ASTVผู้จัดการรายวัน-“ยรรยง”สวนหมัดผู้ส่งออก นักวิชาการ ปล่อยข่าวทำตลาดข้าวเสียหาย และทำราคาข้าวตก ยันปีนี้ไทยยังเป็นแชมป์ส่งออก เหตุมีออเดอร์ที่ขายได้แน่ๆ ไม่ต่ำกว่า 5 ล้านตัน ทำทั้งปีได้ 9.5 ล้านตันแน่ ยันระบายข้าวโปร่งใส ใครอยากได้ให้สู้ราคา อย่าใจปลาซิว
นายยรรยง พวงราช ปลัดกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยถึงกรณีที่มีผู้ส่งออกและนักวิชาการออกมาให้ข่าวว่าปีนี้ไทยจะเสียแชมป์ส่งออกข้าวให้กับประเทศคู่แข่งอย่างอินเดียและเวียดนามว่า กระทรวงพาณิชย์ขอยืนยันว่าปีนี้ไทยจะยังเป็นแชมป์การส่งออกข้าว โดยการส่งออกตั้งแต่ 1 ม.ค.-25 ก.ค.2555 ไทยส่งออกได้อันดับที่ 2 มีปริมาณ 3.77 ล้านตัน รองจากอินเดียที่ส่งออกได้ 3.97 ล้านตันแต่มากกว่าเวียดนามที่ส่งออกได้ 3.72 ล้านตัน ส่วนในช่วงที่เหลือของปีนี้คาดว่าจะมีการส่งออกได้มากกว่า 5 ล้านตัน ทำให้ทั้งปี คาดว่าจะส่งออกได้รวมประมาณ 9.5 ล้านตัน
“อย่ามองแค่ครึ่งปี หรือแค่เดือนเดียว แล้วมาบอกว่า ไทยเสียแชมป์ การส่งออกข้าวต้องดูทั้ง 12 เดือน ช่วงเดือน 1-6 เรายังแพ้คะแนน เดือน 7 เริ่มตีตื้น และอีก 5 เดือนที่เหลือ คาดว่าจะขายข้าวทั้งในส่วนของเอกชนและจีทูจีได้ไม่ต่ำกว่า 5 ล้านตัน ที่จะขายได้แน่ๆ ก็มีอินโดนีเซีย 1.5 ล้านตัน อิรัก 6 แสนตัน โกดติวัวร์ 2.4 แสนตัน แอฟริกาใต้รวมๆ กัน 2-3 ล้านตัน ตลาดอื่นๆ อีก 1.5 ล้านตัน ยังไม่รวมตลาดข้าวคุณภาพดีอย่างสหรัฐฯ จีน ยุโรป และหากขายจีทูจีได้เพิ่มขึ้นอีก ยังไงก็ทำได้ตามเป้า”นายยรรยงกล่าว
นายยรรยงกล่าวว่า สำหรับการระบายข้าว กระทรวงพาณิชย์ยืนยันว่าจะมีการระบายอย่างโปร่งใส และตรวจสอบได้ โดยล่าสุดได้ทยอยระบายข้าวออกไปเรื่อยๆ ซึ่งหากผู้ส่งออกที่อยากได้ข้าว ก็ให้สู้ราคามา อย่ากดราคาต่ำกว่าเกณฑ์กลางที่กำหนด และไม่อยากตำหนิการกระทำดังกล่าว เพราะเป็นเรื่องที่สวนทางกับนโยบายของรัฐบาลที่ต้องการดึงราคาข้าวให้สูงขึ้น ผู้ส่งออกต้องไปบอกผู้ซื้อ ผู้นำเข้า ให้ซื้อแพงขึ้น เพราะต้นทุนข้าวไทยแพง แต่ถ้าคิดจะมาซื้อถูกๆ ก็ไม่ขาย
ส่วนนักวิชาการ ขอความร่วมมืออย่าให้ข่าวที่ทำให้ข้าวราคาตก ซึ่งไม่อยากพูดว่าที่ผ่านมา เป็นการพูดเพื่อทุบราคาข้าวและทำลายตลาดข้าวของไทย ทั้งเรื่องรัฐบาลไม่มีโกดังเก็บข้าว ไม่มีงบประมาณในการรับจำนำ เป็นหนี้มาก หรือขาดทุนสูง เพราะนโยบายของรัฐบาลต้องการผลักดันให้ราคาข้าวสูงขึ้น ช่วยเหลือเกษตรกรให้มีชีวิตความเป็นอยู่ดีขึ้น
