วานนี้(21 ส.ค.55)นายวิชัย วิวิตเสวี กรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ในฐานะคณะทำงานร่วมในการพิจารณาคดีข้อกล่าวหาการทุจริตจัดซื้อและติดตั้งเครื่องตรวจจับวัตถุระเบิดและการก่อสร้างระบบสายพานลำเลียงกระเป๋า (ซีทีเอ็กซ์) ในสนามบินสุวรรณภูมิ ที่สร้างความเสียหายให้แก่รัฐ 1,714.846 ล้านบาท กล่าวภายหลังการพิจารณาสำนวนสอบสวนคดี ว่า ที่ประชุม ป.ป.ช.มีมติเป็นเอกฉันท์ ให้เลื่อนการพิจารณาไปเป็น 28 สิงหาคมนี้ เพราะต้องดำเนินการแปลเอกสารจากอัยการและหน่วยงานยุติธรรมของสหรัฐอเมริกาบางส่วน เป็นภาษาไทยใน 2-3 ประเด็น จึงมีมติมอบหมายให้พนักงานเจ้าหน้าที่สำนักงาน ป.ป.ช. แปลเป็นภาษาไทย เ แล้วเสนอให้ที่ประชุมพิจารณาอีกครั้งหนึ่ง ในการประชุมวันอังคารหน้า ซึ่งที่ประชุมจะได้นำมาพิจารณาวินิจฉัยต่อไป
จากการตรวจสำนวนของคณะกรรมการตรวจสอบความเสียหายอันเกิดจากการกระทำของรัฐ(คตส.) ป.ป.ช.ยังพบข้อมูลใหม่ที่คตส.ยังไม่ตั้งเรื่องมา คือ พบว่ามีเหตุอันควรที่จะทำให้เชื่อว่าจะมีการกระทำความผิดอื่น ในบางฐาน บางคน คือมีข้าราชการระดับสูงของรัฐประมาณ 7-8คน หรือมากกว่า เกี่ยวข้องกับตัวแทนขายเครื่องซีทีเอ็กซ์ ซึ่งเป็นประเด็นที่มีความสำคัญไม่น้อยไปกว่ากัน และ ป.ป.ช.ต้องใช้เวลาไต่สวน ส่วนจะเกี่ยวข้องกับตัวแทนของท่าอากาศยานหรืออดีตนักการเมืองหรือไม่ยังไม่สามารถตอบได้
รายงานข่าวแจ้งว่า ที่ประชุมได้พิจารณาเห็นว่า มีพยานหลักฐานเพิ่มเติมที่มีมูลให้เห็นว่า เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับโครงการจัดซื้อจัดจ้างปรับเปลี่ยนระบบสายพานลำเลียงกระเป๋า สัมภาระผู้โดยสาร และเครื่องตรวจสอบวัตถุระเบิดท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (CTX) ได้กระทำความผิดในฐานความผิดอื่น นอกเหนือจากฐานความผิดที่คณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) ได้ไต่สวนข้อเท็จจริงและมีมติไว้ แต่โดยที่พยานหลักฐาน ที่นำไปสู่ฐานความผิดอื่นดังกล่าว เป็นเอกสารภาษาอังกฤษ ที่ประชุมจึงมีมติมอบหมายให้พนักงานเจ้าหน้าที่สำนักงาน ป.ป.ช. แปลเป็นภาษาไทยเฉพาะในประเด็นที่สำคัญ แล้วเสนอให้ที่ประชุมพิจารณาอีกครั้งหนึ่ง ในการประชุมวันอังคารที่ 28 สิงหาคม 2555 นี้ ซึ่งที่ประชุมจะได้นำมาพิจารณาวินิจฉัยต่อไป
จากการตรวจสำนวนของคณะกรรมการตรวจสอบความเสียหายอันเกิดจากการกระทำของรัฐ(คตส.) ป.ป.ช.ยังพบข้อมูลใหม่ที่คตส.ยังไม่ตั้งเรื่องมา คือ พบว่ามีเหตุอันควรที่จะทำให้เชื่อว่าจะมีการกระทำความผิดอื่น ในบางฐาน บางคน คือมีข้าราชการระดับสูงของรัฐประมาณ 7-8คน หรือมากกว่า เกี่ยวข้องกับตัวแทนขายเครื่องซีทีเอ็กซ์ ซึ่งเป็นประเด็นที่มีความสำคัญไม่น้อยไปกว่ากัน และ ป.ป.ช.ต้องใช้เวลาไต่สวน ส่วนจะเกี่ยวข้องกับตัวแทนของท่าอากาศยานหรืออดีตนักการเมืองหรือไม่ยังไม่สามารถตอบได้
รายงานข่าวแจ้งว่า ที่ประชุมได้พิจารณาเห็นว่า มีพยานหลักฐานเพิ่มเติมที่มีมูลให้เห็นว่า เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับโครงการจัดซื้อจัดจ้างปรับเปลี่ยนระบบสายพานลำเลียงกระเป๋า สัมภาระผู้โดยสาร และเครื่องตรวจสอบวัตถุระเบิดท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (CTX) ได้กระทำความผิดในฐานความผิดอื่น นอกเหนือจากฐานความผิดที่คณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) ได้ไต่สวนข้อเท็จจริงและมีมติไว้ แต่โดยที่พยานหลักฐาน ที่นำไปสู่ฐานความผิดอื่นดังกล่าว เป็นเอกสารภาษาอังกฤษ ที่ประชุมจึงมีมติมอบหมายให้พนักงานเจ้าหน้าที่สำนักงาน ป.ป.ช. แปลเป็นภาษาไทยเฉพาะในประเด็นที่สำคัญ แล้วเสนอให้ที่ประชุมพิจารณาอีกครั้งหนึ่ง ในการประชุมวันอังคารที่ 28 สิงหาคม 2555 นี้ ซึ่งที่ประชุมจะได้นำมาพิจารณาวินิจฉัยต่อไป