ASTVผู้จัดการรายวัน - แรงงานระดับล่างขาดแคลนหนัก โมเดอร์นฟอร์มหันเอ้าทซอร์ทเพิ่ม ยันไม่กระทบยอดขายเหตุคำสั่งซื้อตุนในมือเพียบ เผยอานิสงค์น้ำท่วมยอดขายครึ่งปีแรกโต 17% เฟอร์ฯสำนักงานโตสุด 25% เชื่อสิ้นปีกวาดรายได้ 3,500 ล้านบาท
นายทักษะ บุษยะโภคะ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท โมเดอร์นฟอร์ม กรุ๊ป เปิดเผยว่า บริษัทต้องเผชิญกับปัญหาขาดแคลนแรงงานระดับกลางและล่างในการผลิตและประกอบเฟอร์นิเจอร์ เพื่อติดตั้งในโครงการจัดสรร ที่มีพัฒนาโครงการในต่างจังหวัดมากขึ้น แม้ว่าว่าทางบริษัทจะให้ค่าจ้างในอัตราที่สูงแล้วก็ตาม ดังนั้นบริษัทจึงหันไปจ้างบริษัทผู้ผลิตภายนอกผลิตให้หรือเอ้าท์ซอร์ทมากขึ้น อย่างไรก็ตามปัญหาดังกล่าวจะไม่กระทบต่อยอดขายของบริษัทอย่างแน่นอน เนื่องมีคำสั่งซื้อที่รอส่งมอบจำนวนมาก
ทั้งนี้ยอดขายในช่วงครึ่งปีแรกของโมเดอร์นฟอร์ม เพิ่มขึ้น 17% มียอดขาย 1,400 ล้านบาท เนื่องจากธุรกิจเริ่มฟื้นตัวหลังจากที่ประสบปัญหาน้ำท่วม และมีการสั่งซื้อเฟอร์นิเจอร์ใหม่เข้าไปติดตั้ง โดยเฟอร์นิเจอร์กลุ่มอาคารสำนักงานนั้นเติบโตสูงสุด 25% ขณะที่เฟอร์นิเจอร์กลุ่มบ้านและคอนโดมิเนียมโต 10% ซึ่งบริษัทเป้าหมายยอดขายทั้งปีเติบโตจากปีก่อน 15% และจะมียอดขายรวมอยู่ที่ 3,400-3,500 ล้านบาท
สำหรับแผนการลงทุนเพื่อดำเนิน ธุรกิจในรูปแบบค้าปลีกเหมือนที่หลายบริษัทเฟอร์นิเจอร์ดำเนินการนั้น บริษัทฯยังไม่มีแผนจะดำเนินการในขณะนี้ เนื่องจากที่ผ่านมาบริษัทฯ ให้ความสำคัญกับการขายผ่านโครงการมากถึง 80% แต่จะลงทุนในรูปแบบเปิดร้านในต่างจังหวัดเพิ่มขึ้นโดยตัวแทนจำหน่ายเป็นผู้ดำเนินการ ขณะเดียวกัน บริษัทฯได้มองหาการลงทุนในรูปแบบใหม่ๆ จากก่อนหน้านี้ได้มีการลงทุนในธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับการผลิตเฟอร์นเจอร์ เช่น ขายลูกบิดประตู วัสดุปูพื้น การเข้าไปถือหุ้นกับบริษัทระฟ้า ผู้ดำเนินธุรกิจงานออกแบบสถาปนิก เป็นต้น ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการเจรจา เพื่อทำธุรกิจใหม่เพิ่มเติมที่ คาดว่าจะได้ข้อสรุปในเร็วๆนี้
"ที่ผ่านมาผู้ผลิตเฟอร์นิเจอร์ในประเทศหลายรายได้ขยายไลน์ธุรกิจไปทำคอมมูนิตี้มอลล์มากขึ้น ซึ่งทางบริษัทฯเอง ไม่ได้คิดจะทำ แต่มองไปในกลุ่มธุรกิจอื่นที่ไม่เกี่ยวข้องกับธุรกิจอสังหาฯและเฟอร์นิเจอร์” นายทักษะกล่าว
ด้านผลกระทบจากปัญหาเรื่องต้นทุนในการผลิตที่เพิ่มสูงขึ้น ทำให้ในช่วงกลางปีที่ผ่านมาบริษัทต้องปรับราคาสินค้าขึ้นอีก 15% ขณะเดียวกันบริษัทฯได้ปรับตัวโดยได้ร่วมมือกับพันธมิตร เช่น พาซาญ่า ผู้ผลิตม่านรายใหญ่ ในการนำผ้ามาร่วมผลิตเป็นผ้าบนเฟอร์นิเจอร์และออกแบบสินค้าใหม่ๆ ร่วมกัน นอกจากนี้บริษัทฯ ยังอยู่ระหว่างการเริ่มเจรจากับพันธมิตรต่างชาติเพื่อเข้าไปเปิดสาขาในต่างประเทศ และลงทุนร่วมกันเพื่อให้รับกับการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนที่จะเกิดขึ้นในปี 2558
