ศูนย์ข่าวนครราชสีมา - ตำรวจโคราชตั้งค่าหัว 5 หมื่นล่ามือสังหาร “ลูกชาย ส.ส.ชาดา" ขณะที่“ส.ส.ชาดา”เลื่อนนำ 5 ลูกน้องพยานสำคัญให้ปากคำไม่มีกำหนด อ้างเกรงไม่ปลอดภัย ด้าน“ผบช.ภ.3”บอกเป็นผู้ถูกกระทำแต่กลับไม่เข้าให้ปากคำตำรวจ แย้มจะมีข่าวดีเร็วๆ นี้ แต่ยังไม่ชัดเอี่ยวคนมีสี
เมื่อเวลา 09.00 น.วานนี้ (23 ส.ค.) พล.ต.ท.ภาณุ เกิดลาภผล ผบช.ภ.3 เปิดเผยถึงความคืบหน้าคดีคนร้ายยิงรถ นายชาดา ไทยเศรษฐ์ ส.ส.อุทัยธานี พรรคชาติไทยพัฒนา เป็นเหตุให้นายฟารุต ไทยเศรษฐ์ ลูกชายเสียชีวิต ในท้องที่ สภ.หมูสี อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา เมื่อคืนวันที่ 20 ส.ค.ที่ผ่านมาว่า ขณะนี้ชุดสืบสวนของกองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครราชสีมาและตำรวจภูธรภาค 3 อยู่ระหว่างการเอกซเรย์พื้นที่ทั้งที่ อ.ปากช่อง และพื้นที่ใกล้เคียง รวมถึงลงหาข่าวที่ จ.อุทัยธานีด้วย โดยมี พล.ต.ต.องอาจ ผิวเรืองนนท์ ผบก.ภ.จว.นครราชสีมา และ พล.ต.ต.ประยนต์ ลาเสือ ผบก.ศูนย์สืบสวนสอบสวน ตร.ภาค 3 เป็นหัวหน้าทีมลงไปอยู่ในพื้นที่
ทั้งนี้ ทีมงานชุดสืบสวนทั้งหมดทำงานกันอย่างหนักหามรุ่งหามค่ำไม่ได้หลับไม่ได้นอนเพื่อเร่งติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดีให้ได้ เนื่องจากเป็นการก่อเหตุที่อุกอาจสะเทือนขวัญประชาชน และยังยืนยันว่าผู้ที่ก่อเหตุน่าเป็นคนในพื้นที่และน่าจะหาตัวได้ไม่ยาก เพียงแต่ขอให้ได้ข้อมูลเกี่ยวกับรถยนต์ของผู้ก่อเหตุที่ชัดเจน จากทางฝ่ายของ นายธาดา ก่อน จะทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทำงานได้แคบลง
“เมื่อช่วงเช้า ผมได้รับแจ้งจากนายชาดา ว่า จะนำตัวผู้ที่อยู่ในรถยนต์ผู้ตายขณะเกิดเหตุทั้ง 5 คนเข้าให้ปากคำกับเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ สภ.หมูสี อ.ปากช่อง เพื่อให้รายละเอียดเรื่องเบาะรถยนต์คนร้าย โดยเฉพาะผู้ที่นั่งคู่กับคือนายฟารุต คนขับ น่าจะมองเห็นรถคนร้ายชัดเจน เพราะมีการลดกระจกหน้าต่างรถลงทั้งหมดและคิดว่าน่าจะมีข่าวดีในเร็วๆ นี้”
พล.ต.ท.ภาณุ กล่าวอีกว่า จนขณะนี้เรายังไม่รู้ตัวผู้ก่อเหตุ ส่วนเบาะแสที่ว่าน่าจะเป็นคนดูแลสวน และเป็นพรานล่าสัตว์ในพื้นที่ อ.ปากช่อง หรือ อ.วังน้ำเขียวนั้นก็มีความเป็นไปได้ทั้งหมด การสอบสวนยังคงให้ความสำคัญทั้ง 2 ประเด็น คือ 1.ความขัดแย้งเฉพาะหน้าเรื่องสาดไฟรถใส่กันขับรถปาดหน้ากันไปมา และ 2.เรื่องความขัดแย้งทางการเมือง ธรุกิจ แต่ค่อนข้างมั่นใจว่าไม่เกี่ยวกับการเมืองเพราะหากมีการเตรียมการปองร้ายจริง คงต้องกระทำมากกว่านี้ อาวุธที่ใช้ก็ต้องเป็นอาวุธหนักกว่านี้ ทีมงานที่ลงมือต้องมากกว่านี้และเชื่อว่าคนร้ายไม่น่าจะรู้จักทั้งตัวลูกชาย ส.ส.หรือ ตัว ส.ส.ชาดา เอง
