“ปู” ยันทีโออาร์ออกแบบบริหารจัดการน้ำโปร่งใส ท้าฝ่ายค้าน-สื่อ ตรวจสอบ

“นายกฯ ยิ่งลักษณ์” ยืนยันทีโออาร์ให้เอกชนเสนอกรอบ แนวทางและออกแบบระบบบริหารจัดการน้ำอย่างยั่งยืน มีความโปร่งใส ท้าฝ่ายค้าน-สื่อตรวจสอบ ได้ทุกขั้นตอน ย้ำยึดแนวพระราชดำริ ไร้การเมืองแทรก ด้าน “ปลอด”ติง “มาร์ค” อย่าเอาแต่สร้างวาทกรรม ลั่นอยากได้ทีโออาร์ ติดต่อขอได้ตลอด ไม่ปิดบัง

เมื่อเวลา 09.00 น.ที่ห้องประชุมตึกแดง 1 ทำเนียบรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการบริหารจัดการน้ำและอุทกภัย (กบอ.) เพื่อติดตามผลการดำเนินงานเกี่ยวกับการป้องกันและแก้ไขปัญหาอุทกภัย ทั้งความคืบหน้าในการจัดเก็บข้อมูลระบบการพยากรณ์ ระบบบริหารจัดการน้ำแบบเบ็ดเสร็จ หรือ single command center การกำหนดพื้นที่รับน้ำนอง และหลักเกณฑ์เยียวยาประชาชน รวมทั้งติดตามความก้าวหน้าการดำเนินงานเพื่อเร่งระบายน้ำและการก่อสร้างคันกั้นน้ำปิดล้อมพื้นที่เศรษฐกิจฝั่งตะวันออกและตะวันตกของแม่น้ำเจ้าพระยา

โดยก่อนการประชุม นายกรัฐมนตรี ได้เข้าไปติดตามความคืบหน้าและเยี่ยมชมจุดให้ข้อมูล แจกเอกสารการลงทะเบียนสำหรับการประมูลโครงการตามกรอบแนวคิดเพื่อการออกแบบก่อสร้างระบบการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำอย่างยั่งยืนและระบบแก้ไขปัญหาอุทกภัยของประเทศไทย วงเงิน 3.5 แสนล้านบาท ที่เปิดให้ภาคเอกชนทั้งไทยและต่างประเทศเข้ารับเอกสารการประมูลหรือทีโออาร์ ไปตั้งแต่วันที่ 9 ก.ค.ที่ผ่านมาโดยมีนายปลอดประสพ สุรัสวดี รมว.วิทยาศาสตร์ ได้รายงานความคืบหน้า โดยนายปลอดประสพ ยืนยันว่า เอกสารการทำทีโออาร์ และโครงการตามแผนบริหารจัดการน้ำทั้งหมดไม่มีการปิดบัง หากสื่อมวลชน ฝ่ายค้าน รวมทั้งนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ต้องการทราบข้อมูลรายละเอียด สามารถมาลงทะเบียนเพื่อขอรับสำเนาเอกสารได้

ขณะที่นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ยืนยันเช่นเดียวกันว่า การทำทีโออาร์โครงการป้องกันน้ำท่วมเป็นไปอย่างโปร่งใส ไม่ได้มีการงุบงิบเหมือนอย่างที่นายอภิสิทธิ์ และพรรคประชาธิปัตย์กล่าวหา โดยรัฐบาลได้ทำหนังสือเชิญชวนบริษัทเอกชนทั้งในประเทศและต่างประเทศ ให้เข้ามาร่วมเสนอทีโออาร์ เนื่องจากเราต้องการใช้งบอย่างโปร่งใสมากที่สุด และอยากได้ระบบการบริหารจัดการน้ำที่มองแบบภาพรวมทั้งหมด ถ้าเราใช้งบประมาณในการจัดซื้อจัดจ้างอย่างเดียว ก็จะไม่มีประโยชน์สำหรับการบูรณาการอย่างยั่งยืนในระยะยาว เราต้องการคนที่มีความรู้มามองในภาพรวมให้ด้วย เพื่อเชื่อมลุ่มน้ำทั้งหมด 25 ลุ่มน้ำ และดูวิธีการบริหารจัดการน้ำทั้งระบบ รวมถึงแนะนำ เสนอโครงสร้างของการวางแนวเขื่อน ลุ่มน้ำ ฟลัดเวย์ และการทำแก้มลิงต่าง ๆ ซึ่งบริษัทที่ได้เสนอทีโออาร์จะต้องไปดูทั้งสิ่งที่เรามีอยู่เดิม และเสนอใหม่ แต่สาระสำคัญคือเราจะยึดตามแนวพระราชดำริ คือต้นน้ำ กลางน้ำ ปลายน้ำ และต้องทำตามแผนของคณะกรรมการยุทธศาสตร์เพื่อวางระบบการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ (กยน.) ที่ได้นำเสนอต่อประชาชนไว้

