xs
xsm
sm
md
lg

บี้ญาติ"ปลอด"เอี่ยวTOR ขอปปช.-สตง.ตรวจสอบ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

เมื่อวานนี้ ( 12 ก.ค.) ที่ห้องประชุมตึกแดง 1 ทำเนียบรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้ติดตามความคืบหน้า และเยี่ยมชมจุดให้ข้อมูล แจกเอกสารการลงทะเบียน สำหรับการประมูลโครงการตามกรอบแนวคิดเพื่อการออกแบบก่อสร้างระบบการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำอย่างยั่งยืน และระบบแก้ไขปัญหาอุทกภัยของประเทศไทย วงเงิน 3.5 แสนล้านบาท ที่เปิดให้ภาคเอกชนทั้งไทย และต่างประเทศเข้ารับเอกสารการประมูล หรือ ทีโออาร์ ไปตั้งแต่วันที่ 9 ก.ค.ที่ผ่านมา โดยมีนายปลอดประสพ สุรัสวดี รมว.วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ได้รายงานความคืบหน้า โดยกล่าวว่า เอกสารการทำทีโออาร์ และโครงการตามแผนบริหารจัดการน้ำทั้งหมด ไม่มีการปิดบัง หากสื่อมวลชน ฝ่ายค้าน รวมทั้ง นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ต้องการทราบข้อมูลรายละเอียด สามารถมาลงทะเบียน เพื่อขอรับสำเนาเอกสารได้
" รายละเอียดของโครงการทั้งหมดเรามีชัดเจนแล้ว แต่ที่เปิดให้ทำทีโออาร์ เพื่อจะให้ได้ข้อมูลที่ดีขึ้นในการเชื่อมต่อทั้ง 25 ลุ่มน้ำเข้าด้วยกัน นี่คือจุดสำคัญที่เราหวังไว้ และหลังจากนี้ ก็จะต้องมีการตั้งคณะกรรมการจากภาคส่วนต่างๆ ซึ่งมาจากหัวหน้าส่วนราชการที่รับผิดชอบตามกฎหมาย เช่น กรมชลประทาน สภาพัฒน์ฯ เข้ามาตรวจสอบ ยืนยันว่าโครงการนี้โปร่งใสแน่นอน พร้อมให้ข้อมูล และสามารถชี้แจงกับสื่อมวลชนได้ทุกขั้นตอน รวมทั้งยินดีรับฟังข้อคิดเห็นต่างๆ ด้วย" นายกรัฐมนตรี กล่าว

**"มาร์ค"อยากรู้ ขอทีโออาร์ได้

นายปลอดประสพ สุรัสวดี กล่าวถึงกรณี นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เรียกร้องให้รัฐบาลเปิดเผย ทีโออาร์ (TOR) โครงการแก้ปัญหาน้ำท่วมที่เปิดให้บริษัทด้านการจัดการน้ำทั้งในประเทศ และต่างประเทศเข้ามาประมูลงาน ว่า เรื่องนี้ไม่เป็นความลับ แต่มีปัญหาอยู่คนเดียวคือ นายอภิสิทธิ์ เพราะว่าถ้ารู้ ก็จะบอกว่าไม่รู้ จะหาว่าตนปิดบังอยู่ท่าเดียว
ทั้งนี้ หลังจากนายปลอดประสพ ระบุว่า TOR สามารถขอสำเนาได้ ก็มีผู้สื่อข่าวเข้าไปลงทะเบียนที่ตึกแดง 1 จำนวนมาก โดยใช้เอกสารเป็นบัตรประจำตัวของสื่อมวลชนพร้อมกับบัตรประชาชน ในการขอสำเนา ซึ่งมีทั้งแบบภาษาไทย และภาษาอังกฤษ แต่เอกสารที่ได้รับ จะระบุข้อความว่า "เอกสารสำหรับผู้สื่อข่าว" และ "Press Only"

