ศูนย์ข่าวนครราชสีมา - “ผช.ผบ.ตร.” รุดลงพื้นที่ สภ.หมูสี อ.ปากช่อง โคราช ติดตามและตรวจหาหลักฐานเพิ่มเติมคดียิงลูกชาย “ส.ส.ชาดา” ดับคารถ ระบุวิ่งตีรถคู่ใช้ปืน 3 กระบอกยิงสู้กันเดือดกว่า 70 เมตร ส่วนปมสังหารยังให้น้ำหนัก “เหตุซึ่งหน้า” ขณะ “ส.ส.ชาดา” พ่อผู้ตายเบี้ยวขอเลื่อนนำ 5 ลูกน้องพยานสำคัญให้ปากคำไม่มีกำหนด อ้างเกรงไม่ปลอดภัย ด้าน “ผบช.ภ.3” สุดงง บอกเป็นผู้ถูกกระทำแต่กลับไม่เข้าให้ปากคำตำรวจ
วันนี้ (23 ส.ค.) เมื่อเวลาประมาณ 11.00 น. พล.ต.ท.จรัมพร สุระมณี ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผช.ผบ.ตร.) กำกับดูแลงานด้านการพิสูจน์หลักฐาน และคณะ ได้เดินทางลงพื้นที่ สภ.หมูสี อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา เพื่อติดตามความคืบหน้า พร้อมทั้งตรวจสอบเก็บหลักฐานเพิ่มเติมคดีคนร้ายยิง นายฟารุต ไทยเศรษฐ์ ลูกชาย นายชาดา ไทยเศรษฐ์ ส.ส.อุทัยธานี พรรคชาติไทยพัฒนา (ชทพ.) เสียชีวิตคารถยนต์ ในท้องที่ สภ.หมูสี อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา เมื่อคืนวันที่ 20 ส.ค.ที่ผ่านมา โดยได้เรียกตำรวจผู้รับผิดชอบคดีจากหลายหน่วยงานเข้าประชุมรายงานข้อมูล จากนั้นได้เปิดให้สัมภาษณ์แก่ผู้สื่อข่าว
พล.ต.ท.จรัมพร สุระมณี ผช.ผบ.ตร.กล่าวว่า ปืนที่ใช้ยิงต่อสู้กันในครั้งนี้มีทั้งหมด 3 กระบอก โดยปืนขนาด .380 เป็นปืนในรถของผู้ตาย เพราะมีปลอกกระสุนตกอยู่ในรถ และอีก 2 กระบอกเป็นปืนที่ตรวจสอบจากพานท้ายลูกปืน จึงกำลังหารายละเอียดว่าคันไหนใช้ปืน 2 กระบอก และตอนนี้ให้น้ำหนักของการก่อเหตุเกิดจากเหตุการณ์ซึ่งหน้า แต่ยังไม่ทิ้งประเด็นอื่น
ส่วนการที่นายชาดา ไทยเศรษฐ์ ส.ส.อุทัยธานี พ่อผู้เสียชีวิต นัดจะพาพยาน 5 คนที่นั่งมาในรถยนต์โตโยต้า รุ่นพราโด แลนด์ครุยเซอร์ คันเกิดเหตุ มาให้ปากคำในวันนี้ (23 ส.ค.) นั้น ได้แจ้งมาขอเลื่อนนัด โดยบอกว่าขอให้สบายใจก่อน จึงจะพามาให้ปากคำแก่เจ้าหน้าที่ตำรวจ แต่ยังไม่แจ้งวัน เวลา
จากนั้น พล.ต.ท.จรัมพร และคณะได้เดินทางลงพื้นที่ตรวจหาหลักฐานเพิ่มเติมในจุดเกิดเหตุ พร้อมมีการนำรถยนต์กระบะมิตซูบิชิแบบโหลดเตี้ยมาเปรียบเทียบดูด้วย ซึ่งระหว่างนั้น พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ได้โทรศัพท์มาสอบถามความคืบหน้าคดีด้วยตัวเอง พล.ต.ท.จรัมพรจึงรายงานข้อมูลให้ทราบทางโทรศัพท์
