คนร้ายไล่ประกบยิงถล่มรถ“ชาดา ไทยเศรษฐ์ ส.ส.อุทัยธานี”กระสุนถูก“ลูกชาย”ดับคาที่บนถนนเขาใหญ่-วังน้ำเขียว “ผบช.ภ.3”ตั้งปมสังหาร 2 ประเด็นขัดแย้งเรื่องเก่าทั้งธุรกิจส่วนตัว-การเมือง และเรื่องเขม่นกันเฉพาะหน้า เผยตรวจสอบกล้องวงจรปิดยังไม่ได้เบาะแสคนร้าย เชื่อเป้าอยู่ที่ตัว "ชาดา" แต่เปลี่ยนรถกลางคันทำให้ลูกชายตายแทน ขณะที่“ส.ส.ชาดา”ขอเวลาจัดการศพลูกก่อนเข้าให้ปากคำ "อดุลย์" สั่ง จนท.ลงพื้นที่อุทัยเร่งสอบคดี
วานนี้ (21 ส.ค.) พ.ต.อ.ธนาวุฒิ เคหะเจริญ ผกก.สภ.หมูสี อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.หมูสี ได้รับแจ้งว่าเกิดเหตุยิงกันตายที่บริเวณถนนสายเขาใหญ่-วังน้ำเขียว หลัก กม.ที่ 7 หน้าร้านสะดวกซื้อเซเว่นอีเลฟเว่น บ้านคลองเดื่อ ต.หมูสี อ.ปากช่อง ที่เกิดเหตุพบศพนายฟารุต ไทยเศรษฐ์ อายุ 27 ปี ลูกชายของนายชาดา ไทยเศรษฐ์ ส.ส.อุทัยธานี พรรคชาติไทยพัฒนา (ชทพ.) และมีตำแหน่งเป็นประธานกรรมาธิการการเกษตรและสหกรณ์ สภาผู้แทนราษฎร ถูกยิงเข้าบริเวณกกหูเสียชีวิตคาที่บนรถยี่ห้อโตโยต้า รุ่นพราโด สีดำ ทะเบียนป้ายแดง อ -5726 กรุงเทพมหานคร ซึ่งรถคันดังกล่าวเป็นของนายชาดา
จากการสอบสวนเบื้องต้นของเจ้าหน้าที่ตำรวจทราบว่า กลุ่มญาติของนายชาดา ประมาณ 10 คนได้เดินทางไปพักผ่อนกับครอบครัวที่เขาใหญ่ และได้เข้าพักที่ “ชาโต เดอ เขาใหญ่ โฮเต็ล แอนด์ รีสอร์ท” โดยเหมาบ้านหลังใหญ่ 1 หลัง ก่อนเกิดเหตุออกไปซื้อของที่ร้านเซเว่นอีเลฟเว่น ซึ่งไปกันทั้งหมด 6 คน พอไปถึงนายชาดาได้เปลี่ยนรถไปนั่งอีกคันเป็น BMW ของเพื่อนที่นัดกันไว้ก่อนหน้านี้ที่ร้านแมคโดนัลด์
จนกระทั่งมีคนร้ายขับรถกระบะมิตซูบิชิ สตราดา ติดสปอตไลต์ ขับตามมาระหว่างจะกลับที่พักรถกระบะได้ไปจอดดักหน้าและใช้อาวุธปืนกระหน่ำยิงใส่รถโตโยต้า รุ่นพราโด หลายนัด กระสุนถูกที่กกหูด้านซ้ายเข้าสมองของนายฟารุต เป็นเหตุให้นายฟารุตลูกชายนายชาดาที่นั่งในรถคันดังกล่าวเสียชีวิต
พ.ต.อ.ธนาวุฒิ เคหะเจริญ ผกก.สภ.หมูสี กล่าวเพิ่มเติมว่า เหตุคนร้ายยิงถล่มรถนายชาดา ครั้งนี้เกิดขึ้นเวลาประมาณ 23.00 น.ของคืนวันที่ 20 ส.ค.ที่ผ่านมา จากคำให้การของพยานบอกว่า คณะของนายชาดา เข้าพักที่ชาโต เดอ เขาใหญ่ โฮเต็ล แอนด์ รีสอร์ท ช่วงเวลาประมาณ 15.00 น.และได้ออกจากที่พักเพื่อไปซื้อของที่ร้านเซเว่นอีเลฟเว่น โดยนายชาดาได้นัดเพื่อนไว้ที่ร้านแมคโดนัลด์ จึงได้ขึ้นรถยี่ห้อ BMW ของเพื่อน