**"ปู"ตรวจขุดสันดอนปากน้ำเจ้าพระยา
เวลา 15.00 น. น.ส.ยิ่งลักษณ์ และคณะเดินทางไปตรวจเยี่ยมความก้าวหน้าโครงการขุดลอดสันดอนปากแม่น้ำเจ้าพระยา จ.สมุทรปราการ ณ พื้นที่โครงการ และศูนย์พัฒนาการประมงแห่งเอเซียตะวันออกเฉียงใต้( ซีฟเดค) พร้อมรับฟังการรายงาน และนำเสนอการดำเนินงานตามโครงการขุดลอกสันดอนปากแม่น้ำเจ้าพระยา เพื่อช่วยระบายน้ำ และเมื่อดำเนินการแล้วเสร็จ จะทำให้บริเวณปากแม่น้ำเจ้าพระยาสามารถระบายน้ำจากตอนเหนือออกสู่ทะเลของอ่าวไทยได้เพิ่มจากเดิมอีก 350 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที หรือ 9.50 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อวัน ขณะที่น้ำทะเลต่ำลง จะเป็นการช่วยบรรเทาและแก้ไขปัญหาอุทกภัยในพื้นที่ลุ่มน้ำภาคกลาง และด้านเหนือปากแม่น้ำเจ้าพระยาได้อีกทางหนึ่ง อีกทั้งยังช่วยในการเดินเรือในยามที่ร่องน้ำทางเข้าท่าเรือกรุงเทพ ซึ่งโครงการนี้จะแล้วเสร็จในเดือนกันยายนนี้

**ตรวจสอบญาติ"ปลอด"ร่วมประมูล

ด้านนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ได้เดินทางร่วมขบวนคาราวานสำรวจแนวทางป้องกันอุทกภัย 2555 เพื่อออกแบบประเทศไทย ร่วมกับศูนย์อาสาฯคนไทย โดยเริ่มกิจกรรมแรกที่ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ซึ่งในปี 2554 ได้ใช้เป็นศูนย์พักพิงฯ
นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ปัญหาเรื่องการจัดระบบอพยพ ศูนย์พักพิง ถือเป็นการบ้านของรัฐบาลตั้งแต่ปีที่แล้ว เพราะมีความสับสนค่อนข้างมาก และปัญหาประตูระบายน้ำ รวมถึงการกำหนดพื้นที่รับน้ำ รวมทั้งการดูแลนิคมอุตสาหกรรม เพราะการสร้างเขื่อน เป็นเพียงแค่การป้องกันทรัพย์สินไม่ให้เสียหายเท่านั้น แต่ถ้าเกิดน้ำท่วมจริง โรงงานก็ไม่สามารถดำเนินการได้อยู่แล้ว และยังมีปัญหาเรื่องการสนับสนุนงบประมาณ และผลกระทบที่จะเกิดกับชุมชนนอกนิคมฯด้วย สิ่งเหล่านี้เป็นโจทย์หลักที่รัฐบาลต้องมีคำตอบ แต่หากไม่มีความเปลี่ยนแปลงจากเดิม ก็ยังมีความเสี่ยง ขณะนี้หากน้ำไม่ท่วมก็ไม่ได้หมายความว่ามีการบริหารจัดการที่ดีขึ้น เพราะยังไม่เห็นว่ารัฐบาลจัดการแตกต่างไปจากเดิม นอกจากว่าปริมาณน้ำน้อยลงกว่าปีที่แล้ว 20 % ในขณะที่ยังไม่เห็นรูปธรรมของการบริหารจัดการ แต่รัฐบาลมุ่งให้ความสำคัญกับโครงการขนาดใหญ่ การประมูลงาน 3 แสนล้านกับเอกชน แต่เจ้าของเงินคือประชาชน ไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น
" พรรคประชาธิปัตย์ กำลังติดตามการที่รัฐบาลเปิดให้ภาคเอกชนเข้าไปประมูลเพราะคิดว่าจะมีช่องโหว่ให้เกิดการรั่วไหล นำไปสู่การทุจริตอย่างมาก ถ้ารัฐบาลยกเว้นระเบียบการจัดซื้อจัดจ้างทั้งหมด และไม่มีคนทราบรายละเอียดเลย ก็เป็นปัญหาแน่ จึงอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยกันตรวจสอบทั้ง ป.ป.ช.และ สตง. เพื่อเป็นการป้องกัน ก่อนที่จะเกิดความเสียหายประเทศชาติ หากไม่มีการเปิดเผยรายละเอียด ก็อาจจำเป็นต้องใช้ พ.ร.บ.ข้อมูลข่าวสาร เพื่อขอให้รัฐบาลเปิดเผยข้อมูลด้วย " นายอภิสิทธิ์ กล่าว
ส่วนกรณีที่มีข่าวว่า ญาติของนายปลอดประสพ สุรัสวดี รมว.วิทยาศาสตร์ฯ ได้งานประมูลในโครงการบริหารจัดการน้ำ ครั้งที่ผ่านมา อาจจะมีการเอื้อประโยชน์ในการประมูลงานรอบใหม่นั้น นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ในที่สุดต้องมีการตรวจสอบทั้งหมด และ ยังมีปัญหาบริษัทต่างประเทศด้วย เพราะ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ก็เคยไปเคลื่อนไหวในเรื่องเหล่านี้ด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างที่ นายอภิสิทธิ์ เดินทางไปติดตามความคืบหน้าการซ่อมแซมประตูระบายน้ำบางโฉมศรี ที่ จ.สิงห์บุรี ปรากฏว่ามีกลุ่มคนเสื้อแดง ตะโกนขับไล่นายอภิสิทธิ์ ว่า "ฆาตกร" และตะโกนด่าด้วยถ้อยคำที่พยาบคายตลอดเวลา แต่คณะของนายอภิสิทธิ์ ไม่ได้สนใจกับพฤติกรรมของกลุ่มดังกล่าว

