร้องกัน ถ้ารักตนก็อย่าไปกดดันใคร
“เราต้องสู้ด้วยจิตใจที่ใสสะอาดของเรา วันนี้ เราสู้ในกระบวนการที่พวกเขาตั้งขึ้นมา ให้รู้ว่าเราสู้ได้หรือไม่ ถ้าสู้ไม่ได้ ก็ยอม มีเพียงวิถีทางประชาธิปไตยของเราเท่านั้นที่จะทำให้บ้านเมืองเดินหน้าได้” นายการุณกล่าว
**"พท.บอกเร็วเกินไปรอแจงชั้นศาล
นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ต้องรอศาลอีกครั้ง กล่าวตอนนี้เร็วเกินไป และเมื่อ กกต. วินิจฉัยมาอย่างนั้น กกต.ก็ต้องส่งแล้ว เราก็จะไปอธิบายในศาล
เมื่อถามว่า ในฐานะหัวหน้าพรรค ได้มีโอกาสพูดคุยกับนายการุณหรือยัง นายยงยุทธกล่าวว่า ก็พูดคุยให้กำลังใจธรรมดา เมื่อถามต่อว่า หากคดีพ่ายแพ้ในชั้นศาลจะมีความเกี่ยวโยงกับพรรคหรือไม่ นายยงยุทธ กล่าวว่า ไม่ได้เกี่ยวอะไร
ผู้สื่อข่าวถามว่า พรรคได้มีการเตรียมผู้สมัครสำรองไว้แล้วหรือยัง นายยงยุทธ กล่าวว่า เราได้แบ่งเป็น19 พื้นที่ ซึ่งพื้นที่ดอนเมืองเป็นความรับผิดชอบของ น.อ.อนุดิษฐ นาครทรรพ ส.ส.กทม. เขตสายไหม พรรคเพื่อไทย เป็นผู้รับผิดชอบ อย่าเพิ่งพูดยาวไปถึงขนาดนั้น รอศาลวินิจฉัยแล้วค่อยมาคุยกัน ซึ่งขั้นตอนการพิจารณาจะนานหรือไม่ ก็ขึ้นอยู่กับศาล
น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เท่าที่ทราบในขั้นตอน คงต้องรอผลวินิจฉัยของศาลก่อน คงต้องติดตามตรงนั้นก่อน ถ้าผิดอย่างไร และต้องส่งคนลงแทน ต้องให้กรรมการบริหารพรรค และคณะกรรมการอำนวยการเลือกตั้งของพรรคสรุปผลร่วมกับเขตว่า จะส่งใครลง
เมื่อถามว่า มีการเตรียมข้อมูลลึกๆ ที่จะแจงต่อศาลแล้วหรือยัง น.ส.ยิ่งผู้ลักษณ์ กล่าวว่า ยังไม่ทราบ เพราะยังไม่ได้คุยกันเลย เพิ่งทราบข่าวเมื่อเช้าวันที่ 20 มิ.ย.
นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า พรรคเพื่อไทยและฝ่ายกฎหมายกำลังดูรายละเอียดคำวินิจฉัยของ กกต. อยู่ โดยขั้นตอนต่อไปนั้น กกต. จะต้องส่งเรื่องให้กับศาลฎีกาแผนกคดีเลือกตั้ง ซึ่งหมายความว่าขณะนี้ นายการุณยังเป็น ส.ส. อยู่จนกว่าศาลจะรับคำร้องนายการุณจึงจะหยุดปฏิบัติหน้าที่ ดังนั้น พรรคเพื่อไทยจึงยังไม่หาผู้สมัครส.ส.เพื่อลงสมัครรับเลือกตั้งซ่อมในขณะนี้ แต่จะให้ฝ่ายกฎหมายเตรียมข้อกฎหมายและหลักฐานเพื่อชี้แจงต่อศาล และมั่นใจว่าจะสามารถชี้แจงต่อศาลได้
ทั้งนี้ กรณีของนายบุญจง วงศ์ไตรรัตน์ ส.ส.นครราชสีมา พรรคภูมิใจไทยนั้น ศาลฎีกาก็ยังเคยยกคำร้องกรณีที่ กกต. ขอให้เพิกถอนสิทธิเลือกตั้งของนายบุญจงมาแล้ว