พล.ต.ท.จรัมพรกล่าวภายหลังตรวจจุดเกิดเหตุว่า ลักษณะการเกิดเหตุนั้น รถยนต์ทั้ง 2 คัน คือรถฝ่ายผู้ตาย และรถคนร้ายได้วิ่งตีคู่ยิงต่อสู้กันมาเป็นระยะทางกว่า 70 เมตร เพราะเจ้าหน้าที่เก็บปลอกกระสุนที่ตกอยู่ได้ตามระยะทางดังกล่าว พร้อมได้สั่งให้เจ้าหน้าที่ใช้เครื่องตรวจวัตถุโลหะเพื่อหาปลอกกระสุนปืนที่ยังค้างอยู่ตามพงหญ้าเป็นระยะทางร่วม 300 เมตร และในวันนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เรียกผู้ที่ใช้รถยนต์มิตซูบิชิ รุ่นสตราดา โหลดเตี้ยแบบที่คนร้ายใช้ก่อเหตุในพื้นที่ อ.ปากช่อง และพื้นที่ใกล้เคียงมาตรวจสอบจำนวนหลายคันแต่ยังไม่พบผิดปกติ ซึ่งคาดว่ารถคันที่ใช้ก่อเหตุคงถูกนำไปจอดซุกซ่อนไว้สถานที่ใดที่หนึ่ง
พล.ต.ท.ภาณุ เกิดลาภผล ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 เปิดเผยถึงเรื่องเดียวกันว่า จากการตรวจสอบหลักฐานของกองพิสูจน์หลักฐานระบุว่า เหตการณ์ครั้งนี้มีการใช้อาวุธปืนยิงกัน 3 กระบอก โดยสามารถเก็บปลอกกระสุนได้ แบ่งเป็นปืนชนิด .380 มม. จำนวน 7 ปลอก และปืน 9 มม. กระบอกที่ 1 จำนวน 3 ปลอก และปืน 9 มม. กระบอกที่ 2 อีก 3 ปลอก รวม 13 ปลอก สำหรับปืน .380 มม.นั้นค่อนข้างมั่นใจว่าเป็นของฝ่ายนายฟารุต ผู้ตาย เนื่องจากพบซองปืนชนิดดังกล่าวตกอยู่บริเวณที่วางเท้าคนขับ ส่วนปืน 9 มม.นั้นไม่มั่นใจว่าเป็นของฝั่งใดที่ใช้อาวุธปืน 2 กระบอก ซึ่งต้องถามผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์จึงจะชัดเจน
มาถึงตอนนี้ถือว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจทำงานคืบหน้าไปมาก ด้านการติดตามหาตัวคนร้ายนั้น ล่าสุดทาง พล.ต.ต.องอาจ ผิวเรืองนนท์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัด (ผบก.ภ.จว.) นครราชสีมา พร้อมทีมสอบสวนได้เดินทางไปประสานงานกับเจ้าหน้าที่ป่าไม้ในพื้นที่ แต่ไม่พบเบาะแสรถยนต์กระบะที่มีลักษณะคล้ายกับที่พยานให้การไว้ ซึ่งรถยนต์ของเจ้าหน้าที่ป่าไม้ส่วนใหญ่เป็นแบบ OFF ROAD ยกสูง และติดไฟส่องสว่างเพื่อใช้ในการนำนักท่องเที่ยวไปส่องสัตว์ในป่า จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ลงพื้นที่หาข้อมูลส่วนอื่นๆ เพิ่มเติมเพื่อให้ครอบคลุมมากที่สุด
“ในช่วงเช้าวันนี้ ( 23 ส.ค.) นายชาดา ไทยเศรษฐ์ ส.ส.อุทัยธานี พ่อผู้ตาย รับปากที่จะนำกลุ่มพยานที่นั่งมากับรถนายฟารุต ผู้ตายมาให้ปากคำกับเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ สภ.หมูสีในวันนี้ แต่ล่าสุดกลับแจ้งว่าขอเลื่อนไปอย่างไม่มีกำหนดเนื่องจากเกรงว่าจะไม่ปลอดภัย ซึ่งผมไม่เข้าใจเช่นกันว่าเพราะเหตุใดนายชาดาจึงไม่ยอมนำผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์มาให้เจ้าหน้าที่ตำรวจสอบปากคำ ทั้งที่บอกว่าฝ่ายตัวเองถูกกระทำ เรื่องนี้เป็นข้อสงสัยอย่างยิ่ง และต้องการให้ผู้อยู่ในเหตุการณ์มาให้ปากคำเจ้าหน้าที่โดยเร็วที่สุดเพื่อจะปิดคดีได้” พล.ต.ท.ภาณุกล่าว
