ASVTผู้จัดการรายวัน -แก้ว พงษ์ประยูร นักมวยฮีโร่เหรียญเงิน "ลอนดอนเกมส์" เดินทางกลับสู่ประเทศไทยเป็นที่เรียบร้อยเมื่อวันอังคารที่ 14 สิงหาคม 2555 ที่ผ่านมา ท่ามกลางการต้อนรับอย่างอุ่นหนาฝาคั่ง ขณะที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีเป็นตัวแทนมอบเงินอัดฉีดจากกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติให้คณะนักกีฬาโอลิมปิกเกมส์ และเอเชียนบีชเกมส์ รวมทั้งสิ้น 73.28 ล้านบาท
หลังจากทำผลงานสุดยอดคว้าเหรียญเงินกีฬาโอลิมปิกเกมส์ 2012 ที่กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ มาได้ ล่าสุดเมื่อช่วงเวลา 15.31 น.ของอังคารที่ 14 ส.ค.55 ที่ผ่านมา แก้ว พงษ์ประยูร เดินทางกลับสู่มาตุภูมิ ด้วยเที่ยวบิน TG917 พร้อมด้วยทีมมวยสากลสมัครเล่น และทีมเทควันโด รวมทั้งผู้ใหญ่ของวงการกีฬาไทยอย่าง "บิ๊กจา" พล.ต.จารึก อารีราชการัณย์ รองประธานและเลขาธิการคณะกรรมการโอลิมปิกแห่งประเทศไทยฯ "บิ๊กหนุ่ม" กนกพันธุ์ จุลเกษม ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) รวมถึง "บิ๊กต้อม" ธนา ไชยประสิทธิ์ หัวหน้าคณะนักกีฬา
เมื่อเดินทางมาถึง แก้ว โผเข้ากอดแม่มะลิ และพ่อคำ รวมทั้งกราบเท้าบุพการีทันที โดยพูดคำแรกขึ้นมาว่า "แก้ว รักแม่มากที่สุดเลย" ซึ่งแม่มะลิ ปลอบใจหลังพลาดเหรียญทอง ด้วยความพ่ายแพ้ ซู ชิ หมิง นักมวยจีนชนิดค้านสายตาชาวโลก "ไม่เป็นไรเราทำดีที่สุดแล้ว แม่คิดถึงลูกมาก ไม่ได้เจอหลายวัน มาวันนี้แม่ไม่มีอะไรมาให้เป็นพิเศษ มีแต่ความรักที่มอบให้" ด้าน พ่อคำ กล่าวสั้นๆ เช่นกันว่า "พ่อก็มีความรักมาให้แก้ว กลับบ้านไปจะทำตำส้มของโปรด พร้อมข้าวเหนียว ไก่ย่าง ให้กินเต็มที่"
โดยบรรยากาศภายในสนามบินค่อนข้างชุลมุน เพราะนอกจากบรรดาสื่อมวลชนไทยที่มารอทำข่าวหนาตา ยังมีบุคคลภายในสนามบิน รวมทั้งชาวบ้านมอสูง จังหวัดกำแพงเพชร แห่มารอต้อนรับฮีโร่ "ลอนดอนเกมส์" หลายร้อยคน โดย"ตัน อิชิตัน" ตัน ภาสกรนที นำเงินสดมามอบให้ตามสัญญา 10 ล้านบาท แต่ได้นำเข้าบัญชีธนาคารกรุงศรีอยุธยา สาขาเพชรบุรีตัดใหม่ รอเพียงให้ แก้ว มาเซ็นรับเป็นเจ้าของเท่านั้น