ส่วนนายฟารุต ไทยเศรษฐ์ บุตรชาย เป็นผู้ขับขี่รถยี่ห้อโตโยต้า รุ่นพราโด ตามหลังเพื่อกลับที่พัก และระหว่างทางบริเวณถนนสายเขาใหญ่-วังน้ำเขียว รถกระบะมิตซูบิชิ สตราดา ของคนร้ายได้เปิดสปอตไลต์วิ่งตามหลัง แต่รถของนายชาดาและบุตรชายไม่ได้หยุด เมื่อรถคนร้ายขับประกบคู่จึงใช้อาวุธปืน คาดเป็นปืนสั้นออโตเมติก .380 และขนาด 9 มม. ยิงถล่มเข้าใส่หลายนัด และกระสุนถูกกกหูด้านซ้ายเข้าสมองของนายฟารุต บุตรชายของนายชาดาเสียชีวิตดังกล่าว
“ทราบว่าการเดินทางมาครั้งนี้นายชาดา ไม่มี รปภ.ติดตามมาด้วย เพราะเป็นการมาพักผ่อนกับครอบครัว อย่างไรก็ตาม นายชาดา ได้ขอเวลาทำพิธีฝังศพบุตรชายซึ่งนับถือศาสนาอิสลาม ให้เรียบร้อยก่อนจึงเข้าให้ข้อมูลต่อเจ้าพนักงาน”พ.ต.อ.ธนาวุฒิกล่าว
ด้านนายชาดา กล่าวว่า ตนได้บอกกับตำรวจว่าจะมาให้ปากคำอีกครั้งหลังจากที่ฝังศพลูกชายแล้ว เนื่องจากนับถือศาสนาอิสลาม ส่วนสาเหตุนั้นตำรวจยังไม่ทราบมูลเหตุที่แท้จริงว่าจะเชื่อมโยงกับเรื่องการเมืองหรือไม่อย่างไร
**"อดุลย์"สั่งเร่งคดียิง"ฟารุต ลูกชาดา"
ทั้งนี้ พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ว่าที่ ผบ.ตร.ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจพยายามสืบสวนหาข้อเท็จจริงในที่เกิดเหตุ และจะต้องลงพื้นที่ จ.อุทัยธานี เพื่อตรวจสอบด้วย เพราะอาจเป็นเรื่องการขับรถไปเจอคนอารมณ์ร้อน หรืออาจมีเบื้องหน้าเบื้องหลังจากเรื่องอื่น เพราะยังไม่ทราบว่านายชาดา มีปัญหาเรื่องอื่นหรือไม่ ทั้งนี้ พยานในที่เกิดเหตุจำได้ทะเบียนรถที่บุกยิงได้เพียงว่าเป็นเลข 1 และ 2 เท่านั้น
อย่างไรก็ตาม เส้นทางเข้าใหญ่-วังน้ำเขียวมีคนใช้น้อยมาก เพราะเป็นเส้นทางเปลี่ยว แต่ไม่มีโจรผู้ร้ายดักจี้ปล้น หากเป็นคนพื้นที่จะใช้เส้นทางนี้ประจำ แต่ถ้าเป็นคนนอกอาจไม่กล้า เพราะไม่รู้ว่าทางข้างหน้ามีอะไรหรือไม่ อย่างไรก็ตาม จากที่ได้สอบถามพยานว่ามีการปาดหน้าหรือบีบแตรไล่กันหรือไม่ ทราบว่าไม่มี และขับรถความเร็วประมาณ 130 กม. คาดว่าคนร้ายใช้ปืนสั้นออโตเมติค .380 และขนาด 9 มม.โดยพบปลอกกระสุนในที่เกิดเหตุหลายปลอก ส่วนรถโตโยต้า พราโด ยังอยู่ที่เกิดเหตุ เพราะถูกยิงแล้วไปเบียดเสาไฟฟ้า สำหรับจุดเกิดเหตุยังไม่ถึงบริเวณบ้านนายวีรพงษ์ รามางกูร