**ห่วงประชาชนบุกพังเขื่อน

จากนั้น นายอภิสิทธิ์ และคณะได้ไปติดตามความคืบหน้าในการป้องกันปัญหาท่วมของนิคมอุตสาหกรรมบางปะอิน โดยมีประสพศิลป์ โชติมงคล รองผู้ว่าการการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย บรรยายสรุปเกี่ยวกับการฟื้นฟูนิคม ว่า ที่นิคมแห่งนี้มีแรงงานทั้งหมด 5.2 หมื่นคน เริ่มเปิดดำเนินการหลังประสบอุทกภัยแล้ว 78 โรงงานจาก 90 แห่ง ประกอบกิจการ 100 % แล้ว 48 แห่ง ส่วนที่เหลือคาดว่าจะใช้เวลาอีกสองเดือน
ทั้งนี้มีความเสียหายรวมกว่า 5 พันล้านบาท เหตุผลที่ทำให้เกิดความเสียหายมากไม่ใช่เพราะคาดไม่ถึงว่าน้ำจะไม่ท่วม แต่เป็นเพราะได้รับข้อมูลช้าไปทำให้ขนย้ายเครื่องจักรไม่ทัน
สำหรับการสร้างเขื่อนดินล้อมรอบ 11 กม.จะแล้วเสร็จประมาณธันวาคมนี้ จากเดิมกำหนดการเสร็จสิ้นในเดือนมี.ค. 56 มีการเร่งรัดให้เร็วขึ้น เพื่อให้เกิดความเชื่อมั่น ซึ่งในขณะนี้สร้างเขื่อนดินสูง 4.40 แมตรแล้ว ถ้าน้ำมาเท่าปีที่แล้ว “เอาอยู่” เพราะปริมาณน้ำในปีที่แล้วระดับอยู่ที่ 4.20 เมตร
ด้านนายอภิสิทธิ์ ได้แสดงความเป็นห่วง เรื่องมวลชน เพราะเกรงว่าจะมีปัญหา ส.ส.พาชาวบ้านมาทุบเขื่อน เพราะอาจจะมีอารมณ์ของชาวบ้านที่เห็นว่าเขื่อนนี้ทำให้น้ำท่วมบ้าน เหมือนกับที่เคยเกิดปัญหาในปีที่แล้วในหลายพื้นที่ จึงอยากให้มีการทำความเข้าใจกับชุมชนโดยรอบให้ดี ว่าจะดูแลประชาชนอย่างไร เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาตามมา โดยน่าจะช่วยบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน ด้วยการให้นิคมเป็นจุดศูนย์พักพิง เพื่อให้ชุมชนเห็นว่าการที่นิคมแห้ง ก็เป็นการช่วยเหลือประชาชนด้วย
กำลังโหลดความคิดเห็น