เมื่อถามที่ว่า ผบก.ภ.จว.นครราชสีมา ให้ข่าวว่าคนร้ายน่าจะเป็นกลุ่มคนมีสีและเจ้าหน้าที่รู้เป้าหมายแล้วนั้นข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร พล.ต.ท.ภาณุ กล่าวว่า ยังไม่ได้พบกับ ผบก.ภ.จว.นครราชสีมา ซึ่งเป็นผู้ที่ให้ข่าวนี้แต่เบื้องต้นยังไม่ได้รับรายงานเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวเข้ามาเลย คงต้องขอถามรายละเอียดจากผู้บังคับการฯ อีกครั้งก่อน
ด้าน พ.ต.อ.วชิรวิชญ์ กฤษณ์ฤทธิศักย์ รอง ผบก.ภ.จว.นครราชสีมา ในฐานะหัวหน้าชุดสืบสวนคดีดังกล่าว เปิดเผยว่า ขณะนี้เรายังไม่ทราบว่าผู้ก่อเหตุเป็นใคร เป็นกลุ่มคนมีสีหรือไม่ ยังไม่ทราบ ขณะนี้ขอเวลาให้ทีมงานชุดสืบสวนทำงานอีกสักระยะ ซึ่งล่าสุด ผบก.ภ.จว.นครราชสีมา ได้ประกาศตั้งเงินรางวัลนำจับ 50,000 บาท สำหรับผู้ที่แจ้งเบาะแสจนนำไปสู่การจับกุมคนร้ายได้โดยสามารถโทรแจ้งมาได้ที่หมายเลขโทรศัพท์ของตน คือ 081-977-5317 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง
เวลา 11.00 น. พล.ต.ท.จรัมพร สุระมณี ผู้ช่วย ผบ.ตร.กำกับดูแลงานด้านการพิสูจน์หลักฐาน และคณะได้เดินทางลงพื้นที่ สภ.หมูสี อ.ปากช่อง เพื่อติดตามความคืบหน้าพร้อมทั้งตรวจสอบเก็บหลักฐานเพิ่มเติม โดยได้เรียกตำรวจผู้รับผิดชอบคดีจากหลายหน่วยงานเข้าประชุมรายงานข้อมูล จากนั้นได้ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวว่า ปืนที่ใช้ยิงต่อสู้กันในครั้งนี้มีทั้งหมด 3 กระบอก โดยปืนขนาด .380 เป็นปืนในรถของผู้ตาย เพราะมีปลอกกระสุนตกอยู่ในรถ และอีก 2 กระบอก เป็นปืนที่ตรวจสอบจากพานท้ายลูกปืน จึงกำลังหารายละเอียดว่าคันไหนใช้ปืน 2 กระบอก และ ตอนนี้ให้น้ำหนักของการก่อเหตุ เกิดจากเหตุการณ์ซึ่งหน้า แต่ยังไม่ทิ้งประเด็นอื่น
"ส่วนนายชาดา พ่อผู้เสียชีวิต นัดจะพาพยาน 5 คนที่นั่งมาในรถยนต์ โตโยต้า รุ่น พราโด แลนด์ครุยเซอร์ คันเกิดเหตุ มาให้ปากคำในวันนี้ (23) นั้นได้แจ้งมาขอเลื่อนนัดโดยบอกว่า ขอให้สบายใจก่อนจึงจะพามาให้ปากคำกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ แต่ยังไม่แจ้ง วัน เวลา"
จากนั้น พล.ต.ท.จรัมพร ได้ลงพื้นที่ตรวจหาหลักฐานเพิ่มเติมในจุดเกิดเหตุ พร้อมนำรถยนต์กระบะมิตซูบิชิ แบบโหลดเตี้ย มาเปรียบเทียบดูด้วย ซึ่งระหว่างนั้น พล.ต.อ.เพรียวพันธุ์ ดามาพงศ์ ผบ.ตร.ได้โทรศัพท์มาสอบถามความคืบหน้าคดีด้วยตัวเอง พล.ต.ท.จรัมพร จึงรายงานข้อมูลให้ทราบทางโทรศัพท์