"เบื้องต้นผมได้รับรายงานเพียงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเท่านั้น โดยยังไม่ได้ลงพื้นที่เกิดเหตุ แต่จากรายงานยังฟันธงไม่ได้ว่าเป็นเรื่องของการใช้มือปืนรับจ้างหรือไม่ ซึ่งส่วนตัวมองว่าในเหตุการณ์ดังกล่าวได้มีการขับรถแซงกันมา ตรงนี้อาจจะเป็นการก่อเหตุของวัยรุ่นก็ได้ ส่วนจะเป็นเรื่องเกี่ยวกับการเมืองหรือไม่นั้น จะต้องมีการตรวจสอบเช่นกัน อย่างไรก็ตามพบว่าจากรายงานมีจุดที่น่าจะยิงหลายจุด อย่างจุดที่ผู้ตายเข้าไปปรับเปลี่ยนรถ แต่ทำไมกลับเลือกยิงในจุดดังกล่าว โดยเรื่องทางเจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่ต้องเข้าไปดำเนินการตรวจสอบดู" พล.ต.อ.อดุลย์ กล่าว
ด้าน พล.ต.ต.องอาจ ผิวเรืองนนท์ ผบก.ภ.จว.นครราชสีมา กล่าวว่า เบื้องต้นสันนิษฐานได้ว่าแรงจูงใจในการก่อเหตุครั้งนี้น่าจะเป็นเพียงการกระทบกระทั่งกันของวัยรุ่นที่ขับรถแซงกัน ซึ่งจากการสอบปากคำจากพยานทั้ง 2 ปากนั้นได้ให้ข้อมูลว่า ขณะที่ผู้ตายขับรถสวนกับกลุ่มคนร้ายนั้นได้เปิดไฟสูงส่องเข้าใส่ จึงทำให้คนร้ายเกิดความไม่พอใจและขับรถไล่ติดตาม ก่อนลงมือใช้อาวุธปืนยิงเข้าใส่ผู้ตายจนเสียชีวิต
**เร่งสอบพยาน-แกะรอยล่าคนร้าย
ทางด้าน พ.ต.อ.วชิรวิชญ์ กฤษณ์ฤทธิศักย์ รอง ผบก.ภ.จว.นครราชสีมา เปิดเผยถึงความคืบหน้าการสอบสวนคดีล่าสุดว่า ขณะนี้ได้ทำการสอบปากคำเพื่อนและญาติที่นั่งมาในรถคันเดียวกันกับผู้ตายและชาวบ้านที่เห็นเหตุการณ์ไปแล้วประมาณ 10 ปาก เบื้องต้นตั้งประเด็นการสืบสวนไว้ 2 ทาง คือ คนร้ายอาจตามมาจากที่อื่น ซึ่งจะต้องสอบสวนย้อนหลังไปที่ จ.อุทัยธานี และจังหวัดอื่นๆ ว่าผู้ตายเคยมีปัญหาอะไรกับใครหรือไม่ และมีเบื้องหลังอย่างไร ส่วนอีกประเด็น คือ อาจมีปัญหาในพื้นที่ เช่น อาจไปขับรถปาดหน้าแล้วเกิดเขม่นกันขึ้นก็มีความเป็นไปได้เช่นกัน
**ตั้ง2ปมสังหาร"การเมือง-เขม่นกัน"
ต่อมาช่วงบ่าย พล.ต.ท.ภาณุ เกิดลาภผล ผบช.ภ.3 พร้อมชุดสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 3 ได้ลงพื้นที่เข้าร่วมประชุมติดตามความคืบหน้าคดีนี้ที่ห้องประชุม สภ.หมูสี อ.ปากช่อง โดยใช้เวลาประมาณ 30 นาทีก่อนเดินทางไปดูจุดเกิดเหตุ
