ASTVผู้จัดการรายวัน-ปชป. เดินหน้าประจาน "แม้ว" ร่อนจดหมายประจานผลงานชิ้นโบดำสมัยเป็นนายกฯ ฟ้องทุกที่ที่ไปเยือน ประเดินยื่นถึง 8หน่วยงานสหรัฐฯ แก้เผ็ด "โอบามา" ช่วยนักโทษหนีคดีเข้าประเทศ ซัด “ปึ้ง-อสส.” เล่นละครแหกตาคนไทย ทำหนังสือถามที่อยู่ทั้งๆ ที่เจ้าตัวบินออกแล้ว แฉหวังหนีความผิด ม. 157 ด้าน “นพดล” เฟซ "นายใหญ่" ถึงกรุงปักกิ่ง
นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ เปิดเผยถึงกรณีทนายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล รมว.ต่างประเทศอ้างว่าอัยการสูงสุดทำจดหมายไปยังกระทรวงการต่างประเทศ เพื่อให้เแจ้งที่อยู่พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ในสหรัฐฯ แต่กระทรวงไม่ทราบว่าพ.ต.ท.ทักษิณอยู่ที่ไหน รู้แต่เพียงว่าเดินทางออกจากสหรัฐฯ แล้ว ว่า เป็นการเล่นละครตบตาประชาชน และดูถูกความรู้ของประชาชนคนไทย โดยความร่วมมือระหว่างสำนักงานอัยการสูงสุดกับกระทรวงการต่างประเทศ เพราะหนังสือดังกล่าวส่งไปหลังจากที่พ.ต.ท.ทักษิณเดินทางออกจากสหรัฐฯ แล้ว
ทั้งนี้ เหตุผลที่อัยการต้องส่งหนังสือไปยังกระทรวงการต่างประเทศ เพราะประเทศไทยกับสหรัฐฯ มีสนธิสัญญาส่งผู้ร้ายข้ามแดน หากไม่ขยับเลย ก็เกรงว่าจะถูกเล่นงานตามกฎหมาย
"ทำจดหมายไปเพื่อแหกตาประชาชน เพราะกลัวโดนมาตรา 157 เป็นความอัปยศอดสู ที่กระทรวงการต่างประเทศมีนายสุรพงษ์นั่งในตำแหน่งรัฐมนตรี เพราะทุกคนทราบดีว่า พ.ต.ท.ทักษิณอยู่ที่ไหน เป็นไปไม่ได้ที่กระทรวงการต่างประเทศจะไม่รู้ เรื่องนี้จะเป็นหลักฐานชิ้นดีในการดำเนินการตามกฎหมายกับนายสุรพงษ์ว่ามีเจตนาละเว้นจงใจช่วยเหลือให้ พ.ต.ท.ทักษิณ พ้นจากการถูกจับกุมตัวชั่วคราว"
นายชวนนท์กล่าวว่า ขณะนี้นายกษิต ภิรมย์ อดีต รมว.ต่างประเทศ ได้ส่งจดหมายไปยัง 8 หน่วยงานของสหรัฐฯ โดยเนื้อหาเป็นการเล่าให้ฟังว่า พ.ต.ท.ทักษิณ มีคดีติดตัวอย่าง ไร รวมถึงการทจริตซีทีเอ็กซ์ที่เกี่ยวข้องกับบริษัท จีอีอินวิชั่นของสหรัฐฯ ที่ละเมิดกฎหมายตลาดหลักทรัพย์สหรัฐฯ เงินกู้เอ็กซิมแบ๊งก์ 4 พันล้านบาทให้กับประเทศพม่า การแปลงสัมปทานเป็นภาษีสรรพสามิตร เงินกู้กรุงไทย 9 พันล้านบาท และกระบวนการฆ่าตัดตอนในนโยบายปราบปรามยาเสพติด การใช้ความรุนแรงละเมิดสิทธิมนุษยชนจากกรณีกรือเซะและตากใบ เป็นต้น
โดยการทำหนังสือดังกล่าว เพื่อให้องค์กรต่างๆ ของสหรัฐฯ เห็นว่า พ.ต.ท.ทักษิณ มีนโยบายที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตมากมาย และยืนยันว่าเรื่องของ พ.ต.ท.ทักษิณไม่ใช่คดีการเมือง แต่เป็นคดีภายใต้กฎหมาย ปปช. และคำตัดสินของศาลฎีกาที่เป็นองค์กรตามรัฐธรรมนูญปี 40 ไม่ได้มีการใช้กฎหมายใหม่เพื่อกลั่นแกล้งทางการเมือง แต่เป็นการทุจริตประพฤติมิชอบในการบริหารราชการแผ่นดิน ซี่งพฤติกรรมเช่นนี้ไม่สามารถเข้าประเทศสหรัฐฯ ได้ แต่รัฐบาลสหรัฐฯ กลับปล่อยให้ พ.ต.ท.ทักษิณเข้าประเทศ