นายยรรยงกล่าวว่า การดำเนินนโยบายของรัฐบาลในเรื่องข้าว สามารถทำให้ราคาข้าวไทยสูงขึ้นได้จริง โดยราคาข้าวหอมมะลิ ก่อนการใช้นโยบายจำนำอยู่ที่ตันละ 1,010 เหรียญสหรัฐ ขณะนี้ 1,084 เหรียญสหรัฐ ข้าวขาว 100% ชั้น 2 เมื่อก่อนตันละ 543 เหรียญสหรัฐ ขณะนี้ 600 เหรียญสหรัฐ ข้าวขาว 5% เมื่อก่อนตันละ 527 เหรียญสหรัฐ ขณะนี้ 585 เหรียญสหรัฐ ข้าวนึ่ง เมื่อก่อน ตันละ 546 เหรียญสหรัฐ ขณะนี้ 602 เหรียญสหรัฐ เฉลี่ยราคาสูงขึ้นตันละ 50-100 เหรียญสหรัฐ
ส่วนข้าวเปลือกหอมมะลิ เดิมตันละ 1.26-1.5 หมื่นบาท ขณะนี้ 1.47-1.6 หมื่นบาท ข้าวเปลือกเจ้า 5% เดิมตันละ 8.8-9.7 พันบาท ขณะนี้ 9.9 พัน-1.1 หมื่นบาท
นายมนัส สร้อยพลอย อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ กล่าวว่า กรมฯ ได้มีการระบายข้าวตามกรอบที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) ให้ไว้อย่างต่อเนื่อง โดยมีปริมาณ 7 แสนตัน ทั้งข้าวหอมมะลิ ข้าวเหนียว ข้าวขาว ข้าวกล้อง และปลายข้าว โดยใช้วิธีการประมูลและให้เสนอราคาเข้ามา ส่วนที่ข่าวว่ากรมฯ ได้มีการระบายข้าวให้กับเอกชนบางรายจำนวน 1.9 ล้านตัน เป็นเรื่องที่คิดกันไปเอง ไปเอาตัวเลขมาจากไหน และกรณีการขายข้าวจีทูจี เป็นเรื่องที่รัฐบาลไปตกลงขาย ส่วนผู้ซื้อจะให้ใครเป็นคนส่งมอบข้าว ก็แล้วแต่ผู้ซื้อ
นายยรรยง พวงราช ปลัดกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยถึงกรณีที่มีผู้ส่งออกและนักวิชาการออกมาให้ข่าวว่าปีนี้ไทยจะเสียแชมป์ส่งออกข้าวให้กับประเทศคู่แข่งอย่างอินเดียและเวียดนามว่า กระทรวงพาณิชย์ขอยืนยันว่าปีนี้ไทยจะยังเป็นแชมป์การส่งออกข้าว โดยการส่งออกตั้งแต่ 1 ม.ค.-25 ก.ค.2555 ไทยส่งออกได้อันดับที่ 2 มีปริมาณ 3.77 ล้านตัน รองจากอินเดียที่ส่งออกได้ 3.97 ล้านตันแต่มากกว่าเวียดนามที่ส่งออกได้ 3.72 ล้านตัน ส่วนในช่วงที่เหลือของปีนี้คาดว่าจะมีการส่งออกได้มากกว่า 5 ล้านตัน ทำให้ทั้งปี คาดว่าจะส่งออกได้รวมประมาณ 9.5 ล้านตัน
“อย่ามองแค่ครึ่งปี หรือแค่เดือนเดียว แล้วมาบอกว่า ไทยเสียแชมป์ การส่งออกข้าวต้องดูทั้ง 12 เดือน ช่วงเดือน 1-6 เรายังแพ้คะแนน เดือน 7 เริ่มตีตื้น และอีก 5 เดือนที่เหลือ คาดว่าจะขายข้าวทั้งในส่วนของเอกชนและจีทูจีได้ไม่ต่ำกว่า 5 ล้านตัน ที่จะขายได้แน่ๆ ก็มีอินโดนีเซีย 1.5 ล้านตัน อิรัก 6 แสนตัน โกดติวัวร์ 2.4 แสนตัน แอฟริกาใต้รวมๆ กัน 2-3 ล้านตัน ตลาดอื่นๆ อีก 1.5 ล้านตัน ยังไม่รวมตลาดข้าวคุณภาพดีอย่างสหรัฐฯ จีน ยุโรป และหากขายจีทูจีได้เพิ่มขึ้นอีก ยังไงก็ทำได้ตามเป้า”นายยรรยงกล่าว