นอกจากนี้ "ตัน อิชิตัน" ยังมอบเงินให้ "น้องแต้ว" พิมศิริ ศิริแก้ว นักยกน้ำหนักสาว อีกหนึ่งฮีโร่เหรียญเงินโอลิมปิก 2012 อีกจำนวน 1 ล้านบาท "น้องเล็ก" ชนาธิป ซ้อนขำ นักเทควันโดสาวที่คว้าเหรียญทองแดงได้ไป 5 แสนบาท ขณะที่นักกีฬาที่เหลืออีก 34 คนจะได้เงินอัดฉีดคนละ 1 แสนบาท ด้าน ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิมอบเงินให้ทั้ง แก้ว และ "น้องแต้ว" คนละ 3 แสนบาท เช่นเดียวกับที่ให้ "น้องเล็ก" 2 แสนบาท ส่วน ฮอนด้า ค่ายรถดังเดินทางมามอบเงินอัดฉีดให้ แก้ว 1 ล้านบาทด้วย
ซึ่งก่อนที่ แก้ว จะขึ้นรถเปิดประทุนแห่ไปที่สยามพารากอน เพื่อเข้าพบ "นายกปู" ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ในงานเลี้ยงต้อนรับคณะนักกีฬาโอลิมปิก สมหมาย คงศรี พ่อตาของแก้ว ได้มอบทองหนัก 5 บาทให้ลูกเขย พร้อมด้วยพระหลวงพ่อพรหม ช่องแค จังหวัดนครสวรรค์ ส่วน "น้องไก่" ธาราทิพย์ ภรรยาสุดที่รักเผยกับทีมข่าว MGR Sport ในเบื้องต้นว่า "วางแผนจะไปเที่ยวเกาะช้าง จังหวัดตราด ด้วยกันทั้งครอบครัว รวมถึงพ่อแม่ของแก้วด้วย จากนั้นเราคงตัดสินใจย้ายไปอยู่จังหวัดเพชรบูรณ์ ซึ่งเป็นค่ายทหารของแก้ว"
หลังจากนั้นคณะนักกีฬาฮีโร่โอลิมปิกได้เคลื่อนขบวนแห่ไปตามเส้นทาง อนุสาวรีย์ชัย พญาไท ราชเทวี สะพานหัวช้าง และแยกปทุมวัน เพื่อเข้าสู่พิธีต้อนรับอย่างเป็นทางการของรัฐบาลที่ศูนย์การค้าสยามพารากอน นำโดย น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีของไทย แม้ว่ามีสายฝนโปรปรายแต่ตลอดเส้นทางก็มีแฟนๆ กีฬาเข้ามาแสดงความชื่นชมพร้อมขอถ่ายรูปไม่ใช่แค่นักกีฬาแต่รวมถึงสต๊าฟฟ์โค้ชด้วย
ส่วนในช่วงค่ำ ณ พารากอน ฮอลล์ ชั้น 5 "นายกปู" ยิ่งลักษณ์ เดินทางมาในงานเลี้ยงต้อนรับคณะนักกีฬาโอลิมปิกเกมส์ ครั้งที่ 30 ที่กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ และนักกีฬาเอเชียนบีชเกมส์ ครั้งที่ 3 ที่เมืองไห่หยาง สาธารณรัฐประชาชนจีน พร้อมกันนี้ยังได้นำเงินอัดฉีดจากกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติมามอบให้โดย แก้ว พงษ์ประยูร (มวยสากลสมัครเล่น) และพิมศิริ ศิริแก้ว (ยกน้ำหนัก) ได้เงินอัดฉีด แบ่งเป็นเงินสดและค่าครองชีพรายเดือนจำนวนคนละ 6 ล้านบาท ส่วน ชนาธิป ซ้อนขำ (เทควันโด) รับไป 4 ล้านบาท