**มาร์ค ยันส่ง"อี้"ชิงเก้าอี้อีกครั้ง
อีกด้าน นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ยังต้องผ่านขั้นตอนศาลฏีกาแผนกคดีเลือกตั้งอีกครั้ง ความจริงเรื่องนี้ร้องเรียนมาตั้งแต่ช่วงเลือกตั้งและมีความชัดเจน ยังแปลกใจว่า กกต. วินิจฉัยนาน เพราะมมีอะไรซับซ้อนในเรื่องพฤติกรรม อย่างไรก็ตาม นายแทนคุณ จิตอิสระ ผู้สมัครของพรรค ก็ลงพื้นที่อย่างต่อเนื่อง หากมีการเลือกตั้งใหม่ ก็จะส่งนายแทนคุณลงสมัครอีกครั้ง แต่คงยังไกลเกินไปที่จะบอกว่ามีความหวังหรือไม่ เพราะต้องรอศาลชี้ขาดก่อน
นายแทนคุณ จิตต์อิสระ อดีตผู้สมัครส.ส.กรุงเทพฯ เขตดอนเมือง พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ต้องรอศาลฎีกาแผนกคดีเลือกตั้งวินิจฉัยก่อน แต่ที่ผ่านมา ตนก็ไม่เคยทิ้งพื้นที่ และหากผลออกมาให้มีการเลือกตั้งใหม่ ตนก็จะสู้เต็มที่ โดยต้องดูว่าพรรคเพื่อไทยจะส่งใครลงสมัครแทนนายการุณ อย่างไรก็ตาม ยังรู้สึกกังวลเรื่องความปลอดภัย เนื่องจากคดีการยิงนายชุติเดช สุวรรณเกิด หัวคะแนนของตน ยังไม่มีความคืบหน้า และก่อนหน้านี้ ก็มีข่าวลือมาเป็นระยะว่า หลังจากนายชุติเดชแล้ว รายต่อไปก็จะเป็นตน ซึ่งเป็นเรื่องที่ต้องระวัง แม้เราจะมีประชาชนให้การสนับสนุนจำนวนมาก แต่เราอยู่ในที่แจ้ง จึงไม่สามารถรู้ได้ว่าใครจะทำอะไรเราเมื่อใด
"ในการหาเสียงที่ผ่านมา นายชุติเดช จะเป็นผู้ดูแลเรื่องความปลอดภัยมาโดยตลอด แต่ตอนนี้ไม่มีนายชุติเดชแล้ว ก็ต้องระวังตัวมากขึ้น และที่ผ่านมา ก็มีการข่มขู่มาเป็นระยะ จึงทำให้หลายคนเกิดความเกรงกลัว เพราะความตายมันเสียงดัง แต่เรื่องนี้ก็ไม่ได้ทำให้ตนรู้สึกท้อถอยแต่อย่างใด ยังเดินหน้าลงพื้นที่เต็มที่ โดยจะหารือกับพรรคประชาธิปัตย์ในเรื่องการดูแลความปลอดภัยของตน ทั้งนี้ ขอเรียกร้องให้รัฐบาลเร่งรัดการจ่ายเงินเยียวยาน้ำท่วม และการป้องกันน้ำท่วมในรอบต่อไป"นายแทนคุณกล่าว
นายภุชงค์ นุตราวงศ์ เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เปิดเผยว่า ที่ประชุมกกต. มีมติเสียงข้างมาก สั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งนายการุณ โหสกุล ส.ส.เขต 12 กทม. พรรคเพื่อไทย และสั่งเลือกตั้งใหม่ พร้อมให้เรียกค่าเสียหายในการจัดการเลือกตั้งใหม่ จากกรณีนายการุณปราศรัยใส่ร้ายด้วยความเท็จ นายแทนคุณ จิตอิสระ ผู้สมัครส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ และพรรคประชาธิปัตย์ด้วยกันหลายครั้ง โดยครั้งแรกวันที่ 3 มิ.ย.2554 ที่ตลาดนัดบุญอนันต์ และครั้งที่ 2 วันที่ 12 มิ.ย.2554 ที่ตลาดนัดโกสุมรวมใจ ซึ่งในครั้งหลังนี้ได้มีการกล่าวร้ายพรรคประชาธิปัตย์ว่า “พรรคการเมืองเก่าแก่ นักการเมืองรุ่นใหม่ ถือแปรงมาทาสี ปราศรัยทุกครั้ง ชุมนุมทุกครั้งเอาเงินมาแจก” ซึ่งมติดังกล่าวองค์ประชุมของ กกต. มีทั้งหมด 4 คน โดยหลังจากนี้ กกต.ก็จะให้ด้านสำนักวินิจฉัยและคดี ยกร่างคำวินิจฉัยและเสนอศาลฎีกาแผนกคดีเลือกตั้งให้พิจารณาพิพากษา หากศาลฯ มีคำสั่งรับคำฟ้องนายการุณจะต้องหยุดการปฏิบัติหน้าที่ไว้จนกว่าศาลจะมีคำพิพากษา