พล.ต.ท.จรัมพร กล่าวภายหลังว่า ลักษณะการเกิดเหตุนั้นรถยนต์ทั้ง 2 คันคือ รถฝ่ายผู้ตายและรถคนร้ายได้วิ่งตีคู่ยิงต่อสู้กันมาเป็นระยะทางกว่า 70 เมตร เพราะเจ้าหน้าที่เก็บปลอกกระสุนที่ตกอยู่ได้ตามระยะทางดังกล่าว พร้อมได้สั่งให้เจ้าหน้าที่ใช้เครื่องตรวจวัตถุโลหะ เพื่อหาปลอกกระสุนปืนที่ยังค้างอยู่ตามพงหญ้าเป็นระยะทางร่วม 300 เมตร และวันนี้ตำรวจได้เรียกผู้ที่ใช้รถยนต์มิตซูบิชิ รุ่น สตราด้า โหลดเตี้ย แบบที่คนร้ายใช้ก่อเหตุ ในพื้นที่ อ.ปากช่อง และพื้นที่ใกล้เคียง มาตรวจสอบจำนวนหลายคัน แต่ยังไม่พบผิดปกติ ซึ่งคาดว่ารถคันที่ใช้ก่อเหตุคงถูกนำไปจอดซุกซ่อนไว้สถานที่ใดที่หนึ่ง
ด้าน พล.ต.ท.ภาณุ เปิดเผยอีกว่า จากการตรวจสอบหลักฐานของกองพิสูจน์หลักฐานระบุว่า เหตการณ์ครั้งนี้ใช้อาวุธปืนยิงกัน 3 กระบอก โดยสามารถเก็บปลอกกระสุนได้แบ่งเป็นปืนชนิด .380 มม.7 ปลอก และปืน 9 มม. กระบอกที่ 1 จำนวน 3 ปลอก และปืน 9 มม. กระบอกที่ 2 อีก 3 ปลอก รวม 13 ปลอก สำหรับปืน .380 มม.นั้นค่อนข้างมั่นใจว่าเป็นของฝ่ายนายฟารุต ผู้ตาย เนื่องจากพบซองปืนชนิดดังกล่าวตกอยู่บริเวณที่วางเท้าคนขับ ส่วนปืน 9 มม.นั้นไม่มั่นใจว่าเป็นของฝั่งใดที่ใช้อาวุธปืน 2 กระบอก ซึ่งต้องถามผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์จึงจะชัดเจน
มาถึงตอนนี้ถือว่าเจ้าหน้าที่ทำงานคืบหน้าไปมาก ด้านการติดตามตัวคนร้ายนั้น ผบก.ภ.จว.นครราชสีมา พร้อมทีมสอบสวนได้เดินทางไปประสานงานกับเจ้าหน้าที่ป่าไม้ในพื้นที่ แต่ไม่พบเบาะแสรถยนต์กระบะที่มีลักษณะคล้ายกับที่พยานให้การไว้ ซึ่งรถยนต์ของเจ้าหน้าที่ป่าไม้ส่วนใหญ่เป็นแบบ OFF ROAD ยกสูงและติดไฟส่องสว่างเพื่อใช้ในการนำนักท่องเที่ยวไปส่องสัตว์ในป่า จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ลงพื้นที่หาข้อมูลส่วนอื่นๆ เพิ่มเติมเพื่อให้ครอบคลุมมากที่สุด
“ในช่วงเช้านายชาดา รับปากที่จะนำกลุ่มพยานที่นั่งมากับรถนายฟารุต ผู้ตายมาให้ปากคำกับเจ้าหน้าที่ แต่ล่าสุดกลับแจ้งว่าขอเลื่อนไปอย่างไม่มีกำหนดเนื่องจากเกรงว่าจะไม่ปลอดภัย ซึ่งผมไม่เข้าใจเช่นกันว่า เพราะเหตุใด นายชาดา จึงไม่ยอมนำผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์มาให้ตำรวจสอบปากคำ ทั้งที่บอกว่าฝ่ายตัวเองถูกกระทำ เรื่องนี้เป็นข้อสงสัยอย่างยิ่งและต้องการให้ผู้อยู่ในเหตุการณ์มาให้ปากคำเจ้าหน้าที่โดยเร็วที่สุดเพื่อจะปิดคดีได้” พล.ต.ท.ภาณุ กล่าว.
