xs
xsm
sm
md
lg

"ยูนิค ไมนิ่ง"ฉุดTTAขาดทุน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน –โทรีเซนไทย ฯไตรมาส3 ขาดทุนสุทธิ 2.35 พันล้าน เหตุ บันทึกด้อยค่าฯลงทุนใน ยูนิค ไมนิ่ง 2.33 พันล้านบาท ทำให้มูลค่าการลงทุนเหลือ 1.56 พันล้านบาท จาก 3.9 พันล้านบาท ยันไม่มีแผนขายทิ้ง จากยังเชื่อแนวโน้มธุรกิจดี “ม.ล. จันทรจุฑา” เผย ได้ตั้งคณะทำงานแก้ไขปัญหาเพื่อให้โรงงานถ่านหินสวนส้มกลับมาเปิดทำการโดยเร็ว พร้อมทำแผนดำเนินงานปีหน้า คาดเสนอบอร์ดพิจารณา ก.ย.นี้



ม.ล. จันทรจุฑา จันทรทัต กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โทรีเซนไทย เอเยนต์ซีส์ จำกัด (มหาชน) TTA เปิดเผยว่า ผลประกอบการไตรมาส3/55 (เม.ย.55-มิ.ย.55)บริษัทมีผลขาดทุนสุทธิ จำนวน 2,351 ล้านบาท ซึ่งมีผลขาดทุนเพิ่มขึ้น 809% จากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 332 ล้านบาท เนื่องจาก บริษัทได้มีการบันทึกการด้อยค่าความนิยมทางบัญชีของการลงทุนในบริษัท ยูนิค ไมนิ่ง เซอร์วิสเซส จำกัด (มหาชน)หรือ UMS จำนวน 2,333 ล้านบาท จากที่คณะกรรมการบริษัท (บอร์ด )ต้องการให้บริษัทพิจารณามูลการลงทุนของTTA ใน UMS จากที่ UMS มีผลขาดทุนจากการที่โรงงานที่จังหวัดสมุทรสาครถูกสั่งปิดโรงงานครบ 1 ปี และยังไม่ทราบแน่นอนว่าจะเปิดโรรงานได้เมื่อไหร่ และ ราคาถ่านหินมีการปรับตัวลดลง ประกอบกับค่าขนส่งมีการปรับตัวขึ้นสูง จากที่ใช้โรงงานเดียวในการดำเนินงาน ทำให้มีผลขาดทุนจากการดำเนินงานก่อนหักดอกเบี้ย ภาษี และค่าเสื่อมจำนวน 54 ล้านบาท

ทั้งนี้การบันทึกการด้อยค่าฯนั้นโดยใช้วิธีการคำนวนกระแสเงินสดในอนาคตข้างหน้าในระยะเวลา 5 ปี นับจากงวดบัญชีปี 2555-2559 โดยใช้อัตราการเติบโต 3.6% และใช้ส่วนลดแกระแสเงินสด 14%ทำให้ได้ผลการบันทึกด้อยค่าความนิยมฯจำนวน 2,333 ล้านบาท ทำให้มูลค่าการลงทุนของTTA ปัจจุบันเหลือ 1,567 ล้านบาท จากมูลค่าที่บริษัทซื้อหุ้นUMS รวมมูลค่า 3,900 ล้านบาท จากที่ซื้อหุ้นจำนวน 148 ล้านหุ้น ในปี 2552 ซึ่งการบันทึกการด้อยค่าความนิยมฯนี้จะบันทึกครั้งเดียว ทำให้มูลค่าสินทรัพย์ของTTA ณ สิ้นมิถุนายนนี้อยู่ที่ 45,585 ขณะที่บริษัทมีกำไรสะสมจำนวน 18,000 ล้านบาท

สำหรับกรณีของUMS นั้น ทางบอร์ดTTA และ UMS ได้มีการตั้งทีมงานพิเศษทำการศึกษาที่จะแก้ไขปัญหาของUMS โดยมี 2-3 แนวทาง เพื่อให้สามารถเปิดโรงงานที่สมุทรสาครเร็วที่สุด 1.โดยการให้ทีมงานเข้าไปเจรจากับทางชุมชนและผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาครเพื่อที่จะทำให้ดรงงานกลับมาเปิดอีกครั้ง โดยตามเงื่อนของของจังหวัดสมทรสาครนั้นการที่จะเปิดโรงงานได้ จะต้องมีการขายถ่านหินให้หมด ภายในปลายกุมภาพันธ์ 2556 และต้องมีการปรับปรุงท่าเรือ คลังสินค้า และต้องมีการปรุงระบบบำบัดน้ำเสีย โดยปัจุจบันบริษัทอยู่ระหว่างการดำเนินการ

