xs
xsm
sm
md
lg

หายนะรออยู่เบื้องหน้า

เผยแพร่:   โดย: ราวี เวียงพยัคฆ์

นายยรรยง พวงราช ปลัดกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่าวันที่ 3 กันยายนนี้ คณะอนุกรรมการข้าวที่มีนายบุญทรง เตริยาภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เป็นประธาน จะประชุมแก้ปัญหารับจำนำข้าวเปลือกนาปรังรอบพิเศษ โดยเสนอให้ยืดหยุ่นการใช้สิทธิเกษตรกรจากเดิมกำหนดให้หลังวันที่ 1 กรกฎาคม 2555 เป็นวันที่ 1 มิถุนายน 2555 เพื่อให้เกษตรกรที่ปลูกข้าวหลังน้ำท่วมลดได้ใช้สิทธิรับจำนำในปี 2554/2555 ซึ่งมีข้าวเปลือกค้างอยู่ 1 ล้านตัน

นอกจากนี้จะมีการพิจารณาหลักเกณฑ์การรับจำนำข้าวเปลือกรอบใหม่ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2555-30 กันยายน 2556 ซึ่งประเด็นหลักคือการเข้มงวดในขั้นตอนรับจำนำ สีข้าวเปลือกเป็นข้าวสาร การส่งมอบ ตรวจสอบสถานการณ์ปริมาณข้าว ความพร้อมของโรงสี และงบประมาณสำหรับใช้ในโครงการก่อนนำเสนอเข้าที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติ (กขช.) และคณะรัฐมนตรีภายในสิ้นเดือนกันยายนนี้

นี่นับว่าเป็นการสร้างความฉิบหายให้กับประเทศรอบใหม่ของรัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร และสะท้อนให้เห็นว่า รัฐบาลที่คุยนักคุยหนาว่า มาจากประชาชน เป็นรัฐบาลประชาธิปไตยนั้น ไม่ฟังเสียงวิพากษ์วิจารณ์ ไม่ฟังเสียงท้วงติงของผู้คนกลุ่มอื่นๆ เลย แม้จะมีผู้ที่ชี้ให้เห็นถึงความฉิบหายรออยู่ข้างหน้าก็ยังดันทุรังเดินหน้าต่อไป

ปี 2554/2555 ปีแรกของรัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ได้ดำเนินการตามนโยบายที่ได้ประกาศไว้ตอนหาเสียง หนึ่งในนโยบายนั้นก็คือ การรับจำนำข้าวทุกเม็ดตันละ 15,000 บาท ข้าวหอมมะลิรับจำนำสูงถึงตันละ 20,000 บาท นัยว่าเป็นการช่วยชาวนา ช่วยเกษตรกรให้มีรายได้สูงขึ้น

ราคาตันละ 15,000 บาทนั้นเป็นราคาที่สูงกว่าตลาดโลก รัฐบาลมั่นใจว่า นโยบายรับจำนำข้าวจะช่วยให้เกษตรกรมีรายได้สูงขึ้น และเชื่อมั่นว่าจะสามารถยกระดับราคาข้าวในตลาดโลกให้สูงขึ้น ประเทศที่เคยซื้อข้าวจากเรา บริโภคข้าวของเราจะต้องง้อเรา

เอาเข้าจริงไม่ได้เป็นไปอย่างที่รัฐบาลคาดหวัง เกษตรกรของเราอาจจะจำนำข้าว หรือขายข้าวได้สูงขึ้นแต่ก็ไม่ถึงตันละ 15,000 บาททุกรายไป ส่วนใหญ่จะถูกโรงสีที่เข้าร่วมโครงการกดราคาอ้างความชื้น อ้างคุณภาพแต่โรงสีได้จากรัฐบาลแน่ เจ้าหน้าที่ของรัฐมีส่วนได้แน่ นักการเมืองมีส่วนได้แน่ๆ

ที่บอกว่ามีข้าวที่จะต้องขอให้รับจำนำค้างอยู่อีก 1 ล้านตัน ขอให้ยืดหยุ่นขยายเวลารับซื้อ นี่ก็จะต้องมีคนได้งาบแน่ๆ