รายงานข่าวแจ้งว่า มติสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งนายการุณ เป็นมติในการประชุมเมื่อวันที่ 19 มิ.ย. ซึ่งที่ประชุม กกต. มีเพียง 4 คน ขาดนายสมชัย จึงประเสริฐ กกต.ด้านสืบสวนและวินิจฉัย ที่ติดภารกิจต่างจังหวัด โดยในการลงมติกรณีดังกล่าว ปรากฎว่ามีเสียงเท่ากัน คือ นายอภิชาต สุขัคคานนท์ ประธานกกต. และนายประพันธ์ นัยโกวิท กกต.ด้านบริหารงานเลือกตั้ง เห็นควรสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง ขณะที่นางสดศรี สัตยธรรม กกต.ด้านกิจการพรรคการเมือง และนายวิสุทธิ์ โพธิแท่น เห็นควรให้ยกคำร้อง เนื่องจากเห็นว่า การปราศรัยโจมตีกัน เป็นเรื่องปกติทางการเมือง ที่ทุกเวทีก็ด่ากันไปกันมาอยู่แล้ว ไม่ใช่เรื่องที่น่าจะนำไปสู่การเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งได้ อีกทั้งกรณีนี้ นายแทนคุณ ได้แจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ และตำรวจได้ทำสำนวนส่งไปยังอัยการ แต่อัยการก็สั่งไม่ฟ้องไปแล้ว จึงไม่น่ามีน้ำหนักอะไร
ดังนั้น นายอภิชาตจึงให้มีการนำเรื่องดังกล่าวเข้าที่ประชุม กกต. อีกครั้งในการประชุมวานนี้ (20 มิ.ย.) เพื่อขานมติใหม่อีกครั้ง ซึ่งในที่ประชุม เมื่อมีการขานมติ กกต.แต่ละคนยังคงยืนยันมติของตนเอง ประธาน กกต. จึงใช้อำนาจตามมาตรา 8 พ.ร.บ.ว่าด้วยคณะกรรมการเลือกตั้ง ที่ระบุว่า “ในกรณีที่ใช้คะแนนเสียงข้างมาก ถ้าคะแนนเสียงเท่ากัน ให้ประธานในที่ประชุมมีสิทธิออกเสียงเพิ่มขึ้นอีกเสียงหนึ่ง เป็นเสียงชี้ขาด” และได้ออกเสียงชี้ขาด ทำให้มติ กกต. ที่ออกมาเป็นเสียงข้างมากสั่งเพิกถอนสิทธินายการุณ ในที่สุด
ขณะที่สื่อมวลชนรายงานว่า กกต. มีมติ 3 ต่อ 2 ให้ใบแดงนายการุณ
**“เก่ง"ก้มหน้ารับ ส่ง“พี่สาว-เมีย"สู้แทน
เมื่อเวลา 15.30 น. ที่พรรคเพื่อไทย นายการุณ โหสกุล ส.ส.กทม.พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า เพิ่งทราบข่าวเมื่อช่วงบ่าย ก็คงต้องยอมรับกับสิ่งที่ กกต.มีคำตัดสินออกมา และก็จะต้องปรึกษากับทางผู้รู้ทางกฎหมาย เพื่อไปชี้แจงในชั้นของศาลต่อไป
“ไม่มีอะไร สบายๆ เคยเจอหนักกว่านี้มาแล้ว ยังยิ้มได้ เพียงแต่มีความรู้สึกสะกิดใจนิดหน่อย แต่ความแข็งแกร่งในจิตใจทำให้มองเรื่องนี้แบบสบายๆ สบายบรื๋อ ส่วนตัวยังไม่ได้ไปปรึกษากับผู้ใหญ่ในพรรค รวมทั้ง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี แต่ก็มีผู้ใหญ่หลายคนโทรมาให้กำลัง ซึ่งก็ต้องขอขอบคุณทุกท่าน มาอยู่ในวิถีทางการเมืองต้องเจออะไรแบบนี้ ก็อึดอัด ผิดหวังบ้าง ถ้าเราทำผิดเอาเราไปประหารเลย แต่ถ้าไม่ผิด ก็ขออย่าให้มีอะไรเกิดขึ้น ใจตัวเองมั่นใจในการกระทำของตัวเอง ที่บอกว่าผมไปกล่าวให้ร้ายคงไม่มี