“ประสาร” เผยผู้อำนวยการไอเอ็มเอฟร่อนหนังสือชี้แจงปฏิเสธกรณี “ดร.โกร่ง” อ้าง ผอ.ไอเอ็มเอฟหนุนให้เปลี่ยนนโยบายการเงิน จากกรอบเป้าหมายเงินเฟ้อมาเป็นกรอบที่ผูกติดกับค่าเงิน กลับกันไอเอ็มเอฟเห็นว่าไทยใช้กรอบเงินเฟ้อได้ผลดีอยู่ เตือนผู้ใหญ่ให้ข่าวต้องระวัง เพราะอาจกระทบความน่าเชื่อถือประเทศ พร้อมเรียกประชุมด่วนบอร์ดแบงก์ชาติกับ กนง.
นายประสาร ไตรรัตน์วรกุล ผู้ว่าการ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า ขณะนี้ ธปท.ได้รับหนังสือจากนางคริสติน ลาการ์ด ผู้อำนวยการกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) โดยส่งมาชี้แจงว่ากรณีที่นายวีรพงษ์ รามางกูร ประธานคณะกรรมการ ธปท. (กกธ.) หรือบอร์ดแบงก์ชาติระบุว่าผู้อำนวยการไอเอ็มเอฟเห็นด้วยว่าควรเปลี่ยนนโยบายการเงินของไทยจากปัจจุบันที่ใช้กรอบเป้าหมายเงินเฟ้อ (Inflation Targeting) มาใช้กรอบเป้าหมายอัตราแลกเปลี่ยน (Exchange Rate Targeting) แทนไม่เป็นความจริงและเห็นว่าการใช้ Inflation Targeting ยังเหมาะสมสถานการณ์ปัจจุบัน
“ไอเอ็มเอฟส่งหนังสือมาแล้ว โดยเขียนคำชี้แจงว่าที่ท่านประธานบอร์ดแบงก์ชาติพูดไม่เป็นความจริง และในหลายประเทศที่ใช้ Inflation Targeting ก็ได้ผลดีอยู่แล้ว โดยเฉพาะประเทศไทยได้ผลค่อนข้างดี จะไปอ้างว่าเขาไม่เห็นด้วย เขาก็ปฏิเสธว่าไม่เป็นความจริง ดังนั้นในเวลานี้การให้ข่าวอะไรก็ต้องระมัดระวังและเวลาผู้ใหญ่ออกข่าวอย่างนี้ไปก็ต้องยิ่งระวัง เพราะจะมีผลต่อภาพพจน์ความน่าเชื่อถือของประเทศ ซึ่งตัวผมระวังอยู่ในเรื่องความน่าเชื่อถือของประเทศที่สำคัญมาก” นายประสารกล่าวและว่า โดยตลอดช่วงก่อตั้ง ธปท.มาร่วม 70 ปี ซึ่งในช่วง 40 ปีที่แล้ว ในรุ่นอาจารย์ป๋วย อึ๊งภากรณ์ ธปท.มีความโดดเด่นในภูมิภาคนี้ อีกทั้งยังเคยให้คำที่ปรึกษาช่วยตั้งธนาคารกลางสิงคโปร์ ซึ่งตอนนี้ทางธนาคารกลางสิงคโปร์มีการบริหารต่างๆ ได้เรียบร้อยกว่า ธปท.ค่อนข้างมาก
**บอร์ดแบงก์ชาติ-กนง.ถกด่วน**
ผู้ว่าการธปท.กล่าวว่า เวลามีความเห็นแตกต่างกัน ธปท.ก็จะมีกลไกแลกเปลี่ยนความคิดเห็นอย่างสร้างสรรค์ ดังนั้นคืนวันที่ 16 ส.ค. (วานนี้) บอร์ดแบงก์ชาติกับคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) จะหารือร่วมกันในเรื่องประเด็นเหล่านี้ ซึ่งเห็นว่าการดำเนินการเช่นนี้ในแง่ของเรื่องนโยบายการเงินถือเป็นกลไกที่เหมาะสมว่าใครคิดอะไรอย่างไรก็มาแลกเปลี่ยนกัน ส่วนจะมีการหยิบยกมาใช้ Exchange Rate Targeting หรือไม่ยังตอบล่วงหน้าไม่ได้ แต่เห็นว่าวิธีนี้เหมาะสม หากมีความเห็นแตกต่างก็ต้องหารือกันและเป็นการหารือครั้งแรกของประธานบอร์ดแบงก์ชาติคนปัจจุบันร่วมกับกนง.
