วานนี้ (28 ส.ค.) น.พ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ส.ส.พิษณุโลก พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะที่ปรึกษากรรมาธิการการพัฒนาเศรษฐกิจ สภาผู้แทนราษฎร แถลงข่าวพร้อมโชว์แผ่นซีดีที่นายยรรยง พวงราช ปลัดกระทรวงพาณิชย์ ได้ให้สัมภาษณ์กล่าวหาว่า ตน(น.พ.วรงค์) ไม่มีความรู้เรื่องข้าว เป็นแค่หมอทำคลอดไปตรวจข้าวและทำให้ข้าวราคาตก ทั้งๆที่ตนไม่ได้กำหนดราคาข้าว เป็นข้าราชการประจำแต่ทำตัวมาทะเลาะนักการเมือง
ทั้งนี้ อยู่ระหว่างปรึกษากับคณะทำงานด้านกฎหมายเพื่อเตรียมยื่นเรื่องฟ้องร้องนายยรรยง ซึ่งให้สัมภาษณ์พาดพิงว่าการลงพื้นที่ตรวจสอบทุจริตโครงการรับจำนำข้าว ในฐานะกมธ.ไม่ถูกต้องเพราะกมธ.ไม่มีอำนาจ ส่วนจะเป็นข้อหาใดบ้างอยู่ระหว่างดูรายละเอียดอีกครั้ง คาดว่าจะสามารถยื่นฟ้องได้ภายในสัปดาห์นี้
น.พ.วรงค์ กล่าวว่า ในประเด็นที่นายยรรยงชี้แจงว่ากมธ.ไม่มีอำนาจนั้น ข้อเท็จจริง กมธ.มีอำนาจตามรัฐธรรมนูญมาตรา 135 ชัดเจน ส่วนที่กล่าวหาว่าไม่มีความรู้ความชำนาญนั้น การลงพื้นที่แต่ละครั้งได้ศึกษาหาความรู้จากผู้ที่ความชำนาญก่อนลงพื้นที่
"การตรวจสอบการทำงานของรัฐบาลปกติพยายามที่จะไม่แตะต้องข้าราชการประจำ เพราะเห็นว่าเป็นผู้ปฏิบัติงาน แต่จะมุ่งเน้นตรวจสอบไปที่รัฐมนตรี และ พรรคเพื่อไทย แต่การออกมาเสนอหน้าแสดงความเห็นเช่นนี้ จากที่ปรึกษากับคณะทำงานเห็นว่าสามารถฟ้องร้องได้ เพราะมีการระบุชื่อตนชัดเจน ดังนั้นจะเป็นการยื่นฟ้องด้วยตัวเอง "น.พ.วรงค์กล่าว
ก่อนหน้านั้น น.พ.วรงค์ ย้ำว่า ทางคณะกรรมาธิการตรวจสอบ สามารถตรวจสอบโครงการรับจำนำข้าว ตามอำนาจทางรัฐธรรมนูญอยู่แล้ว ซึ่งการตรวจสอบที่ผ่านมา นายยรรยง ก็ดูมีความทุกข์ร้อนเป็นอย่างมาก พร้อมอ้างว่า ฝ่ายค้านตรวจสอบจะทำให้ราคาข้าวตกลง รวมทั้งยังพยายามป้ายสีฝ่ายค้าน เพราะทุกฝ่ายรู้ดีว่า ในวงการข้าวมีการทุจริตและนำข้าวเสื่อมสภาพมาซุกในโกดัง ซึ่งจะทำให้การประมูลราคาถูกลง อีกทั้ง รัฐบาลประกาศเงื่อนไขใน TOR ในการประมูลข้าวตามสภาพ เท่ากับว่ารัฐบาลยอมรับว่ามีข้าวคุณภาพไม่ดีอยู่ในนั้น พร้อมขอให้รัฐบาลการันตีตามคุณภาพข้าวแทนเรื่องดังกล่าว
"คือคณะกรรมาธิการทุกคณะมีอำนาจตามรัฐธรรมนูญครับ ในการตรวจสอบรัฐบาลครับ ถือเป็นเรื่องปกติครับ" น.พ.วรงค์ กล่าว
