xs
xsm
sm
md
lg

ผู้จัดการสุดสัปดาห์

x

"โอ๊ค" 11รด. ศึกนี้มีแต่เสีย "สมศักดิ์" เหน็บปมมาร์คหนีทหาร "มัลลิกา"ลากไส้โกงข้อสอบ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ASTVผู้จัดการสุดสัปดาห์ -ยังคงราวีฝ่ายตรงข้ามไม่เลิกรา สำหรับนายพานทองแท้ ชินวัตร หรือโอ๊ค ลูกชายหัวแก้วหัวแหวน ของนช.ทักษิณ ชินวัตร ที่ออกมาเปิดประเด็นถล่มนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ในเรื่องการหนีทหาร ล่าสุดดูจะหนักข้อขึ้นกว่าเดิมเสียด้วยซ้ำ ด้วยการไปขุดข้อมูลชุดใหญ่ ที่ลงทุนลงแรง ตั้งชื่อว่า "หนีทหาร เดอะซีรี่ย์" ทยอยปล่อยของมาถล่มนายอภิสิทธิ์อย่างเมามันเลยทีเดียว

เริ่มตั้งแต่เมื่อวันที่ 5 ส.ค. 55นายพานทองแท้ ได้เปิดศึกในแบบที่เขาถนัดคุ้นเคยด้วยการโพสต์บนเฟซบุ๊กส่วนตัว Oak Panthongtae Shinawatra โดยตั้งข้อสงสัย ทำไม นายอภิสิทธิ์ เป็นทหารไม่ถึงปี แต่ลาไปนอก 221 วัน (7 เดือนเศษ)

จากนั้นถัดไปแค่เพียงวันเดียว นายพานทองแท้ ก็ออกมาแฉข้อมูลชุดต่อมาว่า "หนีทหารเดอะซีรีส์" ตอนที่ 2 เรื่อง "หลักเกณฑ์-หลักการหรือหลักกู ควรเชื่อใคร" เนื้อหากล่าวหานายอภิสิทธิ์ ว่า เรื่องการเข้ารับราชการที่ ร.ร.นายร้อย จปร.ของนายอภิสิทธิ์ จะถูกจะผิด ทางกองทัพบกเขาได้มีการสอบสวนจนได้ข้อสรุปตั้งแต่ปี 2542 แล้วครับเป็นการตรวจสอบอย่างเป็นทางการ โดยกรมจเรทหารบก....โดยแยกเป็น 3 ส่วน"หลักเกณฑ์-หลักการ-หลักกู"

ตามติดมาด้วย ตอนที่ 3 "แพะรับบาป" โดยอ้างว่ามีบุคคลที่ต้องตกเป็น "แพะรับบาป" จากการที่นายอภิสิทธิ์เข้ารับราชการโดยขาดคุณลักษณะทั้งหมด 12 คน เป็นนายทหารชั้นพลเอก5 คน, พลโท 1 คน, พลตรี 1 คน อีก 5 คนเป็นชั้นนายพัน บุคคลเหล่านี้ต้องถูกลงทัณฑ์ "ฐานบกพร่องต่อหน้าที่" และถูกดำเนินคดีอาญา12 คน

อย่างไรก็ตาม ต้องบอกว่าเป็นเวลาไม่ใช่น้อย ที่นายพานทองแท้ ลงทุนลงแรง ขุดข้อมูลขึ้นมาเล่นงานนายอภิสิทธิ์ ซึ่งจะว่าไปแล้วก็ดูเหมือนจะไม่ได้ต่างจากอาการหมาเห่าใบตองแห้งเท่านั้น ซึ่งคงจะต้องฝากคำถามไปยังนายพานทองแท้ ว่าถ้าประเด็นการหนีทหารมันเด็ดดวงอย่างที่ นายพานทองแท้ ว่าจริงๆ ทำไมเวลาผ่านมาตั้งนมนานกว่าสิบปีก็ยังไม่เห็นจะมีอะไรเกิดขึ้นกับนายอภิสิทธิ์