โดยในที่เกิดเหตุบริเวณถนนสายเขาใหญ่-วังน้ำเขียว หลัก กม.ที่ 7 หน้าร้านสะดวกซื้อเซเว่นอีเลฟเว่น บ้านคลองเดื่อ ต.หมูสี อ.ปากช่อง เจ้าหน้าที่ได้ใช้เชือกกั้นบริเวณรอบรถยนต์ ไม่ให้ประชาชนและผู้ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องเข้าไป ขณะที่รถยนต์ยี่ห้อโตโยต้า รุ่น พราโด แลนด์ครุยเซอร์ ทะเบียน ป้ายแดง อ - 5726 กทม.ที่นายฟารุต ผู้ตาย พร้อมญาตินั่งมาด้วยกันทั้งหมด 6 คนโดยนายฟารุต เป็นคนขับ สภาพถูกยิงพรุนทั้งคันและพุ่งชนติดอยู่กับเสาไฟฟ้า และพบปลอกกระสุนปืนทั้งหมด 13 ปลอก ตกอยู่ในจุดเกิดเหตุ แยกเป็นกระสุนปืนขนาด 9 มม. และปืนรูเกอร์ .380 พร้อมกันนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจจากศูนย์พิสูจน์หลักฐานภาค 3 นครราชสีมาได้เข้าตรวจสอบเก็บหลักฐานในที่เกิดเหตุด้วย
พล.ต.ท.ภาณุ เปิดเผยว่า จากข้อมูลเบื้องต้นยังไม่สามารถชี้ชัดประเด็นการสังหาร ลูกชาย ส.ส.อุทัยธานี ได้อย่างชัดเจน แต่ได้ตั้งประเด็นการสอบสวนไว้ 2 ประเด็นหลัก คือ 1.ปัญหาความขัดแย้งเก่าของนายชาดา ซึ่งจากการสอบประวัติมีปัญหาขัดแย้งหลายอย่างทั้งเรื่องธุรกิจส่วนตัวและการเมืองใน จ.อุทัยธานี ซึ่งคู่อริอาจตามมายิง และ 2.อาจมาจากเหตุการณ์เฉพาะหน้า ซึ่งอาจจะมีการเขม่นกันขณะไปเที่ยว
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รวบรวมภาพจากกล้องวงจรปิดในพื้นที่ใกล้เคียงทั้งหน้าร้านสะดวกซื้อใกล้จุดที่เกิดเหตุ และจุดอื่นๆ เบื้องต้นยังไม่พบสิ่งผิดปกติแต่อย่างใด โดยจุดเกิดเหตุห่างจากที่พักของผู้ตายประมาณ 2 กม.ส่วนรถยนต์ที่คนร้ายขับมาก่อเกตุ จากข้อมูลทราบว่าเป็นรถยนต์กระบะยี่ห้อ มิตซูบิชิ สีฟ้า ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน และโหลดเตี้ย
**ศพฟารุตถึงอุทัย-ตำรวจ รปภ.เข้ม
ที่ จ.อุทัยธานี เวลา 07.00 น.วานนี้ น.ส.มนัญญา ไทยเศรษฐ์ นายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองอุทัยธานี ซึ่งมีศักดิ์เป็นอานายฟารุต ไทยเศรษฐ์ ลูกชายของนายชาดา ได้นำนำศพของนายฟารุต เดินทางมายังบ้านพักบริเวณหลังวัดทุ่งแก้ว เขตเทศบาลเมืองอุทัยธานี เพื่อทำพิธีทางศาสนาอิสลาม โดยมี พล.ต.ต.กรเอก เพชรไชยเวช ผบก.ภ.จว.อุทัยธานี นำกำลังตำรวจพร้อมอาวุธครบมือหลายสิบนายมาระวังเหตุ
