ผอ.รพ.สมุทรสาคร นำข้าราชการสาธารณสุข ร้อง รองนายกฯ-รมว.มหาดไทย อ้างถูกผู้ว่าฯ สมุทรสาคร ใช้อำนาจหักเงินเดือนร้อยละ 0.2 แฉเตรียมนำมวลชนกำนัน-ผู้ใหญ่บ้าน ขนม็อบบุกโรงพยาบาล “ยงยุทธ” ยืนยันให้ความเป็นธรรมทุกฝ่าย
วันนี้ (2 ก.ค.) ที่กระทรวงมหาดไทย นพ.สกล ภูมิรัตน์ประพิณ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสมุทรสาคร พร้อมด้วยตัวแทนสาธารณสุขจังหวัด สาธารณสุขอำเภอในจังหวัดสมุทรสาคร เดินทางมายื่นหนังสือร้องเรียนต่อ นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.มหาดไทย เพื่อเรียกร้องความเป็นธรรม กรณีถูก นายจุลภัทร แสงจันทร์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร ใช้อำนาจหักเงินเดือนของเจ้าหน้าที่สาธารณสุขทั้งจังหวัด 0.2 เปอร์เซ็นต์ ไปโดยไม่ได้คืนกลับมา โดย นพ.สกล กล่าวว่า รู้สึกว่าไม่ได้รับความเป็นธรรมเป็นปีที่ 2 แล้ว การหักเงินเดือนดังกล่าวเป็นอำนาจของผู้ว่าฯ ที่หักไปให้บุคคลที่ผู้ว่าฯ คิดว่ามีผลงานดีเด่น แต่พวกตนก็ทำงานหนัก แล้วเหตุใดจึงไม่มีการชี้แจงว่าบกพร่องตรงจุดใด 0.2 เปอร์เซ็นต์ แม้เป็นอำนาจที่คณะรัฐมนตรีให้ไว้จริง แต่ในมติ ครม.มีการระบุว่า จะต้องใช้ด้วยความเป็นธรรม
“การจะใช้ตัวชี้วัดอะไรตัดสิน ต้องแจ้งก่อน เหมือนกับการประเมินการสอบ จะต้องมีการระบุว่า สอบวิชาอะไร ไม่ใช่ยังไม่สอบแล้วบอกว่าคุณยังไม่ผ่านเกณฑ์ ซึ่งหมายความว่า 33 หน่วยงานในจังหวัด สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด เป็นอันดับสุดท้าย ซึ่งสาธารณสุขจังหวัดมีข้าราชการมากที่สุด แล้วนำเงินของคน 70 เปอร์เซ็นต์ ไปให้ใครบ้างไม่ทราบเงินจำนวนดังกล่าวดูเหมือนว่าจะไม่ค่อยเยอะ แต่สำหรับพวกผมเห็นว่าเงินก้อนนี้เยอะ และยังหมายถึงความเป็นธรรม เราจึงมาร้องขอความเป็นธรรม ขอความเมตตา ต้องการให้ รมว.มหาดไทย เตือนผู้ใต้บังคับบัญชาด้วย เพราะทราบมาว่า ผู้ว่าฯ จะมีการจัดม็อบออกมาบุกโรงพยาบาล โดยใช้เครือข่ายกำนันผู้ใหญ่บ้าน กลายเป็นเอามวลชนมาทะเลาะกัน” นพ.สกล กล่าว
ด้าน นายยงยุทธ กล่าวว่า ความไม่เข้าใจกันต้องมีการเจรจาทำความเข้าใจ ซึ่งท้ายที่สุดเชื่อว่าไม่น่าจะมีปัญหา ยืนยันเรื่องนี้จะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 25 มิ.ย.นพ.สกล ได้นำบุคลากรทางการแพทย์โรงพยาบาลสมุทรสาคร โรงพยาบาลกระทุ่มแบน โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพระดับอำเภอและระดับตำบลรวม 55 แห่ง ในนามกลุ่มชาวสาธารณสุขจังหวัดสมุทรสาคร ชุมนุมที่หน้าศาลากลางจังหวัดสมุทรสาคร เพื่อเรียกร้องความเป็นธรรมกรณีที่นายจุลภัทรจัดสรรวงเงินสำหรับเลื่อนขั้นเงินเดือนข้าราชการของส่วนราชการประจำปี ณ วันที่ 1 เมษายน 2555 เป็นเงินร้อยละ 2.8 จากวงเงินร้อยละ 3 ของเงินเดือนข้าราชการ โดยจังหวัดกันเงินไว้ร้อยละ 0.2 สำหรับจัดสรรในภาพรวมของจังหวัด ส่งผลกระทบต่อการเลื่อนเงินเดือนข้าราชการของโรงพยาบาลจำนวนมาก ทำให้บุคลากรทางการแพทย์ในจังหวัดสมุทรสาคร ส่วนใหญ่เห็นว่าไม่ได้รับความเป็นธรรม และไม่เป็นไปตามระบบคุณธรรมในกรพิจารณาความดีความชอบ รวมทั้งเห็นว่านายจุลภัทรดึงเงินขั้นเงินเดือนของพวกตนไปใช้อย่างไม่เป็นธรรม
ทั้งนี้ นายจุลภัทร ได้ยอมให้ นพ.สกล และตัวแทนกลุ่มผู้ชุมนุมประมาณ 20 คน เข้าพบที่ห้องทำงานผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร อย่างไรก็ตาม การเจรจาระหว่างผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร และฝ่ายผู้ชุมนุม ยังไม่ได้ข้อสรุปเป็นที่ชัดเจน กลุ่มผู้ชุมนุมจึงตัดสินใจเดินขบวนออกไปยังถนนด้านนอก และแยกย้ายกันกลับไป กระทั่งวันที่ 26 มิ.ย.นพ.สกล ได้นำตัวแทนข้าราชการสาธารณสุขมายังทำเนียบรัฐบาลเพื่อร้องเรียนต่อนายกรัฐมนตรี อย่างไรก็ตาม เมื่อวันที่ 29 มิ.ย.นายจุลภัทร ได้แถลงข่าวชี้แจงเพื่อทำความเข้าใจกับตัวแทนข้าราชการสาธารณสุข โดยกล่าวในที่ประชุมว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นความเข้าใจผิด และทางจังหวัดยังต้องรับผิดชอบหน่วยงานในจังหวัดอีก 32 หน่วยงาน โดยทางจังหวัดสมุทรสาครได้อนุมัติวงเงินเพิ่มอีกร้อยละ 0.1 แก่โรงพยาบาลสมุทรสาคร และสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสมุทรสาคร ตามที่หน่วยงานสาธารณสุขในจังหวัดสมุทรสาครร้องขอ