อย่ากระนั้นเลย เอาแค่คนที่มีสปีชีส์เดียวกัน อย่าง นายสมศักดิ์ เจียมธีรสกุล อาจารย์ประจำภาควิชาประวัติศาสตร์ คณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ยังอดรนทนไม่ไหวถึงความเบาปัญญาของนายพานทองแท้ และได้โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ก “สมศักดิ์ เจียมธีรสกุล”ของตนเองพาดพิงไปถึงนายพานทองแท้ว่า นายพานทองแท้ควรหยุดเล่นเรื่องนี้ ด้วยเหตุผลหลายประการ คือ โดยฐานะของนายพานทองแท้ ที่เป็นบุตรชาย พ.ต.ท.ทักษิณ และไม่ได้มีตำแหน่งการเมืองอะไร หากเล่นเรื่องนี้มากๆ ตนมองว่ามันออกมาในเชิงเรื่องส่วนตัวมากไป การทำให้การเมืองเป็นลักษณะเรื่องส่วนตัวมากๆ แบบนี้ตนว่ามันไม่ดี ซึ่งประเด็นที่นายพานทองแท้กำลังเล่นนี้ จะว่าใหญ่โตมโหฬาร ก็ไมใช่แต่แรก

“ปัญหาการเล่นเรื่องคุณวุฒิการศึกษา เอาความสามารถการศึกษามาคุยเว่อร์ หรือปัญหาเรื่องตำแหน่งทางทหารอะไรนี่ มันฝืดแต่แรกสำหรับผมเพราะอะไร ในประเทศพูดกันจริงๆ 2 ประเด็นนี้ มีกลุ่มคนที่ผมว่ามีปัญหาให้ตั้งได้มากกว่านักการเมืองเยอะ ในเรื่องตำแหน่งทางทหารนะ ก็ในหมู่ทหารด้วยกันเองนี่แหละ เช่น กรณีตำแหน่งนายพล ล้นเกินมากๆ เต็มไปหมด ถ้าโอ๊ค (ชื่อเล่นนายพานทองแท้) อยากเล่นจริงๆ ผมว่ามีเยอะ ลองเช็คดูว่า มีใครที่กินเงินเดือนเยอะแยะ แต่ไม่ได้ทำงานจริงๆ หรือตำแหน่ง เกินจำเป็น ที่ไม่เล่นพวกนี้ แต่เล่นมาร์ค (ชื่อเล่นนายอภิสิทธิ์) แบบนี้ มันยิ่งชวนให้มองเป็น Personal (เรื่องส่วนตัว) มากไป” นายสมศักดิ์ ระบุ

ล่าสุด เพจของพวกแอนตี้ ทักษิณ ได้ "ขุด" เอาประเด็นที่ โอ๊ค เคยโดนจับได้ว่า เอากระดาษโน้ต เข้าห้องสอบออกมาถล่มเสียยับเยิน (สำหรับท่านที่ไม่รู้ว่า เรื่องนี้ ตามระเบียบการสอบ ถือว่า แรงขนาดไหนนะครับ ที่ ธรรมศาสตร์ ถ้าพบ นักศึกษา เอาโน้ตเข้าห้องสอบ ไม่ว่าจะอ้างว่า เผลอเอาเข้าไป ไม่ได้หยิบมาดูอย่างไร จะถูกพักการเรียน 1-2 ปี ทันที ผมเคยมีเพื่อน คนหนึ่ง โดนมาแล้ว ทั้งๆที่เขาไม่มีความตั้งใจจะเอาเข้าไปดูเลยแม้แต่น้อย)

