xs
xsm
sm
md
lg

แก้แห“ล็อกสเปกน้ำ” เปิดช่อง24 ก.ย.ขยายยื่นTOR

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

วานนี้(14 ส.ค.55) นายปลอดประสพ สุรัสวดี รัฐมนตรีกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ในฐานะประธานคณะกรรมการบริหารจัดการน้ำและอุทกภัย หรือ กบอ.เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรีว่า ที่ประชุมเห็นชอบตามที่ กบอ.เสนอในการปรับหลักเกณฑ์การจัดซื้อจัดจ้างหรือ ทีโออาร์ บริษัทเอกชน 395 ราย ในการพิจารณาคัดเลือกกรอบแนวคิดเพื่อออกแบบก่อสร้างระบบการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำอย่างยั่งยืน และระบบแก้ไขปัญหาอุทกภัย โดยปรับลดหลักเกณฑ์ประสบการณ์ทำโครงการที่เคยทำให้ภาครัฐเป็นมูลค่าไม่ต่ำกว่าร้อยละ 10 ของมูลค่าโครงการต่อ 1 โครงการ จากเดิมกำหนดที่เคยวางไว้สำหรับผู้ประกอบการรายใหญ่จะต้องมีประสบการณ์ทำโครงการให้ภาครัฐไม่ต่ำกว่า 30,000 ล้านบาท และไม่ต่ำกว่า 2,000 ล้านบาท ของผู้ประกอบการทั่วไป
นอกจากนี้ยังขยายระยะเวลาการตรวจสอบรายละเอียดการยื่นเอกสารทั้งหมดของทีโออาร์ จาก 24 สิงหาคม เป็นวันที่ 24 กันยายน 2555
น.ส.ศันสนีย์ นาคพงศ์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงว่า นายกรัฐมนตรีให้เพิ่มรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม (นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์) เป็นรองประธานคณะกรรมการฯ และให้ทำหน้าที่โฆษกคณะกรรมการนี้ เพื่อช่วยงานนายปลอดประสพ
นายชลิตรัตน์ จันทรุเบกษา รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมตรี แถลงว่า สำนักงบประมาณยังได้รายงานความคืบหน้าโครงการภายใต้งบกลาง รายการค่าใช้จ่ายในการเยียวยา ฟื้นฟูและป้องกันความเสียหายจากอุทกภัยอย่างบูรณาการ จำนวน 1.2 แสนล้านบาท โดยได้จัดสรรไปแล้วสุทธิ 1.18 แสนล้านบาท ลงนามในสัญญาหรือดำเนินการไปแล้วจำนวน 1.06 แสนล้าน เพิ่มเติมจากเมื่อวันที่ 31 ก.ค.55 เป็นเงิน 1.8 ล้านบาท โดยมีผลการเบิกจ่ายจากระบบบริหารการเงินการคลังภาครัฐ แบบอิเล็กทรอนิกส์ (GFMIS) แล้วเป็นเงิน 8.28 หมื่นล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 70.12 ของงบประมาณที่ได้รับการจัดสรรทั้งหมด
ภายหลังการแถลงข่าว นายชลิตรัตน์ เปิดเผยด้วยว่า ในระหว่างการประชุม ครม.นั้น ที่ประชุมได้มีการหารือและเห็นชอบมากกว่า 40 นาที ในกรณีที่ กบอ.เสนอในการปรับหลักเกณฑ์การจัดซื้อจัดจ้าง (ทีโออาร์) คัดเลือกกรอบแนวคิดเพื่อออกแบบก่อสร้างระบบการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำอย่างยั่งยืน และระบบแก้ไขปัญหาอุทกภัย วงเงิน 3 แสนล้านบาท ที่มีบริษัทเอกชนไทยและต่างชาติรวม 395 รายเข้าร่วมการพิจารณา โดยเบื้องต้นได้มีการขยายระยะเวลาการตรวจสอบรายละเอียดการยื่นเอกสารทั้งหมดจากเดิมวันที่ 24 ส.