นักวิชาการ สื่อมวลชน พ่อค้าข้าว รวมทั้งนักการเมืองฝ่ายค้านต่างก็ท้วงติงเป็นเสียงเดียวกันว่า นโยบายรับจำนำข้าว หรือในความเป็นจริงก็คือ การรับซื้อข้าวของรัฐบาลในราคาที่สูงกว่าราคาตลาด สร้างความเสียหายให้กับประเทศชาติ เนื่องจากราคาข้าวของเราจะสูงกว่าราคาข้าวของประเทศอื่นๆ เช่น อินเดีย เวียดนาม พม่า ลาว กัมพูชา เมื่อราคาข้าวเราสูงกว่าประเทศอื่นมาก ประเทศที่เคยบริโภคข้าวเราก็หันไปบริโภคข้าวอินเดีย ข้าวเวียดนาม และข้าวของประเทศอื่นแทน

เราเป็นแชมป์ของการส่งออกข้าวมา 30 ปีเสียแชมป์ไปแล้วในปีนี้ผู้บริโภคในตลาดโลกหันไปซื้อข้าวอินเดีย ข้าวเวียดนาม ข้าวพม่าแทน

เมื่อข้าวขายไม่ออก ข้าวก็เต็มโกดัง เต็มยุ้งฉาง นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรี หัวหน้าทีมเศรษฐกิจของรัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์บอกว่า ไม่เป็นไร ตราบที่ยังไม่ขายก็ไม่ขาดทุน

นั่นเป็นคำพูดที่แสดงความโง่เขลาบ้องตื้น เพราะข้าวไม่ว่าจะเป็นข้าวเปลือกหรือข้าวสารต่างจากใบหุ้น ข้าวต้องเก็บในยุ้งฉาง ไซโล ต้องเสียค่าใช้จ่ายในการเก็บรักษา เก็บไว้นานก็เกิดความเสียหายได้อีกจากมอด แมลง หนู ฯลฯ ทิ้งไว้นานคุณภาพก็เสื่อม แทนที่จะเป็นอาหารคนก็จะกลายเป็นอาหารสัตว์ ราคาตกลงไปอีก

นโยบายรับจำนำข้าวของรัฐบาล เชื่อว่าขณะนี้มีข้าวอยู่ในยุ้งฉางประมาณ 9-10 ล้านตัน มีที่กำลังระบายออกไป ไอเวอรี่โคสต์ 7.5 แสนตัน โดยที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ และผู้ที่เกี่ยวข้องไม่อาจบอกต่อสาธารณะได้ว่า ข้าวล็อตนี้ขายไปตันละเท่าไร ขาดทุนมากน้อยแค่ไหน

ซึ่งเป็นเรื่องผิดวิสัยของรัฐบาลประชาธิปไตยที่จะต้องสัตย์ซื่อถือมั่นต่อประชาชน เปิดเผยตรงไปตรงมากับประชาชน

นโยบายรับจำนำข้าวที่ผ่านมา ขาดทุนเท่าใดรัฐบาลปิดปากเงียบ ในขณะที่นักวิชาการ นักการเมืองฝ่ายค้านคาดว่า ตัวเลขการขาดทุนน่าจะอยู่ที่แสนล้านบาท

และทั้งที่รู้ว่าขาดทุนตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคมนี้ ซึ่งมีเวลาอีก 1 เดือน มีข้าวสารอยู่ในสต็อกประมาณ 9 ล้านตันรัฐบาลก็จะเดินหน้าสร้างความฉิบหายต่อไป โดยนายบุญไทย แก้วขันดี รองผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรฯ เปิดเผยถึงแผนรับจำนำข้าวว่า ธกส.ประเมินวงเงินการรับจำนำข้าวประมาณ 4.05 แสนล้านบาท จากข้าวเปลือกทั้งหมด 25 ล้านตัน แบ่งเป็นข้าวเปลือกนาปี 15 ล้านตัน ข้าวเปลือกนาปรัง 10 ล้านตัน

ถามว่าจะเอาเงินมาจากไหน นายบุญไทยบอกว่า จะนำสภาพคล่องส่วนหนึ่ง ประมาณ 9 หมื่นล้าน ซึ่งเป็นวงเงินเดิมที่เคยรับจำนำในปีการผลิตที่ผ่านมา ส่วนที่เหลือรัฐบาลจะเป็นผู้หาให้

ฤดูการผลิตที่แล้ว ธกส.ใช้เงิน 2.7 แสนล้านบาท ตอนนี้มีสภาพคล่อง 9 หมื่นล้านบาท ที่เหลือก็คงจะเป็นข้าวในโกดัง ในยุ้งฉางที่ยังขายไม่ออก

เดือนตุลาคมนี้รับจำนำเพิ่มอีก เห็นหรือยังครับพี่น้องว่าหายนะรออยู่เบื้องหน้าอย่างไร
กำลังโหลดความคิดเห็น