ทั้งนี้ "นายกปู" ยังได้มอบเงินอัดฉีดและโล่เชิดชูเกียรติให้แก่ทั้ง 16 สมาคมกีฬา ที่มีนักกีฬา 37 คนไปแข่งลอนดอนเกมส์ รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 46.64 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม เงินอัดฉีดที่ฮีโร่ "ลอนดอนเกมส์" ได้รับจริงรวมจากภาคเอกชน ตอนนี้คาดว่าจะอยู่ที่ 20-23 ล้านบาท เหรียญทองแดง 9-10 ล้านบาท ส่วนเงินสนับสนุน เอเชีย
นบีชเกมส์ ที่มอบให้แก่นักกีฬา 88 คน อีกจำนวน 26.64 ล้านบาท ด้วย
ซึ่ง น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวภายในงานว่า "ขอบคุณความร่วมมือร่วมใจกันของทุกฝ่าย นี่ถือเป็นเกียรติประวัติ ความสำเร็จ นำมาซึ่งความภาคภูมิใจแก่คนไทยทั้งชาติ ต้องถือว่านักกีฬาทุกท่านเสียสละ ขยันหมั่นเพียร ผู้ฝึกสอนร่วมกันฝึกอย่างใกล้ชิด สอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลในการผลักดันกีฬาเป็นศูนย์กลางของภูมิภาค ทั้งนี้ต้องขอบคุณสมาคมและนักกีฬาโอลิมปิกที่ได้มา 2 เหรียญเงิน 1 เหรียญทองแดง แม้ไม่ได้เหรียญทอง แต่เราได้แสดงฝีมือและสปิริตให้ประจักษ์แก่คนทั้งโลกได้เห็นแล้ว ด้วยความมีสปิริตเชื่อว่าทุกท่านได้รับเหรียญทองจากคนไทยทั้งประเทศ จงอย่าหยุดยั้ง ฝึกซ้อมต่อเพื่อมุ่งสู่ครั้งหน้า ขอให้กำลังใจนักกีฬาและผู้ฝึกสอน ขอบคุณทุกภาคส่วนรัฐและเอกชนให้ประสบความสำเร็จ ร่วมกันพัฒนากีฬาของชาติให้ทัดเทียมนานาประเทศต่อไป "
"ส่วนนักกีฬาเอเชียนบีชเกมส์ ก็ได้แสดงความสามารถออกมาเช่นกัน จากการคว้า 13 เหรียญทอง 9 เหรียญเงิน 7 เหรียญทองแดง รั้งอันดับ 2 เป็นรองแค่เจ้าภาพจีน ซึ่งถ้าเราได้ร่วมกันพัฒนา มีโอกาสต่อยอดไปสู่ความสำเร็จในวันข้างหน้า ซึ่งรัฐบาลพร้อมสนับสนุนวงการกีฬาเต็มที่ ในการสร้างนักกีฬาให้มีความแข็งแรงก้าวสู่ความเป็นเลิศ ทั้งนี้ก็อยากเชิญชวนภาคเอกชนให้ร่วมกันสนับสนุนวงการกีฬา เพราะความสำเร็จไม่ได้เกิดจากเพียงตัวนักกีฬาและผู้ฝึกสอนเท่านั้น โดยรัฐบาลพร้อมสนับสนุนใช้เทคโนโลยีวิทยาศาสตร์การกีฬา เพื่อเสริมสร้างศักยภาพต่อไปด้วย" นายกปู" ทิ้งท้าย
ด้าน แก้ว นักชกร่างเล็กที่พลาดเหรียญทอง "ลอนดอนเกมส์" ไปอย่างน่าเสียดาย กล่าวในงานด้วยว่า "ตอนนี้ผมอยากขอเวลาพักผ่อนอีกสักระยะ เพราะตลอดเวลาที่ผ่านมาทุ่มเทฝึกซ้อมเตรียมตัวอย่างมาก เมื่อเสร็จภารกิจจึงอยากให้เวลากับครอบครัว ภรรยาและลูก แล้วค่อยคิดกันต่อว่าจะทำอะไรต่อไป ถ้าไม่ต่อยมวยแล้ว อาจผันตัวเองเป็นโค้ช นำวิชาความรู้ถ่ายทอดให้แก่รุ่นน้อง ครั้งนี้ผมทำหน้าที่เต็มที่แล้วจริงๆ แม้ได้เหรียญเงินมาก็ต้องยอมรับ สุดท้ายขอขอบคุณทุกกำลังใจของคนไทยในการตามเชียร์ผมและนักกีฬาไทยทุกคนในโอลิมปิกเกมส์ครั้งนี้"