"สหรัฐฯ กำลังจะมีการเลือกตั้งปลายปีนี้ เชื่อว่าหากรัฐบาลไม่ชี้แจงให้เกิดความกระจ่างต่อสังคม ก็จะส่งผลลบต่อรัฐบาลสหรัฐฯ อย่างแน่นอน และการที่ฝ่ายของ พ.ต.ท.ทักษิณจะส่งจดหมายไปที่สหรัฐฯ ด้วย ก็ขอเชิญชวนให้ส่งไป เพื่อให้แต่ละประเทศได้พิจารณา และพรรคจะส่งข้อมูลไปทุกประเทศที่ พ.ต.ท.ทักษิณ เดินทางไป เพื่อให้โลกรู้โฉมหน้าที่แท้จริงของทักษิณว่าเป็นนายกฯ ใช้อำนาจละเมิดประชาชนมากที่สุด ทุจริตมากที่สุด เกิดความสูญเสียมากที่สุดในประวัติศาสตร์ของประเทศไทย"นายชวนนท์กล่าว
สำหรับ 8 หน่วยงานสหรัฐฯ ประกอบด้วย 1.หัวหน้าพรรคเดโมแครต 2.หัวหน้าพรรครีพับบลิกัน 3.ประธานคณะกรรมาธิการการต่างประเทศวุฒิสภาสหรัฐฯ 4.คณะกรรมาธิการการต่างประเทศวุฒิสภาสหรัฐฯ 5.ประธานคณะอนุกรรมการการต่างประเทศว่าด้วยพื้นที่เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ 6.คณะอนุกรรมการการต่างประเทศว่าด้วยพื้นที่เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ 7.ประธานคณะกรรมาธิการการต่างประเทศสภาคองเกรส 8.คณะกรรมาธิการการต่างประเทศสภาคองเกรส
ที่รัฐสภา นายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) กล่าวว่า เรื่องดังกล่าวสร้างความเจ็บปวดให้กับประเทศไทย เพราะรัฐบาลละเลยการปฏิบัติหน้าที่ในการนำผู้ต้องหาหนีคดีมาลงโทษ ซึ่งพอถูกกดดันหนักเข้า นายสุรพงษ์ กลับบอกว่ารัฐบาลชุดนี้ไม่มีนโยบายในการนำตัว พ.ต.ท.ทักษิณ มาลงโทษ ขณะที่น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ก็บอกว่าให้ทุกอย่างเป็นไปตามกฎหมาย ดังนั้น ความเห็นของนายสุรพงษ์กับนายกฯ จึงขัดแย้งกัน
นอกจากนี้ ยังเป็นที่น่าแปลกใจหลังจากที่มีกระแสกดดันทางสังคม สำนักงานอัยการสูงสุด ได้มีการทำหนังสือไปยังประเทศสหรัฐฯ เพื่อสอบถามที่อยู่ของพ.ต.ท.ทักษิณ ทั้งๆ ที่พ.ต.ท.ทักษิณได้เดินทางออกไปหลายวันแล้ว แต่กลับไม่มีการดำเนินการ แสดงให้เห็นว่าหน่วยงานเหล่านี้ ไม่มีความพยายามในการดำเนินการตามกฎหมาย การส่งหนังสือไปยังสหรัฐฯ เป็นเพียงแค่ปกป้องไม่ให้รับโทษฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่เท่านั้น
"ขอเรียกร้องไปยังนายกฯ ว่า ถ้ายังยืนยันว่าให้ทุกอย่างเป็นไปตามกฎหมายต้องสั่งการไปยังหน่วยงานต่างๆ ทั้งกระทรวงการต่างประเทศ สำนักงานอัยการสูงสุด และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อให้ดำเนินการตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด เพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องของกฎมาย ไม่ใช่เรื่องของนโยบาย หากนายกฯ ไม่ทำตามที่ตนเรียกร้องก็จะถูกกล่าวโทษฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่เป็นคนแรก"นายเทพไทกล่าว
ทางด้านนายนพดล ปัทมะ ที่ปรึกษา พ.ต.ท.ทักษิณ ได้โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว ข้อความว่า In Beijing krub ถึงประเทศจีนแล้ว โดยคาดว่า ข้อความดังกล่าวน่าจะหมายถึง พ.ต.ท.ทักษิณ ที่ขณะนี้ได้ไปถึงประเทศจีนแล้ว หลังออกจากประเทศเกาหลีใต้ ทั้งนี้ นายนพดล ได้โพสต์ก่อนนี้ว่า ขณะที่อยู่เกาหลีใต้ อดีตนายกรัฐมนตรี ได้พบปะกับประธานรัฐสภาเกาหลี เพื่อหารือและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นในประเด็นทางการเมือง เศรษฐกิจ ในภูมิภาค และกระชับความสัมพันธ์ เพื่อให้แน่นแฟ้นยิ่งๆ ขึ้นด้วย
นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ เปิดเผยถึงกรณีทนายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล รมว.ต่างประเทศอ้างว่าอัยการสูงสุดทำจดหมายไปยังกระทรวงการต่างประเทศ เพื่อให้เแจ้งที่อยู่พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ในสหรัฐฯ แต่กระทรวงไม่ทราบว่าพ.ต.ท.ทักษิณอยู่ที่ไหน รู้แต่เพียงว่าเดินทางออกจากสหรัฐฯ แล้ว ว่า เป็นการเล่นละครตบตาประชาชน และดูถูกความรู้ของประชาชนคนไทย โดยความร่วมมือระหว่างสำนักงานอัยการสูงสุดกับกระทรวงการต่างประเทศ เพราะหนังสือดังกล่าวส่งไปหลังจากที่พ.ต.ท.ทักษิณเดินทางออกจากสหรัฐฯ แล้ว
ทั้งนี้ เหตุผลที่อัยการต้องส่งหนังสือไปยังกระทรวงการต่างประเทศ เพราะประเทศไทยกับสหรัฐฯ มีสนธิสัญญาส่งผู้ร้ายข้ามแดน หากไม่ขยับเลย ก็เกรงว่าจะถูกเล่นงานตามกฎหมาย
"ทำจดหมายไปเพื่อแหกตาประชาชน เพราะกลัวโดนมาตรา 157 เป็นความอัปยศอดสู ที่กระทรวงการต่างประเทศมีนายสุรพงษ์นั่งในตำแหน่งรัฐมนตรี เพราะทุกคนทราบดีว่า พ.ต.ท.ทักษิณอยู่ที่ไหน เป็นไปไม่ได้ที่กระทรวงการต่างประเทศจะไม่รู้ เรื่องนี้จะเป็นหลักฐานชิ้นดีในการดำเนินการตามกฎหมายกับนายสุรพงษ์ว่ามีเจตนาละเว้นจงใจช่วยเหลือให้ พ.ต.ท.ทักษิณ พ้นจากการถูกจับกุมตัวชั่วคราว"
นายชวนนท์กล่าวว่า ขณะนี้นายกษิต ภิรมย์ อดีต รมว.ต่างประเทศ ได้ส่งจดหมายไปยัง 8 หน่วยงานของสหรัฐฯ โดยเนื้อหาเป็นการเล่าให้ฟังว่า พ.ต.ท.ทักษิณ มีคดีติดตัวอย่าง ไร รวมถึงการทจริตซีทีเอ็กซ์ที่เกี่ยวข้องกับบริษัท จีอีอินวิชั่นของสหรัฐฯ ที่ละเมิดกฎหมายตลาดหลักทรัพย์สหรัฐฯ เงินกู้เอ็กซิมแบ๊งก์ 4 พันล้านบาทให้กับประเทศพม่า การแปลงสัมปทานเป็นภาษีสรรพสามิตร เงินกู้กรุงไทย 9 พันล้านบาท และกระบวนการฆ่าตัดตอนในนโยบายปราบปรามยาเสพติด การใช้ความรุนแรงละเมิดสิทธิมนุษยชนจากกรณีกรือเซะและตากใบ เป็นต้น
โดยการทำหนังสือดังกล่าว เพื่อให้องค์กรต่างๆ ของสหรัฐฯ เห็นว่า พ.ต.ท.ทักษิณ มีนโยบายที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตมากมาย และยืนยันว่าเรื่องของ พ.ต.ท.ทักษิณไม่ใช่คดีการเมือง แต่เป็นคดีภายใต้กฎหมาย ปปช. และคำตัดสินของศาลฎีกาที่เป็นองค์กรตามรัฐธรรมนูญปี 40 ไม่ได้มีการใช้กฎหมายใหม่เพื่อกลั่นแกล้งทางการเมือง แต่เป็นการทุจริตประพฤติมิชอบในการบริหารราชการแผ่นดิน ซี่งพฤติกรรมเช่นนี้ไม่สามารถเข้าประเทศสหรัฐฯ ได้ แต่รัฐบาลสหรัฐฯ กลับปล่อยให้ พ.ต.ท.ทักษิณเข้าประเทศ
"สหรัฐฯ กำลังจะมีการเลือกตั้งปลายปีนี้ เชื่อว่าหากรัฐบาลไม่ชี้แจงให้เกิดความกระจ่างต่อสังคม ก็จะส่งผลลบต่อรัฐบาลสหรัฐฯ อย่างแน่นอน และการที่ฝ่ายของ พ.ต.ท.ทักษิณจะส่งจดหมายไปที่สหรัฐฯ ด้วย ก็ขอเชิญชวนให้ส่งไป เพื่อให้แต่ละประเทศได้พิจารณา และพรรคจะส่งข้อมูลไปทุกประเทศที่ พ.ต.ท.ทักษิณ เดินทางไป เพื่อให้โลกรู้โฉมหน้าที่แท้จริงของทักษิณว่าเป็นนายกฯ ใช้อำนาจละเมิดประชาชนมากที่สุด ทุจริตมากที่สุด เกิดความสูญเสียมากที่สุดในประวัติศาสตร์ของประเทศไทย"นายชวนนท์กล่าว