ค.ไปเป็นวันที่ 24 ก.ย.55 รวมทั้งการปรับข้อความในหลักเกณฑ์บางส่วน โดยให้ระบุประสบการณ์ของบริษัทที่จะเข้ามารับงานเพื่อให้มีความชัดเจนว่า ต้องเคยทำโครงการภาครัฐเป็นมูลค่าไม่ต่ำกว่าร้อยละ 10 ของมูลค่าโครงการต่อ 1 โครงการ เนื่องจากที่ผ่านมาอาจมีความเข้าใจผิดว่าต้องมีประสบการณ์ทำโครงการให้ภาครัฐไม่ต่ำกว่า 30,000 ล้านบาท หรือร้อยละ 10 ของวงเงินทั้งหมด รวมทั้งกำหนดให้บริษัทในส่วนของที่ปรึกษาต้องมีประสบการณ์ทำโครงการให้ภาครัฐไม่ต่ำกว่า 2,000 ล้านบาทด้วย
อีกด้านน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่รัฐบาลเตรียมจัดทำนิทรรศการน้ำ ว่า เป็นการรวบรวมข้อมูล เพราะประชาชนอยากจะทราบว่ารัฐบาลจัดเตรียมอะไรไว้บาง โดยจะรวบรวมข้อมูลและให้ประชาชนได้ดูผ่านทางเว็บไซต์ด้วย ซึ่งจะให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาร่วมชี้แจง และดูเรื่องการป้องกันว่ามีรายละเอียดอย่างไร เช่น งานเร่งด่วนที่จะทำในการรองรับในปีนี้ ว่ามีการเตรียมการของแต่ละหน่วยงานอย่างไร โดยจะใช้วิธีการให้ประชาชนเข้าไปดู
ผู้สื่อข่าวถามว่า นายกฯจะแถลงข้อมูลทั้งหมดหรือไม่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า กำลังรวบรวม จะมีข้อมูลชี้แจงให้ ส่วนรูปแบบและวันเวลาจะแจ้งให้ทราบภายหลัง เมื่อถามว่า มั่นใจว่าการเตรียมรับมือที่ดำเนินการอยู่สามารถรับน้ำได้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า ตนชี้แจงไปหลายหนแล้ว ว่าข้อมูลทั้งหมดขึ้นอยู่กับปริมาณน้ำ เราได้ทำแบบจำลองว่าถ้าน้ำมาปริมาณเท่านี้แล้วจะเป็นอย่างไร ต้องบอกว่าทุกอย่างมีหลายปัจจัย เราพยายามทำอย่างเต็มที่
น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวกรณีการวิพากษ์วิจารณ์การทำทีโออาร์ของรัฐบาลว่ามีการล็อคสเปคให้บริษัทต่างชาติ ว่า "ไม่มีหรอกค่ะ ล็อคสเปคไม่ได้หรอก" เรื่องทั้งหมดเป็นปัญหาของประเทศ เราต้องเลือกเอาสิ่งที่ดีที่สุด ถามว่าจะล็อคสเปคได้อย่างไร เพราะวันนี้ยังเป็นขั้นตอนของการรวบรวมข้อมูลอยู่ ก็ให้แต่ละฝ่ายทำหนังสือแจ้งมาในเรื่องการดีไซน์ หลังจากนั้นก็จะมีขั้นตอนต่อไป ซึ่งนายปลอดประสพ สุรัสวดี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ก็ได้ชี้แจงแล้ว และทุกขั้นตอนจะชี้แจงต่อประชาชนให้ชัดเจนอย่างโปร่งใส