น.พ.วรงค์ ยังเปิดเผยว่า พ่อค้าที่ใกล้ชิดรัฐบาล จะมีความได้เปรียบในเรื่องดังกล่าวเป็นอย่างมาก เพราะรู้ข้อมูลแต่ละโกดังเป็นอย่างดี อีกทั้งที่ผ่านมา จากการลงพื้นที่ใน จ.สระบุรี และ นครสวรรค์ ก็พบว่ามีการทุจริตและนำข้าวเก่าปี 51 มาเจือปนอยู่เป็นจำนวนมาก ซึ่งเรื่องดังกล่าวจะเชิญผู้ที่เกี่ยวข้องเข้ามาหารือในกรรมาธิการตรวจสอบ วันที่ 29 ส.ค.นี้ด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันเดียวกัน กระทรวงพาณิชย์ ได้เปิดให้ทำการประมูลซื้อขายข้าวในสต๊อกของรัฐบาล จำนวน 750,000 ตัน โดยจะเปิดให้ผู้ที่สนใจ สามารถยื่นซองประมูลได้ ตั้งแต่เวลา 09.00 น.-16.00 น. วันนี้ที่ชั้น 9 กรมการค้าต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ จ.นนทบุรี โดยข้าวที่จะทำการเปิดให้ยื่นซองประมูล แบ่งเป็น ข้าวสารหอมมะลิ 100% ชั้น 2 ข้าวหอม จ.ปทุมธานี และปลายข้าวเปลือกนาปี ฤดูกาลผลิตปี 2554/2555 จำนวน 499,000 ตัน เพื่อจำหน่ายในประเทศและส่งออกต่างประเทศ
นอกจากนี้ ยังมีข้าวขาว 5% ในโครงการรับจำนำปี 2554/2555 จำนวน 210,000 ตัน เพื่อทำการส่งออกต่างประเทศ โดยราคาที่จะเสนอในการประมูลนั้น จะเป็นราคาหน้าคลังสินค้า โดยเสนอซื้อในรูปของเงินบาท ซึ่งการเปิดให้ระบายข้าวในสต๊อกรัฐบาล ทางกระทรวงพาณิชย์ เห็นว่า เป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมแล้ว
ทั้งนี้ อยู่ระหว่างปรึกษากับคณะทำงานด้านกฎหมายเพื่อเตรียมยื่นเรื่องฟ้องร้องนายยรรยง ซึ่งให้สัมภาษณ์พาดพิงว่าการลงพื้นที่ตรวจสอบทุจริตโครงการรับจำนำข้าว ในฐานะกมธ.ไม่ถูกต้องเพราะกมธ.ไม่มีอำนาจ ส่วนจะเป็นข้อหาใดบ้างอยู่ระหว่างดูรายละเอียดอีกครั้ง คาดว่าจะสามารถยื่นฟ้องได้ภายในสัปดาห์นี้
น.พ.วรงค์ กล่าวว่า ในประเด็นที่นายยรรยงชี้แจงว่ากมธ.ไม่มีอำนาจนั้น ข้อเท็จจริง กมธ.มีอำนาจตามรัฐธรรมนูญมาตรา 135 ชัดเจน ส่วนที่กล่าวหาว่าไม่มีความรู้ความชำนาญนั้น การลงพื้นที่แต่ละครั้งได้ศึกษาหาความรู้จากผู้ที่ความชำนาญก่อนลงพื้นที่
"การตรวจสอบการทำงานของรัฐบาลปกติพยายามที่จะไม่แตะต้องข้าราชการประจำ เพราะเห็นว่าเป็นผู้ปฏิบัติงาน แต่จะมุ่งเน้นตรวจสอบไปที่รัฐมนตรี และ พรรคเพื่อไทย แต่การออกมาเสนอหน้าแสดงความเห็นเช่นนี้ จากที่ปรึกษากับคณะทำงานเห็นว่าสามารถฟ้องร้องได้ เพราะมีการระบุชื่อตนชัดเจน ดังนั้นจะเป็นการยื่นฟ้องด้วยตัวเอง "น.พ.วรงค์กล่าว
