หุ้นซีทีเอช 20% ส่อเค้าแกรมมี่วืด ไม่ง้อหันจับมือทรูวิชั่นส์ ซื้อคอนเท้นท์ลง 19 ช่อง เน้นกีฬาเป็นหลัก เชื่อรักษาฐานเคเบิลทีวีได้ ฟากทรูวิชั่นส์มองการขยายฐานรูปแบบจับมือกับพันธมิตร เป็นการปูทางรับการแข่งขันช่วงเปิดเออีซี พร้อมเพิ่มฐานคอบอลพรีเมียร์ลีกได้อีก
จากกรณีที่ทางผู้ประกอบการเคเบิลทีวีท้องถิ่นได้รวมตัวกันก่อตั้ง บริษัท เคเบิล ไทย โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) และได้เพิ่มทุนจดทะเบียนจาก 300 ล้านบาท เป็น 1,000 ล้านบาท เมื่อวันที่ 30 มี.ค.ที่ผ่านมา เพื่อเป็นตัวแทนผู้ประกอบการเคเบิลทีวีในการหาคอนเท้นท์ต่างๆมาสู่สมาชิก ซึ่งในช่วงเวลานั้นมีผู้สนใจเข้าร่วมถือหุ้นหลักอยู่ 3 ราย คือ 1.นายวิชัย ทองแตงประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ประสิทธิ์พัฒนา จำกัด (มหาชน) บริหารโรงพยาบาลในเครือหลายแห่ง เข้ามาถือหุ้นในสัดส่วน 25% 2.นางยิ่งลักษณ์ วัชรพล ผู้บริหารหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ ถือหุ้น 25% และ3.กลุ่มผู้ประกอบการเคเบิลทีวีท้องถิ่นอีก 30 คน ร่วมกันถือหุ้นอีก 30%
ส่วนหุ้นที่เหลืออีก 20% เดิมทางด้านนายไพบูลย์ ดำรงชัยธรรม ประธานกรรมการ บริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด (มหาชน)มีความสนใจเข้าร่วมถือหุ้นในจำนวนดังกล่าว โดยมองว่าจะสามารถขายคอนเท้นท์ โดยเฉพาะคอนเท้นท์กีฬาและผลิตคอนเท้นท์ป้อนให้เคเบิลทีวีท้องถิ่นได้ เนื่องจากเป็นฐานผู้ชมคนละกลุ่มกับจีเอ็มเอ็มแซท ถือเป็นการต่อยอดสร้างรายได้อีกทางหนึ่ง
ล่าสุดวานนี้ (16ส.ค.) นายวิชัย ทองแตง ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เคเบิล ไทย โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทได้จับมือกับทางบริษัท ทรูวิชั่นส์ จำกัด (มหาชน) เพื่อซื้อคอนเท้นท์ช่องรายการต่างๆจากทางทรูวิชั่นส์มาออกอากาศทางเคเบิลทีวีในเบื้องต้นจำนวน 9 ช่อง ในลักษณะขายขาด ประกอบด้วย ทรูเอ็กซ์พลอร์1, แทลเวล แชนแนล ไทยแลนด์, ทรูสปอร์ต, สยามกีฬาทีวี,ฟุตบอลสยาม ทีวี, สตาร์ซ้อคเกอร์ ทีวี, สปีดแชนแนล และมะจัง ซึ่งในจำนวนดังกล่าวเป็นช่องกีฬากว่า 4 ช่อง ถือเป็นการร่วมมือที่จะทำให้ทั้งเคเบิลทีวีและทรูวิชั่นส์ต่างได้รับผลประโยชน์ร่วมกัน ขณะที่มูลค่าในการซื้อคอนเท้นท์ครั้งนี้ยังไม่สามารถสรุปได้ เพราะยังพิจารณาที่จะลงเพิ่มอีกหลายช่อง
นายองอาจ ประภากมล รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายคอมเมอร์เชียล บริษัท ทรูวิชั่นส์ จำกัด (มหาชน) กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ในช่องทรูสปอร์ตจะนำเสนอการแข่งขันพรีเมียร์ลีกฤดูกาลนี้อีกอาทิตย์ละคู่ หรือรวม 38 แมทชท์ตลอดฤดูกาล โดยเคเบิลทีวีจะได้รับชมการแข่งขันฟุตบอลดังกล่าวนี้ ทั้งในแง่ของคู่ที่แข่งขันและจำนวนแมทช์การแข่งขันที่ดีกว่าทางกล่องพีเอสไอทรูทีวี
***”กู๋”ไม่ยอมถือในนามส่วนตัว***
นายวิชัย กล่าวต่อว่า อย่างไรก็ตามในส่วนของจำนวนหุ้นที่เหลืออีก 20% ของซีทีเอชนั้น ล่าสุดในขณะนี้ยังไม่มีใครเข้ามาร่วมถือหุ้น จากเดิมที่แกรมมี่จะเข้ามานั้น ปัจจุบันยังอยู่ในขั้นตอนของการพูดคุยกันอยู่ และเกิดความล่าช้าไปบ้างจากเหตุการณ์ต่างๆ แต่ทั้งนี้จะพยายามให้เรื่องนี้จบลงให้ได้ก่อนเดือนพ.ย.นี้