หลังจากทำผลงานสุดยอดคว้าเหรียญเงินกีฬาโอลิมปิกเกมส์ 2012 ที่กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ มาได้ ล่าสุดเมื่อช่วงเวลา 15.31 น.ของอังคารที่ 14 ส.ค.55 ที่ผ่านมา แก้ว พงษ์ประยูร เดินทางกลับสู่มาตุภูมิ ด้วยเที่ยวบิน TG917 พร้อมด้วยทีมมวยสากลสมัครเล่น และทีมเทควันโด รวมทั้งผู้ใหญ่ของวงการกีฬาไทยอย่าง "บิ๊กจา" พล.ต.จารึก อารีราชการัณย์ รองประธานและเลขาธิการคณะกรรมการโอลิมปิกแห่งประเทศไทยฯ "บิ๊กหนุ่ม" กนกพันธุ์ จุลเกษม ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) รวมถึง "บิ๊กต้อม" ธนา ไชยประสิทธิ์ หัวหน้าคณะนักกีฬา
เมื่อเดินทางมาถึง แก้ว โผเข้ากอดแม่มะลิ และพ่อคำ รวมทั้งกราบเท้าบุพการีทันที โดยพูดคำแรกขึ้นมาว่า "แก้ว รักแม่มากที่สุดเลย" ซึ่งแม่มะลิ ปลอบใจหลังพลาดเหรียญทอง ด้วยความพ่ายแพ้ ซู ชิ หมิง นักมวยจีนชนิดค้านสายตาชาวโลก "ไม่เป็นไรเราทำดีที่สุดแล้ว แม่คิดถึงลูกมาก ไม่ได้เจอหลายวัน มาวันนี้แม่ไม่มีอะไรมาให้เป็นพิเศษ มีแต่ความรักที่มอบให้" ด้าน พ่อคำ กล่าวสั้นๆ เช่นกันว่า "พ่อก็มีความรักมาให้แก้ว กลับบ้านไปจะทำตำส้มของโปรด พร้อมข้าวเหนียว ไก่ย่าง ให้กินเต็มที่"
โดยบรรยากาศภายในสนามบินค่อนข้างชุลมุน เพราะนอกจากบรรดาสื่อมวลชนไทยที่มารอทำข่าวหนาตา ยังมีบุคคลภายในสนามบิน รวมทั้งชาวบ้านมอสูง จังหวัดกำแพงเพชร แห่มารอต้อนรับฮีโร่ "ลอนดอนเกมส์" หลายร้อยคน โดย"ตัน อิชิตัน" ตัน ภาสกรนที นำเงินสดมามอบให้ตามสัญญา 10 ล้านบาท แต่ได้นำเข้าบัญชีธนาคารกรุงศรีอยุธยา สาขาเพชรบุรีตัดใหม่ รอเพียงให้ แก้ว มาเซ็นรับเป็นเจ้าของเท่านั้น
นอกจากนี้ "ตัน อิชิตัน" ยังมอบเงินให้ "น้องแต้ว" พิมศิริ ศิริแก้ว นักยกน้ำหนักสาว อีกหนึ่งฮีโร่เหรียญเงินโอลิมปิก 2012 อีกจำนวน 1 ล้านบาท "น้องเล็ก" ชนาธิป ซ้อนขำ นักเทควันโดสาวที่คว้าเหรียญทองแดงได้ไป 5 แสนบาท ขณะที่นักกีฬาที่เหลืออีก 34 คนจะได้เงินอัดฉีดคนละ 1 แสนบาท ด้าน ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิมอบเงินให้ทั้ง แก้ว และ "น้องแต้ว" คนละ 3 แสนบาท เช่นเดียวกับที่ให้ "น้องเล็ก" 2 แสนบาท ส่วน ฮอนด้า ค่ายรถดังเดินทางมามอบเงินอัดฉีดให้ แก้ว 1 ล้านบาทด้วย