ก่อนหน้านั้น น.พ.วรงค์ ย้ำว่า ทางคณะกรรมาธิการตรวจสอบ สามารถตรวจสอบโครงการรับจำนำข้าว ตามอำนาจทางรัฐธรรมนูญอยู่แล้ว ซึ่งการตรวจสอบที่ผ่านมา นายยรรยง ก็ดูมีความทุกข์ร้อนเป็นอย่างมาก พร้อมอ้างว่า ฝ่ายค้านตรวจสอบจะทำให้ราคาข้าวตกลง รวมทั้งยังพยายามป้ายสีฝ่ายค้าน เพราะทุกฝ่ายรู้ดีว่า ในวงการข้าวมีการทุจริตและนำข้าวเสื่อมสภาพมาซุกในโกดัง ซึ่งจะทำให้การประมูลราคาถูกลง อีกทั้ง รัฐบาลประกาศเงื่อนไขใน TOR ในการประมูลข้าวตามสภาพ เท่ากับว่ารัฐบาลยอมรับว่ามีข้าวคุณภาพไม่ดีอยู่ในนั้น พร้อมขอให้รัฐบาลการันตีตามคุณภาพข้าวแทนเรื่องดังกล่าว
"คือคณะกรรมาธิการทุกคณะมีอำนาจตามรัฐธรรมนูญครับ ในการตรวจสอบรัฐบาลครับ ถือเป็นเรื่องปกติครับ" น.พ.วรงค์ กล่าว
น.พ.วรงค์ ยังเปิดเผยว่า พ่อค้าที่ใกล้ชิดรัฐบาล จะมีความได้เปรียบในเรื่องดังกล่าวเป็นอย่างมาก เพราะรู้ข้อมูลแต่ละโกดังเป็นอย่างดี อีกทั้งที่ผ่านมา จากการลงพื้นที่ใน จ.สระบุรี และ นครสวรรค์ ก็พบว่ามีการทุจริตและนำข้าวเก่าปี 51 มาเจือปนอยู่เป็นจำนวนมาก ซึ่งเรื่องดังกล่าวจะเชิญผู้ที่เกี่ยวข้องเข้ามาหารือในกรรมาธิการตรวจสอบ วันที่ 29 ส.ค.นี้ด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันเดียวกัน กระทรวงพาณิชย์ ได้เปิดให้ทำการประมูลซื้อขายข้าวในสต๊อกของรัฐบาล จำนวน 750,000 ตัน โดยจะเปิดให้ผู้ที่สนใจ สามารถยื่นซองประมูลได้ ตั้งแต่เวลา 09.00 น.-16.00 น. วันนี้ที่ชั้น 9 กรมการค้าต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ จ.นนทบุรี โดยข้าวที่จะทำการเปิดให้ยื่นซองประมูล แบ่งเป็น ข้าวสารหอมมะลิ 100% ชั้น 2 ข้าวหอม จ.ปทุมธานี และปลายข้าวเปลือกนาปี ฤดูกาลผลิตปี 2554/2555 จำนวน 499,000 ตัน เพื่อจำหน่ายในประเทศและส่งออกต่างประเทศ
นอกจากนี้ ยังมีข้าวขาว 5% ในโครงการรับจำนำปี 2554/2555 จำนวน 210,000 ตัน เพื่อทำการส่งออกต่างประเทศ โดยราคาที่จะเสนอในการประมูลนั้น จะเป็นราคาหน้าคลังสินค้า โดยเสนอซื้อในรูปของเงินบาท ซึ่งการเปิดให้ระบายข้าวในสต๊อกรัฐบาล ทางกระทรวงพาณิชย์ เห็นว่า เป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมแล้ว