“ขอให้สื่อมวลชนเข้ามาดูและตรวจสอบได้เลย เพราะนี่เป็นงานของประเทศที่ทุกคนควรจะได้มีส่วนรับรู้ และแสดงความคิดเห็นอย่างเต็มที่ ซึ่งรายละเอียดของโครงการทั้งหมดเรามีชัดเจนแล้ว แต่ที่เปิดให้ทำทีโออาร์เพื่อจะให้ได้ข้อมูลที่ดีขึ้นในการเชื่อมต่อทั้ง 25 ลุ่มน้ำเข้าด้วยกัน นี่คือจุดสำคัญที่เราหวังไว้ และหลังจากนี้ก็จะต้องมีการตั้งคณะกรรมการจากภาคส่วนต่าง ๆ ซึ่งมาจากหัวหน้าส่วนราชการที่รับผิดชอบตามกฎหมาย เช่นกรมชลประทาน สภาพัฒน์ฯ เข้ามาตรวจสอบ ยืนยันว่าโครงการนี้โปร่งใสแน่นอน พร้อมให้ข้อมูล และสามารถชี้แจงกับสื่อมวลชนได้ทุกขั้นตอน รวมทั้งยินดีรับฟังข้อคิดเห็นต่างๆ ด้วย” น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าว

ด้านนายปลอดประสพ กล่าวถึงวาระการประชุมในวันนี้ว่า 1. เพื่อติดตามความคืบหน้าในการจัดทำ Portal Technique และระบบการพยากรณ์อากาศ(Forecasting) โดยกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ,กรมอุตุนิยมวิทยาและศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ 2.ความก้าวหน้าในการจัดทำแผนผังองค์กร(Organization Chart) ของศูนย์บริหารจัดการน้ำแบบเบ็ดเสร็จ (Sing Command Center) โดย สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ(ก.พ.ร.) 3.ความก้าวหน้าในการดำเนินการกำหนดพื้นที่รับน้ำนองและหลักเกณฑ์การเยียวยาให้กับประชาชน โดยกรมชลประทาน

นายปลอดประสพ กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ยังมีประเด็นที่หน่วยงานรายงานผลการดำเนินงานต่อนายกรัฐมนตรีใน3เรื่อง คือ 1.วิธีการและความก้าวหน้าของการดำเนินงานเพื่อการเร่งระบายน้ำ นำเสนอโดย กรุงเทพมหานคร 2.ความก้าวหน้าของการก่อสร้างคันกั้นน้ำปิดล้อมพื้นที่เศรษฐกิจฝั่งตะวันออก-ตก ของแม่น้ำเจ้าพระยา โดย กระทรวงคมนาคม 3.ความก้าวหน้าของการจัดทำข้อมูลการจำลองสถานการณ์ (Simulation) โดยนายรอยล จิตรดอน กรรมการยุทธศาสตร์วางระบบบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ (กยน.)

นายปลอดประสพ กล่าวถึงกรณีที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เรียกร้องให้รัฐบาลเปิดเผยTOR โครงการแก้ปัญหาน้ำท่วมที่เปิดให้บริษัทด้านการจัดการน้ำทั้งในประเทศและต่างประเทศเข้ามาประมูลงานว่า เรื่องนี้ไม่เป็นความลับ แต่มีปัญหาอยู่คนเดียวคือนายอภิสิทธิ์ เพราะว่าถ้ารู้ก็จะบอกว่าไม่รู้ จะบอกว่าตนปิดบังอยู่ท่าเดียว

“ปั๊ดโธ่! เขาแจกกันเปิดเผยกันทำไมจะไม่เปิดเผย ก็แก(นายอภิสิทธิ์)ยังไม่ได้ นายอภิสิทธิ์ก็มานี่สิ มารับสิผมจะให้ และท่านเป็นอดีตนายกฯถ้าท่านมาผมก็จะเอาไปให้ พูดมาสักคำสิว่าคุณปลอดประสพขอก็อปปี้ได้ไหม ผมก็จะเอาไปให้ถึงออฟฟิศเลย แต่อย่ามาว่าปลอดประสพปิดบัง ชอบสร้างวาทะกรรมไปเรื่อยว่าปลอดประสพปิดบัง”นายปลอดประสพ กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าจากการตรวจสอบการขอเข้ารับTOR นั้น เจ้าหน้าที่ได้จัดทำแบบฟอร์มสำหรับคนภายนอกไว้ โดยเอกสารดังกล่าวชื่อว่า “แบบฟอร์มสำหรับลงทะเบียนผู้มาขอรับข้อเสนอแนวคิด”

โดยมีช่องให้กรอกชื่อ-นามสกุล ตำแหน่ง หน่วยงาน ที่อยู่ ประเทศที่ตั้ง เบอร์โทรศัพท์มือถือ เบอร์โทรศัพท์ที่ทำงาน และอีเมลล์ พร้อมกันนี้ยังมีช่องด้วยว่าเป็นใครมารับโดยแบ่งเป็น กรรมการผู้จัดการ ผู้ได้รับมอบอำนาจ อื่นๆ ซึ่งเอกสารที่จะใช้ในการประกอบการขอสำเนานั้น ได้แก่ สำเนาบัตรประชาชนหรือบัตรประจำตัวที่ส่วนราชการออกให้ หรือสำเนาหนังสือเดินทางกรณีต่างชาติ สำเนาหนังสือรับรองจากสำนักงานทะเบียนหุ้นส่วนจำกัดกลาง กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ สำเนาหนังสือรับรองจากสถานทูตจากประเทศนั้นๆกรณีต่างชาติ สำเนาหนังสือบริคณห์สนธิ(บอจ.2) นามบัตร(ถ้ามี) และกรณีมอบอำนาจก็ต้องมีหนังสือมอบอำนาจที่มีการลงนามแบบครบถ้วนสมบูรณ์ พร้อมติดอากรแสตมป์ 10 บาท