ซึ่งก่อนที่ แก้ว จะขึ้นรถเปิดประทุนแห่ไปที่สยามพารากอน เพื่อเข้าพบ "นายกปู" ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ในงานเลี้ยงต้อนรับคณะนักกีฬาโอลิมปิก สมหมาย คงศรี พ่อตาของแก้ว ได้มอบทองหนัก 5 บาทให้ลูกเขย พร้อมด้วยพระหลวงพ่อพรหม ช่องแค จังหวัดนครสวรรค์ ส่วน "น้องไก่" ธาราทิพย์ ภรรยาสุดที่รักเผยกับทีมข่าว MGR Sport ในเบื้องต้นว่า "วางแผนจะไปเที่ยวเกาะช้าง จังหวัดตราด ด้วยกันทั้งครอบครัว รวมถึงพ่อแม่ของแก้วด้วย จากนั้นเราคงตัดสินใจย้ายไปอยู่จังหวัดเพชรบูรณ์ ซึ่งเป็นค่ายทหารของแก้ว"
หลังจากนั้นคณะนักกีฬาฮีโร่โอลิมปิกได้เคลื่อนขบวนแห่ไปตามเส้นทาง อนุสาวรีย์ชัย พญาไท ราชเทวี สะพานหัวช้าง และแยกปทุมวัน เพื่อเข้าสู่พิธีต้อนรับอย่างเป็นทางการของรัฐบาลที่ศูนย์การค้าสยามพารากอน นำโดย น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีของไทย แม้ว่ามีสายฝนโปรปรายแต่ตลอดเส้นทางก็มีแฟนๆ กีฬาเข้ามาแสดงความชื่นชมพร้อมขอถ่ายรูปไม่ใช่แค่นักกีฬาแต่รวมถึงสต๊าฟฟ์โค้ชด้วย
ส่วนในช่วงค่ำ ณ พารากอน ฮอลล์ ชั้น 5 "นายกปู" ยิ่งลักษณ์ เดินทางมาในงานเลี้ยงต้อนรับคณะนักกีฬาโอลิมปิกเกมส์ ครั้งที่ 30 ที่กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ และนักกีฬาเอเชียนบีชเกมส์ ครั้งที่ 3 ที่เมืองไห่หยาง สาธารณรัฐประชาชนจีน พร้อมกันนี้ยังได้นำเงินอัดฉีดจากกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติมามอบให้โดย แก้ว พงษ์ประยูร (มวยสากลสมัครเล่น) และพิมศิริ ศิริแก้ว (ยกน้ำหนัก) ได้เงินอัดฉีด แบ่งเป็นเงินสดและค่าครองชีพรายเดือนจำนวนคนละ 6 ล้านบาท ส่วน ชนาธิป ซ้อนขำ (เทควันโด) รับไป 4 ล้านบาท
ทั้งนี้ "นายกปู" ยังได้มอบเงินอัดฉีดและโล่เชิดชูเกียรติให้แก่ทั้ง 16 สมาคมกีฬา ที่มีนักกีฬา 37 คนไปแข่งลอนดอนเกมส์ รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 46.64 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม เงินอัดฉีดที่ฮีโร่ "ลอนดอนเกมส์" ได้รับจริงรวมจากภาคเอกชน ตอนนี้คาดว่าจะอยู่ที่ 20-23 ล้านบาท เหรียญทองแดง 9-10 ล้านบาท ส่วนเงินสนับสนุน เอเชีย