สำหรับ 8 หน่วยงานสหรัฐฯ ประกอบด้วย 1.หัวหน้าพรรคเดโมแครต 2.หัวหน้าพรรครีพับบลิกัน 3.ประธานคณะกรรมาธิการการต่างประเทศวุฒิสภาสหรัฐฯ 4.คณะกรรมาธิการการต่างประเทศวุฒิสภาสหรัฐฯ 5.ประธานคณะอนุกรรมการการต่างประเทศว่าด้วยพื้นที่เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ 6.คณะอนุกรรมการการต่างประเทศว่าด้วยพื้นที่เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ 7.ประธานคณะกรรมาธิการการต่างประเทศสภาคองเกรส 8.คณะกรรมาธิการการต่างประเทศสภาคองเกรส
ที่รัฐสภา นายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) กล่าวว่า เรื่องดังกล่าวสร้างความเจ็บปวดให้กับประเทศไทย เพราะรัฐบาลละเลยการปฏิบัติหน้าที่ในการนำผู้ต้องหาหนีคดีมาลงโทษ ซึ่งพอถูกกดดันหนักเข้า นายสุรพงษ์ กลับบอกว่ารัฐบาลชุดนี้ไม่มีนโยบายในการนำตัว พ.ต.ท.ทักษิณ มาลงโทษ ขณะที่น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ก็บอกว่าให้ทุกอย่างเป็นไปตามกฎหมาย ดังนั้น ความเห็นของนายสุรพงษ์กับนายกฯ จึงขัดแย้งกัน
นอกจากนี้ ยังเป็นที่น่าแปลกใจหลังจากที่มีกระแสกดดันทางสังคม สำนักงานอัยการสูงสุด ได้มีการทำหนังสือไปยังประเทศสหรัฐฯ เพื่อสอบถามที่อยู่ของพ.ต.ท.ทักษิณ ทั้งๆ ที่พ.ต.ท.ทักษิณได้เดินทางออกไปหลายวันแล้ว แต่กลับไม่มีการดำเนินการ แสดงให้เห็นว่าหน่วยงานเหล่านี้ ไม่มีความพยายามในการดำเนินการตามกฎหมาย การส่งหนังสือไปยังสหรัฐฯ เป็นเพียงแค่ปกป้องไม่ให้รับโทษฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่เท่านั้น
"ขอเรียกร้องไปยังนายกฯ ว่า ถ้ายังยืนยันว่าให้ทุกอย่างเป็นไปตามกฎหมายต้องสั่งการไปยังหน่วยงานต่างๆ ทั้งกระทรวงการต่างประเทศ สำนักงานอัยการสูงสุด และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อให้ดำเนินการตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด เพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องของกฎมาย ไม่ใช่เรื่องของนโยบาย หากนายกฯ ไม่ทำตามที่ตนเรียกร้องก็จะถูกกล่าวโทษฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่เป็นคนแรก"นายเทพไทกล่าว
ทางด้านนายนพดล ปัทมะ ที่ปรึกษา พ.ต.ท.ทักษิณ ได้โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว ข้อความว่า In Beijing krub ถึงประเทศจีนแล้ว โดยคาดว่า ข้อความดังกล่าวน่าจะหมายถึง พ.ต.ท.ทักษิณ ที่ขณะนี้ได้ไปถึงประเทศจีนแล้ว หลังออกจากประเทศเกาหลีใต้ ทั้งนี้ นายนพดล ได้โพสต์ก่อนนี้ว่า ขณะที่อยู่เกาหลีใต้ อดีตนายกรัฐมนตรี ได้พบปะกับประธานรัฐสภาเกาหลี เพื่อหารือและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นในประเด็นทางการเมือง เศรษฐกิจ ในภูมิภาค และกระชับความสัมพันธ์ เพื่อให้แน่นแฟ้นยิ่งๆ ขึ้นด้วย