นายทักษะ บุษยะโภคะ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท โมเดอร์นฟอร์ม กรุ๊ป เปิดเผยว่า บริษัทต้องเผชิญกับปัญหาขาดแคลนแรงงานระดับกลางและล่างในการผลิตและประกอบเฟอร์นิเจอร์ เพื่อติดตั้งในโครงการจัดสรร ที่มีพัฒนาโครงการในต่างจังหวัดมากขึ้น แม้ว่าว่าทางบริษัทจะให้ค่าจ้างในอัตราที่สูงแล้วก็ตาม ดังนั้นบริษัทจึงหันไปจ้างบริษัทผู้ผลิตภายนอกผลิตให้หรือเอ้าท์ซอร์ทมากขึ้น อย่างไรก็ตามปัญหาดังกล่าวจะไม่กระทบต่อยอดขายของบริษัทอย่างแน่นอน เนื่องมีคำสั่งซื้อที่รอส่งมอบจำนวนมาก
ทั้งนี้ยอดขายในช่วงครึ่งปีแรกของโมเดอร์นฟอร์ม เพิ่มขึ้น 17% มียอดขาย 1,400 ล้านบาท เนื่องจากธุรกิจเริ่มฟื้นตัวหลังจากที่ประสบปัญหาน้ำท่วม และมีการสั่งซื้อเฟอร์นิเจอร์ใหม่เข้าไปติดตั้ง โดยเฟอร์นิเจอร์กลุ่มอาคารสำนักงานนั้นเติบโตสูงสุด 25% ขณะที่เฟอร์นิเจอร์กลุ่มบ้านและคอนโดมิเนียมโต 10% ซึ่งบริษัทเป้าหมายยอดขายทั้งปีเติบโตจากปีก่อน 15% และจะมียอดขายรวมอยู่ที่ 3,400-3,500 ล้านบาท
สำหรับแผนการลงทุนเพื่อดำเนิน ธุรกิจในรูปแบบค้าปลีกเหมือนที่หลายบริษัทเฟอร์นิเจอร์ดำเนินการนั้น บริษัทฯยังไม่มีแผนจะดำเนินการในขณะนี้ เนื่องจากที่ผ่านมาบริษัทฯ ให้ความสำคัญกับการขายผ่านโครงการมากถึง 80% แต่จะลงทุนในรูปแบบเปิดร้านในต่างจังหวัดเพิ่มขึ้นโดยตัวแทนจำหน่ายเป็นผู้ดำเนินการ ขณะเดียวกัน บริษัทฯได้มองหาการลงทุนในรูปแบบใหม่ๆ จากก่อนหน้านี้ได้มีการลงทุนในธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับการผลิตเฟอร์นเจอร์ เช่น ขายลูกบิดประตู วัสดุปูพื้น การเข้าไปถือหุ้นกับบริษัทระฟ้า ผู้ดำเนินธุรกิจงานออกแบบสถาปนิก เป็นต้น ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการเจรจา เพื่อทำธุรกิจใหม่เพิ่มเติมที่ คาดว่าจะได้ข้อสรุปในเร็วๆนี้
"ที่ผ่านมาผู้ผลิตเฟอร์นิเจอร์ในประเทศหลายรายได้ขยายไลน์ธุรกิจไปทำคอมมูนิตี้มอลล์มากขึ้น ซึ่งทางบริษัทฯเอง ไม่ได้คิดจะทำ แต่มองไปในกลุ่มธุรกิจอื่นที่ไม่เกี่ยวข้องกับธุรกิจอสังหาฯและเฟอร์นิเจอร์” นายทักษะกล่าว
ด้านผลกระทบจากปัญหาเรื่องต้นทุนในการผลิตที่เพิ่มสูงขึ้น ทำให้ในช่วงกลางปีที่ผ่านมาบริษัทต้องปรับราคาสินค้าขึ้นอีก 15% ขณะเดียวกันบริษัทฯได้ปรับตัวโดยได้ร่วมมือกับพันธมิตร เช่น พาซาญ่า ผู้ผลิตม่านรายใหญ่ ในการนำผ้ามาร่วมผลิตเป็นผ้าบนเฟอร์นิเจอร์และออกแบบสินค้าใหม่ๆ ร่วมกัน นอกจากนี้บริษัทฯ ยังอยู่ระหว่างการเริ่มเจรจากับพันธมิตรต่างชาติเพื่อเข้าไปเปิดสาขาในต่างประเทศ และลงทุนร่วมกันเพื่อให้รับกับการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนที่จะเกิดขึ้นในปี 2558