**เตือน "โกร่ง" อย่าแทรกแซง กนง.**
แหล่งข่าวจากบอร์ด กนง.เปิดเผยว่า ในฐานะบอร์ด กนง.เห็นว่าการดำเนินนโยบายการเงินด้วยเครื่องมืออะไรก็ตามย่อมมีจุดแข็งและจุดอ่อนแตกต่างกัน ซึ่งอย่างกรณีของธนาคารกลางสิงคโปร์มีการใช้อัตราแลกเปลี่ยนเป็นเครื่องมือในการดำเนินนโยบายการเงินก็มีการตั้งคำถามในตอนนี้เช่นกันว่าเหมาะสมหรือไม่ เพราะเห็นได้จากปีนี้สิงคโปร์มีเงินเฟ้อระดับ 5% ถือว่าค่อนข้างสูง ซึ่งหลายฝ่ายก็มองว่าควบคุมเงินเฟ้อไม่ได้ ขณะที่ไทยมีการใช้ Inflation Targeting ค่อนข้างยาวนาน ทำให้คนทั่วไปเริ่มเข้าใจการส่งสัญญาณของ กนง.ในแต่ละครั้ง อย่างไรก็ตาม หากมีการเปลี่ยนแปลงกรอบเป้าหมายในการดำเนินนโยบายการเงินทางบอร์ด กนง.จะเป็นฝ่ายที่ต้องพิจารณาไม่ใช่เป็นการสั่งผ่านบอร์ดแบงก์ชาติ ซึ่งทางบอร์ด กนง.ก็ต้องนำความคิดเห็นของหลากหลายฝ่ายมาประกอบการตัดสินใจ.
นายประสาร ไตรรัตน์วรกุล ผู้ว่าการ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า ขณะนี้ ธปท.ได้รับหนังสือจากนางคริสติน ลาการ์ด ผู้อำนวยการกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) โดยส่งมาชี้แจงว่ากรณีที่นายวีรพงษ์ รามางกูร ประธานคณะกรรมการ ธปท. (กกธ.) หรือบอร์ดแบงก์ชาติระบุว่าผู้อำนวยการไอเอ็มเอฟเห็นด้วยว่าควรเปลี่ยนนโยบายการเงินของไทยจากปัจจุบันที่ใช้กรอบเป้าหมายเงินเฟ้อ (Inflation Targeting) มาใช้กรอบเป้าหมายอัตราแลกเปลี่ยน (Exchange Rate Targeting) แทนไม่เป็นความจริงและเห็นว่าการใช้ Inflation Targeting ยังเหมาะสมสถานการณ์ปัจจุบัน
“ไอเอ็มเอฟส่งหนังสือมาแล้ว โดยเขียนคำชี้แจงว่าที่ท่านประธานบอร์ดแบงก์ชาติพูดไม่เป็นความจริง และในหลายประเทศที่ใช้ Inflation Targeting ก็ได้ผลดีอยู่แล้ว โดยเฉพาะประเทศไทยได้ผลค่อนข้างดี จะไปอ้างว่าเขาไม่เห็นด้วย เขาก็ปฏิเสธว่าไม่เป็นความจริง ดังนั้นในเวลานี้การให้ข่าวอะไรก็ต้องระมัดระวังและเวลาผู้ใหญ่ออกข่าวอย่างนี้ไปก็ต้องยิ่งระวัง เพราะจะมีผลต่อภาพพจน์ความน่าเชื่อถือของประเทศ ซึ่งตัวผมระวังอยู่ในเรื่องความน่าเชื่อถือของประเทศที่สำคัญมาก” นายประสารกล่าวและว่า โดยตลอดช่วงก่อตั้ง ธปท.