หรือก่อนที่ทางซีทีเอชจะนำพาเคเบิลทีวีเข้าสู่แพลทฟอร์มใหม่ ในส่วนของอินเตอร์เน็ตความเร็วสูง โดยในขณะนี้ยอมรับว่านอกจากแกรมมี่แล้ว ซีทีเอชยังมีการพูดคุยกับผู้ที่สนใจเข้าร่วมถือหุ้นไว้หลายราย
แหล่งข่าวในวงการเคเบิลทีวี มองว่า สาเหตุที่ทางแกรมมี่ยังไม่ยอมร่วมทุนกับซีทีเอชครั้งนี้นั้น เนื่องจากซีทีเอชต้องการให้ทางนายไพบูลย์ ถือหุ้นในนามบุคคล แต่ทางแกรมมี่ต้องการถือหุ้นในนามบริษัทมากกว่า จึงเป็นที่น่าสังเกตว่า เดิมแกรมมี่วางหมากที่จะมุ่งขายคอนเท้นท์กีฬาให้กับทางเคเบิลทีวี
เพราะถือเป็นคอนเท้นท์หลักที่เคเบิลทีวีต้องการมากสุดเพื่อสร้างความแข็งแกร่งและแข่งขันในตลาดได้ แต่ณ.วันนี้ ซีทีเอชกลับหันมาจับมือซื้อคอนเท้นท์กีฬาจากทรูวิชั่นส์แทน ดังนั้นแนวโน้มที่แกรมมี่จะมาถือหุ้นในซีทีเอชอาจจะมีความเป็นไปได้น้อยมาก
***ทรูวิชั่นส์ปัดถือหุ้นซีทีเอช***
ด้านนายศุภชัย เจียรวนนท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ทรูวิชั่นส์ จำกัด (มหาชน) กล่าวต่อว่า ทรูวิชั่นส์มีนโยบายในการร่วมมือกับพันธมิตรในช่องทางต่างๆเพื่อต้องการขยายคอนเท้นท์ให้เข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคครอบคลุมมากขึ้นทั่วประเทศ พร้อมสร้างความแข็งแกร่งรองรับการแข่งขันหลังการเปิดเออีซีต่อไปโดยขณะนี้มีการร่วมมือกับทางซีทีเอชเพียงในเรื่องของการขายคอนเท้นท์เท่านั้น ส่วนความร่วมมือในด้านอื่น อย่าง การเข้าถือหุ้นในซีทีเอชนั้น ยังไม่ได้มีการพูดคุยกันแต่อย่างไร
จากกรณีที่ทางผู้ประกอบการเคเบิลทีวีท้องถิ่นได้รวมตัวกันก่อตั้ง บริษัท เคเบิล ไทย โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) และได้เพิ่มทุนจดทะเบียนจาก 300 ล้านบาท เป็น 1,000 ล้านบาท เมื่อวันที่ 30 มี.ค.ที่ผ่านมา เพื่อเป็นตัวแทนผู้ประกอบการเคเบิลทีวีในการหาคอนเท้นท์ต่างๆมาสู่สมาชิก ซึ่งในช่วงเวลานั้นมีผู้สนใจเข้าร่วมถือหุ้นหลักอยู่ 3 ราย คือ 1.นายวิชัย ทองแตงประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ประสิทธิ์พัฒนา จำกัด (มหาชน) บริหารโรงพยาบาลในเครือหลายแห่ง เข้ามาถือหุ้นในสัดส่วน 25% 2.นางยิ่งลักษณ์ วัชรพล ผู้บริหารหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ ถือหุ้น 25% และ3.กลุ่มผู้ประกอบการเคเบิลทีวีท้องถิ่นอีก 30 คน ร่วมกันถือหุ้นอีก 30%
ส่วนหุ้นที่เหลืออีก 20% เดิมทางด้านนายไพบูลย์ ดำรงชัยธรรม ประธานกรรมการ บริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด (มหาชน)มีความสนใจเข้าร่วมถือหุ้นในจำนวนดังกล่าว โดยมองว่าจะสามารถขายคอนเท้นท์ โดยเฉพาะคอนเท้นท์กีฬาและผลิตคอนเท้นท์ป้อนให้เคเบิลทีวีท้องถิ่นได้ เนื่องจากเป็นฐานผู้ชมคนละกลุ่มกับจีเอ็มเอ็มแซท ถือเป็นการต่อยอดสร้างรายได้อีกทางหนึ่ง