นบีชเกมส์ ที่มอบให้แก่นักกีฬา 88 คน อีกจำนวน 26.64 ล้านบาท ด้วย
ซึ่ง น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวภายในงานว่า "ขอบคุณความร่วมมือร่วมใจกันของทุกฝ่าย นี่ถือเป็นเกียรติประวัติ ความสำเร็จ นำมาซึ่งความภาคภูมิใจแก่คนไทยทั้งชาติ ต้องถือว่านักกีฬาทุกท่านเสียสละ ขยันหมั่นเพียร ผู้ฝึกสอนร่วมกันฝึกอย่างใกล้ชิด สอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลในการผลักดันกีฬาเป็นศูนย์กลางของภูมิภาค ทั้งนี้ต้องขอบคุณสมาคมและนักกีฬาโอลิมปิกที่ได้มา 2 เหรียญเงิน 1 เหรียญทองแดง แม้ไม่ได้เหรียญทอง แต่เราได้แสดงฝีมือและสปิริตให้ประจักษ์แก่คนทั้งโลกได้เห็นแล้ว ด้วยความมีสปิริตเชื่อว่าทุกท่านได้รับเหรียญทองจากคนไทยทั้งประเทศ จงอย่าหยุดยั้ง ฝึกซ้อมต่อเพื่อมุ่งสู่ครั้งหน้า ขอให้กำลังใจนักกีฬาและผู้ฝึกสอน ขอบคุณทุกภาคส่วนรัฐและเอกชนให้ประสบความสำเร็จ ร่วมกันพัฒนากีฬาของชาติให้ทัดเทียมนานาประเทศต่อไป "
"ส่วนนักกีฬาเอเชียนบีชเกมส์ ก็ได้แสดงความสามารถออกมาเช่นกัน จากการคว้า 13 เหรียญทอง 9 เหรียญเงิน 7 เหรียญทองแดง รั้งอันดับ 2 เป็นรองแค่เจ้าภาพจีน ซึ่งถ้าเราได้ร่วมกันพัฒนา มีโอกาสต่อยอดไปสู่ความสำเร็จในวันข้างหน้า ซึ่งรัฐบาลพร้อมสนับสนุนวงการกีฬาเต็มที่ ในการสร้างนักกีฬาให้มีความแข็งแรงก้าวสู่ความเป็นเลิศ ทั้งนี้ก็อยากเชิญชวนภาคเอกชนให้ร่วมกันสนับสนุนวงการกีฬา เพราะความสำเร็จไม่ได้เกิดจากเพียงตัวนักกีฬาและผู้ฝึกสอนเท่านั้น โดยรัฐบาลพร้อมสนับสนุนใช้เทคโนโลยีวิทยาศาสตร์การกีฬา เพื่อเสริมสร้างศักยภาพต่อไปด้วย" นายกปู" ทิ้งท้าย
ด้าน แก้ว นักชกร่างเล็กที่พลาดเหรียญทอง "ลอนดอนเกมส์" ไปอย่างน่าเสียดาย กล่าวในงานด้วยว่า "ตอนนี้ผมอยากขอเวลาพักผ่อนอีกสักระยะ เพราะตลอดเวลาที่ผ่านมาทุ่มเทฝึกซ้อมเตรียมตัวอย่างมาก เมื่อเสร็จภารกิจจึงอยากให้เวลากับครอบครัว ภรรยาและลูก แล้วค่อยคิดกันต่อว่าจะทำอะไรต่อไป ถ้าไม่ต่อยมวยแล้ว อาจผันตัวเองเป็นโค้ช นำวิชาความรู้ถ่ายทอดให้แก่รุ่นน้อง ครั้งนี้ผมทำหน้าที่เต็มที่แล้วจริงๆ แม้ได้เหรียญเงินมาก็ต้องยอมรับ สุดท้ายขอขอบคุณทุกกำลังใจของคนไทยในการตามเชียร์ผมและนักกีฬาไทยทุกคนในโอลิมปิกเกมส์ครั้งนี้"