เมื่อเวลา 09.00 น.วานนี้ (23 ส.ค.) พล.ต.ท.ภาณุ เกิดลาภผล ผบช.ภ.3 เปิดเผยถึงความคืบหน้าคดีคนร้ายยิงรถ นายชาดา ไทยเศรษฐ์ ส.ส.อุทัยธานี พรรคชาติไทยพัฒนา เป็นเหตุให้นายฟารุต ไทยเศรษฐ์ ลูกชายเสียชีวิต ในท้องที่ สภ.หมูสี อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา เมื่อคืนวันที่ 20 ส.ค.ที่ผ่านมาว่า ขณะนี้ชุดสืบสวนของกองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครราชสีมาและตำรวจภูธรภาค 3 อยู่ระหว่างการเอกซเรย์พื้นที่ทั้งที่ อ.ปากช่อง และพื้นที่ใกล้เคียง รวมถึงลงหาข่าวที่ จ.อุทัยธานีด้วย โดยมี พล.ต.ต.องอาจ ผิวเรืองนนท์ ผบก.ภ.จว.นครราชสีมา และ พล.ต.ต.ประยนต์ ลาเสือ ผบก.ศูนย์สืบสวนสอบสวน ตร.ภาค 3 เป็นหัวหน้าทีมลงไปอยู่ในพื้นที่
ทั้งนี้ ทีมงานชุดสืบสวนทั้งหมดทำงานกันอย่างหนักหามรุ่งหามค่ำไม่ได้หลับไม่ได้นอนเพื่อเร่งติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดีให้ได้ เนื่องจากเป็นการก่อเหตุที่อุกอาจสะเทือนขวัญประชาชน และยังยืนยันว่าผู้ที่ก่อเหตุน่าเป็นคนในพื้นที่และน่าจะหาตัวได้ไม่ยาก เพียงแต่ขอให้ได้ข้อมูลเกี่ยวกับรถยนต์ของผู้ก่อเหตุที่ชัดเจน จากทางฝ่ายของ นายธาดา ก่อน จะทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทำงานได้แคบลง
“เมื่อช่วงเช้า ผมได้รับแจ้งจากนายชาดา ว่า จะนำตัวผู้ที่อยู่ในรถยนต์ผู้ตายขณะเกิดเหตุทั้ง 5 คนเข้าให้ปากคำกับเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ สภ.หมูสี อ.ปากช่อง เพื่อให้รายละเอียดเรื่องเบาะรถยนต์คนร้าย โดยเฉพาะผู้ที่นั่งคู่กับคือนายฟารุต คนขับ น่าจะมองเห็นรถคนร้ายชัดเจน เพราะมีการลดกระจกหน้าต่างรถลงทั้งหมดและคิดว่าน่าจะมีข่าวดีในเร็วๆ นี้”
พล.ต.ท.ภาณุ กล่าวอีกว่า จนขณะนี้เรายังไม่รู้ตัวผู้ก่อเหตุ ส่วนเบาะแสที่ว่าน่าจะเป็นคนดูแลสวน และเป็นพรานล่าสัตว์ในพื้นที่ อ.ปากช่อง หรือ อ.วังน้ำเขียวนั้นก็มีความเป็นไปได้ทั้งหมด การสอบสวนยังคงให้ความสำคัญทั้ง 2 ประเด็น คือ 1.ความขัดแย้งเฉพาะหน้าเรื่องสาดไฟรถใส่กันขับรถปาดหน้ากันไปมา และ 2.เรื่องความขัดแย้งทางการเมือง ธรุกิจ แต่ค่อนข้างมั่นใจว่าไม่เกี่ยวกับการเมืองเพราะหากมีการเตรียมการปองร้ายจริง คงต้องกระทำมากกว่านี้ อาวุธที่ใช้ก็ต้องเป็นอาวุธหนักกว่านี้ ทีมงานที่ลงมือต้องมากกว่านี้และเชื่อว่าคนร้ายไม่น่าจะรู้จักทั้งตัวลูกชาย ส.ส.หรือ ตัว ส.ส.ชาดา เอง