สำหรับแนวทางที่2. หากโรงงานที่สมุทรสาครเปิดได้ได้เร็ว หรือ เปิดได้แต่เปิดไม่ถาวรนั้นจะมีแผนสำรองอย่างไร จะมีการหาสถานที่ใหม่เพื่อเปิดโรงงานใหม่แทนที่สวนส้ม และ แนวทางที่ 3. คือ จะมีการคัดแยกถ่านหินบนเรือ แล้วส่งต่อให้ลูกค้าทันทีโดยไม่ต้องมีโรงงาน จากการคาดารก์คาดนั้นเชื่อว่าUMS จะมีผลขาดทุนต่อไปจนถึง ไตรมาส2/2556 แต่TTA ยืนยันว่าจะไม่มีการขาย UMS ออกไป เพราะ มองว่าอนาคตธุรกิจมีการเติบโต และ ปัจจุบันยอดขายของUMSยังคงดี มียอดขายถ่านหินเดือนละ 1 แสนตัน ซึ่งในไตรมาส3/55 มีการขายถ่านหินแล้วจำนวน 4.3 แสนตัน

ม.ล. จันทรจุฑา กล่าวว่า ด้านผลการดำเนินงานปกติในไตรมาส3/55 ของTTA ยังมีกำไรก่อนก่อนหนักก่อนหักภาษีและดอกเบี้ย จำนวน 350 ล้านบาท และ มีกำไร ก่อน บันทึกการด้อยค่าฯจำนวน 130 ล้านบาท มีรายได้รวม 4,810ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10% จากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีราไยด้ 4,376 ล้านบาท เนื่องจาก ธุรกิจเดินเรือมีการปรับตัวเพิ่มขึ้น มีกำไรสุทธิ 25 ล้านบาท จากที่บริษัทได้มีการลดกองเรือลงในส่วนเรือที่ไม่ทำกำไร ทำให้ปัจจุบันบริษัทมีกองเรือที่บริษัทเป็นเจ้าของเองจำนวน 16 ลำ และ เรือเช่าจำนวน 6 ลำ

ทั้งนี้บริษัทคาดว่าค่าระวางเรือในปีนี้เฉลี่ยอยู่ที่ระดับ 10,000 เหรียญต่อวัน จากไตรมาส3/55 เฉลี่ยที่ 9,900 เหรียญต่อวัน และ ธุรกิจขุดเจาะและวิศวกรรมใต้น้ำของบริษัท เมอร์เมด มีการปรับตัวดีขึ้นโดยสร้างกำไรให้กับทาง TTA จำนวน 82 ล้านบาท ขณะที่ธุรกิจปุ๋ยและคลังสินค้าของบริษัทบาคองโค ที่เวียดนาม นั้นมีกำไรสุทธิ 78 ล้านบาท ซึ่งทำสถิติสูงสุดใหม่ทั้งยอดขาย กำไร

“จากที่ไตรมาส3/55 บริษัทมีผลขาดทุนสุทธิ 2.3 พันล้านบาท และในไตรมาส4/55 บริษัทจะมีการบันทึกจากอัตราแลกเปลี่ยน จำนวน 4 ล้านเหรียญสหรัฐทำให้ผลประกอบการทั้งปี 2555 ของบริษัทเป็น 0 คือ ไม่มีกำไร และไม่ขาดทุน” ม.ล. จันทรจุฑา กล่าวว่า

สำหรับขณะนี้บริษัทอยู่ระหว่างการจัดทำแผนการดำเนินธุรกิจปีหน้า ซึ่งจะมีการเสนอบอร์ดในเดือนหน้า ซึ่งเบื้องต้นทางฝ่ายบริหารเสนอว่า ธุรกิจเดินเรือนั้นจะมีการซื้อเรือเพิ่มขึ้น แต่คงไม่มากเพราะ ค่าระวางเรือมีการปรับตัวเพิ่มขึ้นไม่มาก คงจะทรงตัวอยู่ที่ระดัเฉลี่ยบ 9,900 -10,000 เหรียญสหรัฐต่อวัน ส่วนเมอร์เมดนั้นมีเรือขุดเจาะเก่าจำนวน 2 ลำ จะมีการดำเนินการอย่างไร และปีหน้าจะมีการรับมอบเรือใหม่จำนวน 3 ลำ ส่วนด้านวิศวกรรมใต้น้ำนั้น จะมีการเพิ่มการใช้งานให้มากขึ้น และจะมีการทำสัญญาระยะกลางและยาวมากขึ้น ส่วน บาคองโค นั้นจะมีการสร้างคลังสินค้าเพิ่มอีก 1.5 พันตารางเมตร จากปัจจุบันที่มี 2.6 หมื่นตารางเมตร
กำลังโหลดความคิดเห็น