ล่าสุดวานนี้ (16ส.ค.) นายวิชัย ทองแตง ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เคเบิล ไทย โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทได้จับมือกับทางบริษัท ทรูวิชั่นส์ จำกัด (มหาชน) เพื่อซื้อคอนเท้นท์ช่องรายการต่างๆจากทางทรูวิชั่นส์มาออกอากาศทางเคเบิลทีวีในเบื้องต้นจำนวน 9 ช่อง ในลักษณะขายขาด ประกอบด้วย ทรูเอ็กซ์พลอร์1, แทลเวล แชนแนล ไทยแลนด์, ทรูสปอร์ต, สยามกีฬาทีวี,ฟุตบอลสยาม ทีวี, สตาร์ซ้อคเกอร์ ทีวี, สปีดแชนแนล และมะจัง ซึ่งในจำนวนดังกล่าวเป็นช่องกีฬากว่า 4 ช่อง ถือเป็นการร่วมมือที่จะทำให้ทั้งเคเบิลทีวีและทรูวิชั่นส์ต่างได้รับผลประโยชน์ร่วมกัน ขณะที่มูลค่าในการซื้อคอนเท้นท์ครั้งนี้ยังไม่สามารถสรุปได้ เพราะยังพิจารณาที่จะลงเพิ่มอีกหลายช่อง
นายองอาจ ประภากมล รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายคอมเมอร์เชียล บริษัท ทรูวิชั่นส์ จำกัด (มหาชน) กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ในช่องทรูสปอร์ตจะนำเสนอการแข่งขันพรีเมียร์ลีกฤดูกาลนี้อีกอาทิตย์ละคู่ หรือรวม 38 แมทชท์ตลอดฤดูกาล โดยเคเบิลทีวีจะได้รับชมการแข่งขันฟุตบอลดังกล่าวนี้ ทั้งในแง่ของคู่ที่แข่งขันและจำนวนแมทช์การแข่งขันที่ดีกว่าทางกล่องพีเอสไอทรูทีวี
***”กู๋”ไม่ยอมถือในนามส่วนตัว***
นายวิชัย กล่าวต่อว่า อย่างไรก็ตามในส่วนของจำนวนหุ้นที่เหลืออีก 20% ของซีทีเอชนั้น ล่าสุดในขณะนี้ยังไม่มีใครเข้ามาร่วมถือหุ้น จากเดิมที่แกรมมี่จะเข้ามานั้น ปัจจุบันยังอยู่ในขั้นตอนของการพูดคุยกันอยู่ และเกิดความล่าช้าไปบ้างจากเหตุการณ์ต่างๆ แต่ทั้งนี้จะพยายามให้เรื่องนี้จบลงให้ได้ก่อนเดือนพ.ย.นี้
หรือก่อนที่ทางซีทีเอชจะนำพาเคเบิลทีวีเข้าสู่แพลทฟอร์มใหม่ ในส่วนของอินเตอร์เน็ตความเร็วสูง โดยในขณะนี้ยอมรับว่านอกจากแกรมมี่แล้ว ซีทีเอชยังมีการพูดคุยกับผู้ที่สนใจเข้าร่วมถือหุ้นไว้หลายราย
แหล่งข่าวในวงการเคเบิลทีวี มองว่า สาเหตุที่ทางแกรมมี่ยังไม่ยอมร่วมทุนกับซีทีเอชครั้งนี้นั้น เนื่องจากซีทีเอชต้องการให้ทางนายไพบูลย์ ถือหุ้นในนามบุคคล แต่ทางแกรมมี่ต้องการถือหุ้นในนามบริษัทมากกว่า จึงเป็นที่น่าสังเกตว่า เดิมแกรมมี่วางหมากที่จะมุ่งขายคอนเท้นท์กีฬาให้กับทางเคเบิลทีวี
เพราะถือเป็นคอนเท้นท์หลักที่เคเบิลทีวีต้องการมากสุดเพื่อสร้างความแข็งแกร่งและแข่งขันในตลาดได้ แต่ณ.วันนี้ ซีทีเอชกลับหันมาจับมือซื้อคอนเท้นท์กีฬาจากทรูวิชั่นส์แทน ดังนั้นแนวโน้มที่แกรมมี่จะมาถือหุ้นในซีทีเอชอาจจะมีความเป็นไปได้น้อยมาก
***ทรูวิชั่นส์ปัดถือหุ้นซีทีเอช***
ด้านนายศุภชัย เจียรวนนท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ทรูวิชั่นส์ จำกัด (มหาชน) กล่าวต่อว่า ทรูวิชั่นส์มีนโยบายในการร่วมมือกับพันธมิตรในช่องทางต่างๆเพื่อต้องการขยายคอนเท้นท์ให้เข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคครอบคลุมมากขึ้นทั่วประเทศ พร้อมสร้างความแข็งแกร่งรองรับการแข่งขันหลังการเปิดเออีซีต่อไปโดยขณะนี้มีการร่วมมือกับทางซีทีเอชเพียงในเรื่องของการขายคอนเท้นท์เท่านั้น ส่วนความร่วมมือในด้านอื่น อย่าง การเข้าถือหุ้นในซีทีเอชนั้น ยังไม่ได้มีการพูดคุยกันแต่อย่างไร