นายยรรยงกล่าวว่า สำหรับการระบายข้าว กระทรวงพาณิชย์ยืนยันว่าจะมีการระบายอย่างโปร่งใส และตรวจสอบได้ โดยล่าสุดได้ทยอยระบายข้าวออกไปเรื่อยๆ ซึ่งหากผู้ส่งออกที่อยากได้ข้าว ก็ให้สู้ราคามา อย่ากดราคาต่ำกว่าเกณฑ์กลางที่กำหนด และไม่อยากตำหนิการกระทำดังกล่าว เพราะเป็นเรื่องที่สวนทางกับนโยบายของรัฐบาลที่ต้องการดึงราคาข้าวให้สูงขึ้น ผู้ส่งออกต้องไปบอกผู้ซื้อ ผู้นำเข้า ให้ซื้อแพงขึ้น เพราะต้นทุนข้าวไทยแพง แต่ถ้าคิดจะมาซื้อถูกๆ ก็ไม่ขาย
ส่วนนักวิชาการ ขอความร่วมมืออย่าให้ข่าวที่ทำให้ข้าวราคาตก ซึ่งไม่อยากพูดว่าที่ผ่านมา เป็นการพูดเพื่อทุบราคาข้าวและทำลายตลาดข้าวของไทย ทั้งเรื่องรัฐบาลไม่มีโกดังเก็บข้าว ไม่มีงบประมาณในการรับจำนำ เป็นหนี้มาก หรือขาดทุนสูง เพราะนโยบายของรัฐบาลต้องการผลักดันให้ราคาข้าวสูงขึ้น ช่วยเหลือเกษตรกรให้มีชีวิตความเป็นอยู่ดีขึ้น
นายยรรยงกล่าวว่า การดำเนินนโยบายของรัฐบาลในเรื่องข้าว สามารถทำให้ราคาข้าวไทยสูงขึ้นได้จริง โดยราคาข้าวหอมมะลิ ก่อนการใช้นโยบายจำนำอยู่ที่ตันละ 1,010 เหรียญสหรัฐ ขณะนี้ 1,084 เหรียญสหรัฐ ข้าวขาว 100% ชั้น 2 เมื่อก่อนตันละ 543 เหรียญสหรัฐ ขณะนี้ 600 เหรียญสหรัฐ ข้าวขาว 5% เมื่อก่อนตันละ 527 เหรียญสหรัฐ ขณะนี้ 585 เหรียญสหรัฐ ข้าวนึ่ง เมื่อก่อน ตันละ 546 เหรียญสหรัฐ ขณะนี้ 602 เหรียญสหรัฐ เฉลี่ยราคาสูงขึ้นตันละ 50-100 เหรียญสหรัฐ
ส่วนข้าวเปลือกหอมมะลิ เดิมตันละ 1.26-1.5 หมื่นบาท ขณะนี้ 1.47-1.6 หมื่นบาท ข้าวเปลือกเจ้า 5% เดิมตันละ 8.8-9.7 พันบาท ขณะนี้ 9.9 พัน-1.1 หมื่นบาท
นายมนัส สร้อยพลอย อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ กล่าวว่า กรมฯ ได้มีการระบายข้าวตามกรอบที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) ให้ไว้อย่างต่อเนื่อง โดยมีปริมาณ 7 แสนตัน ทั้งข้าวหอมมะลิ ข้าวเหนียว ข้าวขาว ข้าวกล้อง และปลายข้าว โดยใช้วิธีการประมูลและให้เสนอราคาเข้ามา ส่วนที่ข่าวว่ากรมฯ ได้มีการระบายข้าวให้กับเอกชนบางรายจำนวน 1.9 ล้านตัน เป็นเรื่องที่คิดกันไปเอง ไปเอาตัวเลขมาจากไหน และกรณีการขายข้าวจีทูจี เป็นเรื่องที่รัฐบาลไปตกลงขาย ส่วนผู้ซื้อจะให้ใครเป็นคนส่งมอบข้าว ก็แล้วแต่ผู้ซื้อ