ขณะที่บรรยากาศงานศพที่บ้านของนายชาดา นั้น ได้มีข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ กลุ่มการเมืองท้องถิ่น และประชาชน จำนวนมากที่ทราบข่าว เดินทางมาเคารพศพ และแสดงความเสียใจต่อครอบของนายชาดา ถึงการสูญเสียบุตรชายในครั้งนี้และภายในบ้าน-รอบรั้วบ้าน ได้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้งใน-นอกเครื่องแบบ มาดูแลความปลอดภัยอย่างเข้มงวด และไม่อนุญาตให้ผู้สื่อข่าวถ่ายภาพภายในงาน
**เชื้อ"ชาดา"เป็นเป้าจริง-ลูกรับแทน
สำหรับการที่นายฟารุต ถูกยิงเสียชีวิตในครั้งนี้มีรายงานเปิดเผยว่า แท้ที่จริงแล้วคนร้ายอาจต้องการลงมือสังหารนายชาดา ไทยเศรษฐ์ แต่นายชาดา ได้เปลี่ยนไปขับรถยนต์อีกคันหนึ่ง จึงทำให้คนร้ายเข้าใจผิด จึงกระหน่ำยิงนายฟารุต เสียชีวิตแทน
ขณะที่นายฟารุต นั้น ถือเป็นทายาททางการเมืองของนายชาดา ไทยเศรษฐ์ มีแผนจะให้ลงเล่นการเมืองสนามใหญ่ในสมัยหน้า โดยได้ทำการเปิดตัวให้ประชาชนได้รับทราบแล้วในบางพื้นที่ แต่ก็มาถูกยิงเสียชีวิตก่อน ขณะที่นายชาดา ไทยเศรษฐ์ ถือเป็นนักการเมืองที่มีชื่อเสียงของจังหวัดและของประเทศ ผู้คนให้ความเกรงใจ ความเคารพนับถืออย่างมาก หลังเกิดเหตุได้อยู่ในสถานที่ปลอดภัยแล้ว ท่ามกลางการอารักขาของทีมคุ้มกัน และเจ้าหน้าที่ตำรวจ
**"เฉลิม"ชี้ยิง"ชาดา"เตรียมการไว้ก่อน
ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกฯกล่าวว่า ตนเพิ่งคุยโทรศัพท์กับ ผบก.ภ.จว.นครราชสีมา เบื้องต้นเชื่อว่าคนร้ายตามไป ไม่ได้เป็นเรื่องทะเลาะเบาะแว้งกัน ขณะไปเที่ยวเตร่เป็นการเตรียมการไป เมื่อลงมือเสร็จคนร้ายหนีไปทางวังน้ำเขียว ซึ่งตอนนี้ยังไม่มีการสอบปากคำผู้เกี่ยวข้องและทางญาติ ไม่อยากให้ผ่าตัดชันสูตรเนื่องจากเป็นมุสลิม
ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวถึงเหตุอาชญกรรมที่เกิดขึ้นบ่อยครั้งในช่วงนี้ว่า มาจากรัฐบาลชุดที่แล้วอนุญาตให้นำปืนเข้ามาเยอะ สมัยตนเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยไม่มีการเซ็นแม้แต่กระบอกเดียว เอาเข้ามาไม่ได้ พอเอามาก็แจ้งหายขายแพง จริงๆ คนทั่วไปไม่ใช่เจ้าหน้าที่ไม่ควรมีอาวุธปืน เอาอาวุธปืนมาคืนให้หมดให้รัฐดูแล ไม่ใช่ไปไหนพกปืนที่สองสามกระบอก
ขณะเดียวกัน พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา รองนายกฯกล่าวว่า ยังไม่ทราบเรื่องนี้และยังไม่ได้รับรายงาน