เมื่อถามว่าจะมีระบบตรวจสอบเพิ่มเติมหรือไม่เกี่ยวกับการประมูล น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า ก็ตรวจสอบเมื่อเรียบร้อยแล้ว ปัญหาการบริหารจัดการน้ำเป็นของที่จับต้องได้ การจัดซื้อทั้งหมดสิ่งที่ดีคือได้นำระบบที่ดี เป็นประโยชน์ต่อประเทศ ซึ่งแน่นอนผู้ที่ได้รับมาต้องตอบประชาชนได้ว่า สิ่งที่ใช้งบประมาณลงทุนไป มีคณะกรรมการเลือกมา ก็ต้องได้ประโยชน์ ซึ่งหลังจากที่เราได้คงมีการชี้แจงแผนทั้งหมดให้ประชาชน ตรงนี้ทุกคนสามารถตรวจสอบได้ว่ามีการติดตั้งจริงหรือไม่ ซึ่งจะต่างจากการจัดซื้ออื่นๆ ซึ่งอาจจะเป็นหนึ่งโครงการไว้ที่หน่วยใดหน่วยหนึ่ง แต่อันนี้เป็นสิ่งที่เปิดเผยประชาชนเห็น ผลลัพธ์ต่างๆก็ต้องเห็น เพราะเป็นการบริหารจัดการน้ำอย่างยั่งยืน ทุกหน่วยงานก็ต้องเห็น
อีกด้านนายต่อตระกูล ยมนาค ประธานกลุ่มวิศวกรเพื่อชาติ กล่าวถึงกรณีที่ ครม.มีมติอนุมัติให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จัดทำและลงนามบันทึกความเข้าใจระหว่างกระทรวงเกษตรและสหกรณ์แห่งราชอาณาจักรไทยและกระทรวงทรัพยากรน้ำแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน ว่าด้วยความร่วมมือด้านทรัพยากรน้ำและการชลประทาน โดยมีการระบุถึงการบริหารจัดการและก่อสร้างเขื่อน รวมถึงการป้องกันและบรรเทาอุทกภัยด้วยว่า ความร่วมมือดังกล่าวอาจมีความเกี่ยวข้องกับโครงการน้ำ 3.5 แสนล้านที่รัฐบาลกำลังดำเนินการอยู่ ซึ่งตนเคยตั้งข้อสังเกตไว้ก่อนหน้านี้แล้วว่า โครงการป้องกันน้ำท่วมของประเทศไทยมูลค่า 3.5 แสนล้านล้านบาท มีการเปิดโอกาสให้ผู้รับเหมาเข้ายื่นประมูลมีการล็อคสเป็กให้บริษัทของจีนได้งาน
เพราะรัฐบาลไทยโดยกระทรวงการต่างประเทศได้ไปลงนามบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือในการศึกษาความเป็นไปได้เกี่ยวกับระบบการจัดการน้ำแบบบูรณาการในวันที่ 10 เม.ย.ที่ผ่านมา และวันที่ 16 เม.ย.นายปลอดประสพ สุรัสวดี รมว.วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ได้ลงนามบันทึกความเข้าใจขอเปลี่ยนสารรัฐในร่างบันทึกความเข้าใจที่กระทรวงการต่างประเทศลงนามไปแล้ว โดยเนื้อหามีลักษณะคล้ายคลึงกับคำประกาศเชิญชวนให้บริษัทที่สนใจมาร่วมประมูลโครงการก่อสร้างป้องกันน้ำท่วม ซึ่งจุดนี้จะทำให้บริษัทของจีนได้เปรียบ เพราะรู้ข้อมูลก่อนล่วงหน้า อีกทั้งกรอบระยะเวลา 60 วันที่ให้ยื่นแบบและเสนอราคารวมถึงข้อกำหนดบริษัทที่จะยื่นประมูลจะต้องเคยมีผลงานมูลค่าไม่ต่ำกว่า 30,000 ล้านนั้น เชื่อไม่มีบริษัทใดสามารถทำได้ทันหากไม่รู้ข้อมูลล่วงหน้า
เมื่อมีความร่วมมือระหว่างไทยจีนเกี่ยวกับการสร้างเขื่อนและระบบชลประทานตามมติครม.ดังกล่าว เพื่อให้เกิดความโปร่งใส จีนควรทำหน้าที่เป็นเพียงแค่ที่ปรึกาาร่วมกับข้าราชการไทย แต่ไม่ควรส่งบริษัทเข้ามาร่วมประมูลงาน เพราะจะกลายเป็นทั้งฝ่ายผู้ว่าจ้างในขณะเดียวกันเป็นผู้รับจ้างด้วย ชาติอื่นที่มาแข่งก็จะรู้สึกว่าไม่ยุติธรรม