มาร่วม 70 ปี ซึ่งในช่วง 40 ปีที่แล้ว ในรุ่นอาจารย์ป๋วย อึ๊งภากรณ์ ธปท.มีความโดดเด่นในภูมิภาคนี้ อีกทั้งยังเคยให้คำที่ปรึกษาช่วยตั้งธนาคารกลางสิงคโปร์ ซึ่งตอนนี้ทางธนาคารกลางสิงคโปร์มีการบริหารต่างๆ ได้เรียบร้อยกว่า ธปท.ค่อนข้างมาก
**บอร์ดแบงก์ชาติ-กนง.ถกด่วน**
ผู้ว่าการธปท.กล่าวว่า เวลามีความเห็นแตกต่างกัน ธปท.ก็จะมีกลไกแลกเปลี่ยนความคิดเห็นอย่างสร้างสรรค์ ดังนั้นคืนวันที่ 16 ส.ค. (วานนี้) บอร์ดแบงก์ชาติกับคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) จะหารือร่วมกันในเรื่องประเด็นเหล่านี้ ซึ่งเห็นว่าการดำเนินการเช่นนี้ในแง่ของเรื่องนโยบายการเงินถือเป็นกลไกที่เหมาะสมว่าใครคิดอะไรอย่างไรก็มาแลกเปลี่ยนกัน ส่วนจะมีการหยิบยกมาใช้ Exchange Rate Targeting หรือไม่ยังตอบล่วงหน้าไม่ได้ แต่เห็นว่าวิธีนี้เหมาะสม หากมีความเห็นแตกต่างก็ต้องหารือกันและเป็นการหารือครั้งแรกของประธานบอร์ดแบงก์ชาติคนปัจจุบันร่วมกับกนง.
**เตือน "โกร่ง" อย่าแทรกแซง กนง.**
แหล่งข่าวจากบอร์ด กนง.เปิดเผยว่า ในฐานะบอร์ด กนง.เห็นว่าการดำเนินนโยบายการเงินด้วยเครื่องมืออะไรก็ตามย่อมมีจุดแข็งและจุดอ่อนแตกต่างกัน ซึ่งอย่างกรณีของธนาคารกลางสิงคโปร์มีการใช้อัตราแลกเปลี่ยนเป็นเครื่องมือในการดำเนินนโยบายการเงินก็มีการตั้งคำถามในตอนนี้เช่นกันว่าเหมาะสมหรือไม่ เพราะเห็นได้จากปีนี้สิงคโปร์มีเงินเฟ้อระดับ 5% ถือว่าค่อนข้างสูง ซึ่งหลายฝ่ายก็มองว่าควบคุมเงินเฟ้อไม่ได้ ขณะที่ไทยมีการใช้ Inflation Targeting ค่อนข้างยาวนาน ทำให้คนทั่วไปเริ่มเข้าใจการส่งสัญญาณของ กนง.ในแต่ละครั้ง อย่างไรก็ตาม หากมีการเปลี่ยนแปลงกรอบเป้าหมายในการดำเนินนโยบายการเงินทางบอร์ด กนง.จะเป็นฝ่ายที่ต้องพิจารณาไม่ใช่เป็นการสั่งผ่านบอร์ดแบงก์ชาติ ซึ่งทางบอร์ด กนง.ก็ต้องนำความคิดเห็นของหลากหลายฝ่ายมาประกอบการตัดสินใจ.