เมื่อถามที่ว่า ผบก.ภ.จว.นครราชสีมา ให้ข่าวว่าคนร้ายน่าจะเป็นกลุ่มคนมีสีและเจ้าหน้าที่รู้เป้าหมายแล้วนั้นข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร พล.ต.ท.ภาณุ กล่าวว่า ยังไม่ได้พบกับ ผบก.ภ.จว.นครราชสีมา ซึ่งเป็นผู้ที่ให้ข่าวนี้แต่เบื้องต้นยังไม่ได้รับรายงานเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวเข้ามาเลย คงต้องขอถามรายละเอียดจากผู้บังคับการฯ อีกครั้งก่อน
ด้าน พ.ต.อ.วชิรวิชญ์ กฤษณ์ฤทธิศักย์ รอง ผบก.ภ.จว.นครราชสีมา ในฐานะหัวหน้าชุดสืบสวนคดีดังกล่าว เปิดเผยว่า ขณะนี้เรายังไม่ทราบว่าผู้ก่อเหตุเป็นใคร เป็นกลุ่มคนมีสีหรือไม่ ยังไม่ทราบ ขณะนี้ขอเวลาให้ทีมงานชุดสืบสวนทำงานอีกสักระยะ ซึ่งล่าสุด ผบก.ภ.จว.นครราชสีมา ได้ประกาศตั้งเงินรางวัลนำจับ 50,000 บาท สำหรับผู้ที่แจ้งเบาะแสจนนำไปสู่การจับกุมคนร้ายได้โดยสามารถโทรแจ้งมาได้ที่หมายเลขโทรศัพท์ของตน คือ 081-977-5317 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง
เวลา 11.00 น. พล.ต.ท.จรัมพร สุระมณี ผู้ช่วย ผบ.ตร.กำกับดูแลงานด้านการพิสูจน์หลักฐาน และคณะได้เดินทางลงพื้นที่ สภ.หมูสี อ.ปากช่อง เพื่อติดตามความคืบหน้าพร้อมทั้งตรวจสอบเก็บหลักฐานเพิ่มเติม โดยได้เรียกตำรวจผู้รับผิดชอบคดีจากหลายหน่วยงานเข้าประชุมรายงานข้อมูล จากนั้นได้ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวว่า ปืนที่ใช้ยิงต่อสู้กันในครั้งนี้มีทั้งหมด 3 กระบอก โดยปืนขนาด .380 เป็นปืนในรถของผู้ตาย เพราะมีปลอกกระสุนตกอยู่ในรถ และอีก 2 กระบอก เป็นปืนที่ตรวจสอบจากพานท้ายลูกปืน จึงกำลังหารายละเอียดว่าคันไหนใช้ปืน 2 กระบอก และ ตอนนี้ให้น้ำหนักของการก่อเหตุ เกิดจากเหตุการณ์ซึ่งหน้า แต่ยังไม่ทิ้งประเด็นอื่น
"ส่วนนายชาดา พ่อผู้เสียชีวิต นัดจะพาพยาน 5 คนที่นั่งมาในรถยนต์ โตโยต้า รุ่น พราโด แลนด์ครุยเซอร์ คันเกิดเหตุ มาให้ปากคำในวันนี้ (23) นั้นได้แจ้งมาขอเลื่อนนัดโดยบอกว่า ขอให้สบายใจก่อนจึงจะพามาให้ปากคำกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ แต่ยังไม่แจ้ง วัน เวลา"
จากนั้น พล.ต.ท.จรัมพร ได้ลงพื้นที่ตรวจหาหลักฐานเพิ่มเติมในจุดเกิดเหตุ พร้อมนำรถยนต์กระบะมิตซูบิชิ แบบโหลดเตี้ย มาเปรียบเทียบดูด้วย ซึ่งระหว่างนั้น พล.ต.อ.เพรียวพันธุ์ ดามาพงศ์ ผบ.ตร.ได้โทรศัพท์มาสอบถามความคืบหน้าคดีด้วยตัวเอง พล.ต.ท.จรัมพร จึงรายงานข้อมูลให้ทราบทางโทรศัพท์
