“เพรียวพันธ์” เชื่อว่าปมคดีการสังหารโหด “ฟารุต” ลูกชายนายชาดา ไทยเศรษฐ์ น้ำหนักไปทางเรื่องการขับรถผิดใจกันบนท้องถนนมากกว่า แต่ไม่ได้ตัดทิ้งาประเด็นทางการเมือง ชี้เข้าใจ “ชาดา” เอ่ยปากจะจัดการเองเพราะเสียใจที่ลูกตาย เผยคดีนี้ไม่น่ามีอะไรซับซ้อน ปัดคนร้ายไม่ใช่มืออาชีพ
วันที่ 24 ส.ค.ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ ผบ.ตร. กล่าวถึงคดีคนร้ายใช้อาวุธปืนยิงรถของนายชาดา ไทยเศรษฐ์ ส.ส.อุทัยธานี พรรคชาติไทยพัฒนา จนเป็นเหตุให้นายฟารุต ไทยเศรษฐ์ บุตรชายเสียชีวิตว่า คดีนี้ส่วนตัวยังไม่ได้คุยกับนายชาดา โดยขณะนี้ยังไม่รู้ตัวผู้ก่อเหตุ แต่ตำรวจยังคงตั้งปมการก่อเหตุไว้ 2 ประเด็น ประกอบด้วย ประเด็นของการเป็น ส.ส. และประเด็นการขับรถปาดหน้าและส่องไฟสูง ก่อนมีการปะทะกัน โดยจากหลักฐานต่างๆ ทั้งทางวิทยาศาสตร์ ภาพจากกล้องวงจรปิด ปลอกกระสุนปืนและเลือด รวมถึงรถที่ใช้ก่อเหตุก็มีคันเดียว จะเทไปทางการดวลปืนกันซึ่งหน้า แต่ตำรวจก็ไม่ได้ทิ้งประเด็นเรื่องความขัดแย้ง และมีการจงใจตามฆ่า
ผู้สื่อข่าวถามว่า จากการก่อเหตุเป็นลักษณะจงใจว่ามีการดวลปืนกัน แต่มีเงื่อนปมซ่อนอยู่หรือไม่ พล.ต.อ.เพรียวพันธ์กล่าวว่า ไม่น่าจะเป็นเช่นนั้น เนื่องจากคนที่จะมาลงมือทำงานใหญ่อย่างนั้น คงจะมาปกปิดอะไรไม่ได้ เพราะต้องมีการใช้รถในการก่อเหตุหลายคัน เมื่อถามถึงกรณีที่พยานที่อยู่ในรถยังไม่เข้าให้ปากคำต่อพนักงานสอบสวน ผบ.ตร.กล่าวว่า ตรงนี้มีพยานที่นั่งอยู่ในรถด้านซ้ายมือที่เปิดกระจกรถ ยังไม่เข้าให้การต่อเจ้าหน้าที่ หากพยานคนนี้เข้าให้การจะได้ข้อมูลชัดเจนยิ่งขึ้น ส่วนการที่พยานคนนี้ที่ถือว่าเป็นพยานปากเอกยังไม่เข้าให้การนั้นจะมีเจตนาซ่อนเร้นหรือไม่ ตรงนี้เป็นสิ่งที่ต้องขบคิดว่ามีเหตุผลอะไรที่พยานคนดังกล่าวยังไม่เข้าให้การว่า จะเป็นเพราะเหตุผลส่วนตัว หรือเหตุผลอื่นๆ
เมื่อถามถึงกรณีที่นายชาดาระบุว่าหากตำรวจไม่สามารถจับกุมคนร้ายได้จะดำเนินการตามล่าเองนั้น พล.ต.อ.เพรียวพันธ์กล่าวว่า ตรงนี้คงเป็นความรู้สึกของนายชาดาที่ต้องสูญเสียลูกชายไป ตรงนี้เป็นเรื่องธรรมดา โดยมีสิทธิ์ที่จะพูด ซึ่งเรื่องนี้ตำรวจจะไม่มามองว่าเป็นเรื่องส่วนตัว หรือว่าใครเป็นคนร้าย ขอให้นายชาดาไม่ต้องเป็นห่วง เพราะเรื่องนี้ทาง พล.ต.ท.ภาณุ เกิดลาภผล ผบช.ภ.3 จะดำเนินการเต็มที่ รวมถึง พล.ต.ท.จรัมพร สุระมณี ผู้ช่วย ผบ.ตร.ก็ได้ลงไปเก็บหลักฐานแล้ว ส่วนจะให้มีนายตำรวจระดับรอง ผบ.ตร.ลงไปควบคุมคดีเองหรือไม่ ความเห็นส่วนตัวคิดว่าคดีนี้ไม่น่าจะมีอะไรซับซ้อนมาก แต่ถ้าหากมีการสืบสวนสอบสวนและมีประเด็นมากขึ้นก็อาจจะมีการสั่งการได้ โดยเชื่อว่าขณะนี้พยานที่นั่งอยู่ข้างซ้ายของรถ คงจะไปเล่าอะไรบางอย่างให้ฝั่งผู้เสียหายฟังแล้วว่ามีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้นบ้าง