การปราศรัย เราก็ไม่ได้ระบุถึงตัวบุคคล เรื่องนี้น่าศึกษา น่าจะเป็นกรณีศึกษาว่าต่อไปการหาเสียงคงพูดอะไรไม่ได้เลย” นายการุณกล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า หากศาลตัดสินตามคำวินิจฉัยของ กกต. ได้มีการวางตัวบุคคลไว้ลงสมัครเลือกตั้งซ่อมแทนหรือยัง นายการุณตอบว่า มีตัวแทนอยู่แล้วหลายคน พี่สาวกับภรรยาตน ก็เป็นสมาชิกสภากรุงเทพมหานคร (ส.ก.) หรือแม้แต่ในพรรคเอง ก็มีคนอยู่ คงต้องมาหารือกันว่าจะส่งใครลงสมัคร แต่ไม่ว่าส่งใครก็เต็มที่ แต่ก็ขึ้นอยู่กับประชาชนจะตัดสินใจ ระหว่างนี้ ตนก็ยังคงลงพื้นที่เหมือนเดิม เพราะปกติลงพื้นที่ไม่เคยขาด ไม่ว่าจะมีตำแหน่งหรือไม่ก็จะทำต่อไป
เมื่อถามว่ามีความหวังว่า ศาลจะไม่ตัดสินตาม กกต. ยกเลิกการแจกใบแดงหรือไม่ นายการุณตอบว่า เรื่องนี้คงไม่ไปก้าวล่วง ขึ้นอยู่กับการตัดสินของศาล ตนต้องสู้ด้วยหลักฐาน และเชื่อมั่นว่าทำถูกต้อง อยู่ในกรอบกติกามาตลอด ส่วนความเป็นห่วงที่อาจมีมวลชนไปกดดันศาลนั้น คงต้องขอร้องกัน ถ้ารักตนก็อย่าไปกดดันใคร
“เราต้องสู้ด้วยจิตใจที่ใสสะอาดของเรา วันนี้ เราสู้ในกระบวนการที่พวกเขาตั้งขึ้นมา ให้รู้ว่าเราสู้ได้หรือไม่ ถ้าสู้ไม่ได้ ก็ยอม มีเพียงวิถีทางประชาธิปไตยของเราเท่านั้นที่จะทำให้บ้านเมืองเดินหน้าได้” นายการุณกล่าว
**"พท.บอกเร็วเกินไปรอแจงชั้นศาล
นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ต้องรอศาลอีกครั้ง กล่าวตอนนี้เร็วเกินไป และเมื่อ กกต. วินิจฉัยมาอย่างนั้น กกต.ก็ต้องส่งแล้ว เราก็จะไปอธิบายในศาล
เมื่อถามว่า ในฐานะหัวหน้าพรรค ได้มีโอกาสพูดคุยกับนายการุณหรือยัง นายยงยุทธกล่าวว่า ก็พูดคุยให้กำลังใจธรรมดา เมื่อถามต่อว่า หากคดีพ่ายแพ้ในชั้นศาลจะมีความเกี่ยวโยงกับพรรคหรือไม่ นายยงยุทธ กล่าวว่า ไม่ได้เกี่ยวอะไร
ผู้สื่อข่าวถามว่า พรรคได้มีการเตรียมผู้สมัครสำรองไว้แล้วหรือยัง นายยงยุทธ กล่าวว่า เราได้แบ่งเป็น19 พื้นที่ ซึ่งพื้นที่ดอนเมืองเป็นความรับผิดชอบของ น.อ.อนุดิษฐ นาครทรรพ ส.ส.กทม. เขตสายไหม พรรคเพื่อไทย เป็นผู้รับผิดชอบ อย่าเพิ่งพูดยาวไปถึงขนาดนั้น รอศาลวินิจฉัยแล้วค่อยมาคุยกัน ซึ่งขั้นตอนการพิจารณาจะนานหรือไม่ ก็ขึ้นอยู่กับศาล
น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เท่าที่ทราบในขั้นตอน คงต้องรอผลวินิจฉัยของศาลก่อน คงต้องติดตามตรงนั้นก่อน ถ้าผิดอย่างไร และต้องส่งคนลงแทน ต้องให้กรรมการบริหารพรรค และคณะกรรมการอำนวยการเลือกตั้งของพรรคสรุปผลร่วมกับเขตว่า จะส่งใครลง
เมื่อถามว่า มีการเตรียมข้อมูลลึกๆ ที่จะแจงต่อศาลแล้วหรือยัง น.ส.ยิ่งผู้ลักษณ์ กล่าวว่า ยังไม่ทราบ เพราะยังไม่ได้คุยกันเลย เพิ่งทราบข่าวเมื่อเช้าวันที่ 20 มิ.ย.
นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า พรรคเพื่อไทยและฝ่ายกฎหมายกำลังดูรายละเอียดคำวินิจฉัยของ กกต. อยู่ โดยขั้นตอนต่อไปนั้น กกต. จะต้องส่งเรื่องให้กับศาลฎีกาแผนกคดีเลือกตั้ง ซึ่งหมายความว่าขณะนี้ นายการุณยังเป็น ส.ส. อยู่จนกว่าศาลจะรับคำร้องนายการุณจึงจะหยุดปฏิบัติหน้าที่ ดังนั้น พรรคเพื่อไทยจึงยังไม่หาผู้สมัครส.ส.เพื่อลงสมัครรับเลือกตั้งซ่อมในขณะนี้ แต่จะให้ฝ่ายกฎหมายเตรียมข้อกฎหมายและหลักฐานเพื่อชี้แจงต่อศาล และมั่นใจว่าจะสามารถชี้แจงต่อศาลได้
ทั้งนี้ กรณีของนายบุญจง วงศ์ไตรรัตน์ ส.ส.นครราชสีมา พรรคภูมิใจไทยนั้น ศาลฎีกาก็ยังเคยยกคำร้องกรณีที่ กกต. ขอให้เพิกถอนสิทธิเลือกตั้งของนายบุญจงมาแล้ว
**มาร์ค ยันส่ง"อี้"ชิงเก้าอี้อีกครั้ง
อีกด้าน นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ยังต้องผ่านขั้นตอนศาลฏีกาแผนกคดีเลือกตั้งอีกครั้ง ความจริงเรื่องนี้ร้องเรียนมาตั้งแต่ช่วงเลือกตั้งและมีความชัดเจน ยังแปลกใจว่า กกต. วินิจฉัยนาน เพราะมมีอะไรซับซ้อนในเรื่องพฤติกรรม อย่างไรก็ตาม นายแทนคุณ จิตอิสระ ผู้สมัครของพรรค ก็ลงพื้นที่อย่างต่อเนื่อง หากมีการเลือกตั้งใหม่ ก็จะส่งนายแทนคุณลงสมัครอีกครั้ง แต่คงยังไกลเกินไปที่จะบอกว่ามีความหวังหรือไม่ เพราะต้องรอศาลชี้ขาดก่อน
นายแทนคุณ จิตต์อิสระ อดีตผู้สมัครส.ส.กรุงเทพฯ เขตดอนเมือง พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ต้องรอศาลฎีกาแผนกคดีเลือกตั้งวินิจฉัยก่อน แต่ที่ผ่านมา ตนก็ไม่เคยทิ้งพื้นที่ และหากผลออกมาให้มีการเลือกตั้งใหม่ ตนก็จะสู้เต็มที่ โดยต้องดูว่าพรรคเพื่อไทยจะส่งใครลงสมัครแทนนายการุณ อย่างไรก็ตาม ยังรู้สึกกังวลเรื่องความปลอดภัย เนื่องจากคดีการยิงนายชุติเดช สุวรรณเกิด หัวคะแนนของตน ยังไม่มีความคืบหน้า และก่อนหน้านี้ ก็มีข่าวลือมาเป็นระยะว่า หลังจากนายชุติเดชแล้ว รายต่อไปก็จะเป็นตน ซึ่งเป็นเรื่องที่ต้องระวัง แม้เราจะมีประชาชนให้การสนับสนุนจำนวนมาก แต่เราอยู่ในที่แจ้ง จึงไม่สามารถรู้ได้ว่าใครจะทำอะไรเราเมื่อใด
"ในการหาเสียงที่ผ่านมา นายชุติเดช จะเป็นผู้ดูแลเรื่องความปลอดภัยมาโดยตลอด แต่ตอนนี้ไม่มีนายชุติเดชแล้ว ก็ต้องระวังตัวมากขึ้น และที่ผ่านมา ก็มีการข่มขู่มาเป็นระยะ จึงทำให้หลายคนเกิดความเกรงกลัว เพราะความตายมันเสียงดัง แต่เรื่องนี้ก็ไม่ได้ทำให้ตนรู้สึกท้อถอยแต่อย่างใด ยังเดินหน้าลงพื้นที่เต็มที่ โดยจะหารือกับพรรคประชาธิปัตย์ในเรื่องการดูแลความปลอดภัยของตน ทั้งนี้ ขอเรียกร้องให้รัฐบาลเร่งรัดการจ่ายเงินเยียวยาน้ำท่วม และการป้องกันน้ำท่วมในรอบต่อไป"นายแทนคุณกล่าว