พล.ต.ท.จรัมพร กล่าวภายหลังว่า ลักษณะการเกิดเหตุนั้นรถยนต์ทั้ง 2 คันคือ รถฝ่ายผู้ตายและรถคนร้ายได้วิ่งตีคู่ยิงต่อสู้กันมาเป็นระยะทางกว่า 70 เมตร เพราะเจ้าหน้าที่เก็บปลอกกระสุนที่ตกอยู่ได้ตามระยะทางดังกล่าว พร้อมได้สั่งให้เจ้าหน้าที่ใช้เครื่องตรวจวัตถุโลหะ เพื่อหาปลอกกระสุนปืนที่ยังค้างอยู่ตามพงหญ้าเป็นระยะทางร่วม 300 เมตร และวันนี้ตำรวจได้เรียกผู้ที่ใช้รถยนต์มิตซูบิชิ รุ่น สตราด้า โหลดเตี้ย แบบที่คนร้ายใช้ก่อเหตุ ในพื้นที่ อ.ปากช่อง และพื้นที่ใกล้เคียง มาตรวจสอบจำนวนหลายคัน แต่ยังไม่พบผิดปกติ ซึ่งคาดว่ารถคันที่ใช้ก่อเหตุคงถูกนำไปจอดซุกซ่อนไว้สถานที่ใดที่หนึ่ง
ด้าน พล.ต.ท.ภาณุ เปิดเผยอีกว่า จากการตรวจสอบหลักฐานของกองพิสูจน์หลักฐานระบุว่า เหตการณ์ครั้งนี้ใช้อาวุธปืนยิงกัน 3 กระบอก โดยสามารถเก็บปลอกกระสุนได้แบ่งเป็นปืนชนิด .380 มม.7 ปลอก และปืน 9 มม. กระบอกที่ 1 จำนวน 3 ปลอก และปืน 9 มม. กระบอกที่ 2 อีก 3 ปลอก รวม 13 ปลอก สำหรับปืน .380 มม.นั้นค่อนข้างมั่นใจว่าเป็นของฝ่ายนายฟารุต ผู้ตาย เนื่องจากพบซองปืนชนิดดังกล่าวตกอยู่บริเวณที่วางเท้าคนขับ ส่วนปืน 9 มม.นั้นไม่มั่นใจว่าเป็นของฝั่งใดที่ใช้อาวุธปืน 2 กระบอก ซึ่งต้องถามผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์จึงจะชัดเจน
มาถึงตอนนี้ถือว่าเจ้าหน้าที่ทำงานคืบหน้าไปมาก ด้านการติดตามตัวคนร้ายนั้น ผบก.ภ.จว.นครราชสีมา พร้อมทีมสอบสวนได้เดินทางไปประสานงานกับเจ้าหน้าที่ป่าไม้ในพื้นที่ แต่ไม่พบเบาะแสรถยนต์กระบะที่มีลักษณะคล้ายกับที่พยานให้การไว้ ซึ่งรถยนต์ของเจ้าหน้าที่ป่าไม้ส่วนใหญ่เป็นแบบ OFF ROAD ยกสูงและติดไฟส่องสว่างเพื่อใช้ในการนำนักท่องเที่ยวไปส่องสัตว์ในป่า จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ลงพื้นที่หาข้อมูลส่วนอื่นๆ เพิ่มเติมเพื่อให้ครอบคลุมมากที่สุด
“ในช่วงเช้านายชาดา รับปากที่จะนำกลุ่มพยานที่นั่งมากับรถนายฟารุต ผู้ตายมาให้ปากคำกับเจ้าหน้าที่ แต่ล่าสุดกลับแจ้งว่าขอเลื่อนไปอย่างไม่มีกำหนดเนื่องจากเกรงว่าจะไม่ปลอดภัย ซึ่งผมไม่เข้าใจเช่นกันว่า เพราะเหตุใด นายชาดา จึงไม่ยอมนำผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์มาให้ตำรวจสอบปากคำ ทั้งที่บอกว่าฝ่ายตัวเองถูกกระทำ เรื่องนี้เป็นข้อสงสัยอย่างยิ่งและต้องการให้ผู้อยู่ในเหตุการณ์มาให้ปากคำเจ้าหน้าที่โดยเร็วที่สุดเพื่อจะปิดคดีได้” พล.ต.ท.ภาณุ กล่าว.