เรียกว่า งานนี้ นายพานทองแท้ เสียเหลี่ยมไม่รู้จะเอาหน้าไปมุดไว้ที่ไหนเลยทีเดียว เพราะถ้าแปลความหมาย ความรู้สึกที่นายสมศักดิ์ ส่งข้อความออกมาก็เหมือนจะบอกว่า มุขการเมืองที่นายพานทองแท้ขุดมาเล่นนั้นเป็นมุขฝืดๆ ถ้าจะกล่าวแบบภาษาวัยรุ่นก็คือไม่แมนนั่นเอง ที่มุ่งประเด็นเล่นเรื่องส่วนตัว ถือเป็นการสอนมวยไปในตัวให้นายพานทองแท้เสียด้วยซ้ำ

ทั้งนี้ ที่ต้องขีดเส้นใต้ไว้ก็คือ นอกจากนายสมศักดิ์ จะแอบสอนมวยเล็กๆให้นายพานทองแท้แล้ว เขาก็ยังได้หยิบยกประเด็นที่นายพานทองแท้ ไม่อยากได้ยินที่สุดในชีวิตขึ้นมาอีกเรื่องหนึ่งนั้นก็คือ แผลเก่าเรื่องประเด็นการโกงข้อสอบอันโด่งดังของเขานั้นเอง

ในขณะเดียวกัน น.ส.มัลลิกา บุญมีตระกูล รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ ก็ได้ออกมาแก้เกมทางการเมืองให้กับหัวหน้าพรรคในทันทีเช่นเดียวกัน โดยขู่ว่าได้ให้ทีมกฎหมายของพรรคประชาธิปัตย์ พิจารณาดำเนินคดีตามกฎหมายกับนายพานทองแท้ และยังเหน็บแสบๆคันไปอีกว่า หากศาลตัดสินว่าข้อเท็จจริงไม่ตรงกับสิ่งที่นายพานทองแท้ โพสต์ลงในเฟซบุ๊ก ตนเรียกร้องให้นายพานทองแท้ ประกาศขอโทษผ่านทางเฟชบุ๊กส่วนตัว พร้อมภาพกราบงามๆ และขอให้เอาจุกนมใส่ปากและวิ่งรอบสนามบ้านจันทร์ส่องหล้า 3 รอบ

แต่ที่เด็ดยิ่งกว่าก็คือ ยังจะเปิดแผลโดยจะโพสต์ข้อความผ่านเฟชบุ๊กและทวิตเตอร์ เกี่ยวกับมหากาพย์เด็กชายโกงข้อสอบ การที่มีภาพยนตร์เรื่องโอ๊กอ๊าก ไม่ได้ฉาย และเรื่องเงินปากถุงธนาคารกรุงไทย 17-21 ล้านบาท

ย้อนกลับไปเรื่องที่มีการกล่าวหาว่าโอ๊คโกงข้อสอบ ถือเป็นตราบาปของที่สลัดไม่หลุดของนายพานทองแท้อย่างแท้จริงก็ว่าได้ ขนาดที่ว่าสื่อต่างประเทศยังประโคมข่าวกันยกใหญ่เลยด้วยซ้ำ และคงจะเป็นเหตุการณ์ที่นายพานทองแท้ คงจะลืมไม่ลงไปตลอดชีวิตเลยทีเดียว

เรื่องนี้ เกิดขึ้นเมื่อคราวมีการจัดสอบซ่อมภาค 2 และภาคฤดูร้อน ปีการศึกษา 2544 ของนักศึกษาภาคปกติและภาคพิเศษมหาวิทยาลัยรามคำแหง ซึ่งมีนายพานทองแท้ ชินวัตร บุตรชาย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี นักศึกษาชั้นปีที่ 3 คณะรัฐศาสตร์ สาขาการปกครอง (ภาคพิเศษ) ได้ลงสอบซ่อมในรายวิชา พีเอส 421 ทฤษฎีการวิเคราะห์ระบบการเมืองซึ่งเป็นข้อสอบแบบอัตนัย