“ผมคิดว่าโครงการสามแสนล้านอาจแลกกับข้าวที่ขายไม่ออก หรือแลกกับการที่นักธุรกิจจีนเข้ามาใช้ที่ดินเพื่อการเกษตร ผมไม่ได้รังเกียจประเทศจีน แต่การที่จะเป็นทั้งที่ปรึกษารัฐบาล ขณะเดียวกันเป็นผู้เล่น เป็นกรรมการด้วย ถือว่าไม่เหมาะสม ในขณะที่รัฐบาลก็ไม่มีความชัดเจนในการจัดซื้อจัดจ้างที่นายปลอดระสพ สุรัสวดี รมว.วิทย์ฯ ระบุว่ามีการประกาศทีโออาร์แล้ว ก็ไม่ตรงกับที่ข้าราชการพูด เพราะข้าราชการในกระทรวงวิทย์ก็บอกว่าเป็นเพียงแค่การประกาศเชิญชวนไม่ใช่เงื่อนไขการเสนอราคา ถ้ายังดันทุรังเดินหน้าทั้งที่มีความไม่โปร่งใส ไม่ชัดเจนอย่างนี้ ยังไม่ต้องคิดถึงความเสียหายของชาติก็ได้ ผมอยากให้รัฐบาลคิดถึงตัวเองก่อน ผมเชื่อว่าจะเสียหายอย่างหนักทั้งรัฐบาลและพรรคเพื่อไทย” นายต่อตระกูล กล่าว
ประธานกลุ่มวิศวกรเพื่อชาติ เตือนด้วยว่า การทำลักษณะนี้ถือว่าสุ่มเสี่ยงที่จะขัดต่อกฎหมายหลายฉบับ เพราะไม่ได้จัดการจัดซื้อจัดจ้างให้เกิดความยุติธรรมกับผู้แข่งขัน หรือหากจะดำเนินการแบบรัฐต่อรัฐก็ต้องระวังด้วย เพราะเคยมีตัวอย่างให้เห็นเรื่องการจัดซื้อรถและเรือดับเพลิงมูลค่า 4 พันล้านบาทมาแล้ว ซึ่งจนถึงวันนี้สัญญากลายเป็นโมฆะ ผู้เกี่ยวข้องอยู่ในระหว่างถูกดำเนินคดีอาญาโดยมีการยื่นฟ้องต่อศาลไปแล้ว ตนเป็นห่วงข้าราชการที่ต้องทำงานนี้กับรัฐบาลเพราะต้องอยู่ต่อไปเรื่อย ๆ ถ้าไปร่วมเป็นกรรมการในที่สุดอาจมีความผิดไปด้วย ทั้งที่ไม่ได้ตั้งใจ
“อย่างกรณีนายโภคิน พลกุล อดีต รมว.มหาดไทย เป็นคนเซ็นสัญญาซื้อรถดับเพลิงแลกไก่ต้มสุก ทั้งที่นายโภคินเป็นนักกฎหมายชั้นหนึ่งของประเทศคนหนึ่งก็ยังพลาด จัดซื้อจัดจ้างโดยแลกเปลี่ยนสินค้ามีรายละเอียดอย่างไร คนที่จะทำเรื่องนี้ต้องรอบคอบ ไม่เช่นนั้นจะทำให้คนอื่นติดร่างแหไปหมด ขอให้ระมัดระวังอย่าทำโดยถือแค่ว่ามีอำนาจอยู่ในมือเพียงอย่างเดียวเท่านั้น ผมอยากให้รัฐบาลรับฟังคำท้วงติงอย่าคิดว่าเขาค้นเพราะเป็นศัตรู เนื่องจากงบประมาณที่จะใช้นั้นเป็นเงินมหาศาลและเป็นเงินของชาติ” นายต่อตระกูลกล่าว
ประธานกลุ่มวิศวกรเพื่อชาติ แนะนำด้วยว่า รัฐบาลควรเริ่มต้นทำให้โครงการน้ำ 3.5 แสนล้านมีความโปร่งใส โดยประกาศทีโออาร์ของจริงตามหลักการสากลและของประเทศไทย และเพื่อให้ทุกคนสบายใจต้องให้ฝ่ายต่าง ๆ ได้เห็นร่างทีโออาร์เพื่อร่วมวิพากษ์วิจารณ์ได้ โดยไม่ควรจะกระโดดข้ามไปจ้างผู้รับเหมาแบบสัญญาเทิร์นคีย์ และไม่ควรจ้างผู้รับเหมาทั้งหมดสามแสนล้าน แต่ควรจ้างบริษัทที่ปรึกษามาร่วมกันศึกษาสำรวจออกแบบให้เกิดความชัดเจนก่อน ทั้งนี้ภาคีเครือข่ายต่อต้านคอรัปชั่นกำลังจับตาเรื่องนี้อย่างใกล้ชิด และตนเชื่อว่าความไม่โปร่งใสของโครงการนี้จะทำให้หลายฝ่ายหันมาจับมือกันเพื่อตรวจสอบรัฐบาล
กำลังโหลดความคิดเห็น