ไฮไลต์ก็คือ หลังจากเริ่มต้นการสอบไปได้สักระยะ นายสุพร ซึ่งทำหน้าที่ควบคุมตึก ได้ตรวจพบว่านายพานทองแท้ ได้นำโน้ตย่อเข้ามาในห้องสอบด้วย จากนั้นนายสุพรได้เชิญตัวนายพานทองแท้ออกมานอกห้อง และให้ลงบันทึกทราบความผิด ซึ่งนายพานทองแท้ อ้างกับเจ้าหน้าที่ว่า ลืมนำโน้ตดังกล่าวไว้นอกห้องสอบก่อน

เรื่องนี้ในยุคนั้นโด่งดังไม่ใช่น้อย เพราะใครเลยจะไปคิดว่าคนที่เป็นถึงลูกผู้นำประเทศ จะมีข่าวฉาวโฉ่ในลักษณะเช่นนี้ได้ สื่อต่างประเทศ เช่น สำนักข่าวเอเอฟพี หยิบเรื่องนี้ไปรายงานเมื่อวันที่ 29 ส.ค.2002 ว่านายพานทองแท้ ลูกชายของนายกรัฐมนตรีทักษิณ ของไทย นำกระดาษจดโน้ตย่อเข้าไปในห้องสอบในการสอบภาคฤดูร้อนของมหาวิทยาลัยรามคำแหง โดยอาจจะถูกสั่งพักการเรียน ถึง 1 ปี ขณะที่โฆษกรัฐบาล กลับแถลงว่า นายพานทองแท้ เพียงแต่นำสมุดจดเลกเชอร์เข้าไปเหมือนกับที่นักศึกษาคนอื่นๆ นำเข้าไปเท่านั้น

ขณะเดียวกัน สำนักข่าวเอพี ได้รายงานเกี่ยวกับเรื่องนี้เช่นกัน โดยอ้างการสัมภาษณ์ผู้ควบคุมการสอบ คือ นายวิวัฒน์ชัย กุลมาตย์ ซึ่งกล่าวว่า นายพานทองแท้ ถูกนำตัวออกจากห้องสอบโดยทันทีหลังถูกพบว่านำโน้ตย่อเข้าไปในห้องสอบและถูกนำตัวไปเพื่อสอบสวน ซึ่งหากพบว่าผิดจริง ก็จะถูกลงโทษด้วยการปรับตกในทุกวิชาที่ลงไว้ในภาคเรียนนี้

เมื่อกระแสตีกลับ ดูเหมือนว่านายพานทองแท้ เพิ่งรู้สึกสำนึกอย่างไรไม่ทราบได้ เพราะสุดท้ายแล้วก็ออกมาเหมือนจะสงบศึกด้วยการอ้างว่านายอภิสิทธิ์ ซึ่งมีฐานะเป็นผู้นำฝ่ายค้าน จะทำหน้าที่ตรวจสอบผู้อื่นได้ไม่ถนัด และยกเลิกการเขียนบทความ "หนีทหารเดอะซีรีส์" เนื่องจากเป็นเรื่องส่วนบุคคลมากเกินไป

มาถึงตรงนี้แล้ว ก็คงไม่ต้องบอกว่านายพานทองแท้เปลืองตัวไปกี่มากน้อยที่ลงทุนลงแรงเอาประเด็นทางการเมืองมาไล่ถล่มคนอื่น ขณะที่ส่วนตัวนายพานทองแท้เองก็ไม่ได้บริสุทธิ์ผุดผ่องประการใดเลยด้วยซ้ำ แถมยังมีแผลเหวอะเต็มตัวไม่น้อยเช่นกัน อุทาหรณ์ทางการเมืองรอบนี้ของนายพานทองแท้ คงจะไม่มีสุภาษิตใดเหมาะสมไปกว่า ตักน้ำใส่กะโหลก ชะโงกดูเงา เสีย บ้างก็คงจะดี
กำลังโหลดความคิดเห็น